ครูเป็นครูมา 29 ปี อายุ 52 ปี เป็นครูผู้หญิงที่อายุมากสุดในโรงเรียน นอกนั้นจะเป็นครูรุ่นใหม่ ครูป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายรวมเวลา 15 ปี ครูตรวจเจอก้อนมะเร็งเมื่อ 15 ปึก่อน ระยะ3ที่ลุกลามไปแล้ว ครูรักษากับหมอจีนโดยพอกยาจีน 2ปี และเปลี่ยนมารักษาทางเลือกกับหมอแมะชื่อดังแต่ก้อนที่อกครูกลับมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ก้อนแตกออกมีเลือดพุ่งออกมาเองจากก้อนและมีอาการปวดทรมานทุกคืน ตั้งแต่สองทุ่มถึงราวตีสอง ตีสาม ปวดมากจนนอนดิ้นทุรนทุราย ร่างกายซีดผอม เหมือนซากศพ น้ำหนักเพียง 35 กิโลกรัม ครูจึงตัดสินใจรักษาตัวเองด้วยวิธีทางธรรมชาติในปีที่ 7-8 ซึ่งตอนนั้นครูเปลี่ยนจากการสอนประถมต้นมาตลอดที่มาบรรจุที่นี่ เพราะครูจะถนัดในการแก้ปัญหาการอ่านเขียนให้เด็กๆมาสอนชั้นอนุบาล3 เพราะผู้บริหารคนก่อนท่านต้องการให้ครูมาเน้นการอ่านออกเขียนได้ให้เด็กๆก่อนขึ้นชั้น ป.1 . จนราวปี 63 มีผู้บริหารหญิงย้ายมาใหม่ ครูต้องแจ้งอาการป่วยที่ครูเป็นเพราะตอนนั้นครูเป็นมาก แต่ครูก็มีความรู้สึกว่าท่านไม่พอใจเราแต่ครูไม่ทราบจริงๆว่าด้วยเรื่องอะไร จนมาวันหนี่ง เพื่อนรุ่นพี่ครูจะไปประเมินงานครูโรงเรียนอื่น วานสามีครูขับรถพาไปเพราะท่านขับรถไม่แข็ง ขณะรอมีครูผู้ชายเดินมาถามแฟนครูว่า ที่โรงเรียนใช่ ผอ.ชื่อ....มั้ย เมื่อสามีตอบว่า ใช่ ครูท่านนั้นบอกว่า ได้ข่าวว่าไม่ถูกกับครูผู้หญิงแก่ๆที่โรงเรียนเหรอ สามีครูรู้ทันทีว่าครูนี่ล่ะ เลยตอบไปแค่ไม่ทราบครับ นี่คือจุดแรกที่เรารู้ว่ากำลังถูกเพ่งเล่ง
ครูไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่รับรู้มาว่าผู้บริหารจะชอบหรือไม่ เพราะ ครูต้องหาวิธีรักษาตัวเอง ครูต้องดูแลน้องหมาแมวในอุปการะ 15 ชีวิต ครูต้องสอนเด็กๆของครูให้ดีที่สุดแล้วครูต้องการให้เด็กครูอ่านออกเขียนได้ อยากให้เด็กๆเป็นเด็กดีมีมารยาท ตั้งใจในการเรียนรู้ ครูได้งบสำหรับสั่งวัสดุภาคเรียนละ1,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับการทำสื่อหรือใบงานใดๆให้เด็กๆ ครูก็จะใช้เงินส่วนตัวในการจัดซื้อเพิ่มเติมเอง ซื้อโน้ตบุ้คและปริ้นเตอร์มาใช้ในห้องเอง ทุกอย่างมันคือความเต็มใจ
เพื่อนครูโรงเรียนอื่นเห็นงานครูนึกว่างานครู คศ 3 แต่ครูเป็นแค่ครู คศ2 เดิมทีไม่คิดทำผลงานแต่คิดแค่อยากทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดและมีความสุขเพื่อสุขภาพของเรา จนมีเพื่อนครูมาบอกให้ครูทำเถอะเห็นงานครูแล้วครูควรทำ พูดตื้อหลายครั้งจนครูตกลงใจลองทำก็ได้ ในปี66ถ้าครูจะส่งผลงานครูต้องเอางานปี63ส่งด้วย ซึ่งงานปีนั้นช่วงโควิดเพิ่งมา งานที่ครูวางส่งตั้งแต่มีนาคม ผ่านเมษา มาพฤษภาคม มามิถุนายน ผอ.ไม่ยอมเซ็นต์ครูจึงยกกลับเพราะคิดว่าไม่ได้ทำผลงานใดๆ แต่เมื่อจะส่งผลงานครูจึงต้องยกงานไปขอให้ท่านเซ็นต์ให้ ท่านแปะกระดาษมา1ขิ้น บอกไม่เซ็นต์งานย้อนหลังค่ะ ครูไม่ตำหนิใดๆค่ะ ยกงานกลับ บอกน้องที่ขอให้ครูส่งผลงานว่า ครูส่งไม่ได้นะคะ งานไม่พร้อม จนมา29กันยายน2566 มีการประเมินงานเพื่อคงวิทยฐานะ ครูพลาดลืมเซ็นต์เอกสารที่ต้องให้กรรมการตอนพูดนำเสนอผลงาน ซึ่งเอกสารตัวนั้นคือเอกสารที่ให้ ผอ .คนเดียว แต่ ผอ.ไม่ได้บอกอะไรครู จนทุกคนพูดนำเสนอผลงานหมด ก็พากรรมการที่มาจากโรงเรียนอื่นไปทานอาหาร ซึ่งครูทานอาหารนอกบ้านไม่ค่อยได้ต้องระวังแต่ครูก็ไปตามมารยาท ท่าน ผอ.ก็ไม่แจ้งอะไรมา จนทานกันเสร็จตอน ครูมาถึงบ้านพัก 1ทุ่ม 10นาที น้องลงระบบแจ้งมาว่า ครูเซ็นต์เอกสารไม่ครบลงระบบไม่ได้ ครูก็ไม่สบายใจรีบเดินไปเซ็นต์คืนนั้นเลย แล้วโทรถามน้องที่เป็นกรรมการและครูโรงเรียนอื่นว่าครูลืมแบบนี้เป็นอะไรมั้ย ทุกคนบอกใบที่ต้องสแกนและลงระบบคือใบที่กรรมการสามคนลงคะแนนไว้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับใบที่ครูต้องเซ็นต์ ใบนั้นเก็บไว้ที่ ร.ร. เซ็นต์ทีหลังได้ ครูเห็นใบที่ต้องสแกนและลงระบบวางที่โต๊ะ ผอ. แต่ท่านก็ไม่เซ็นต์ให้ ครูจึงแจ้งท่านในไลน์โรงเรียนท่านก็ไม่ตอบอะไรครู ครูไม่คิดอยากมีปัญหากับผู้บริหารหรือทำลายชื่อเสียงท่าน แต่ครูเหนื่อยมากกับเรื่องหยุมหยิม มีเรื่องมากมายจนครูอยากลืมมากกว่าจดจำ เพื่อนนอกโรงเรียน ผอ.เก่าๆหลายคนก็ให้กำลังใจเดี๋ยวเค้าก็ไป
ถ้าหลายคนจะถามว่าทำไมครูไม่เดินไปถามท่านเลยตรงๆ ครูบอกเลยว่าครูแทบไม่เจอท่านเลยในแต่ละอาทิตย์ เห็นแต่ในสมุดเซ็นชื่อว่าไปราชการ อึก8ปีที่ครูได้ออกไปใช้ชีวิตแบบพอเพียงของครู ครูคิดไม่ออกจริงๆจะปลงกับการกระทำแบบนี้อย่างไร เรื่องที่ครูโดนมันมากมายมากแต่ครูพยายามปล่อยผ่านทำหน้าที่ตนให้ดีที่สุด มา รร.แต่เช้ารอรับเด็กๆ ครูคนสนิท ผอ.มาฝากเด็กครูจนเด็กครูถามมาฝากอีกแล้วเหรอครับ ครูก็ไม่เคยบ่น แม้ป่วยมากก็อดทนมาสอนทุกวัน ครูเคยปวดขนาดไปนั่งร้องไห้ใต้โต๊ะบอกเด็กห้ามเข้ามาครูทำงาน ใครป่วยแบบครูจะทราบว่ามันทรมานที่สุด แต่บุญกุศลช่วยให้ปีนี้ครูอาการป่วยดีขึ้น ครูได้แต่ขอความเมตตาจากฟ้าส่งผู้บริหารจิตใจดีมีเมตตามาให้ครูพึ่งพึงก่อนครูเกษียณอายุราชการ
ผู้บริหารท่านใดหากเจอข้อความนี้หากมีเมตตากับครู กับน้องหมาแมว 15 ชีวิตทักมาชักชวนครูได้นะคะบ้านสามีครูอยู่บุรีรัมย์ครูตั้งใจจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับเค้าที่นั้นเพราะเค้าเสียสละดูแลครูที่ป่วยมา15ปี เราสองคนไม่มีบุตรเพราะครูป่วยจึงอุปการะน้องๆหมาแมวถูกทอดทิ้งแทน เงินที่ทำงานครูก็เอามารักษาตัวและเลี้ยงน้องๆอย่างดี ไม่คิดขอบริจาคใคร จะรอข้อแนะนำดีๆจากทุกคนนะคะ
ขอข้อเสนอแนะจากผู้มีประสบการณ์
ครูไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่รับรู้มาว่าผู้บริหารจะชอบหรือไม่ เพราะ ครูต้องหาวิธีรักษาตัวเอง ครูต้องดูแลน้องหมาแมวในอุปการะ 15 ชีวิต ครูต้องสอนเด็กๆของครูให้ดีที่สุดแล้วครูต้องการให้เด็กครูอ่านออกเขียนได้ อยากให้เด็กๆเป็นเด็กดีมีมารยาท ตั้งใจในการเรียนรู้ ครูได้งบสำหรับสั่งวัสดุภาคเรียนละ1,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับการทำสื่อหรือใบงานใดๆให้เด็กๆ ครูก็จะใช้เงินส่วนตัวในการจัดซื้อเพิ่มเติมเอง ซื้อโน้ตบุ้คและปริ้นเตอร์มาใช้ในห้องเอง ทุกอย่างมันคือความเต็มใจ
เพื่อนครูโรงเรียนอื่นเห็นงานครูนึกว่างานครู คศ 3 แต่ครูเป็นแค่ครู คศ2 เดิมทีไม่คิดทำผลงานแต่คิดแค่อยากทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดและมีความสุขเพื่อสุขภาพของเรา จนมีเพื่อนครูมาบอกให้ครูทำเถอะเห็นงานครูแล้วครูควรทำ พูดตื้อหลายครั้งจนครูตกลงใจลองทำก็ได้ ในปี66ถ้าครูจะส่งผลงานครูต้องเอางานปี63ส่งด้วย ซึ่งงานปีนั้นช่วงโควิดเพิ่งมา งานที่ครูวางส่งตั้งแต่มีนาคม ผ่านเมษา มาพฤษภาคม มามิถุนายน ผอ.ไม่ยอมเซ็นต์ครูจึงยกกลับเพราะคิดว่าไม่ได้ทำผลงานใดๆ แต่เมื่อจะส่งผลงานครูจึงต้องยกงานไปขอให้ท่านเซ็นต์ให้ ท่านแปะกระดาษมา1ขิ้น บอกไม่เซ็นต์งานย้อนหลังค่ะ ครูไม่ตำหนิใดๆค่ะ ยกงานกลับ บอกน้องที่ขอให้ครูส่งผลงานว่า ครูส่งไม่ได้นะคะ งานไม่พร้อม จนมา29กันยายน2566 มีการประเมินงานเพื่อคงวิทยฐานะ ครูพลาดลืมเซ็นต์เอกสารที่ต้องให้กรรมการตอนพูดนำเสนอผลงาน ซึ่งเอกสารตัวนั้นคือเอกสารที่ให้ ผอ .คนเดียว แต่ ผอ.ไม่ได้บอกอะไรครู จนทุกคนพูดนำเสนอผลงานหมด ก็พากรรมการที่มาจากโรงเรียนอื่นไปทานอาหาร ซึ่งครูทานอาหารนอกบ้านไม่ค่อยได้ต้องระวังแต่ครูก็ไปตามมารยาท ท่าน ผอ.ก็ไม่แจ้งอะไรมา จนทานกันเสร็จตอน ครูมาถึงบ้านพัก 1ทุ่ม 10นาที น้องลงระบบแจ้งมาว่า ครูเซ็นต์เอกสารไม่ครบลงระบบไม่ได้ ครูก็ไม่สบายใจรีบเดินไปเซ็นต์คืนนั้นเลย แล้วโทรถามน้องที่เป็นกรรมการและครูโรงเรียนอื่นว่าครูลืมแบบนี้เป็นอะไรมั้ย ทุกคนบอกใบที่ต้องสแกนและลงระบบคือใบที่กรรมการสามคนลงคะแนนไว้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับใบที่ครูต้องเซ็นต์ ใบนั้นเก็บไว้ที่ ร.ร. เซ็นต์ทีหลังได้ ครูเห็นใบที่ต้องสแกนและลงระบบวางที่โต๊ะ ผอ. แต่ท่านก็ไม่เซ็นต์ให้ ครูจึงแจ้งท่านในไลน์โรงเรียนท่านก็ไม่ตอบอะไรครู ครูไม่คิดอยากมีปัญหากับผู้บริหารหรือทำลายชื่อเสียงท่าน แต่ครูเหนื่อยมากกับเรื่องหยุมหยิม มีเรื่องมากมายจนครูอยากลืมมากกว่าจดจำ เพื่อนนอกโรงเรียน ผอ.เก่าๆหลายคนก็ให้กำลังใจเดี๋ยวเค้าก็ไป
ถ้าหลายคนจะถามว่าทำไมครูไม่เดินไปถามท่านเลยตรงๆ ครูบอกเลยว่าครูแทบไม่เจอท่านเลยในแต่ละอาทิตย์ เห็นแต่ในสมุดเซ็นชื่อว่าไปราชการ อึก8ปีที่ครูได้ออกไปใช้ชีวิตแบบพอเพียงของครู ครูคิดไม่ออกจริงๆจะปลงกับการกระทำแบบนี้อย่างไร เรื่องที่ครูโดนมันมากมายมากแต่ครูพยายามปล่อยผ่านทำหน้าที่ตนให้ดีที่สุด มา รร.แต่เช้ารอรับเด็กๆ ครูคนสนิท ผอ.มาฝากเด็กครูจนเด็กครูถามมาฝากอีกแล้วเหรอครับ ครูก็ไม่เคยบ่น แม้ป่วยมากก็อดทนมาสอนทุกวัน ครูเคยปวดขนาดไปนั่งร้องไห้ใต้โต๊ะบอกเด็กห้ามเข้ามาครูทำงาน ใครป่วยแบบครูจะทราบว่ามันทรมานที่สุด แต่บุญกุศลช่วยให้ปีนี้ครูอาการป่วยดีขึ้น ครูได้แต่ขอความเมตตาจากฟ้าส่งผู้บริหารจิตใจดีมีเมตตามาให้ครูพึ่งพึงก่อนครูเกษียณอายุราชการ
ผู้บริหารท่านใดหากเจอข้อความนี้หากมีเมตตากับครู กับน้องหมาแมว 15 ชีวิตทักมาชักชวนครูได้นะคะบ้านสามีครูอยู่บุรีรัมย์ครูตั้งใจจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับเค้าที่นั้นเพราะเค้าเสียสละดูแลครูที่ป่วยมา15ปี เราสองคนไม่มีบุตรเพราะครูป่วยจึงอุปการะน้องๆหมาแมวถูกทอดทิ้งแทน เงินที่ทำงานครูก็เอามารักษาตัวและเลี้ยงน้องๆอย่างดี ไม่คิดขอบริจาคใคร จะรอข้อแนะนำดีๆจากทุกคนนะคะ