เรื่องยาวหน่อยนะคะ
สำหรับใครที่ไม่อยากอ่านยาวๆ ขอสรุปสั้นๆให้ว่า '
อย่า-หา-ทำ'
เพราะตอนเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน สามารถเปลี่ยนได้ทันทีด้วยปากเปล่าทางโทรศัพท์ ไม่ต้องใช้หลักฐานหรือยืนยันตัวตนใดๆ ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีเท่านั้นในการอ้าปากพูดว่า 'ตกลง' (พนักงานทรูโทรมาเสนอเอง บอกว่าถ้าต้องการเปลี่ยนเป็นรายเดือนสามารถจัดการให้เดี๋ยวนี้ได้เลย และถ้าใช้แล้วไม่ชอบสามารถเปลี่ยนกลับเป็นเติมเงินได้ทุกเมื่อ) แต่ตอนที่จะเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเติมเงิน เราต้องเสียเวลาถ่อไปทำรายการที่ True Shop เอง
ทำไมไม่บอกแต่แรกว่าตอนเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิม จะไม่ง่ายเหมือนตอนเปลี่ยนเป็นรายเดือนแบบปากเปล่าทางโทรศัพท์?
ตลกมั้ยคะ ทำไมเราต้องเป็นฝ่ายเสียเวลายุ่งยาก ถ่อสังขารไปทำเรื่องที่ Shop ทั้งๆที่ตอนแรกเราอยู่ของเราดีๆ คุณก็หาเรื่องมาให้เราถึงบ้าน ไม่เห็นต้องให้เราถ่อไปที่ True Shop เลย
== ด้านล่างเป็นเวอร์ชั่นยาว สำหรับใครที่มีเวลาอ่านค่ะ ==
บ้านเรามีซิมทรูเยอะมาก (ค่ายอื่นก็มี) ทุกซิมทุกค่ายเป็นซิมเติมเงินทั้งหมด ใช้มาเป็นสิบปีก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
จนเมื่อหลายวันก่อน มีซิมทรูซิมหนึ่งที่พ่อเราใช้อยู่ ถูก SMS ดูดเงิน ดูดเงินในซิมไปจนหมด ซึ่งพ่อเราไม่รู้ว่าไปสมัครอะไร ตอนไหน ทางไหน ยังไง (ไม่มีทางกดตอบกลับ SMS หรือกดเบอร์เพื่อสมัครเองแน่นอน เพราะเขาเป็นคนขี้ระแวงมาก และเราเตือนเขาเรื่องนี้อยู่ตลอด) ซิมนี้โดนไป 2 รอบ ห่างกันน่าจะไม่ถึงเดือน รอบ 2 ไม่ได้ SMS ด้วย โดนดูดเงินไปอย่างเดียว
ตอนแรกเราคิดจะติดต่อ กสทช เพื่อถามว่าจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง แต่พอดีติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เลยลองติดต่อทรูคอลเซนเตอร์ก่อน
เราเลยโทร 1242 แต่รอสายตั้งนานและพยายามหาเมนูคุยกับมนุษย์แต่ก็ไม่ได้เจอมนุษย์สักที เลยลองมาติดต่อทรู (intelligence) ทางหลังไมค์พันทิปแทน (เมื่อหลายปีก่อนเคยติดต่อทางนี้ เห็นว่าช่วยแก้ปัญหาให้ได้ เลยลองดู)
ทาง intelligence ก็ดำเนินการให้ บอกว่าทำการบล็อค SMS ดูดเงินให้เบอร์นี้แล้วนะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย (จนกว่าจะโดนดูดเงินหมดซิมแบบไม่รู้ตัวอีกรอบ) ต้องรอดูต่อไป แต่ที่แน่นอนคือ เงินที่โดนดูดไปไม่ได้คืน (กรณีนี้นี้เราไม่ได้ติดใจอะไร)
ทีนี้ ที่บ้านจะมีซิมทรูเบอร์หนึ่งที่แม่เราใช้อยู่ แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีพนักงานทรูโทรมาเสนอว่าสนใจจะเปลี่ยนเป็นแบบรายเดือนมั้ย (เบอร์พ่อเราโดนโทรมาเสนอแบบนี้ประจำ แต่เราบอกว่าให้ปฏิเสธไป) จะคุ้มกว่านะ เน็ตแรงกว่า เป้นแบบอันลิมิเต็ดด้วย (ซิมนี้ใช้สำหรับให้แม่เราเปิดเน็ตสแกนจ่ายเงินซื้อของตอนออกนอกบ้านเท่านั้น)
เราเห็นว่าโอเค เพราะบางทีเราก็ลืมสมัครแพ็คเกจเน็ตให้แม่ เน็ตมันก็จะตัดเงินจากซิมจนหมดเหมือนกัน (แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะถือเป็นความผิดพลาดของเราเองที่ลืมเติมเน็ตให้ตรงเวลา) ก็เลยคิดว่า ถ้าเป็นแบบรายเดือนอาจจะดีก็ได้ เพราะจะได้ไม่ต้องกลัวลืมสมัครแพ็คเกจเน็ตใหม่ เวลาที่มันครบเดือนแล้ว
แต่หลังจากใช้มาได้ไม่กี่เดือน มันก็เกิดเรื่อง SMS ดูดเงินโดยไม่รู้ที่มาที่ไปของพ่อเราด้านบน เราเลยจำได้ว่าทำไมเราถึงไม่เคยคิดจะใช้ซิมแบบรายเดือนเลย เพราะเรากลัวจะเจอกรณีแบบนี้นี่เอง แต่เพราะเรื่องดูดเงินหมดซิมมันไม่เคยเกิดขึ้นกับบ้านเรามาเป็นสิบปีแล้ว เราเลยลืมไปเลย เพราะซิมเติมเงินถ้ามันดูดเงินเรา อย่างมากมันก็จะดูดได้เท่าจำนวนเงินที่มีอยู่แล้วในซิม
แต่ถ้าเป็นแบบรายเดือน แล้วโดนดูดไปเงียบๆแบบไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ เราก็จะไม่มีทางรู้ว่ายอดจะพุ่งสูงไปถึงเท่าไหร่ (เคยอ่านเจอกรณีซิมรายเดือนค่ายหนึ่งเมื่อราว 10-20 ปีก่อน ว่าด้วยการใช้เน็ตจากซิมค่ายนั้นที่ต่างประเทศ กลับมาเจอบิลหลักหลายแสนบาท นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งเราที่ไม่คิดจะใช้ซิมรายเดือนอีก)
พอเราเจอกรณี SMS ดูดเงินกับจำเรื่องนี้ได้ เราเลยไม่สบายใจที่จะใช้ซิมรายเดือนต่อไป เลยแจ้งทาง intelligence (หลังไมค์พันทิป) ว่าต้องการเปลี่ยนเบอร์นี้กลับไปเป็นแบบเติมเงินเหมือนเดิม
คุยกันหลายวัน ทาง intelligence ถามว่าทำไมเราถึงคิดจะเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเติมเงิน และแนะนำว่าแพคเกจที่ใช้อยู่มันคุ้มอยู่แล้วนะ ใช้ต่อไปก่อนดีมั้ย
เราก็อธิบายเหตุผลส่วนหนึ่ง (เรื่องเคสที่อีกเบอร์หนึ่งที่เพิ่งโดนดูดเงินในซิมไปจนหมด) ตามด้านบนเรื่องความไม่สบายใจและไม่สะดวกใจ
แต่ทางแอดมินตอบกลับมาว่า '
ให้เอาบัตรประชาขนไปติดต่อทำเรื่องที่ True Shop'
เฮลโหลวววววววววววว????
ตอนที่คุณตอบกลับมานี่คุณได้คิดก่อนตอบมั้ยคะ?
คุณคิดว่าเราเสียเวลาติดต่อคุณ รอคุณตอบเรื่องนี้ตั้ง 2-3 วันไปทำไม? เพื่อจะให้คุณไล่ให้เราไปทำเรื่องที่ True Shop เหรอคะ?
ถ้าเราอยากไปทำเรื่องที่ True Shop เราคงพุ่งตัวไปทำตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว ไม่มานั่งรอคุณพิมพ์ตอบวันละ 1 ข้อความทางแชทโดยไม่ได้เรื่องได้ราวหรือไม่ได้ผลลัพธ์อะไรหรอก
เหตุผลก็เพราะตอนที่พนักงานทรูโทรมาเสนอให้เปลี่ยนระบบเป็นรายเดือน '
คุณสามารถจัดการให้เราได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที ทางโทรศัพท์ โดยไม่ต้องใช้หลักฐานและไม่มีการซักถามข้อมูลใดๆเลย' และที่สำคัญคือ '
เราไม่ต้องเสียเวลาไปทำเรื่องที่ True Shop ด้วยตัวเอง' ด้วย
แต่พอเราไม่โอเค ต้องการเปลี่ยนกลับไปเป็นระบบเดิม '
เรากลับต้องถ่อสังขารและพาแม่ไปทำเรื่องเองที่ True Shop' เหรอคะ
ทำไมไม่ง่ายเหมือนตอนที่คุณโทรมาเสนอให้เปลี่ยนเป็นรายเดือนคะ?
ขอคำตอบที่สมเหตุสมผลและฟังขึ้นหน่อยค่ะ
ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่าถ้าเราต้องพาแม่ไปทำเรื่องที่ True Shop มันจะไม่ใช่การทำเรื่องเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเติมเงิน แต่จะเป็นการย้ายค่าย และถ้าการย้ายค่ายมันยุ่งยากมากนัก ก็จะปิดเบอร์ ยกเลิกการใช้ซิมนี้ไปเลยค่ะ
แชร์ประสบการณ์แย่ๆจากการเปลี่ยน 'ทรู' เติมเงินเป็นรายเดือน
สำหรับใครที่ไม่อยากอ่านยาวๆ ขอสรุปสั้นๆให้ว่า 'อย่า-หา-ทำ'
เพราะตอนเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน สามารถเปลี่ยนได้ทันทีด้วยปากเปล่าทางโทรศัพท์ ไม่ต้องใช้หลักฐานหรือยืนยันตัวตนใดๆ ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีเท่านั้นในการอ้าปากพูดว่า 'ตกลง' (พนักงานทรูโทรมาเสนอเอง บอกว่าถ้าต้องการเปลี่ยนเป็นรายเดือนสามารถจัดการให้เดี๋ยวนี้ได้เลย และถ้าใช้แล้วไม่ชอบสามารถเปลี่ยนกลับเป็นเติมเงินได้ทุกเมื่อ) แต่ตอนที่จะเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเติมเงิน เราต้องเสียเวลาถ่อไปทำรายการที่ True Shop เอง
ทำไมไม่บอกแต่แรกว่าตอนเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิม จะไม่ง่ายเหมือนตอนเปลี่ยนเป็นรายเดือนแบบปากเปล่าทางโทรศัพท์?
ตลกมั้ยคะ ทำไมเราต้องเป็นฝ่ายเสียเวลายุ่งยาก ถ่อสังขารไปทำเรื่องที่ Shop ทั้งๆที่ตอนแรกเราอยู่ของเราดีๆ คุณก็หาเรื่องมาให้เราถึงบ้าน ไม่เห็นต้องให้เราถ่อไปที่ True Shop เลย
== ด้านล่างเป็นเวอร์ชั่นยาว สำหรับใครที่มีเวลาอ่านค่ะ ==
บ้านเรามีซิมทรูเยอะมาก (ค่ายอื่นก็มี) ทุกซิมทุกค่ายเป็นซิมเติมเงินทั้งหมด ใช้มาเป็นสิบปีก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
จนเมื่อหลายวันก่อน มีซิมทรูซิมหนึ่งที่พ่อเราใช้อยู่ ถูก SMS ดูดเงิน ดูดเงินในซิมไปจนหมด ซึ่งพ่อเราไม่รู้ว่าไปสมัครอะไร ตอนไหน ทางไหน ยังไง (ไม่มีทางกดตอบกลับ SMS หรือกดเบอร์เพื่อสมัครเองแน่นอน เพราะเขาเป็นคนขี้ระแวงมาก และเราเตือนเขาเรื่องนี้อยู่ตลอด) ซิมนี้โดนไป 2 รอบ ห่างกันน่าจะไม่ถึงเดือน รอบ 2 ไม่ได้ SMS ด้วย โดนดูดเงินไปอย่างเดียว
ตอนแรกเราคิดจะติดต่อ กสทช เพื่อถามว่าจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง แต่พอดีติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เลยลองติดต่อทรูคอลเซนเตอร์ก่อน
เราเลยโทร 1242 แต่รอสายตั้งนานและพยายามหาเมนูคุยกับมนุษย์แต่ก็ไม่ได้เจอมนุษย์สักที เลยลองมาติดต่อทรู (intelligence) ทางหลังไมค์พันทิปแทน (เมื่อหลายปีก่อนเคยติดต่อทางนี้ เห็นว่าช่วยแก้ปัญหาให้ได้ เลยลองดู)
ทาง intelligence ก็ดำเนินการให้ บอกว่าทำการบล็อค SMS ดูดเงินให้เบอร์นี้แล้วนะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย (จนกว่าจะโดนดูดเงินหมดซิมแบบไม่รู้ตัวอีกรอบ) ต้องรอดูต่อไป แต่ที่แน่นอนคือ เงินที่โดนดูดไปไม่ได้คืน (กรณีนี้นี้เราไม่ได้ติดใจอะไร)
ทีนี้ ที่บ้านจะมีซิมทรูเบอร์หนึ่งที่แม่เราใช้อยู่ แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีพนักงานทรูโทรมาเสนอว่าสนใจจะเปลี่ยนเป็นแบบรายเดือนมั้ย (เบอร์พ่อเราโดนโทรมาเสนอแบบนี้ประจำ แต่เราบอกว่าให้ปฏิเสธไป) จะคุ้มกว่านะ เน็ตแรงกว่า เป้นแบบอันลิมิเต็ดด้วย (ซิมนี้ใช้สำหรับให้แม่เราเปิดเน็ตสแกนจ่ายเงินซื้อของตอนออกนอกบ้านเท่านั้น)
เราเห็นว่าโอเค เพราะบางทีเราก็ลืมสมัครแพ็คเกจเน็ตให้แม่ เน็ตมันก็จะตัดเงินจากซิมจนหมดเหมือนกัน (แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะถือเป็นความผิดพลาดของเราเองที่ลืมเติมเน็ตให้ตรงเวลา) ก็เลยคิดว่า ถ้าเป็นแบบรายเดือนอาจจะดีก็ได้ เพราะจะได้ไม่ต้องกลัวลืมสมัครแพ็คเกจเน็ตใหม่ เวลาที่มันครบเดือนแล้ว
แต่หลังจากใช้มาได้ไม่กี่เดือน มันก็เกิดเรื่อง SMS ดูดเงินโดยไม่รู้ที่มาที่ไปของพ่อเราด้านบน เราเลยจำได้ว่าทำไมเราถึงไม่เคยคิดจะใช้ซิมแบบรายเดือนเลย เพราะเรากลัวจะเจอกรณีแบบนี้นี่เอง แต่เพราะเรื่องดูดเงินหมดซิมมันไม่เคยเกิดขึ้นกับบ้านเรามาเป็นสิบปีแล้ว เราเลยลืมไปเลย เพราะซิมเติมเงินถ้ามันดูดเงินเรา อย่างมากมันก็จะดูดได้เท่าจำนวนเงินที่มีอยู่แล้วในซิม
แต่ถ้าเป็นแบบรายเดือน แล้วโดนดูดไปเงียบๆแบบไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ เราก็จะไม่มีทางรู้ว่ายอดจะพุ่งสูงไปถึงเท่าไหร่ (เคยอ่านเจอกรณีซิมรายเดือนค่ายหนึ่งเมื่อราว 10-20 ปีก่อน ว่าด้วยการใช้เน็ตจากซิมค่ายนั้นที่ต่างประเทศ กลับมาเจอบิลหลักหลายแสนบาท นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งเราที่ไม่คิดจะใช้ซิมรายเดือนอีก)
พอเราเจอกรณี SMS ดูดเงินกับจำเรื่องนี้ได้ เราเลยไม่สบายใจที่จะใช้ซิมรายเดือนต่อไป เลยแจ้งทาง intelligence (หลังไมค์พันทิป) ว่าต้องการเปลี่ยนเบอร์นี้กลับไปเป็นแบบเติมเงินเหมือนเดิม
คุยกันหลายวัน ทาง intelligence ถามว่าทำไมเราถึงคิดจะเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเติมเงิน และแนะนำว่าแพคเกจที่ใช้อยู่มันคุ้มอยู่แล้วนะ ใช้ต่อไปก่อนดีมั้ย
เราก็อธิบายเหตุผลส่วนหนึ่ง (เรื่องเคสที่อีกเบอร์หนึ่งที่เพิ่งโดนดูดเงินในซิมไปจนหมด) ตามด้านบนเรื่องความไม่สบายใจและไม่สะดวกใจ
แต่ทางแอดมินตอบกลับมาว่า 'ให้เอาบัตรประชาขนไปติดต่อทำเรื่องที่ True Shop'
เฮลโหลวววววววววววว????
ตอนที่คุณตอบกลับมานี่คุณได้คิดก่อนตอบมั้ยคะ?
คุณคิดว่าเราเสียเวลาติดต่อคุณ รอคุณตอบเรื่องนี้ตั้ง 2-3 วันไปทำไม? เพื่อจะให้คุณไล่ให้เราไปทำเรื่องที่ True Shop เหรอคะ?
ถ้าเราอยากไปทำเรื่องที่ True Shop เราคงพุ่งตัวไปทำตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว ไม่มานั่งรอคุณพิมพ์ตอบวันละ 1 ข้อความทางแชทโดยไม่ได้เรื่องได้ราวหรือไม่ได้ผลลัพธ์อะไรหรอก
เหตุผลก็เพราะตอนที่พนักงานทรูโทรมาเสนอให้เปลี่ยนระบบเป็นรายเดือน 'คุณสามารถจัดการให้เราได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที ทางโทรศัพท์ โดยไม่ต้องใช้หลักฐานและไม่มีการซักถามข้อมูลใดๆเลย' และที่สำคัญคือ 'เราไม่ต้องเสียเวลาไปทำเรื่องที่ True Shop ด้วยตัวเอง' ด้วย
แต่พอเราไม่โอเค ต้องการเปลี่ยนกลับไปเป็นระบบเดิม 'เรากลับต้องถ่อสังขารและพาแม่ไปทำเรื่องเองที่ True Shop' เหรอคะ
ทำไมไม่ง่ายเหมือนตอนที่คุณโทรมาเสนอให้เปลี่ยนเป็นรายเดือนคะ?
ขอคำตอบที่สมเหตุสมผลและฟังขึ้นหน่อยค่ะ
ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะ ว่าถ้าเราต้องพาแม่ไปทำเรื่องที่ True Shop มันจะไม่ใช่การทำเรื่องเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเติมเงิน แต่จะเป็นการย้ายค่าย และถ้าการย้ายค่ายมันยุ่งยากมากนัก ก็จะปิดเบอร์ ยกเลิกการใช้ซิมนี้ไปเลยค่ะ