คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
รบกวนสอบถามครับ ทำไมเราต้องตรวจน้ำตาลหลังอาหาร 2 ชม คือตรวจ 2 ชมเป๊ะ หรือว่า เลยไปได้น่ะครับ
ตอบ - มันเป็นเกณฑ์การวินิจฉัยเบาหวานฯโดยทั่วไป ซึ่งเขาคงศึกษาเก็บข้อมูลมาแล้ว 2ชม.เป็นเวลาที่เหมาะสุด และมองว่าวินิจฉัยได้ดีกว่า หรือรู้ล่วงหน้าได้ดีกว่าแบบที่อดฯ8ชม.ตอนเช้าที่นิยมกัน
และความแตกต่างระหว่าง 2 ชม กับ 3 4 6 พวกนี้มีนัยยะสำคัญยังไงครับ
ตอบ - หลังจาก2ชม.เช่น 3 4หรือ6 ไปแล้วในบางคนน้ำตาลอาจลดลงเร็วเหมือนคนปกติทั่วไปได้ อย่างที่นิยมตรวจ8ชม.หลังอดฯตอนเช้า บางคนตรวจออกมาปกติดีได้ 90-120 แน่นอนมักจะบอกว่ายังไม่เป็น(แต่คนที่มีภาวะดื้ออินซูลิน อินซูลินจะยังค้างสูงกว่าคนปกติทั่วไปอยู่ เพียงแต่ยังกดน้ำตาลได้อยู่) แต่ถ้าตรวจแบบ2ชม.หลังกิน(หรือจิ้มปลายนิ้ว) หรือมาตรวจความทนต่อน้ำตาลฯหรือ Oral glucose tolerance test 2ชม.จะพบว่าบางคน น้ำตาลเกิน 140ไปแล้ว ซึ่งบ่งบอกว่ามีภาวะบกพร่องความทนต่อน้ำตาลแล้ว หรือถ้าให้ผมมองก็คือ มีภาวะดื้ออินซูลินแล้วนั่นล่ะ ถ้าไปตรวจระดับอินซูลินเพิ่ม จะชี้วัดได้เลย เพราะร่างกายจะต้องใช้อินซูลินสูงมากในบางคนเป็นร้อยๆเป็นพันเลยในการกดน้ำตาล แต่บางทีเขาก็ไม่ยอมตรวจให้ คงเพราะมันแพงกว่าแบบนี้ แต่จริงๆจะทำให้เรารุ้ทันล่วงหน้าเป็นปีๆหรือเป็นสิบปีเลยครับ เพราะการตรวจน้ำตาลหลังอด8ชม.แล้วได้เกิน126จนบอกว่าเป็นเบาหวานชนิดที่2ไปแล้วน่ะ มันช้าไปเป็นสิบปีแล้วครับ
เช่นถ้าหลัง 2 ชมเป๊ะ หลังจากกินพวกข้าวเหนียว แล้ว ค่าได้ 170 แล้วถ้าเลยไป 3 4 6 ค่าจะค่อยๆ ลดลง และจะเหลือ 80 กว่า ในตอนที่ 4 หรือ 6 ชม.
ตอบ - ใช่ ในบางคนอาจเป็นเช่นนั้น ยกเว้นคนที่เป็นเบาหวานฯแล้ว การตรวจที่2ชม. จึงทำให้รู้ล่วงหน้า หรือวินิจฉัยได้ดีกว่านั่นล่ะ...ว่ามันใกล้มาละ หรือบางคนที่เป็นไปแล้ว ก็บอกได้ว่ายังไม่หายดีหรือสงบนั่นล่ะ อย่าลืมว่า เบาหวาน(ชนิดที่2) หายได้นะ
แล้วคนที่ไม่เป็นเบาหวานปรกติ ถ้ากินพวกคาร์บไปแล้ว ตรวจหลังอาหาร 2 ชม ก็จะไม่เกิน 120 หรือ 140 เสมอไปมั้ยครับ หรือว่าขึ้นอยุ่กับว่าทานอะไรลงไป หรือว่าเราดูว่า อัตราการลดลงของน้ำตาลในแต่ละช่วงมากกว่าครับ
ตอบ - คนไม่เป็นฯ ปกติดี สุขภาพดี หรือร่างกายมีความไวต่ออินซูลินดี(พวกนี้คือพวก Flat burner ร่างกายใช้ไขมันสะสมได้ดี) ตรวจยังไงก็ไม่เกินเกณฑ์ บางคนอย่าว่าแต่2ชม.เลย 1 หรือชม.ครึ่ง จิ้มดู ยังไม่เกินเลย พวกนี้เขากินเป็น ร่างกายมีความไวต่ออินซูลินดี ตับอ่อนยังดีมากๆ ปกติคนพวกนี้ เขาไม่ค่อยกินอาหารห่วยๆอยู่แล้ว ถ้าจะมากินคาร์บหนักๆบางที ร่างกายก็เอาอยู่สบายๆ เพราะน้ำตาลสูงปุ้บ อินซุลินจะถูกกระตุ้นมากดน้ำตาลได้อย่างดีทันที จำไว้ว่าร่างกายเราต้องการคงน้ำตาลไว้ในกระแสเลือดทั่วร่างกายเพียงแค่ 1ช้อนชาเท่านั้น ฟังดีๆนะครับ 1ช้อนชาเท่านั้น และอินซูลินเป็นตัวแปรสำคัญ คนปกติดีจะเอาอยู่ทันที แต่คนไม่ปกติ จะเอาไม่อยู่ ต้องใช้อินซุลินสูงมากๆในการกดน้ำตาล จนในที่สุดร่างกายหรือเซลล์ฯดื้อหรือต่อต้านอินซูลิน เอาน้ำตาลไปเก็บไม่ได้หรือไม่ดี จึงทำให้น้ำตาลเริ่มๆๆค่อยๆล้นสุงขึ้นในกระแสเลือด ซึ่งมันเป็นปลายเหตุหรืออาการที่แสดงให้เห็นเท่านั้นนั่นล่ะ แต่จริงๆมันสะสมมานานหลายปีหรือเป็นสิบปีแล้วครับ
ตอบ - มันเป็นเกณฑ์การวินิจฉัยเบาหวานฯโดยทั่วไป ซึ่งเขาคงศึกษาเก็บข้อมูลมาแล้ว 2ชม.เป็นเวลาที่เหมาะสุด และมองว่าวินิจฉัยได้ดีกว่า หรือรู้ล่วงหน้าได้ดีกว่าแบบที่อดฯ8ชม.ตอนเช้าที่นิยมกัน
และความแตกต่างระหว่าง 2 ชม กับ 3 4 6 พวกนี้มีนัยยะสำคัญยังไงครับ
ตอบ - หลังจาก2ชม.เช่น 3 4หรือ6 ไปแล้วในบางคนน้ำตาลอาจลดลงเร็วเหมือนคนปกติทั่วไปได้ อย่างที่นิยมตรวจ8ชม.หลังอดฯตอนเช้า บางคนตรวจออกมาปกติดีได้ 90-120 แน่นอนมักจะบอกว่ายังไม่เป็น(แต่คนที่มีภาวะดื้ออินซูลิน อินซูลินจะยังค้างสูงกว่าคนปกติทั่วไปอยู่ เพียงแต่ยังกดน้ำตาลได้อยู่) แต่ถ้าตรวจแบบ2ชม.หลังกิน(หรือจิ้มปลายนิ้ว) หรือมาตรวจความทนต่อน้ำตาลฯหรือ Oral glucose tolerance test 2ชม.จะพบว่าบางคน น้ำตาลเกิน 140ไปแล้ว ซึ่งบ่งบอกว่ามีภาวะบกพร่องความทนต่อน้ำตาลแล้ว หรือถ้าให้ผมมองก็คือ มีภาวะดื้ออินซูลินแล้วนั่นล่ะ ถ้าไปตรวจระดับอินซูลินเพิ่ม จะชี้วัดได้เลย เพราะร่างกายจะต้องใช้อินซูลินสูงมากในบางคนเป็นร้อยๆเป็นพันเลยในการกดน้ำตาล แต่บางทีเขาก็ไม่ยอมตรวจให้ คงเพราะมันแพงกว่าแบบนี้ แต่จริงๆจะทำให้เรารุ้ทันล่วงหน้าเป็นปีๆหรือเป็นสิบปีเลยครับ เพราะการตรวจน้ำตาลหลังอด8ชม.แล้วได้เกิน126จนบอกว่าเป็นเบาหวานชนิดที่2ไปแล้วน่ะ มันช้าไปเป็นสิบปีแล้วครับ
เช่นถ้าหลัง 2 ชมเป๊ะ หลังจากกินพวกข้าวเหนียว แล้ว ค่าได้ 170 แล้วถ้าเลยไป 3 4 6 ค่าจะค่อยๆ ลดลง และจะเหลือ 80 กว่า ในตอนที่ 4 หรือ 6 ชม.
ตอบ - ใช่ ในบางคนอาจเป็นเช่นนั้น ยกเว้นคนที่เป็นเบาหวานฯแล้ว การตรวจที่2ชม. จึงทำให้รู้ล่วงหน้า หรือวินิจฉัยได้ดีกว่านั่นล่ะ...ว่ามันใกล้มาละ หรือบางคนที่เป็นไปแล้ว ก็บอกได้ว่ายังไม่หายดีหรือสงบนั่นล่ะ อย่าลืมว่า เบาหวาน(ชนิดที่2) หายได้นะ
แล้วคนที่ไม่เป็นเบาหวานปรกติ ถ้ากินพวกคาร์บไปแล้ว ตรวจหลังอาหาร 2 ชม ก็จะไม่เกิน 120 หรือ 140 เสมอไปมั้ยครับ หรือว่าขึ้นอยุ่กับว่าทานอะไรลงไป หรือว่าเราดูว่า อัตราการลดลงของน้ำตาลในแต่ละช่วงมากกว่าครับ
ตอบ - คนไม่เป็นฯ ปกติดี สุขภาพดี หรือร่างกายมีความไวต่ออินซูลินดี(พวกนี้คือพวก Flat burner ร่างกายใช้ไขมันสะสมได้ดี) ตรวจยังไงก็ไม่เกินเกณฑ์ บางคนอย่าว่าแต่2ชม.เลย 1 หรือชม.ครึ่ง จิ้มดู ยังไม่เกินเลย พวกนี้เขากินเป็น ร่างกายมีความไวต่ออินซูลินดี ตับอ่อนยังดีมากๆ ปกติคนพวกนี้ เขาไม่ค่อยกินอาหารห่วยๆอยู่แล้ว ถ้าจะมากินคาร์บหนักๆบางที ร่างกายก็เอาอยู่สบายๆ เพราะน้ำตาลสูงปุ้บ อินซุลินจะถูกกระตุ้นมากดน้ำตาลได้อย่างดีทันที จำไว้ว่าร่างกายเราต้องการคงน้ำตาลไว้ในกระแสเลือดทั่วร่างกายเพียงแค่ 1ช้อนชาเท่านั้น ฟังดีๆนะครับ 1ช้อนชาเท่านั้น และอินซูลินเป็นตัวแปรสำคัญ คนปกติดีจะเอาอยู่ทันที แต่คนไม่ปกติ จะเอาไม่อยู่ ต้องใช้อินซุลินสูงมากๆในการกดน้ำตาล จนในที่สุดร่างกายหรือเซลล์ฯดื้อหรือต่อต้านอินซูลิน เอาน้ำตาลไปเก็บไม่ได้หรือไม่ดี จึงทำให้น้ำตาลเริ่มๆๆค่อยๆล้นสุงขึ้นในกระแสเลือด ซึ่งมันเป็นปลายเหตุหรืออาการที่แสดงให้เห็นเท่านั้นนั่นล่ะ แต่จริงๆมันสะสมมานานหลายปีหรือเป็นสิบปีแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
สอบถามการตรวจน้ำตาลหลังอาหารทำไมต้อง 2 ชม 3 6 ชม ได้มั้ย
และความแตกต่างระหว่าง 2 ชม กับ 3 4 6 พวกนี้มีนัยยะสำคัญยังไงครับ
เช่นถ้าหลัง 2 ชมเป๊ะ หลังจากกินพวกข้าวเหนียว แล้ว ค่าได้ 170 แล้วถ้าเลยไป 3 4 6 ค่าจะค่อยๆ ลดลง และจะเหลือ 80 กว่า ในตอนที่ 4 หรือ 6 ชม.
แล้วคนที่ไม่เป็นเบาหวานปรกติ ถ้ากินพวกคาร์บไปแล้ว ตรวจหลังอาหาร 2 ชม ก็จะไม่เกิน 120 หรือ 140 เสมอไปมั้ยครับ หรือว่าขึ้นอยุ่กับว่าทานอะไรลงไป หรือว่าเราดูว่า อัตราการลดลงของน้ำตาลในแต่ละช่วงมากกว่าครับ