สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ 29
อยากได้แนวทางหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการความรู้สึกเรื่องพ่อแม่ และความกตัญญูต่อคนที่เลี้ยงเรามา (ไม่ใช่พ่อกับแม่) ที่เป็นปัญหาตอนนี้ค่ะ เพราะมันเป็นความทุกข์ที่แสนสาหัสมาก แต่ละวันเราแทบไม่มีแรงใช้ชีวิต
ย้อนไปตั้งแต่เราเกิด
แม่เรามีปัญหาเรื่องหนี้หวย เล่นแชร์และการพนันมาตลอด เรารับรู้ได้ตั้งแต่เด็กเพราะแม่เอาค่าเทอมที่ย่าให้มาไปใช้ทุกปี เราโดนเรียกไปคุยแทบทุกปีว่าถ้าผู้ปกครองไม่มาชำระจะไม่มีสิทธิ์สอบ
และพ่อ พ่อเราย้ายงานบ่อย ทะเลาะกับแม่ทุกวัน ย้ำว่าทุกวันจริงๆ ตอนเด็กเราไม่รู้ว่าเพราะอะไร มารู้ตอนโตว่าที่สุดท้ายที่พ่อทำ พ่อโดนจับธุจริตเพราะพาน้องแม่ไปทำงานด้วยแล้วน้องแม่โกงบริษัท พ่อเราออกหน้าให้ทำให้ไม่โดนดำเนินคดี พ่อเราเลยต้องออกด้วย พอนานเข้า ก็เลิกทำงาน อยู่บ้านเฉยๆ (ใช้เงินย่า ย่าเป็นค่าราชการบำนาญ)
- ย่าให้บ้านพ่อกับแม่ 1 หลัง
- อีก 1 หลัง เป็นบ้านของย่า โดยมีลุงและป้า (เมียลุง)อยู่ด้วย
จนถึงประมาณม.3 เราเป็นเด็กมีปัญหามาก หนีออกจากบ้าน เกเร ไม่เรียน ติดเพื่อน ยาเสพติด เกือบจะออกทะเล แต่ด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้ลุงตัดสินใจคุยกับย่าว่าจะขอเรามาเลี้ยงทั้งๆที่เรามีปัญหา(ลุงไม่มีลูก) และคอยอบรมสั่งสอน ซึ่งตอนแรกมันยากมาก กว่าจะเข้าที่ก็ ม.6 แต่สุดท้ายก็กลับมาได้ ส่งเรียนมหาวิทยาลัยที่ดี และได้เติบโตในบ้านหลังนี้อย่างอบอุ่น จนเราเรียนจบ ทำงานดี ดูแลตัวเองได้และมีเงินให้พ่อแม่และลุงย่าได้ ทุกอย่างไปในทางที่ดีและเรามีความสุขมากๆ โดยระหว่างที่เราอยู่บ้านนี้ ลุงคอยรับหนี้สินและปัญหาบ้านพ่อตลอด
จนวันที่เราไม่คาดคิดก็มาถึง เราอายุประมาณ 27 ลุงเสียกระทันหันจากอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นโลกใบเดิมที่เราเคยเจอ เริ่มจากป้า(เมียของลุง)ขอย้ายออกกลับไปอยู่บ้านตัวเองเพราะพ่อเราตามรังควาญเรื่องเงินมรดก เพราะป้ากับลุงไม่ได้จดทะเบียน (เพราะทำธุรกิจ) แต่เรากับย่าตัดปัญหายกให้ป้าทั้งหมด เพราะเขาหาด้วยกันมา ไม่ใช่ของๆเรา ทีนี้พอลุงไม่อยู่ ป้าไม่อยู่ เลยทำให้พ่อย้ายมาอยู่บ้านนี้ ด้วยเหตุผลว่าจะมาดูแลย่า ตามมาด้วยแม่
หลังจากนั้นความสุขเรามันแทบจะหายไปหมดเลย แม่เรายังเป็นคนเดิมที่ยังสร้างปัญญาแบบเดิมไม่จบสิ้น อาชีพแม่คือทำนู่นทีนี่ที อยากทำขนมปังย่าก็ลงทุนให้ ไม่ถึงเดือนก็เลิก เอาของไปขาย เอาเงินไปเล่นหวย เล่นแชร์ และเปลี่ยนแบบนี้ไปเรื่อยๆตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน พ่อไม่ทำอาชีพอะไร อยู่เฉยๆ กิน นอน ดูทีวี ไปหาเพื่อน วนอย่างนี้ตั้งแต่มาอยู่จนตอนนี้
หลายครั้งมากที่เรารับไม่ได้ในสิ่งที่แม่ทำรับไม่ได้มากๆและทะเลาะกันแรงมากๆ เช่น แม่ขโมยทองเราไปขาย ซื้อทองปลอมมาวางแทน หรือไปยืมเงินคนข้างบ้าน หรือเอาชื่อย่าไปกู้เงินนอกระบบ ทุกครั้งที่แม่สร้างปัญหา ย่าเราจะเป็นลมหมดแรง ย่าจะทำได้แค่ร้องไห้และสวดมนตร์แผ่เมตตา จะเป็นเราที่ต้องเป็นคนคอยจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และความทุกข์มันยิ่งเพิ่มขึ้นตรงที่ ทุกปัญหา พ่อจะเข้าอกเข้าใจแม่ตลอดทุกครั้ง พยามหาเหตุผลร้อยแปดมาอธิบายว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้นแบบนี้ แม่เค้าเบื่อ เค้ารผู้สึกว่าบ้านนี้ไม่ใช่บ้านของเค้า เค้าไม่มีที่ยืน หรือต่างๆนาๆ ให้เราเข้าใจแม่ และต้องรับผิดชอบสิ่งที่แม่ทำโดยให้เหตุผลว่าเราเป็นลูก เราไม่มีสิทธิ์พูดหรือว่าแม่ จนเรายื่นคำขาดว่าพอกันที ถ้าอยู่แล้วชีวิตมันเฮ็งซวยแบบนี้อย่าอยู่เลย อย่ามาทำร้ายกันและกันเลยและพ่อก็ตัดสินว่ามันใจดำ ด่าว่าเราสารพัด เราร้องไห้เป็นวันๆ อยากจะต่างคนต่างอยู่ แต่ติดที่ย่า ที่เราไม่สามารถทิ้งไปได้ เราควรต้องจัดการความรู้สึกหรือเหตุการณ์แบบนี้ยังไงดีคะ
ย่าอายุ 83 แข็งแรงเดินเหินได้ ดูแลตัวเองได้ ย่ากับแม่ต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยทะเลาะอะไรกัน แต่ก็ไม่ถูกกัน แม่เราไม่คุยกับย่า เพราะรำคาญคนแก่ ส่วนย่าปล่อยวาง เขาจะเป็นยังไงเรื่องของเขา เพราะทุกวันนี้ย่ามีเราและพ่อ
ในครอบครัวเรามีพี่น้อง 3 คน มีพี่ชาย เราเป็นผู้หญิงคนเดียวและน้องชาย(น้องชายห่างกัน 12ปี) ทุกอย่างเหมือนหนังเรื่องเดิม พี่ชายเราเปลี่ยนงานบ่อย ยิมเงินเราบ่อย ไม่ต้องเลี้วงดูใครและได้เมียเหมือนแม่ (อาศัยอยู่ที่บ้านพ่อ) ส่วนน้องชายเราขอมาเลี้ยงตั้งแต่อนุบาล โตมากับเราที่บ้านย่า จนถึงตอนนี้เราเป็นคนดูแลเรื่องการเลี้ยงดูและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ตอนนี้เรารู้สึกหมดแรงมากๆ ทั้งปัญหาพ่อและแม่ที่เจออยู่ ทั้งเรื่องความรับผิดชอบและคงามรู้สึก มันทำร้ายจิตใจเรามากๆ อยากหนีตัดขาดกันไปเลย แต่ห่วงย่ากับน้องมากๆ อยากขอคำปรึกษาจากพี่ๆที่มีวุฒิภาวะในการจัดการปัญหาในครอบครัวหรือที่เคยผ่านมาก่อน ว่าควรทำยังไงหรือจัดการความรู้สึกแย่มากๆแบบนี้ยังไงดีคะ
ขอบคุณมากค่ะ
พ่อแม่ กับคนที่เลี้ยงเรามา ต้องเลือกยังไง
อยากได้แนวทางหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการความรู้สึกเรื่องพ่อแม่ และความกตัญญูต่อคนที่เลี้ยงเรามา (ไม่ใช่พ่อกับแม่) ที่เป็นปัญหาตอนนี้ค่ะ เพราะมันเป็นความทุกข์ที่แสนสาหัสมาก แต่ละวันเราแทบไม่มีแรงใช้ชีวิต
ย้อนไปตั้งแต่เราเกิด
แม่เรามีปัญหาเรื่องหนี้หวย เล่นแชร์และการพนันมาตลอด เรารับรู้ได้ตั้งแต่เด็กเพราะแม่เอาค่าเทอมที่ย่าให้มาไปใช้ทุกปี เราโดนเรียกไปคุยแทบทุกปีว่าถ้าผู้ปกครองไม่มาชำระจะไม่มีสิทธิ์สอบ
และพ่อ พ่อเราย้ายงานบ่อย ทะเลาะกับแม่ทุกวัน ย้ำว่าทุกวันจริงๆ ตอนเด็กเราไม่รู้ว่าเพราะอะไร มารู้ตอนโตว่าที่สุดท้ายที่พ่อทำ พ่อโดนจับธุจริตเพราะพาน้องแม่ไปทำงานด้วยแล้วน้องแม่โกงบริษัท พ่อเราออกหน้าให้ทำให้ไม่โดนดำเนินคดี พ่อเราเลยต้องออกด้วย พอนานเข้า ก็เลิกทำงาน อยู่บ้านเฉยๆ (ใช้เงินย่า ย่าเป็นค่าราชการบำนาญ)
- ย่าให้บ้านพ่อกับแม่ 1 หลัง
- อีก 1 หลัง เป็นบ้านของย่า โดยมีลุงและป้า (เมียลุง)อยู่ด้วย
จนถึงประมาณม.3 เราเป็นเด็กมีปัญหามาก หนีออกจากบ้าน เกเร ไม่เรียน ติดเพื่อน ยาเสพติด เกือบจะออกทะเล แต่ด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้ลุงตัดสินใจคุยกับย่าว่าจะขอเรามาเลี้ยงทั้งๆที่เรามีปัญหา(ลุงไม่มีลูก) และคอยอบรมสั่งสอน ซึ่งตอนแรกมันยากมาก กว่าจะเข้าที่ก็ ม.6 แต่สุดท้ายก็กลับมาได้ ส่งเรียนมหาวิทยาลัยที่ดี และได้เติบโตในบ้านหลังนี้อย่างอบอุ่น จนเราเรียนจบ ทำงานดี ดูแลตัวเองได้และมีเงินให้พ่อแม่และลุงย่าได้ ทุกอย่างไปในทางที่ดีและเรามีความสุขมากๆ โดยระหว่างที่เราอยู่บ้านนี้ ลุงคอยรับหนี้สินและปัญหาบ้านพ่อตลอด
จนวันที่เราไม่คาดคิดก็มาถึง เราอายุประมาณ 27 ลุงเสียกระทันหันจากอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นโลกใบเดิมที่เราเคยเจอ เริ่มจากป้า(เมียของลุง)ขอย้ายออกกลับไปอยู่บ้านตัวเองเพราะพ่อเราตามรังควาญเรื่องเงินมรดก เพราะป้ากับลุงไม่ได้จดทะเบียน (เพราะทำธุรกิจ) แต่เรากับย่าตัดปัญหายกให้ป้าทั้งหมด เพราะเขาหาด้วยกันมา ไม่ใช่ของๆเรา ทีนี้พอลุงไม่อยู่ ป้าไม่อยู่ เลยทำให้พ่อย้ายมาอยู่บ้านนี้ ด้วยเหตุผลว่าจะมาดูแลย่า ตามมาด้วยแม่
หลังจากนั้นความสุขเรามันแทบจะหายไปหมดเลย แม่เรายังเป็นคนเดิมที่ยังสร้างปัญญาแบบเดิมไม่จบสิ้น อาชีพแม่คือทำนู่นทีนี่ที อยากทำขนมปังย่าก็ลงทุนให้ ไม่ถึงเดือนก็เลิก เอาของไปขาย เอาเงินไปเล่นหวย เล่นแชร์ และเปลี่ยนแบบนี้ไปเรื่อยๆตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน พ่อไม่ทำอาชีพอะไร อยู่เฉยๆ กิน นอน ดูทีวี ไปหาเพื่อน วนอย่างนี้ตั้งแต่มาอยู่จนตอนนี้
หลายครั้งมากที่เรารับไม่ได้ในสิ่งที่แม่ทำรับไม่ได้มากๆและทะเลาะกันแรงมากๆ เช่น แม่ขโมยทองเราไปขาย ซื้อทองปลอมมาวางแทน หรือไปยืมเงินคนข้างบ้าน หรือเอาชื่อย่าไปกู้เงินนอกระบบ ทุกครั้งที่แม่สร้างปัญหา ย่าเราจะเป็นลมหมดแรง ย่าจะทำได้แค่ร้องไห้และสวดมนตร์แผ่เมตตา จะเป็นเราที่ต้องเป็นคนคอยจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และความทุกข์มันยิ่งเพิ่มขึ้นตรงที่ ทุกปัญหา พ่อจะเข้าอกเข้าใจแม่ตลอดทุกครั้ง พยามหาเหตุผลร้อยแปดมาอธิบายว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้นแบบนี้ แม่เค้าเบื่อ เค้ารผู้สึกว่าบ้านนี้ไม่ใช่บ้านของเค้า เค้าไม่มีที่ยืน หรือต่างๆนาๆ ให้เราเข้าใจแม่ และต้องรับผิดชอบสิ่งที่แม่ทำโดยให้เหตุผลว่าเราเป็นลูก เราไม่มีสิทธิ์พูดหรือว่าแม่ จนเรายื่นคำขาดว่าพอกันที ถ้าอยู่แล้วชีวิตมันเฮ็งซวยแบบนี้อย่าอยู่เลย อย่ามาทำร้ายกันและกันเลยและพ่อก็ตัดสินว่ามันใจดำ ด่าว่าเราสารพัด เราร้องไห้เป็นวันๆ อยากจะต่างคนต่างอยู่ แต่ติดที่ย่า ที่เราไม่สามารถทิ้งไปได้ เราควรต้องจัดการความรู้สึกหรือเหตุการณ์แบบนี้ยังไงดีคะ
ย่าอายุ 83 แข็งแรงเดินเหินได้ ดูแลตัวเองได้ ย่ากับแม่ต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยทะเลาะอะไรกัน แต่ก็ไม่ถูกกัน แม่เราไม่คุยกับย่า เพราะรำคาญคนแก่ ส่วนย่าปล่อยวาง เขาจะเป็นยังไงเรื่องของเขา เพราะทุกวันนี้ย่ามีเราและพ่อ
ในครอบครัวเรามีพี่น้อง 3 คน มีพี่ชาย เราเป็นผู้หญิงคนเดียวและน้องชาย(น้องชายห่างกัน 12ปี) ทุกอย่างเหมือนหนังเรื่องเดิม พี่ชายเราเปลี่ยนงานบ่อย ยิมเงินเราบ่อย ไม่ต้องเลี้วงดูใครและได้เมียเหมือนแม่ (อาศัยอยู่ที่บ้านพ่อ) ส่วนน้องชายเราขอมาเลี้ยงตั้งแต่อนุบาล โตมากับเราที่บ้านย่า จนถึงตอนนี้เราเป็นคนดูแลเรื่องการเลี้ยงดูและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ตอนนี้เรารู้สึกหมดแรงมากๆ ทั้งปัญหาพ่อและแม่ที่เจออยู่ ทั้งเรื่องความรับผิดชอบและคงามรู้สึก มันทำร้ายจิตใจเรามากๆ อยากหนีตัดขาดกันไปเลย แต่ห่วงย่ากับน้องมากๆ อยากขอคำปรึกษาจากพี่ๆที่มีวุฒิภาวะในการจัดการปัญหาในครอบครัวหรือที่เคยผ่านมาก่อน ว่าควรทำยังไงหรือจัดการความรู้สึกแย่มากๆแบบนี้ยังไงดีคะ
ขอบคุณมากค่ะ