ตอนนี้รู้สึกเเย่กับตัวเองมากค่ะ เป็นคนพูดหรืออธิบายความรู้สึกไม่เก่ง ถ้าพูดคือจะร้องไห้ถ้าเรื่องนั้นมีผลต่อจิตใจ มันทรมานมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นความเครียดสะสมหรือโดนคาดหวังจากคนรอบข้างมากเกิน รู้สึกอึดอัดไปหมด ทำได้เเค่ร้องไห้ ร้อง ร้องจนไม่มีน้ำตา คือเราจะเงียบทุกครั้งเเละใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ไม่คุยกับใครเลย จนโดนคนที่บ้านจี้ตลอด ว่าเป็นไรทำไมไม่พูด พูดสิมีอะไรก็พูด เขาเริ่มสาดนั่นนี่ใส่เรามากขึ้น ทั้งเรื่องบุญคุณ สิ่งที่เขาทำให้เรามาโดยตลอด มันไม่มีผลกับเราเลยหรอ เราเลยบอกอยากอยู่คนเดียวก่อน นั่นเเหละค่ะ เขาก็เริ่มพูดถึงอดีตมากขึ้น จบด้วยการบอกว่าเราทำตัวไม่มีวุฒิภาวะเลย เเถมยังเอาเราไปเทียบกับคำว่า "กุ้ย" ตอนนั้นโคตรเเย่เลยค่ะรู้สึกไร้ค่ามากเลย ตั้งเเต่สมัยเรียนเราไม่ได้เป็นคนเก่งอะไรนะคะเราเเค่ขยันมากกว่าคนอื่นเลยทำให้ผลการเรียนเราดีขึ้นจนเราได้ที่1มาโดยตลอด ผลของการเรียนได้ที่1เลยทำให้เราเป็นที่พูดถึงด้วยความเป็นต่างจังหวัดผลการเรียนเลยเป็นสิ่งที่คนแถวนั้นมองว่าเราเก่ง ที่จริงเราไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย เราเเค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรารับรู้ได้ว่าพ่อกับเเม่ภูมิใจเเละคาดหวังเรามากๆ จนตอนที่จบม.6เป็นช่วงสอบเข้ามหาลัยเราตัดสินใจเลือกสาขาที่มีสิ่งที่เราชอบเเต่พ่อดันไม่ถูกใจพ่ออยากให้เรารับราชการเเต่เรื่องนั้นไม่มีในหัวเราเลยเเต่เขาก็พาเราไปสอบสัมภาษณ์นะคะ สอบเสร็จเรารู้เลยว่าทำได้ไม่ดีเราก็เล่าให้เขาฟัง เขาค้านเราตลอดว่าสิ่งที่เราเลือกมันไม่ดีมันไม่ยั่งยืนเหมือนข้าราชการ เราบอกเราขอลองดูก่อนได้ไหมถ้ามันไม่ใช่เราจะลองไปสอบข้าราชการให้ เขาเงียบค่ะ จนกลับมาถึงบ้านเราได้ยินเขาคุยทรศ พูดถึงเรื่องที่เราไปสอบสัมภาษณ์เราได้ยินประโยคนั้นเราเเทบล้มทั้งยืนเลยค่ะ เขาบอกว่า เรา"ท่าดีทีเหลว" ตอนนั้นรู้สึกผิดหวังจากการสอบสัมภาษณ์เพราะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรยังต้องมาได้ยินคำเเบบนั้นอีก คืนนั้นเราเลยตัดสินใจลงคณะที่พ่ออยากให้เราเป็นเเต่เราก็เซฟตัวเองโดยการเลือกที่มีสิ่งที่เราชอบไปด้วย ผลคือเราติดค่ะได้เรียนเเละจบเเล้ว ตลอดระยะเวลานั้นเราก็มีความสุขนะคะเเต่ไม่สุด เราโชคดีที่เจอเพื่อนดีด้วย เราพยายามหาข้ออ้างว่ามันดีนะดีเเหละนั่นนี้ ฮีลตัวเองจนจบ พอจบเราต้องสอบเข้าทำงานเรามีเวลาเเค่เดือนครึ่งเราอ่านหนักสือหนักมาก เเทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากอ่านหนังสือ มีช่วงเครียดก็ฮีลตัวเอง มีบางวันร้องไห้ก็ร้องอยู่คนเดียว เราสอบได้นะคะ ได้สัมภาษณ์ด้วย เราบอกตัวเองว่าสู้ๆนะ เเกเก่งมากๆ เรากอดตัวเองทุกวันที่เราเศร้า ไม่เคยได้รับกำลังใจดีๆจากคนรอบข้างเลยเราสร้างมันเองทั้งนั้น เพราะที่เราได้รับคือ ความเงียบมาโดยตลอด วันที่ประกาศผลเรียงลำดับคะเเนน เรามีคาดหวังนะคะเพราะเราอ่านหนังสือเยอะมากจริงๆเเละเป็นการสอบครั้งเเรกของเราด้วย ผลมันไม่ได้เป็นตามที่หวัง เราได้อันดับที่ไกลจากที่เราหวังเเต่เราก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรเก่งละ เเค่นี้ก็ไม่เเย่นะ เเกเก่งมากๆ กอดๆ เราพูดเเบบนี้กับตัวเองทุกครั้ง พอเราเอาไปบอกพ่อพ่อบอกกับเราว่า คิดว่าจะได้อันดับต้นๆ ได้อันดับที่ดีกว่านี้ ตอนนั้นน้ำตาคลอเลยค่ะเขาไม่เห็นความพยามยามเราเลยหรอ เขาไม่รู้เลยหรอว่าเราต้องต่อสู้กับความเครียด ความรู้สึกโดดเดี่ยวมามากเเค่ไหน เเถมเขายังถามเราว่า เเล้วคิวจะถึงเราไหม ที่เราไปสอบมีเพื่อนเราด้วยนะคะ เพื่อนได้อันดับต้นๆเลยค่ะพ่อก็มีถามเราว่าเพื่อนได้ที่เท่าไหร่เราก็บอกไป พ่อบอกว่าเขาเก่งจัง นั้นคือสิ่งที่เราอยากได้ยิน เเต่ทำไมเราไม่เคยได้รับ ตลอดเวลาที่เรียนเราไม่เคยได้รางวัลอะไรปลอบใจ เราเห็นเพื่อนที่เเค่เกรดขึ้นมาหรือได้เกรดสี่สักวิชาเขาได้รางวัลจากครอบครัว ที่บอกไม่ได้อยากได้นะคะ เราให้เหตุผลว่ากับตัวเองว่าที่เขาเลี้ยงดูส่งเสียเรามาถือว่าเป็นรางวัลเเล้ว สิ่งที่เราไม่เคยได้รับเลยคือ คำชม มีเเค่บอกว่ามันได้มากว่านี้อีก เราไม่รู้ต้องทำยังไงถึงจะพอใจเขาคะ เขาไม่เคยมองว่าสิ่งที่เราเลือกมันดีเลยค่ะ เขาไม่เคยฟังเราเลย เเถมทุกครั้งที่เราปรึกษาเราได้ความเงียบกลับมาตลอดนั่นคงเป็นสิ่งที่เราเเสดงออกมาทั้งหมดมั้งคะ ว่าการเงียบคือคำตอบของเราเเล้ว
มีใครเป็นแบบเรามั้งไหมคะเเล้วมีวิธีเเก้ปัญหายังไงกับการเก็บทุกคำพูดมาคิดเครียดมากเลยค่ะกลัวเป็นซึมเศร้า