อิสราเอล งัดภาพสยองฟ้องโลก เหยื่อถูกสังหารโหด หวังเรียกเสียงหนุน บดขยี้ฮามาส
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4230167
 
อิสราเอล งัดภาพสยองฟ้องโลก เหยื่อถูกสังหารโหด หวังเรียกเสียงหนุน บดขยี้ฮามาส
 
ไม่เพียงรัฐบาลอิสราเอลจะนำภาพกราฟิกแสดงภาพศพของเด็กๆ และพลเรือนชาวอิสราเอลที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกองกำลังติดอาวุธฮามาส ให้นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในระหว่างเยือนประเทศอิสราเอล เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ดูเพื่อหวังเรียกความสนับสนุนให้กับอิสราเอลในการโจมตีตอบโต้กลุ่มฮามาสเท่านั้น
 
แต่สำนักงานของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยังเผยแพร่สภาพศพทารกที่ร่างอาบเลือดและภาพของเด็กที่ร่างไหม้ดำลงบนโซเชียลมีเดียในส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างเห็นได้ชัดจะปลุกความโกรธขึ้งขึ้นทั่วโลกต่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่เปิดฉากบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัว
นายบลิงเกน ที่เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ ในวันดังกล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเห็นรูปถ่ายและวิดีโอของเด็กทารกที่ร่างเต็มไปด้วยกระสุน ทหารที่ถูกตัดศีรษะ และร่างของคนหนุ่มสาวถูกเผาทั้งเป็นอยู่ในรถของพวกเขาหรือในที่ซ่อนตัว
 
“มันเป็นความเลวทรามในทางที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าว
 
ด้านนายโยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ได้เปิดวิดีโอให้รัฐมนตรีกลาโหมของชาติสมาชิกนาโตที่สำนักงานในกรุงบรัสเซลส์ได้ดูผ่านวิดีโอลิงก์ โดยชี้ว่าเป็นฉากเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส
 
“เด็กๆ ถูกมัดและยิง ใช่แล้ว ผมขอย้ำอีกครั้ง เด็กๆ ถูกมัดแล้วยิง” รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลบอกกับคณะรัฐมนตรีกลาโหมของนาโต
 
ขณะที่นายเยนส์ สตอลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ภาพเหล่านั้นเป็นภาพที่น่าสยดสยองของการโจมตีและเหยื่อของการโจมตี ซึ่งเป็นการยืนยันความโหดร้ายของการโจมตี
 
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วิดีโอที่มีการเปิดเผยให้กับกลุ่มนาโตดูเป็นภาพที่เอามารวมกันจากโซเชียลมีเดียที่เผยแพร่โดยกลุ่มฮามาสและวิดีโอทางโทรศัพท์ที่ไม่สามารถระบุได้ โดยไม่มีภาพที่บ่งชี้ว่ากลุ่มติดอาวุธได้ตัดศีรษะเด็กทารก ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ลุกลามอย่างรวดเร็วซึ่งปรากฏครั้งแรกในสื่อของอิสราเอลและในเบื้องต้นได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่อิสราเอล
 
อย่างไรก็ตาม ในฝั่งฉนวนกาซา ก็มีภาพของความเสียหายและผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจากการยิงถล่มโจมตีของกองทัพอิสราเอลเข้าใส่ฉนวนกาซาเช่นกัน โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตในฝั่งฉนวนกาซาแล้วกว่า 1,500 ราย ส่วนในอิสราเอลมีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,300 ราย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศคำมั่นจะขุดรากถอนโคนกลุ่มฮามาส ที่หลายชาติขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้าย หลังจากกองกำลังติดอาวุธฮามาสเปิดฉากบุกโจมตีอิสราเอลทั้งทางบก ทางอากาศและทางทะเลสายชนิดฟ้าแลบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา

---

พิธา ถึงเมืองคอน ร่วมงานเดือนสิบ แหลงใต้อ้อน ยกเป็นประเพณีซอฟต์เพาเวอร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4230425

พิธา ถึงเมืองคอน ร่วมงานเดือนสิบ แหลงใต้อ้อน ยกเป็นประเพณีซอฟต์เพาเวอร์
 
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่บวรนคร สี่แยกท่าวัง ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะ ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม ดับหมรับ “หรอย 100 ปี” งานเดือนสิบเมืองนคร ท่ามกลางสมาชิกของพรรคและประชา่ชนร่วมให้การต้อนรับ

จากนั้นนายพิธาได้ร่วมดับหมรับ ซึ่งประกอบด้วยขนม 5 ชนิด ประกอบด้วย ขนมลา ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนทพอง และขนมไข่ปลา จากนั้นนายพิธาได้เดินทักทายประชาชน พร้อมกล่าวว่า
 
“แหลงใต้ไม่ค่อยได้ แต่อยากจะบอกว่าคิดถึงอย่างแรง ว่ากันว่าเดือนสิบต้องให้เห็นหน้า เดือนห้าต้องให้เห็นตัว ผมก็เป็นลูกหลานเมืองคอนวันนี้ก็มาให้เห็นตัวแล้ว เป็นคนคอนได้หรือยัง” และว่า
 
“เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมงานบุญสารทเดือนสิบ ปีนี้ได้ข่าวว่าครบรอบ 100 ปี มีเรื่องราวมากมาย ที่ต้องยอมรับว่าเป็นอำนาจอ่อนของคนสมัยก่อนที่ทำให้เกิดความรักความสามัคคี ความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
 
เรื่องราวบ้านเมืองก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ล้วนผูกโยงเกี่ยวข้องเป็นกุศโลบายกันมาตั้งแต่อดีต เพราะฉะนั้น พวกเราพรรคก้าวไกลได้รับเชิญให้มาร่วมงาน ทราบว่าจัดงาน 20 วัน 20 คืน และวันนี้ก็เป็นวันท้ายๆ มาช้าก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้มา
 
มาฟังเรื่องราวดีๆของงานบุญสารทเดือนสิบถือว่าเป็นประเพณีที่น่าสนใจ และต้องมีการขยายออกไปให้กว้างเพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้กว้างไกลไปทั่วเอเซีย นั่นเป็นเพราะนครศรีธรรมราชมีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยศักยภาพ ก่อนโควิด มีรายได้เข้าประเทศ 15,000 ล้าน หลังโควิด เหลือ 5,000 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เพียง 11 ล้านนอกนั้นเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย ผมยังหวังว่า ประเพณีบุญสารทเดือนสิบจะต้องเป็นเรื่องราวที่คนทั่วโลกจะต้องรู้
นี่คือซอฟเพาเวอร์เป็นอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่ เป็นอำนาจที่อ่อนแต่เข้มแข็งไม่ใช่อำนาจที่กดขี่ข่มเหง ดีใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานครบ 100 ปี พอดี”
 

---

 
วิโรจน์ เผย 6 กรอบเข้ม กมธ.ทหาร ไล่บี้สารพัดงบกองทัพ ยันหลักสูตร ร.ร.เตรียมทหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4230312

วิโรจน์ เผย 6 กรอบเข้ม กมธ.ทหาร ไล่บี้สารพัดงบกองทัพ ยันหลักสูตร ร.ร.เตรียมทหาร
 
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเผย [ 6 กรอบนโยบายคณะกรรมาธิการการทหาร ] ภายหลังจากได้ประชุมถึงกรอบการทำงาน โดยมีเนื้อหาดังนี้

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมร่วมกัน และได้กำหนดกรอบนโยบายในการทำงานร่วมกัน ซึ่งครอบคลุมถึง งบประมาณของกองทัพ การก่อหนี้ผูกพัน สวัสดิการเชิงธุรกิจ เงินนอกงบประมาณ การจัดสรรทรัพยากร ระหว่างทหาร และพลเรือน การลดขนาดกองทัพ สวัสดิการ และสวัสดิภาพของทหารเกณฑ์ และทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งสามารถสรุปกรอบนโยบายได้ทั้งสิ้น 6 ด้าน ด้วยกัน คือ
 
1.ติดตามตรวจสอบงบประมาณ การก่อหนี้ผูกพัน และการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพ และกระทรวงกลาโหม สวัสดิการเชิงธุรกิจ เสนาพาณิชย์ และเงินนอกงบประมาณ ให้มีความโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น และมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ มีการนำเอาแนวคิดทางด้านเศรษฐศาสตร์ความมั่นคง (Economics of Defense) มาใช้เป็นแนวทางในการกำกับติดตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้การลงทุน และการใช้จ่ายงบประมาณ สอดคล้องกับความมั่นคงของประเทศในรูปแบบใหม่ ที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น
 
► การซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์โดยมีการแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไข
► นโยบายการจัดซื้อจัดจ้างแบบชดเชย (Offset Policy)
► การโอนการถือครองที่ดินของกองทัพ ให้แก่รัฐบาลเพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินให้กับประชาชน หรือทำประโยชน์ต่อสาธารณะ
► การบริหารจัดการพื้นที่ของกองทัพ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน เช่น แก้มลิงรับน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัย การบริหารจัดการขยะ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากแสงอาทิตย์ ชีวมวล หรือลม
► ภารกิจการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด การลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และน้ำมันเถื่อน
► การใช้เงินนอกงบประมาณของกองทัพไปลงทุนในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ในรูปแบบใหม่
 
2. สร้างเครือข่าย และขยายกลุ่มการทำงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อติดตามตรวจสอบการจัดสรรทรัพยากรระหว่างทหาร และพลเรือน ให้มีความเป็นธรรม เพื่อจรรโลงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน และกองทัพ ตลอดจนพัฒนาช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนปัญหาของกองทัพ ที่ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
 
3. ติดตามตรวจสอบ เพื่อให้กองทัพมีขนาดที่เหมาะสม มีจำนวนนายทหารระดับสูง และทหารกองประจำการ ที่พอเหมาะต่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ ปราศจากการนำเอากำลังพลไปใช้แรงงาน ที่มิใช่ภารกิจของกองทัพ หรือนำไปใช้ในงานที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน
 
4. ติดตาม ดูแลสวัสดิภาพ และสวัสดิการ ของข้าราชการทหาร ข้าราชการทหารชั้นผู้น้อย ทหารกองประจำการ ทหารผ่านศึก ให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ปราศจากการซ้อมทรมาน การกดขี่เอารัดเอาเปรียบ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน
 
5. ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลพลเรือน และหลักนิติรัฐ พลเรือน และทหารมีความเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย และอยู่ภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน ไม่มีการปฏิบัติการใดของกองทัพ ที่กระทบกับสิทธิ และเสรีภาพของประชาชน
 
6.ศึกษาแนวทางการปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนเหล่าทัพ และสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงกลาโหมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
 
ซึ่งคณะกรรมาธิการการทหาร จะใช้กรอบทั้ง 6 ด้านข้างต้นนี้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ เป็นไปด้วยความสุจริต มีสำนึกในการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างโปร่งใส และแน่นอนว่า จะต้องเป็นกองทัพภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลพลเรือน”
 
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/pfbid0QeG3TwmWc8SAQLPyUizWEyuHpuMCKV7RDdUyvpUTUf1q2MBDy35hSgBXEFQXuWksl

---

รับเทศกาลกินเจ! ผักสด ราคาขึ้น ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี เพิ่ม กก. 5-20 บาท
https://www.dailynews.co.th/news/2800845/

ผักสดราคาขึ้นรับกินเจ กก. 5-20 บาท ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ขึ้นยกแผง กรมการค้าภายใน ออกตรวจเข้ม จับตาราคาสินค้าช่วงเทศกาลกินเจอย่างใกล้ชิด ห้ามฉวยเอาเปรียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ ปีนี้ ที่จะมาถึงในวันที่ 15-23 ต.ค. 66 ซึ่งจะมีประชาชนนิยมถือศีลกินผักจำนวนมาก พบว่าราคาผักสดหลายชนิดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น กก. 5-20 บาท โดยข้อมูลราคาอาหารสดจากกรมการค้าภายในพบว่า ราคาผักคะน้าอยู่ กก.ละ 40-45 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่เฉลี่ย กก. 26 บาท ผักบุ้งจีน กก. 40-45 บาท เพิ่มจากเดือนก่อนที่ 25 บาท ผักกวางตุ้ง 30-35 บาท เพิ่มจากเดือนก่อนที่ 24 บาท ผักกาดขาว 35-40 บาท เพิ่มจาก 32 บาท กะหล่ำปลี กก.30-35 บาท เพิ่มจากเดือนก่อนที่ 32.50 บาท 

ด้านนายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่สายตรวจกรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารเจอย่างใกล้ชิด เพื่อกำกับดูแลพฤติกรรมทางการค้า สถานการณ์ด้านราคาและปริมาณ ตลอดจนการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าและเอาเปรียบผู้บริโภค 
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้ประกอบเป็นอาหารเจพบว่ามีการแสดงราคาจำหน่ายชัดเจน เปิดเผย ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ยังไม่พบพฤติกรรมการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาจำหน่าย โดยภาพรวมราคาจำหน่ายถือว่าไม่ได้แตกต่างไปจากปีที่แล้วมากนัก ถือว่าราคาค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ปกติ เป็นการปรับขึ้นในระยะเวลาสั้นจากความต้องการของตลาดที่สูงกว่าปกติในช่วงวันสำคัญ อาทิ โปรตีนเกษตร ราคา กก. 170-180 บาท หน่อไม้จีน กก. 350 บาท เห็ดหอมจีน ขนาดกลาง กก. 350-420 บาท