บาหลีทริปนี้เกิดขึ้นช่วงวันที่ 30 สิงหา – 2 กันยา 66 
แพลนล่วงหน้าค่อยข้างนานหลายเดือน เลือกช่วงที่เป็นหน้าร้อนบาหลี ฝนตกค่อนข้างน้อย (และก็โชคดีมาที่ทริปนี้แทบจะไม่เจอฝนเลย เจอตอนเช้ามือวันที่ 2 แค่แป๊บเดียว หลังจากนั้น แดดล้วน ๆ 555)
 
ขอรีวิวกันแบบวันต่อวันละกัน แต่กระทู้แรก ขอเกริ่นนิดนึง…
สมาชิก  3 คน ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม จองล่วงหน้า 2-3 เดือน 

การเดินทางที่บาหลี... จากที่หาข้อมูลสำหรับคนที่เที่ยวเอง ไม่ไปกับทัวร์ ที่เหมาะที่สุด ดีที่สุดคือ เช่ารถ พร้อมคนขับ มันดีจริง ๆ นะ        ไม่เหนื่อย ไม่เครียด ที่ต้องขับรถในขณะที่เพื่อนร่วมทริป นั่งเล่นโซเชียล 555 (ความอิจฉาของคนขับแหละ) และที่สำคัญคือ คนขับรถที่บาหลีของบริษัทรถเช่า หลาย ๆ ที่ ชื่อเสียงดีมาก บริการดี สุภาพ ทำได้ทุกอย่าง ทั้งขับรถ ซื้อตั๋วเข้าสถานที่ต่าง ๆ จองคิวต่อแถวถ่ายรูปให้ และ ถ่ายรูป ถ่ายคลิปสวยมากกกกก รู้จุดที่เป็น the best point สำหรับถ่ายรูปด้วย พูดภาษาอังกฤษก็ดี สื่อสารกันได้ ใช้บริการเขาเถอะ เราจะสบายจริง ๆ อีกอย่างคือ...ถนนที่บาหลีค่อนข้างแคบ รถเยอะ ขับค่อนข้างยาก ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่นนะทุกคน

หลังจากหาข้อมูล สุดท้ายก็เลือกใช้บริการ เท็ดดี้ บาหลี (Teddy Bali) ที่คุ้นชินกับคนไทยอย่างดี รถกระจกรถด้านหลังติดชื่อทีมเป็นภาษาไทยไว้เลย พูดไทยได้นิดหน่อย เช่น หันมา มองกล้อง ระวัง 5555 ราคาก็พอๆ กับเจ้าอื่น เหมาเป็นวันตามระยะทาง มีราคาเริ่มต้นต่อวัน แต่ถ้าไปไกลมาก หรือ ตารางเที่ยวแน่น ๆ ก็บวกราคาเพิ่มนิดหน่อย เป็นราคาที่รวมค่าน้ำมันแล้วนะ ต่างจากรถตู้เช่าบ้านเราที่ต้องเติมน้ำมันเอง ไม่รวมในค่าเช่า
 
โรงแรม ที่พัก... เลือกเอาตามใจชอบ ถูกแพง แล้วแต่เลือก แต่โรงแรมที่ฮิต ๆ ก็จะเต็มเร็วหน่อย สำหรับเราไม่เน้นที่พักสวย เพราะอยู่ที่พักน้อยมาก เข้าที่พักค่ำ ออกแต่เช้า แค่เอาไว้นอนก็พอ เลือกใกล้ๆ ที่เที่ยว เดินทางสะดวก หากินง่าย แค่นั้นพอ

แลกเงิน... ก็ที่ superrich แลกเงินรูเปียร์ ไปเลย 100,000 รูเปียร์ ประมาณ 240 บาท พกเงินเป็นล้านไปเลยนะทริปนี้ ดูรวยมากกกกก เราใช้วิธีแลกเป็นกองกลาง เพราะส่วนใหญ่ก็จะจ่ายเฉพาะค่ากินกับค่าเข้าสถานที่ต่าง ๆ เท่านั้น ใครจะช็อปปิ้ง ก็จ่ายบัตรเครดิต หรือเงินส่วนตัว ที่แลกกันมาคนละ 1,000 แค่นั้น เป็นทริปที่ไม่เน้นช้อป 555


บาหลีไม่ต้องใช้วีซ่า ไม่ต้องแสดงประวัติวัคซีน (vaccine certificate) อะไรแล้ว ผ่านตม. ตามปกติ แค่กรอกเอกสารศุลกากรมาก่อนล่วงหน้า เพื่อความสะดวกแค่นั้น กรอกได้จาก link นี้ https://ecd.beacukai.go.id/ ล่วงหน้าได้ 72 ชั่วโมง กรอกเสร็จจะได้ QR code แสดงให้เจ้าหน้าที่สแกน ก่อนเข้าบาหลี แค่นั้น ง่ายมาก 

อื่น ๆ ที่ต้องเตรียมก็ไม่มีอะไรแล้ว เตรียมร่างกายให้พร้อมอย่าให้ป่วย เดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก 


มาเริ่มกันที่วันแรกเลย go go go 
ไฟล์ทที่เราจองเป็นไฟล์ทเช้า กลับค่ำ มีเวลาเที่ยวเยอะขึ้น ไปถึงจะได้เที่ยวเลย ไม่ต้องขับรถเอง ไม่ต้องขึ้นรถโดยสารหรือรถสาธารณะ มีคนขับรถส่วนตัว สบาย ง่วงก็นอนในรถได้เลย 
ไฟล์ทออกประมาณ 6:15 เรามาตั้งแต่ตี 4 คนน้อย เช็คอินออนไลน์มาแล้ว ปริ้น boarding pass ที่ตู้อัตโนมัติได้เลย เพราะไม่มีกระเป๋าโหลด เดินเข้าตม. แป๊บเดี๋ยวเสร็จ ตรวจกระเป๋า แล้วก็ไปหาอะไรรองท้อง หากาแฟกิน ระหว่างรอขึ้นเครื่อง นั่งเครื่องประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาทีก็ถึงบาหลี ประมาณ 11:30 น. ตรงเวลามาก 

เอารูปก่อนจะ landing มาให้ดู ที่บาหลีมีภูเขาไฟเยอะ เห็นแล้วตื่นเต้นเลย ใกล้ถึงแล้ว

มาถึงแล้วววว.....สนามบินบาหลี Ngurah Rai airport (DPS) ดีเลย ใหญ่โต สะดวกสบาย ขั้นตอนผ่านตม. ก็ไม่ยุ่งยาก ถามนิดหน่อย มากี่วัน มากับใคร กี่คน เคยมามั้ย มาทำอะไร เสร็จแล้วก็ไปสแกน QR ที่กรอกออนไลน์มา แล้วก็เดินสวย ๆ ผ่านมาเลย 

จากนั้นมองหาคนขับรถ ป้ายต้อนรับเยอะมาก ตาลาย หาเจอก็เก่ง ใช้วิธีโทร line เอาง่ายกว่า คนขับรถรออยู่แล้ว เจอกันทักทายแล้วก็ช่วยพวกเราลากกระเป๋าขึ้นรถ เป็นรถ Toyata Avanza สภาพดี สะอาด ไม่ใหม่ แต่ก็ไม่เก่า ขึ้นไปนั่งเรียบร้อย เอกะ พลขับของเราก็ยื่นของที่ระทึก เอ้ย ระลึกมาให้ เป็นผ้าโสร่งบาหลี สีสันสดใส ให้พวกเราคนละผืน สร้าง first impression กันไปเลยหนึ่งกรุบ 5555
ขอโชว์ด้านหลังคนขับรถเราซักหน่อย 555 (หนุ่มเสื้อเหลือง)


จากนั้นก็มุ่งหน้าไปร้านอาหาร ตอนแรกเรามีเลือกร้านไว้ แต่คนขับแนะนำอีกร้านหนึ่ง บอกว่าคนไทยมาทานเยอะ ไงก็ได้ ได้หมด หิวมากกกกกก
ระหว่างทางก็นั่งมองมองบ้านเมืองเขาไปเรื่อย ๆ อารมณ์ก็ไม่ต่างจากต่างจังหวัดบ้านเรา หรือแนว ๆ ปีนังประมาณนั้น 
ถึงร้านก็จัดกันไปค่ะ คนละจาน มีเสิร์ฟออเดิร์ฟเป็นข้าวเกรียบ น้ำจิ้มอร่อย

เมนูที่สั่งมี Crispy Duck / Pork Ribs และ Nasi Goreng แค่สามอย่าง ชอบซอสที่ราดมาของแต่ละจาน ส่วนข้าวผัด อารมณ์เดียวกับข้าวผัดรถไฟบ้านเราเลย อร่อยยยยแหละ
ชื่อร้าน “ Iiga Warung Sunset Road Kuta “ รสชาติถูกปากคนไทยแน่นอน มื้อนี้ หมดไปห้าแสนห้า ดูรวยอ่ะ 5555

หน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้ 

      

ท้องอิ่มแล้ว เริ่มตามแพลนต่อเลย 

มุ่งหน้าไป “Tanah Lot” วัดสไตล์บาหลีที่ตั้งอยู่บนโขดหินริมทะเล ออกจากเมืองไปไม่กี่กิโล แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาบอกว่าต้องเผื่อเวลา เพราะที่บาหลี ถนนแคบ รถเยอะ ขับเร็วไม่ค่อยได้ ไปไหนแต่ละที่เลยต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ไปถึง “Tanah Lot” ประมาณ บ่ายสองกว่า แดดดีมาก ร้อนเลยทีเดียว จอดรถเสร็จ เอกะ คนขับของเราก็ไปจัดการซื้อตั๋วให้ แล้วก็พาเราเดินไป ตรงไหนถ่ายรูปสวยก็จะบอก ยูต้องถ่ายตรงนี้นะ ตรงนี้สวย แถมช่วยถ่ายรูปให้ได้ด้วย 
 
ที่นี่ค่อนข้างกว้าง เดินไปจุดชมวิวก่อน จะเห็น “Tanah Lot” อยู่ด้านหลัง ถ่ายรูปตรงนี้เสร็จก็เดินไปที่วัด 

มุมนี้มองจากจุดชมวิวลงไปที่วัด

ช่วงน้ำลดสามารถเดินลงไปได้เลย ด้านซ้ายจะมีถ้ำที่มีงู ด้านขวาจะมีพราหมณ์ฮินดูทำพิธีกรรมอะไรให้ซักอย่าง (ต้องเสียตัง) คนต่อคิวยาวเลย เราไม่ได้เข้าไปดู ถ่ายรูปอยู่รอบ ๆ ซักพัก ก็เป็นอันเสร็จ 



ริม ๆ ทะเลจะมีสาหร่ายเยอะมาก

เดินกลับมา อีกด้าน มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย 

แดดออกบ้าง ร่มบ้าง สลับกันไป ทำให้ไม่ร้อนมาก เดินถ่ายรูปกันจนหนำใจก็ได้เวลาย้ายไปจุดต่อไป 
ก่อนขึ้นรถ ซื้อไอติมกินแก้ร้อน 
ทุกรสที่กินมีกลิ่นทุเรียนหมดเลย เพราะว่าอยู่ในตู้เดียวกับรสทุเรียนรึเปล่าไม่รู้ น่าเป็นเป็นไอติมรสชาติเดียวแต่ใส่สีมากกว่า เพราะรสชาติใกล้กันมากต่างกันทีสี แต่ก็อร่อยดี เราพยายามกินให้หมดก่อนขึ้นรถ แต่คนขับรถน่ารักบอกว่า ยูเอาไปกินบนรถได้นะ ไอโอเค เราก็เกรงใจ กลัวทำรถเขาเลอะ

วันนี้ไม่มีแพลนไปไหนแล้ว ไปที่พักเลย แล้วค่อยไปเดินเล่นแถวๆ ที่พักในเมืองอูบูด มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ตลาด 
ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ก็ถึงที่พัก ระหว่างทางช่วงที่เข้าอูบุดแล้ว นักท่องเที่ยวเดินริมถนนเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง ชาติตะวันตก ถึงที่พัก ก็นัดแนะกับเอกะว่าพรุ่งนี้จะมารับตรงไหน กี่โมง แล้วก็แยกย้าย 
ที่พักคืนแรกกลางเมืองอูบุด เราได้บ้านทั้งหลังเลย เตียงใหญ่ 2 เตียง มีห้องนั่งเล่นด้านหน้า ห้องน้ำแยก 2 ส่วน มีอ่างน้ำกับฝักบัวแยกคนละที่ น้ำอุ่นพร้อม 

เก็บของ ทำธุระสวนตัวเรียบร้อย ก็เดินไปหาข้าวเย็นกิน ระหว่างทางผ่านร้านชานม Chatime แวะซะหน่อย เขาว่าอร่อย 

แล้วก็เดินหาร้านข้าวเย็น ระหว่าางทางบรรยากาศก็จะประมาณนี้ รถค่อนข้างเยอะ นักท่องเที่ยวก็เยอะ มีของขายข้างทางเหมือนบ้านเราเลย


ระหว่างทางที่เดินเล่นในอูบุด 


แล้วก็เจอร้านท้องถิ่น กินง่าย ๆ รถชาติก็คล้าย ๆ บ้านเรา แต่เครื่องเทศจะแรงกว่า 


กินเสร็จ ไปเดินหาซุปเปอร์ เผื่อมีอะไรน่าซื้อ หาขนมกับมาม่ามาตุนไว้นิดหน่อย แล้วก็ได้เวลากลับที่พัก นอนเอาแรงเพราะวันนี้ตื่นเช้ามาก 
แถมพรุ่งนี้ต้องตื่นตีห้า นัดคนขับรถหกโมงเช้า วันที่สอง เรามีแพลนข้ามไปเกาะ Nusa Panida
ไว้มาต่อ ep 2 นะ บายยยยยยยยยยยยยยยยย