ดูแฟนมีอะไรกับมือที่สามผ่านวงจรปิด2อาทิตย์

เรื่องมันมีอยู่อยู่ว่า 
เปิ้ลมีแฟนเป็นทอมค่ะคบมาได้ 4 ปีแล้ว ตัวเปิ้ลทำงานอยู่กทม. แฟนเป็นคนโคราชค่ะ เปิ้ลจะไปโคราชทุกวันหยุดเสาร์อาทิตยบางครั้งก็ช่วงนักขัตฤกษ์ ส่วนแฟนก็มาอยู่บ้านเปิ้ลในวันธรรมดาบ่อยมาก จนเหมือนเราอยู่ด้วยกันตลอดไม่มีปัญหากันเรื่องระยะทางเลย ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และพอเข้าปีที่ 4 แฟนเปิ้ลเปิดร้านกาแฟที่มีอาหารด้วยหน้าบ้านโดยพ่อแม่ฝั่งเค้าให้เงินมาลงทุนก้อนนึงค่ะซึ่งซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟก็หมดแล้วค่ะ ส่วนเปิ้ลลงทุนเป็นข้าวของที่จำเป็นเช่นระบบรักษาความปลอดภัย เครื่องเสียง และสื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์รวมไปถึง โลโก้และ เครื่องแบบพนักงาน ทุกอย่างที่สร้างตัวตนและเอกลักษณ์ของร้าน ตอนนี้ร้านเราเปิดมาได้ 11 เดือนแล้วค่ะ มีลูกค้าประจำเยอะเลย

เรื่องมือที่สาม
มือที่สามของเราสองคนเป็นลูกค้าประจำร้านเราค่ะ เธอจะมานั่งนาน ๆเกือบทั้งวันกับแท็บเล็ต 1 เครื่อง และสั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว มาบ่อยและนั่งนานจนเราทักทายและแนะนำตัวกันว่าเปิ้ลกับแฟนเป็นเจ้าขอร้านและได้รู้ว่าเค้าเป็นที่ปรึกษาประกันชีวิตอิสระไม่ได้ทำงานประจำค่ะ และบางครั้งเราก็ชวนมาร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยกันกับเราสองคน ยังพูดเม้ามอยกับแฟนว่าสงสัยลูกค้าคนนี้มาเฝ้าแฟนเปิ้ลรึเปล่าซึ่งแฟนเปิ้ลก็ปฏิเสธว่าไม่น่าจะใช่นะ น่าจะมาเฝ้าบรีสต้ามากกว่าเพราะเห็นเซวกันบ่อย

อยู่มาวันนึง
วันนึงเปิ้ลนึกยังไงไม่รู้เปิดกล้องดูในร้าน เจอเค้าสองคนนั่งรถแฟนเปิ้ลเข้ามาที่ร้านตอนทุ่มครึ่ง ซึ่งร้านปิดตั้งแต่ห้าโมงเย็น เปิ้ลก็ใจเย็นไม่ถามอะไรเพราะวันนั้นยังอยู่กทม. รอจนวันศุกร์ไปโคราชเค้าก็สารภาพว่าแค่อยากรู้ว่าคนนี้มาบบไหนซึ่งตอนนี้ก็รู้แล้ว และแฟนเปิ้ลยังซื้อประกันเค้าไปจำนวนวงเงินเกือบล้านค่ะด้วยระยะเวลาเอาประกัน 25 ปี แต่ยืนยันว่ายังไม่มีอะไรกัน (ซึ่งเปิ้ลเช็ครร.มาเค้าเพิ่งไปนอนด้วยกันที่รร.ในโคราชกันมาเมือวานซึนแล้วก็ไปค้างกันต่อที่เขาใหญ่อีก1คืน) แล้วก็ขอโทษและสัญญาว่าจะเลิกติดต่อ ซึ่งเปิ้ลก็ให้โอกาสและให้อภัยเค้าเพราะต้องการรักษาครอบครัวต่อไป และก็กลับกทม. ในวันอาทิตย์ ซึ่งก่อนกลับเปิ้ลวนรถกลับเข้ามาที่ร้านเจอลูกค้าคนนี้มาที่ร้านเย็นวันนั้นแต่ก็ไม่ได้โวยวายแล้วก็กลับกทม.ซึ่งแฟนเปิ้ลลงทุนขับรถตัวเองนำเปิ้ลให้ออกจากโคราชเลยทีเดียว แล้วโทรอธิบายว่าพี่สาบานว่าไม่ได้นัดเค้าเค้ามาของเค้าเอง

หลังจากกลับมาจากโคราช
แฟนเปิ้ลเปลี่ยนรหัสกล้อง แต่เปิ้ลยังสามารถเข้าได้ด้วยแอคเค้าของเปิ้ลเองอยู่ จากนั้นสองสัปดาห์เปิ้ลไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากเฝ้ากล้องวงจรปิด และเราทั้งสองก็ยังคุยโทรศัพท์กันตลอดเวลาที่ว่างซึ่งก็แทบจะปกติกทุกอย่าง พูดคำหวาน ๆ ให้กำลังใจกันตลอด เพราะช่วงนี้พ่อของแฟนป่วยหนักและต้อกการการดูแลใกล้ชิดซึ่งแฟนเปิ้ลต้องสลับกับแม่ดูพ่อ 

สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่แฟนเล่าล้วนเป็นเรื่องโกหก
ระยะเวลาสองสัปดาห์ที่เปิ้ลดูพฤติกรรมเค้าผ่านกล้องวงจรปิดที่ร้าน ค่ำวันแรกของการกลับมาคือเค้ากับลูกค้าคนนี้มีเซ็กกันตรงโซฟาในร้านกาแฟซึ่งติดถนนและแค่เอาม่านบาง ๆ บังฝั่งเดียว กระจกที่เหลือเปิดโล่ง เป็นแบบนั้นเกือบสองชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่เปิ้ลขับรถกลับบ้านและปกติดเราจะคุยกันตลอดทาง แต่วันนี้แฟนเปิ้ลเงียบไป หลังจากเสร็จกิจลูกค้าคนนั้นก็ขับรถออกจากร้านไป แฟนเปิ้ลก็โทรมาแล้วก็เล่าว่าที่บ้านวุ่นวายกับการดูแลพ่อมาก ๆ เลย ทำตัวปกติมาก ๆ ค่ะ ซึ่งเปิ้ลก็ทำตัวปกติกับเค้า แต่น้ำตามันตกในท่วมท้นอกไปหมดเลยค่ะ
ทุกครั้งที่เค้าโทรมารายงานว่าทำอะไรอยู่ ซึ่งดูด้วยตาผ่านกล้องวงจรปิดมันคนละเรื่องกันกับสิ่งที่เค้ากำลังบรรยายทุกครั้งเลยค่ะ 
เปิ้ลได้แต่พูดกับเค้าว่า "พี่รู้ใช่มั๊ยว่าทุกวันนี้เปิ้ลกำลังรักษาครอบครัวของเราอยู่"

จากนั้นก็เป็นแบบนี้มาตลอด 2 สัปดาห์ มามีอะไรกันหลังจากปิดร้านแทบทุกวัน สองสัปดาห์เต็มๆที่เปิ้ลกินไม่ได้นอนไม่หลับ และต้องหลอกตัวเองว่าถ้าเค้ายังโกหกเราอยู่แสดงว่าเค้ายังรักเราไม่อยากให้เราเสียใจ จนถึงจุดที่เปิ้ลบอกตัวเองว่าควรจะต้องหยุดทำร้ายตัวเองได้แล้ว เพราะเค้าเริ่มเปิดเผยกันมากขึ้นกับพนักงานในร้าน และพยายามพาลูกค้าคนนี้มาเจอแม่ซึ่งหลังจากที่เจอวันนั้แม่เค้าก็ไม่ให้พามาเจอแม่เค้าอีก เค้าก็เลยตัดสินใปเช่าคอนโดให้ลูกค้าคนนี้อยู่ (เพื่อนของลูกค้าซึ่งเป็นคนให้เช่าแท็กสัญญารูปและคำบรรยายผ่านเพจของร้านเรามาทำให้เปิ้ลเห็น) และตัวเค้าก็ออกไปค้างที่คอนโดโดยไม่สนใจพ่อที่ป่วยหนักในบ้านเลย  

ครบสัปดาห์ที่ 2 พอดี
เช่นเคยลูกค้าคนนี้มาที่ร้านเหมือนทุกวัน เปิ้ลเลยตัดสินใจโทรไปบอกลูกน้องแคชเชียร์ว่าไม่ต้องเก็บเงินลูกค้าคนนี้แล้วให้เด็กบอกเค้าว่า “พี่เปิ้ลเลี้ยงเอง” ทันใดนั้นเธอก็รีบยกโทรศัพท์คุยกับแฟนเปิ้ล ซึ่งเดินเข้าไปในบ้านไม่ได้อยู่ในร้านพอดี แล้วเธอก็รีบขับรถออกไปทันทีค่ะ ส่วนแฟนเปิ้ลก็รีบเข้าร้านมาและโทรหาเปิ้ลแต่เปิ้ลไม่รับสายทั้งคืน ภาพสุดท้ายที่เห็นคือแฟนเปิ้ลวิ่งขึ้นชั้นสองเพื่อดึงปลั๊กกล้องวงจรปิดออกทั้งหมดค่ะ

จากนั้นเข้ามืดวันรุ่งขึ้นแฟนเปิ้ลก็ไลน์มาบอกว่าไม่ให้เปิ้ลไปโครราช และขอเลิกกับเปิ้ลด้วยเหตุผลว่าเราเข้าไม่ได้ แต่ไม่พูดเรื่องที่เค้านอกใจและโกหกมาตลอดเลย และเปิ้ลก็ไม่ต้องติดต่อและไปโคราชไปอีกถ้าเปิ้ลยังทำใจไม่ได้

เรื่องราวทั้งหมดของเปิ้ลเล่าสรุปๆก็เป็นแบบนี้ค่ะ 
ซึ่งจริงๆแล้วมันมีรายละเอียดและหลักฐานต่าง ๆ มากมาย 
ปีหน้าเราวางแผนกันว่าเปิ้ลจะออกจากงานไปปลูกบ้านย้ายตัวเองไปอยู่ด้วยกันกับเค้าและลงทุนกับร้านให้สามารถเป็นที่กินดื่มตอนช่วงเย็นด้วยซ้ำค่ะ ถือว่าสิ่งที่สูญเสียไปทั้งหมดตอนนี้เป็นแค่ร้านและสิ่งที่เราเลี้ยงดูร้านนี้จนเติบโตมาเท่านั้น ยังไม่ได้เอาอนาคตทั้งหมดไปวางไว้กับเค้าค่ะ ถือว่านี่คือโชคดีของเปิ้ลใช่มั๊ยคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่