คือเราอาศัยอยู่บ้านแฟนมานาน6ปีได้แล้วค่ะตอนนี้มีลูกด้วยกันแล้วที่บ้านแฟนเราถือว่าเป็นครอบครัวใหญ่เลยก็ว่าได้ค่ะมีพ่อแม่ตายายป้าเค้า ซึ่งป้าเค้าพึ่งจะย้ายจากที่ทำงาน ตจว.มาหลายสิบปีกลับมาอยู่ที่บ้านค่ะ เราจะเป็นคนชอบซื้อของพวกของน่ารักๆมาใช้แล้วก็มีเอฟเสื้อผ้ามาตามประสาผู้หญิงค่ะ เริ่มเลยนะคะ
เหตุการณ์ที่1 : มีวันหนึ่งเราจัดห้องใหม่แล้วมันจะมีพวกกิ้บช๊อปลิ้นชักเล็กๆสำหรับใส่ของจิปาถะที่เราเคยเก็บไว้ในกล่องซึ่งเราจะนำกลับมาใช้แต่จะมีพวกฝุ่นเกาะซึ่งมันกลางคืนแล้วเราเลยนำออกไปไว้ที่ข้างนอกกะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะนำไปล้างก่อนนำมาใช้ พอตื่นมาเราก็ไม่เจอแล้วเราคิดว่ายายเค้าคงเก็บก็ไม่ได้เอะใจอะไร ผ่านไปสองวันเราก็ไปเห็นอยู่ในห้องของป้าแฟนเราแล้วเพราะแกจะไม่มีห้องนอนแบบเป็นห้องแกจะใช้ม่านกั้นเป็นห้องนอนมันเลยทำให้เราเห็นง่ายมากพอเห็นวินาทีนั้นเราเห้ยขึ้นมาในใจ เราก็เลยแกล้งถามไปประมาณว่าป้าเอาลิ้นชักมาใช้หรอคะหนูก็ตามหาตั้งนานวันนั้นเอามาไว้ข้างนอกกะว่าจะเอาไปล้างแล้วกลับมาใช้ นางบอกว่าอ่าว ป้าไม่รู้คิดว่าเป็นของน้องแฟนเรา แต่น้องแฟนเค้าอยู่ตจว.นะคะนานๆทีจะกลับทีหนึ่ง ของใช้เค้าก็ไม่ค่อยมีไว้ที่บ้านเลยค่ะ แล้วเราก็ตอบไปว่าของหนูเอง ส่วนแกก็ไม่มีท่าทีที่จะคืนหรืออะไรนะคะก็ทำเฉยเมย แล้วก็ใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้
เหตุการณ์ที่2 : หมวกแก๊ปของเราที่ซื้อไว้นานๆทีจะใส่ออกไปข้างนอก มีอยู่วันหนึ่งเราก็หาตั้งนานว่าไปอยู่ไหนก็ไม่เจอ จนถอดใจไปซื้อใหม่ พอซื้อใหม่ปุ้นตกเย็นเราเห็นป้าแกใส่หมวกเราพึ่งกลับมาค่ะ เราแบบเห้ยไรวะ แต่เราไม่ถามนะคะถึงถามไปเราก็ไม่ยักจะได้คืนแล้วไม่กล้าใช้ต่อแล้วค่ะ
เหตุการณ์ที่3 : โดยความที่เราเป็นคนที่เสื้อผ้าเยอะมากเยอะจริงๆจะมีตัวที่ใส่ประจำและไม่ค่อยใส่นานๆทีจะใส่ค่ะตัวที่ไม่ค่อยใส่เราจะพับเก็บในกล่องเสื้อผ้าแยกไว้ แล้วปิดไว้ตอนนั้นเราเหลียบไปเห็นตะกร้าผ้าที่ใส่แล้วของป้าแก เห้ยยนั่นมันกางเกงยีนส์ของเรานี้หน่า ยี้ห้องนี้ สีนี้ไซส์นี้ คือจำได้แน่นอนค่ะเราเป็นคนหนึ่งที่เสื้อผ้าของใช้เยอะก็จริงแต่เราจำของที่ตัวเองซื้อเองกับมือได้ทุกอย่างค่ะ แล้วที่น่าเกลียดไปกว่านั้นคือเอากางเกงยีนส์ตัวนั้นของเราไปตัดขาด้วยค่ะ ตัดต่อหน้าเราเลยแบบไม่เห็นเราถามก็เอาใหญ่เลย
เหตุการณ์ที่4 : จนตอนนี้เริ่มเห็นเรื่อยๆ เสื้อผ้าร่มเสื้อกันแดด
เราเคยคุยเรื่องนี้กับแฟนแล้วเขาบอกให้เราถามไปเลย คือเราก็ไม่อยากจะถามบ่อยๆซ้ำๆ เคยถามไปรอบหนึ่งแล้วเหมือนเขาไม่รู้สึกอะไรแล้วยังทำพฤติกรรมแบบนี้เรื่อยๆ แฟนเราก็พูดมาว่างั้นก็ไม่ต้องมาพูดให้ฟังไม่อยากฟัง เอ้า ไอ่เหี้* เราเลยพูดไปว่า ที่มาพูดเนี้ยคืออยากจะให้ช่วยบอกหรือเตือนให้หน่อยเพราะเธอเป็นคนกลางเค้าพูดไปเดี๋ยวก็มีปัญหากันอีก นางก็เงียบไปเลยค่ะ
จะแยกออกไปอยู่เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกเราก็เคยชวนแล้วหรือไปอยู่บ้านเราก็ได้ แต่แฟนเราไม่หย่านมค่ะ 😂 เลยต้องทนอยู่ต่อ
ทุกคนช่วยเราคิดวิธีแก้เผ็ดกับคนประเภทนี้หน่อยค่ะเอาวิธีที่เราไม่ต้องพูดเยอะแล้วทำให้นางเข็ดไม่กล้าทำอีก
คนที่บ้านแฟนชอบนำของๆเราไปใช้
เหตุการณ์ที่1 : มีวันหนึ่งเราจัดห้องใหม่แล้วมันจะมีพวกกิ้บช๊อปลิ้นชักเล็กๆสำหรับใส่ของจิปาถะที่เราเคยเก็บไว้ในกล่องซึ่งเราจะนำกลับมาใช้แต่จะมีพวกฝุ่นเกาะซึ่งมันกลางคืนแล้วเราเลยนำออกไปไว้ที่ข้างนอกกะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะนำไปล้างก่อนนำมาใช้ พอตื่นมาเราก็ไม่เจอแล้วเราคิดว่ายายเค้าคงเก็บก็ไม่ได้เอะใจอะไร ผ่านไปสองวันเราก็ไปเห็นอยู่ในห้องของป้าแฟนเราแล้วเพราะแกจะไม่มีห้องนอนแบบเป็นห้องแกจะใช้ม่านกั้นเป็นห้องนอนมันเลยทำให้เราเห็นง่ายมากพอเห็นวินาทีนั้นเราเห้ยขึ้นมาในใจ เราก็เลยแกล้งถามไปประมาณว่าป้าเอาลิ้นชักมาใช้หรอคะหนูก็ตามหาตั้งนานวันนั้นเอามาไว้ข้างนอกกะว่าจะเอาไปล้างแล้วกลับมาใช้ นางบอกว่าอ่าว ป้าไม่รู้คิดว่าเป็นของน้องแฟนเรา แต่น้องแฟนเค้าอยู่ตจว.นะคะนานๆทีจะกลับทีหนึ่ง ของใช้เค้าก็ไม่ค่อยมีไว้ที่บ้านเลยค่ะ แล้วเราก็ตอบไปว่าของหนูเอง ส่วนแกก็ไม่มีท่าทีที่จะคืนหรืออะไรนะคะก็ทำเฉยเมย แล้วก็ใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้
เหตุการณ์ที่2 : หมวกแก๊ปของเราที่ซื้อไว้นานๆทีจะใส่ออกไปข้างนอก มีอยู่วันหนึ่งเราก็หาตั้งนานว่าไปอยู่ไหนก็ไม่เจอ จนถอดใจไปซื้อใหม่ พอซื้อใหม่ปุ้นตกเย็นเราเห็นป้าแกใส่หมวกเราพึ่งกลับมาค่ะ เราแบบเห้ยไรวะ แต่เราไม่ถามนะคะถึงถามไปเราก็ไม่ยักจะได้คืนแล้วไม่กล้าใช้ต่อแล้วค่ะ
เหตุการณ์ที่3 : โดยความที่เราเป็นคนที่เสื้อผ้าเยอะมากเยอะจริงๆจะมีตัวที่ใส่ประจำและไม่ค่อยใส่นานๆทีจะใส่ค่ะตัวที่ไม่ค่อยใส่เราจะพับเก็บในกล่องเสื้อผ้าแยกไว้ แล้วปิดไว้ตอนนั้นเราเหลียบไปเห็นตะกร้าผ้าที่ใส่แล้วของป้าแก เห้ยยนั่นมันกางเกงยีนส์ของเรานี้หน่า ยี้ห้องนี้ สีนี้ไซส์นี้ คือจำได้แน่นอนค่ะเราเป็นคนหนึ่งที่เสื้อผ้าของใช้เยอะก็จริงแต่เราจำของที่ตัวเองซื้อเองกับมือได้ทุกอย่างค่ะ แล้วที่น่าเกลียดไปกว่านั้นคือเอากางเกงยีนส์ตัวนั้นของเราไปตัดขาด้วยค่ะ ตัดต่อหน้าเราเลยแบบไม่เห็นเราถามก็เอาใหญ่เลย
เหตุการณ์ที่4 : จนตอนนี้เริ่มเห็นเรื่อยๆ เสื้อผ้าร่มเสื้อกันแดด
เราเคยคุยเรื่องนี้กับแฟนแล้วเขาบอกให้เราถามไปเลย คือเราก็ไม่อยากจะถามบ่อยๆซ้ำๆ เคยถามไปรอบหนึ่งแล้วเหมือนเขาไม่รู้สึกอะไรแล้วยังทำพฤติกรรมแบบนี้เรื่อยๆ แฟนเราก็พูดมาว่างั้นก็ไม่ต้องมาพูดให้ฟังไม่อยากฟัง เอ้า ไอ่เหี้* เราเลยพูดไปว่า ที่มาพูดเนี้ยคืออยากจะให้ช่วยบอกหรือเตือนให้หน่อยเพราะเธอเป็นคนกลางเค้าพูดไปเดี๋ยวก็มีปัญหากันอีก นางก็เงียบไปเลยค่ะ
จะแยกออกไปอยู่เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกเราก็เคยชวนแล้วหรือไปอยู่บ้านเราก็ได้ แต่แฟนเราไม่หย่านมค่ะ 😂 เลยต้องทนอยู่ต่อ
ทุกคนช่วยเราคิดวิธีแก้เผ็ดกับคนประเภทนี้หน่อยค่ะเอาวิธีที่เราไม่ต้องพูดเยอะแล้วทำให้นางเข็ดไม่กล้าทำอีก