เราทำงานในหน่วยงานของรัฐ (ไม่ใช่ราชการ) ฝ่ายเรามีการเปิดรับสมัครงาน และจะเรียกนัดผู้สมัครมาสัมภาษณ์งาน โดยกรรมการสัมภาษณ์ประกอบด้วย หัวหน้าฝ่ายที่เปิดรับสมัคร และตัวแทนจากฝ่าย HR ส่วนเราเป็นผู้ประสานงานในหน่วยงานและเป็นคนเตรียมสถานที่ที่จะนัดสัมภาษณ์
เรื่องที่แปลกก็คือ...ผู้สมัครงานต้องเดินทางมาสัมภาษณ์ที่หน่วยงาน ในขณะที่ HR สัมภาษณ์ผ่านโปรแกรมออนไลน์อยู่ที่ฝ่าย HR
ใครมองว่าไม่แปลกไม่รู้ แต่เราว่าแปลก ฝ่าย HR กับสถานที่นัดสัมภาษณ์ อยู่ไกลกันแค่ไม่กี่ก้าว แต่ HR ไม่เคยมาร่วมสัมภาษณ์ที่ห้องนัดสัมภาษณ์เลย เราต้องเตรียมคอม laptop ไปเปิดโปรแกรม Zoom ที่โต๊ะ แล้วให้หน้าจอหันไปทางผู้สมัครงาน ในขณะที่หัวหน้าฝ่ายก็นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านตรงข้ามผู้สมัคร ในความรู้สึกของเราคือมันตลก ผู้สมัครจะคิดยังไงล่ะ ยุคสมัยนี้หน่วยงานต่างๆ นิยมสัมภาษณ์งานทางออนไลน์กัน แต่ของเราให้ผู้สมัครเดินทางมา ส่วน HR นั่ง Zoom อยู่ที่ห้องตัวเอง แถมไม่เปิดกล้องด้วย (HR เห็นหน้าผู้สมัคร แต่ผู้สมัครไม่เห็นหน้า HR) ถ้าจะออนไลน์กันทุกฝ่าย หรือเดินทางมาอยู่ในห้องเดียวกันทุกฝ่าย มันคงจะไม่แปลก
และปัญหาอย่างหนึ่งที่เราเจอมานานหลายเดือนแล้วคือ ผู้สมัครไม่มาสัมภาษณ์ (บางคนบอกจะมา แต่ก็ไม่มา) ทำให้ฝ่ายงานเรายังไม่ได้พนักงานใหม่สักที ในขณะที่งานในฝ่ายก็เยอะล้น ต้องการคนมาทำ ส่วนเราก็ต้องคอยประสานงานกับ HR ให้เปิดรับสมัครใหม่ โทรนัดสัมภาษณ์กับผู้สมัครแบบนี้หลายครั้ง หัวหน้าเราก็บ่นว่าหาคนยาก ส่วน HR ก็ไม่มีวิธีจัดการกับปัญหานี้
ดังนั้นเราจึงลองเสนอแนะกับหัวหน้าไปว่า ทำไมไม่ลองเปลี่ยนวิธีสัมภาษณ์เป็นแบบออนไลน์แทน เพราะสมัยนี้หลายหน่วยงานก็สัมออนไลน์ จะได้ช่วยให้หาคนได้ง่ายขึ้น เพราะบางคนอยู่ ตจว. อาจไม่สะดวกเดินทางมา กทม. เพียงเพื่อสัมภาษณ์งานไม่ถึง ชม. (เสียค่าเดินทางแพงด้วย) หรือบางคนสมัครงานไว้หลายที่ แล้วสัมภาษณ์วันเดียวกัน เวลาใกล้ๆกัน ก็อาจไม่สะดวกเดินทางไปหลายที่
แต่ข้อเสนอของเราถูกหัวหน้าปัดตกทันที เขาไม่ยอมให้สัมภาษณ์ออนไลน์ ตอนแรกเขาให้เหตุผลว่ากลัวข้อสอบรั่ว (วันสัมภาษณ์จะมีการให้สอบข้อเขียนด้วย หัวหน้าคงขี้เกียจคิดข้อสอบใหม่) แต่บางตำแหน่งที่ไม่ต้องสอบข้อเขียน หัวหน้าก็ให้เหตุผลว่า สัมภาษณ์งานออนไลน์ไม่ได้ช่วยให้มีผู้สมัครมาสัมภาษณ์มากขึ้น เพราะคนที่มีความตั้งใจจริง อยากได้งานที่นี่จริงๆ เขาย่อมไม่มีปัญหาในการเดินทางมาสัมภาษณ์ และการสัมภาษณ์ออนไลน์ก็ทำให้เห็นบุคลิกของผู้สมัครได้ไม่ชัดเจนเท่ากับสัมภาษณ์แบบเจอตัวจริงๆ
เราฟังที่หัวหน้าพูดก็เข้าใจ หัวหน้าอายุรุ่นพ่อแม่เรา จะคิดแบบนี้ก็ไม่ค่อยแปลก แต่เรามองว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลง นิสัยคนก็เปลี่ยนแปลง วิธีการก็น่าจะเปลี่ยนแปลงได้บ้าง ที่ผ่านๆมาฝ่ายเราก็มีปัญหาเรื่องหาคนยาก ด้วยลักษณะงานที่ไม่ค่อยมีใครอยากทำอยู่แล้ว ส่วนผู้สมัครก็ไม่มาสัมภาษณ์อีก ส่วนคนที่เคยรับเข้ามาด้วยวิธีสัมภาษณ์ปกติ พอได้ทำงานจริงก็อยู่ไม่นานแล้วลาออก ส่วนเรื่องบุคลิกของคนก็สามารถเสแสร้งได้ในวันที่สัมภาษณ์งาน (บางคน บุคลิกตอนสัมภาษณ์กับตอนทำงานต่างกันลิบ) ดังนั้นเราจึงคิดว่าไม่มีอะไรมารับรองได้ว่าการสัมภาษณ์งานแบบปกติจะดีกว่าแบบออนไลน์ ขอแค่ให้ได้คนมาทำงานก่อน ส่วนรับมาแล้วจะมีความตั้งใจจริงแค่ไหน อยู่ได้นานแค่ไหน มันเป็นเรื่องของอนาคต ไม่อาจรู้ได้ในวันสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว (จริงๆเด็กยุคนี้ก็เปลี่ยนงานกันบ่อยเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะคาดหวังว่ารับคนเข้ามาทำงานแล้วต้องอยู่ทนอยู่นาน)
อยากรู้ว่าคนอ่านคิดยังไง และอยากรู้ว่าที่ทำงานใครยังไม่มีนโยบายสัมภาษณ์งานออนไลน์บ้าง (อาจไม่ใช่ทั้งหน่วยงาน แต่เป็นบางฝ่าย บางแผนกก็ได้) ยกเว้นหน่วยงานราชการ ที่อาจไม่มีสัมภาษณ์ออนไลน์
คิดยังไงกับการนัดผู้สมัครงานไปสัมภาษณ์ที่หน่วยงาน ในขณะที่ HR สัมภาษณ์ทางออนไลน์ และที่ทำงานใครไม่สัมภาษณ์ออนไลน์บ้าง
เรื่องที่แปลกก็คือ...ผู้สมัครงานต้องเดินทางมาสัมภาษณ์ที่หน่วยงาน ในขณะที่ HR สัมภาษณ์ผ่านโปรแกรมออนไลน์อยู่ที่ฝ่าย HR
ใครมองว่าไม่แปลกไม่รู้ แต่เราว่าแปลก ฝ่าย HR กับสถานที่นัดสัมภาษณ์ อยู่ไกลกันแค่ไม่กี่ก้าว แต่ HR ไม่เคยมาร่วมสัมภาษณ์ที่ห้องนัดสัมภาษณ์เลย เราต้องเตรียมคอม laptop ไปเปิดโปรแกรม Zoom ที่โต๊ะ แล้วให้หน้าจอหันไปทางผู้สมัครงาน ในขณะที่หัวหน้าฝ่ายก็นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านตรงข้ามผู้สมัคร ในความรู้สึกของเราคือมันตลก ผู้สมัครจะคิดยังไงล่ะ ยุคสมัยนี้หน่วยงานต่างๆ นิยมสัมภาษณ์งานทางออนไลน์กัน แต่ของเราให้ผู้สมัครเดินทางมา ส่วน HR นั่ง Zoom อยู่ที่ห้องตัวเอง แถมไม่เปิดกล้องด้วย (HR เห็นหน้าผู้สมัคร แต่ผู้สมัครไม่เห็นหน้า HR) ถ้าจะออนไลน์กันทุกฝ่าย หรือเดินทางมาอยู่ในห้องเดียวกันทุกฝ่าย มันคงจะไม่แปลก
และปัญหาอย่างหนึ่งที่เราเจอมานานหลายเดือนแล้วคือ ผู้สมัครไม่มาสัมภาษณ์ (บางคนบอกจะมา แต่ก็ไม่มา) ทำให้ฝ่ายงานเรายังไม่ได้พนักงานใหม่สักที ในขณะที่งานในฝ่ายก็เยอะล้น ต้องการคนมาทำ ส่วนเราก็ต้องคอยประสานงานกับ HR ให้เปิดรับสมัครใหม่ โทรนัดสัมภาษณ์กับผู้สมัครแบบนี้หลายครั้ง หัวหน้าเราก็บ่นว่าหาคนยาก ส่วน HR ก็ไม่มีวิธีจัดการกับปัญหานี้
ดังนั้นเราจึงลองเสนอแนะกับหัวหน้าไปว่า ทำไมไม่ลองเปลี่ยนวิธีสัมภาษณ์เป็นแบบออนไลน์แทน เพราะสมัยนี้หลายหน่วยงานก็สัมออนไลน์ จะได้ช่วยให้หาคนได้ง่ายขึ้น เพราะบางคนอยู่ ตจว. อาจไม่สะดวกเดินทางมา กทม. เพียงเพื่อสัมภาษณ์งานไม่ถึง ชม. (เสียค่าเดินทางแพงด้วย) หรือบางคนสมัครงานไว้หลายที่ แล้วสัมภาษณ์วันเดียวกัน เวลาใกล้ๆกัน ก็อาจไม่สะดวกเดินทางไปหลายที่
แต่ข้อเสนอของเราถูกหัวหน้าปัดตกทันที เขาไม่ยอมให้สัมภาษณ์ออนไลน์ ตอนแรกเขาให้เหตุผลว่ากลัวข้อสอบรั่ว (วันสัมภาษณ์จะมีการให้สอบข้อเขียนด้วย หัวหน้าคงขี้เกียจคิดข้อสอบใหม่) แต่บางตำแหน่งที่ไม่ต้องสอบข้อเขียน หัวหน้าก็ให้เหตุผลว่า สัมภาษณ์งานออนไลน์ไม่ได้ช่วยให้มีผู้สมัครมาสัมภาษณ์มากขึ้น เพราะคนที่มีความตั้งใจจริง อยากได้งานที่นี่จริงๆ เขาย่อมไม่มีปัญหาในการเดินทางมาสัมภาษณ์ และการสัมภาษณ์ออนไลน์ก็ทำให้เห็นบุคลิกของผู้สมัครได้ไม่ชัดเจนเท่ากับสัมภาษณ์แบบเจอตัวจริงๆ
เราฟังที่หัวหน้าพูดก็เข้าใจ หัวหน้าอายุรุ่นพ่อแม่เรา จะคิดแบบนี้ก็ไม่ค่อยแปลก แต่เรามองว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลง นิสัยคนก็เปลี่ยนแปลง วิธีการก็น่าจะเปลี่ยนแปลงได้บ้าง ที่ผ่านๆมาฝ่ายเราก็มีปัญหาเรื่องหาคนยาก ด้วยลักษณะงานที่ไม่ค่อยมีใครอยากทำอยู่แล้ว ส่วนผู้สมัครก็ไม่มาสัมภาษณ์อีก ส่วนคนที่เคยรับเข้ามาด้วยวิธีสัมภาษณ์ปกติ พอได้ทำงานจริงก็อยู่ไม่นานแล้วลาออก ส่วนเรื่องบุคลิกของคนก็สามารถเสแสร้งได้ในวันที่สัมภาษณ์งาน (บางคน บุคลิกตอนสัมภาษณ์กับตอนทำงานต่างกันลิบ) ดังนั้นเราจึงคิดว่าไม่มีอะไรมารับรองได้ว่าการสัมภาษณ์งานแบบปกติจะดีกว่าแบบออนไลน์ ขอแค่ให้ได้คนมาทำงานก่อน ส่วนรับมาแล้วจะมีความตั้งใจจริงแค่ไหน อยู่ได้นานแค่ไหน มันเป็นเรื่องของอนาคต ไม่อาจรู้ได้ในวันสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว (จริงๆเด็กยุคนี้ก็เปลี่ยนงานกันบ่อยเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะคาดหวังว่ารับคนเข้ามาทำงานแล้วต้องอยู่ทนอยู่นาน)
อยากรู้ว่าคนอ่านคิดยังไง และอยากรู้ว่าที่ทำงานใครยังไม่มีนโยบายสัมภาษณ์งานออนไลน์บ้าง (อาจไม่ใช่ทั้งหน่วยงาน แต่เป็นบางฝ่าย บางแผนกก็ได้) ยกเว้นหน่วยงานราชการ ที่อาจไม่มีสัมภาษณ์ออนไลน์