ศาลปกครองกลางปัดตก คดี ผดส. ฟ้องขนส่ง-TSB ขอให้เลิกรถรับบัตร Hop ล้วน ชี้ไม่เป็นการจำกัดสิทธิ์-ไม่ใช่ผู้เดือดร้อน

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางสาย 2-17 โดยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ผู้ฟ้องคดีต้องการเดินทางจากสถานีบางซื่อไปยังแยกพงษ์เพชร เมื่อรถมาถึง ผู้ฟ้องคดีจึงขึ้นรถ แต่ได้รับแจ้งจาก พขร. ว่า รถโดยสารคันนี้รับชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Hop เท่านั้น 
ไม่สามารถชำระด้วยเงินสด การโอนเงินผ่านระบบ QR Code บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ในระบบ EMV ซึ่งเป็นระบบตั๋วร่วมตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมได้ และได้รับแจ้งว่าบัตรใบนี้สามารถใช้ได้เฉพาะการเดินทางบนรถของ TSB เท่านั้น ให้รอรถคันต่อไปที่รับทั้งบัตร Hop และเงินสด 

ทั้งนี้ ผู้ฟ้องคดีไม่ได้เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางของ TSB หรือต้องต่อรถระหว่างรถของ TSB กับรถของ ขสมก. การซื้อบัตร Hop ทำให้ผู้ฟ้องคดี
ต้องจ่ายค่าบริการมากขึ้นโดยไม่จำเป็น เป็นภาระให้แก่ผู้ฟ้องคดีและประชาชน ประกอบกับรถโดยสารประจำทางในสายนี้มีจำนวนให้บริการน้อย 
ทำให้ต้องรอรถที่ต้องใช้เงินสดเป็นเวลานาน

ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า การที่ TSB ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะทำการกำหนดโดยพลการ ให้ผู้โดยสารรถประจำทางบางคันสามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Hop เท่านั้น โดยไม่ยอมรับการชำระด้วยวิธีอื่น แม้แต่บัตรในระบบ EMV ซึ่งเป็นระบบตั๋วร่วมตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ก็ไม่รับชำระ ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับความไม่สะดวก เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร รวมถึงกรมการขนส่งทางบกในฐานะผู้ออกใบอนุญาตรับชำระค่าโดยสารด้วยวิธีอื่นนอกจากบัตร Hop นั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ไม่ได้รับความสะดวก มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล

ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งห้าม TSB กำหนดให้รถโดยสารบางคันของทุกคันของ TSB รับชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Hop เท่านั้น
และให้กรมการขนส่งทางบก กำกับ TSB ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต ให้ยุติการกำหนดให้รถโดยสารบางคันของทุกคันของ TSB รับชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Hop เท่านั้น
และให้ TSB ให้บริการรถโดยสารกับประชาชนโดยคำนึงถึงความสะดวก เป็นธรรม และไม่สร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร โดยพิจารณารับชำระค่าโดยสารด้วยวิธีอื่นตามที่ระบบขนส่งมวลชนอื่นทำเป็นส่วนใหญ่ เช่น ระบบตั๋วร่วม EMV

ศาลปกครองกลางได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่ TSB รับชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Hop โดยไม่สามารถชำระด้วยเงินสด การโอนเงินผ่านระบบ QR Code บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตนั้น เห็นว่า การชำระค่าโดยสารด้วยบัตร Hop ผู้ฟ้องคดีสามารถใช้เงินสดซื้อบัตรดังกล่าวได้ที่พนักงานเก็บค่าโดยสาร หรือจุดที่มีการจำหน่ายบัตรดังกล่าวของ TSB ได้ แต่ผู้ฟ้องคดีประสงค์จะชำระด้วยเงินสด
หรือโดยวิธีการอื่น 

กรณีดังกล่าวมิได้เป็นการจำกัดสิทธิผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ผู้ฟ้องคดีเพียงแต่ได้รับความไม่สะดวกจากการที่ TSB รับชำระค่าโดยสารโดยบัตร Hop เท่านั้น กรณียังไม่อาจถือได้ว่าผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายจากการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองแต่อย่างใด ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีจึงไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสี่ยหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้

จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ 




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่