🌟เปิด #RebornDairy กับ #INDYCAMP EP 01 : Before Reborn จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง 〽️
.
เชื่อว่าวันนี้ ทุกๆ คนคงได้ฟังเพลงใหม่ทั้ง 12 ของสาวๆ อินดี้แคมป์กันไปแล้ว แอดเลยอยากจะเปิดสมุดบันทึกที่แอดเคยได้จดไว้ตั้งแต่วันแรก มาเล่าให้ทุกๆ คนได้ฟังกัน ว่าแต่ละก้าวที่ทั้ง 12 คนค่อยๆ ปีนบันไดขึ้นไปนั้น มันมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง และแน่นอนว่า ความสวยงามที่เราเห็นแต่ในเบื้องหลังนั้น ล้วนผ่านมาทั้งความลำบาก ความพยายาม ความทุกข์ ความสุข และที่สำคัญคือการได้รับพลังใจมากมาย ะจากแฟนๆ ทุกๆ คนนี้แหละค่ะ 💚
.
ย้อนไปช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากที่ทุกคนรู้กันแล้วว่า INDYCAMP ในซีซั่นใหม่ทั้ง 12 นี้จะมีใครบ้าง ไม่นานนัก การทำงานก็เริ่มต้นขึ้นกันเลย ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากการที่ให้แต่ละคน แยกย้ายกันไปเตรียมตัวทำพรีเซ็นต์ คิดคอนเซ็ปของเพลงที่อยากได้ในครั้งนี้ โจทย์ที่ให้คือ หาตัวตนของตัวเอง ลุคที่เป็นตัวเอง สีหรือโทนที่ชอบ แนวเพลงที่อยากทำ เพลงที่ชอบ เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักตัวเองและรู้ว่า "สิ่งที่เราอยากสื่อไปถึงแฟนๆ จริงๆ คืออะไรกันแน่" ทุกคนมีเวลาประมาณสองอาทิตย์หลังจากได้รับโจทย์ จากนั้นแต่ละคนก็เข้ามาคุยกับพี่ๆ ทีม นำโดยพี่เอ๊ะ โดยให้แต่ละคนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการคุยกันครั้งแรก แต่ละคนเตรียมทำพรีเซ็นต์มากันเป็นอย่างดี โดยคนแรกที่ได้คิวนำเสนอคือมายยู ไปเรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้ายก็คือปีโป้ (ที่ได้ตัดสินใจมาร่วมกับอินดี้แคมป์อีกครั้ง)
.
สิ่งหนึ่งที่ทีมงานเห็นในครั้งนี้คือ passion ของทุกคน แววตาของทุกคนล้วนมีความตั้งใจที่อยากจะทำผลงานเพลงออกมา และประสบการณ์ของรุ่นแรก ก็คอยช่วยผลักดันให้คราวนี้ดูมุ่งมั่นกว่าเดิม แถมยังคอยช่วยสนับสนุนประคับประคองรุ่นสองที่พึ่งมาใหม่ให้เดินไปด้วยกัน ถึงแม้โปรเจคอินดี้แคมป์นั้นจะเป็นโปรเจคเพลงเดี่ยว แต่จริงๆ แล้วมันคือโปรเจคกลุ่มใหญ่ ที่ผลัดกันมาเทคเทิร์นของตัวเองในชื่อ "อินดี้แคมป์" ทำให้ความเป็นอินดี้แคมป์ครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่ชื่อโปรเจค แต่มันคือ "ทุกคน" ไปแล้ว อย่างที่ทุกคนเห็นในปกอัลบั้ม ที่ทั้ง 12 คน ต่างร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน กับคำว่า "I N D Y C A M P 2 0 2 3"
.
แอดเอาขอภาพบรรยากาศในโมเมนท์วันนั้นมาให้ชมกันนะคะ ส่วนบางคน ภาพที่มีมันเรียลเกินไปกว่าจะเอาโซเชียลได้ น้องๆ เลยทำภาพจำลองสถานการณ์ในวันนั้น (ที่จะดูเซอร์เรียลหน่อยๆ 😝) มาให้ดูกันแทนค่า แล้วพบกันใหม่ใน EP.02 นะคะ
.
#ปกิณณกะ
MYYU เปิดประโยคคำแรกกับทีมว่า "สวัสดีค่ะ หนูมายยู หนูเป็นผู้หญิง" มายยูเป็นคนที่ทำพรีเซ็นต์ได้ละเอียดมากถึงมากที่สุด ถึงกับระบุโค้ดสีตัวเองเลยทีเดียว และเพลง "ประโยคบอกลา" ก็เริ่มต้นตั้งแต่ ณ วันแรกที่คุยกันเลย
PANDA เป็นคนเขียนประวัติตัวเองละเอียดมาก เช่น ชอบกินข้าวคลุกปลาทู ชอบคิดงานตอนกลางคืน อยากลองทำเพลงที่คำไม่ต้องเยอะมากแต่ฟังแล้วเข้าใจเลย เป็นคนที่ทำสไลด์พรีเซ็นต์สั้นๆ ไม่กี่หน้า แต่สวยงามอลังการทุกหน้า
PEPO หลังจากที่มุ่งหน้าสู่เส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวแล้ว เลยตัดสินใจกลับมาร่วมกับ INDYCAMP ในปีนี้ ที่จริงปีโป้ทำเพลงไว้แล้วหลายเพลง แต่เพลงที่อยากปล่อยให้ทุกคนได้ฟังอีกครั้งคือเพลง Just Not Today ที่ตอนแรกเกือบชื่อว่า Parasite
STANG มากับแทกไลน์น่ารักๆ ที่มีความเป็นตัวเองว่า "สบาย สไตล์ สตางค์" เป็นคนที่ทำเทส MBTI ได้เป็นไทป์ ENFJ (Protagonist) เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นมิตร เข้าใจแต่ละคน และมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
FORTUNE นอกเหนือจากการทำพรีเซ็นต์ที่สวยมาก และถอดตัวตนออกมาได้อย่างเข้าใจได้ดี แต่ที่ฟอร์จูนฉายแววมากๆ คือภาวะผู้นำ เป็นพี่ใหญ่แห่งอินดี้แคมป์เชียงใหม่ที่คอยดูแลน้องๆ ทุกคน และมีบุคลิกจริงจังสลับขี้เล่นได้ทุก 7 วินาที
KAOFRANG ชอบเพลงเศร้า ทรงตัดพ้อ "เป็นคนนั้นที่เธอชอบบ้าง หรือ ถ้าเธอจะกลับไปดีกับเค้าก็แค่บอกเราได้มั้ย" ชอบเพลงที่ขึ้นต้นด้วยท่อนฮุก และมีแรพเล็กน้อย มีกีตาร์โซโล่ และไม่พลาดโชว์เพลงฮิต "ติดดอย" ให้ทุกคนฟัง
MILK เป็นคนชอบเพลงฮิพฮอพ อยากทำเพลงที่ฟังได้ทุกวัย ความหมายไม่ได้ยาก น้องมิลค์มาในสไตล์ “ตัวเล็ก แอบหล่อ เสียงแอบแหบ” ชอบถ่ายรูปฟิล์ม ชอบฟังเพลงไปเรื่อยๆ เวลานั่งรถ มีความอินดี้ที่ทั้งชอบความสดใสและชอบเก็บตัว
NENIE ตั้งใจอยากทำเพลงแนว Chillhop ที่มีความแจ๊ซนิดๆ เป็นคนชอบไปดูคอนเสิร์ตมาก และมักได้อินซไปร์จากการได้ดูคอนเสิร์ต มีความตั้งใจอยากเล่นเปียโนในโชว์ของตัวเอง รู้สึกได้ถึงความเป็นเด็กโก๊ะตั้งแต่ตอนพรีเซ็นต์
MARMINK ให้นิยามตัวเองว่าเป็นคนชอบธรรมชาติ ซึ่งตอนแรกนึกว่าชอบแบบทั่วๆ ไป ชอบไปเที่ยวป่าเขาทะเลงี้ แต่จริงๆ แล้วมันคือจิตวิญญาณที่แทรกซึมไปในชีวิต จนรู้สึกได้ถึงแก่นของดนตรีที่มามิ้งค์ร้องและแสดงออกในทุกเวทีที่เล่น
NINE เป็นคนที่ทำให้ที่ประชุมว้าวที่สุดคนนึง นอกจากพรีเซ็นต์ดีแล้ว ตอนที่เลือกหยิบเพลงมาร้องให้ฟัง นายเลือกร้องเพลงเพื่อชีวิตกับเพลงลูกทุ่ง ทุกคนรู้อยู่แล้วว่านายเสียงดี แต่ในอีกมุมนี้ ถือว่าบียอนมาก เพราะทำได้ดีเกินคาด
SATCHAN เลือกสีที่เป็นตัวแทนตัวเอง 4 สี่ คือ สีชมพูคือสีที่ชอบที่สุด สีขาวเพราะว่าเวลามันอยู่กับสีชมพูมันให้ความซอฟต์ ต่อมาสีดำจะทำให้ดูเข้มขึ้นเพราะบางทีก็ไม่ได้สดใสเสมอไป และสุดท้ายสีฟ้าคือสีที่ไม่ชอบ มันเลยทำให้สมดุลเหมือนชีวิต
WEE ตอนแรกอยากแต่งเพลงใหม่เป็นเพลงเศร้า แต่คิดว่าเดี๋ยวพอร้องออกมา มันก็จะกลายเป็นเพลงคลั่งรักเหมือนเดิมอยู่ดี เลยอยากแต่งเพลงเกี่ยวกับความรักวัยรุ่น ที่ยังไม่รู้จักความรักจริงๆ ว่าคืออะไรกันแน่ แต่แค่เอนจอยกับความรู้สึกที่มีในตอนนี้
🌟เปิด #RebornDairy กับ #INDYCAMP EP 01 : Before Reborn จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง 〽️
.
เชื่อว่าวันนี้ ทุกๆ คนคงได้ฟังเพลงใหม่ทั้ง 12 ของสาวๆ อินดี้แคมป์กันไปแล้ว แอดเลยอยากจะเปิดสมุดบันทึกที่แอดเคยได้จดไว้ตั้งแต่วันแรก มาเล่าให้ทุกๆ คนได้ฟังกัน ว่าแต่ละก้าวที่ทั้ง 12 คนค่อยๆ ปีนบันไดขึ้นไปนั้น มันมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง และแน่นอนว่า ความสวยงามที่เราเห็นแต่ในเบื้องหลังนั้น ล้วนผ่านมาทั้งความลำบาก ความพยายาม ความทุกข์ ความสุข และที่สำคัญคือการได้รับพลังใจมากมาย ะจากแฟนๆ ทุกๆ คนนี้แหละค่ะ 💚
.
ย้อนไปช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากที่ทุกคนรู้กันแล้วว่า INDYCAMP ในซีซั่นใหม่ทั้ง 12 นี้จะมีใครบ้าง ไม่นานนัก การทำงานก็เริ่มต้นขึ้นกันเลย ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากการที่ให้แต่ละคน แยกย้ายกันไปเตรียมตัวทำพรีเซ็นต์ คิดคอนเซ็ปของเพลงที่อยากได้ในครั้งนี้ โจทย์ที่ให้คือ หาตัวตนของตัวเอง ลุคที่เป็นตัวเอง สีหรือโทนที่ชอบ แนวเพลงที่อยากทำ เพลงที่ชอบ เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักตัวเองและรู้ว่า "สิ่งที่เราอยากสื่อไปถึงแฟนๆ จริงๆ คืออะไรกันแน่" ทุกคนมีเวลาประมาณสองอาทิตย์หลังจากได้รับโจทย์ จากนั้นแต่ละคนก็เข้ามาคุยกับพี่ๆ ทีม นำโดยพี่เอ๊ะ โดยให้แต่ละคนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการคุยกันครั้งแรก แต่ละคนเตรียมทำพรีเซ็นต์มากันเป็นอย่างดี โดยคนแรกที่ได้คิวนำเสนอคือมายยู ไปเรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้ายก็คือปีโป้ (ที่ได้ตัดสินใจมาร่วมกับอินดี้แคมป์อีกครั้ง)
.
สิ่งหนึ่งที่ทีมงานเห็นในครั้งนี้คือ passion ของทุกคน แววตาของทุกคนล้วนมีความตั้งใจที่อยากจะทำผลงานเพลงออกมา และประสบการณ์ของรุ่นแรก ก็คอยช่วยผลักดันให้คราวนี้ดูมุ่งมั่นกว่าเดิม แถมยังคอยช่วยสนับสนุนประคับประคองรุ่นสองที่พึ่งมาใหม่ให้เดินไปด้วยกัน ถึงแม้โปรเจคอินดี้แคมป์นั้นจะเป็นโปรเจคเพลงเดี่ยว แต่จริงๆ แล้วมันคือโปรเจคกลุ่มใหญ่ ที่ผลัดกันมาเทคเทิร์นของตัวเองในชื่อ "อินดี้แคมป์" ทำให้ความเป็นอินดี้แคมป์ครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่ชื่อโปรเจค แต่มันคือ "ทุกคน" ไปแล้ว อย่างที่ทุกคนเห็นในปกอัลบั้ม ที่ทั้ง 12 คน ต่างร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน กับคำว่า "I N D Y C A M P 2 0 2 3"
.
แอดเอาขอภาพบรรยากาศในโมเมนท์วันนั้นมาให้ชมกันนะคะ ส่วนบางคน ภาพที่มีมันเรียลเกินไปกว่าจะเอาโซเชียลได้ น้องๆ เลยทำภาพจำลองสถานการณ์ในวันนั้น (ที่จะดูเซอร์เรียลหน่อยๆ 😝) มาให้ดูกันแทนค่า แล้วพบกันใหม่ใน EP.02 นะคะ
.
#ปกิณณกะ
MYYU เปิดประโยคคำแรกกับทีมว่า "สวัสดีค่ะ หนูมายยู หนูเป็นผู้หญิง" มายยูเป็นคนที่ทำพรีเซ็นต์ได้ละเอียดมากถึงมากที่สุด ถึงกับระบุโค้ดสีตัวเองเลยทีเดียว และเพลง "ประโยคบอกลา" ก็เริ่มต้นตั้งแต่ ณ วันแรกที่คุยกันเลย
PANDA เป็นคนเขียนประวัติตัวเองละเอียดมาก เช่น ชอบกินข้าวคลุกปลาทู ชอบคิดงานตอนกลางคืน อยากลองทำเพลงที่คำไม่ต้องเยอะมากแต่ฟังแล้วเข้าใจเลย เป็นคนที่ทำสไลด์พรีเซ็นต์สั้นๆ ไม่กี่หน้า แต่สวยงามอลังการทุกหน้า
PEPO หลังจากที่มุ่งหน้าสู่เส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวแล้ว เลยตัดสินใจกลับมาร่วมกับ INDYCAMP ในปีนี้ ที่จริงปีโป้ทำเพลงไว้แล้วหลายเพลง แต่เพลงที่อยากปล่อยให้ทุกคนได้ฟังอีกครั้งคือเพลง Just Not Today ที่ตอนแรกเกือบชื่อว่า Parasite
STANG มากับแทกไลน์น่ารักๆ ที่มีความเป็นตัวเองว่า "สบาย สไตล์ สตางค์" เป็นคนที่ทำเทส MBTI ได้เป็นไทป์ ENFJ (Protagonist) เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นมิตร เข้าใจแต่ละคน และมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
FORTUNE นอกเหนือจากการทำพรีเซ็นต์ที่สวยมาก และถอดตัวตนออกมาได้อย่างเข้าใจได้ดี แต่ที่ฟอร์จูนฉายแววมากๆ คือภาวะผู้นำ เป็นพี่ใหญ่แห่งอินดี้แคมป์เชียงใหม่ที่คอยดูแลน้องๆ ทุกคน และมีบุคลิกจริงจังสลับขี้เล่นได้ทุก 7 วินาที
KAOFRANG ชอบเพลงเศร้า ทรงตัดพ้อ "เป็นคนนั้นที่เธอชอบบ้าง หรือ ถ้าเธอจะกลับไปดีกับเค้าก็แค่บอกเราได้มั้ย" ชอบเพลงที่ขึ้นต้นด้วยท่อนฮุก และมีแรพเล็กน้อย มีกีตาร์โซโล่ และไม่พลาดโชว์เพลงฮิต "ติดดอย" ให้ทุกคนฟัง
MILK เป็นคนชอบเพลงฮิพฮอพ อยากทำเพลงที่ฟังได้ทุกวัย ความหมายไม่ได้ยาก น้องมิลค์มาในสไตล์ “ตัวเล็ก แอบหล่อ เสียงแอบแหบ” ชอบถ่ายรูปฟิล์ม ชอบฟังเพลงไปเรื่อยๆ เวลานั่งรถ มีความอินดี้ที่ทั้งชอบความสดใสและชอบเก็บตัว
NENIE ตั้งใจอยากทำเพลงแนว Chillhop ที่มีความแจ๊ซนิดๆ เป็นคนชอบไปดูคอนเสิร์ตมาก และมักได้อินซไปร์จากการได้ดูคอนเสิร์ต มีความตั้งใจอยากเล่นเปียโนในโชว์ของตัวเอง รู้สึกได้ถึงความเป็นเด็กโก๊ะตั้งแต่ตอนพรีเซ็นต์
MARMINK ให้นิยามตัวเองว่าเป็นคนชอบธรรมชาติ ซึ่งตอนแรกนึกว่าชอบแบบทั่วๆ ไป ชอบไปเที่ยวป่าเขาทะเลงี้ แต่จริงๆ แล้วมันคือจิตวิญญาณที่แทรกซึมไปในชีวิต จนรู้สึกได้ถึงแก่นของดนตรีที่มามิ้งค์ร้องและแสดงออกในทุกเวทีที่เล่น
NINE เป็นคนที่ทำให้ที่ประชุมว้าวที่สุดคนนึง นอกจากพรีเซ็นต์ดีแล้ว ตอนที่เลือกหยิบเพลงมาร้องให้ฟัง นายเลือกร้องเพลงเพื่อชีวิตกับเพลงลูกทุ่ง ทุกคนรู้อยู่แล้วว่านายเสียงดี แต่ในอีกมุมนี้ ถือว่าบียอนมาก เพราะทำได้ดีเกินคาด
SATCHAN เลือกสีที่เป็นตัวแทนตัวเอง 4 สี่ คือ สีชมพูคือสีที่ชอบที่สุด สีขาวเพราะว่าเวลามันอยู่กับสีชมพูมันให้ความซอฟต์ ต่อมาสีดำจะทำให้ดูเข้มขึ้นเพราะบางทีก็ไม่ได้สดใสเสมอไป และสุดท้ายสีฟ้าคือสีที่ไม่ชอบ มันเลยทำให้สมดุลเหมือนชีวิต
WEE ตอนแรกอยากแต่งเพลงใหม่เป็นเพลงเศร้า แต่คิดว่าเดี๋ยวพอร้องออกมา มันก็จะกลายเป็นเพลงคลั่งรักเหมือนเดิมอยู่ดี เลยอยากแต่งเพลงเกี่ยวกับความรักวัยรุ่น ที่ยังไม่รู้จักความรักจริงๆ ว่าคืออะไรกันแน่ แต่แค่เอนจอยกับความรู้สึกที่มีในตอนนี้