อยากแชร์ประสบการณ์มะเร็งไทรอยด์ครับ

วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งไทรอยด์ของมนุษย์ทำงานวัย 36 ปีครับ

6 กันยายน 2566

ประมาณตี 4 กว่าๆ สลึมสลือจากการนอนหลับเอามือคลำที่ใต้คางและเจอก้อนเล็กๆ 1 ก้อนที่ผ่านมาเป็นเดือนแล้วยังไม่ยุบ ตอนแรกที่คลำเจอไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะคิดว่าสักพักคงจะหายไปเอง แต่พอผ่านมาเป็นเดือนยังคลำเจออีกเลยเอะใจครับ ด้วยความที่เป็นคนคิดเยอะคิดมากกับเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว เลยยิ่งกังวลนอนไม่หลับ กระวนกระวายอยากหาหมอ

ประมาณหกโมงเช้ากว่าๆ ตัดสินใจไลน์ขอหัวหน้างานเข้างานสาย เล่าตามความจริง หัวหน้าใจดีอนุญาตและบอกว่าถ้าไม่ทันจริงๆ ลาทั้งวันก็ได้ไม่ต้องห่วงงาน

แปดโมงเช้ากว่าๆ แผนกคอ หู จมูก โรงพยาบาลพระราม 9 หมอสอบถามอาการ ประวัติ ซึ่งก้อนตรงนี้ของผมไม่เจ็บ ก้อนไม่ใหญ่มาก ผ่านมา 1 เดือนไม่โตขึ้น แต่หมออยากให้อัลตราซาวน์เพราะผ่านมาเป็นเดือนควรจะยุบหายไป เลยตกลงตามที่หมอต้องการ

หลังจากนั้นพยาบาลก็พาไปห้องอัลตราซาวน์ให้หมออีกคนมาทำและกลับมารอฟังผลแผนก คอ หู จมูก ช่วงรอฟังผลไม่ตื่นเต้นไม่คิดอะไรเพราะมั่นใจว่าไม่เป็นไร เรายังแข็งแรงและแทบจะไม่เคยนอนโรงพยาบาลเลยด้วยซ้ำ รอผลประมาณเกือบชั่วโมงพยาบาลก็มาเรียกไปฟังผลครับ

หมอแจ้งว่าเจอทั้งหมด 4 ก้อน ตอนนั้นคิดในใจ หาาาาาาา 4 ก้อนเลยหรอ คลำเจอแค่ก้อนเดียวเองนะ ซึ่งแบ่งออกเป็นต่อมน้ำเหลืองโต 2 ก้อนและต่อมไทรอยด์อีก 2 ก้อนครับ หมอแจ้งว่า 3 ก้อนปกติไม่น่ามีปัญหา (ซึ่งก้อนที่เราคลำเจอคือต่อมน้ำเหลืองครับ แต่ผลคือไม่มีปัญหาอะไร หมอแจ้งว่าน่าจะเกิดจากเหงือกอักเสบ) แต่มี 1 ก้อนข้างซ้ายที่ต่อมไทรอยด์น่ากังวล อยู่ในระดับ TR5 ซึ่งก็คือเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง ขนาด 1.1 ซม. อยากให้เจาะชิ้นเนื้อมาตรวจ ตอนนั้นช็อคครับ ไม่ได้เตรียมใจมาฟังผลว่ามีโอกาสเป็นมะเร็ง ได้ยินคำว่ามะเร็งก็คือจะตายแล้วหรอ เราจะตายมั้ยนะ แต่ยังมีสติไม่ร้องไห้โวยวายครับ

ผลอัลตราซาวน์

สรุปเราก็ทำตามที่หมอต้องการคือเลือกที่จะเจาะก้อนออกมา หมอแนะนำว่าไหนๆ จะเจาะแล้วก็เจาะทั้ง 4 ก้อนไปเลยเพื่อความชัวร์ หมอพูดอะไรก็ยอมทำตามหมดทุกอย่างครับเวลานั้น ซึ่งเดี๋ยวตรงนี้พยาบามจะทำเรื่องนัดวันมาเจาะอีกที แต่ระหว่างนี้ไปตรวจเลือดดูค่าไทรอยด์ก่อน 

หลังจากนั้นพยาบาลก็พาไปตรวจเลือดครับ และกลับมานั่งรอฟังผลอีกประมาณชั่วโมงนึง ระหว่างรอผลพยาบาลก็เดินมาบอกว่าต้องติดต่อกับประกันก่อนว่าเค้าจ่ายให้เราได้เท่าไร ซึ่งรอประกันตอบประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นให้เราตัดสินใจว่าโอเคมั้ย เค้าถึงจะนัดหมอข้างนอกมาเจาะให้ครับเพราะที่โรงพยาบาลไม่มีหมอเฉพาะทางด้านนี้ ตอนนั้นคิดในใจว่าทำไมรอประกันนานเป็นอาทิตย์เลย อยากเจาะวันนี้ตอนนี้เลยครับ ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดี ช่วงระหว่างที่รอฟังผลเลยโทรหาแม่ เล่าทุกอย่างให้ฟังและช่วยกันหาโรงพยาบาลที่สามารถเจาะได้เร็วที่สุด ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ที่โทรหาไม่มีหมอเฉพาะทางด้านนี้เลยต้องนัดหมอข้างนอกและรอเป็นอาทิตย์เหมือนกัน มีแค่โรงพยาบาลพญาไท 2 ที่แจ้งว่าสามารถเจาะพรุ่งนี้ได้เลยประมาณ 12.00 เลยตกลงไปก่อน แต่ระหว่างนั้นมีโทรไปหาโรงพยาบาล คอ หู จมูก อธิบายให้เค้าฟัง เค้าบอกว่าหมอสามารถเจาะได้เลย เลยบอกแม่ว่าหลังฟังผลเสร็จให้พาไปหน่อยเพราะอยากเจาะเลยวันนี้ครับ

พอถึงเวลาฟังผลเลือด พยาบาลก็มาตามไปอีกรอบครับ ผลเลือดออกมาค่าไทรอยด์ทุกอย่างปกติครับ แต่แจ้งหมอไปว่าอาจจะไปเจาะชิ้นเนื้อที่อื่นเพราะรออาทิตย์หน้าไม่ไหว คุณหมอเข้าใจตามใจครับ

ผลตรวจเลือดไทรอยด์

สรุปค่ารักษาโรงพยาบาลพระราม 9
รอบนี้จ่ายเพิ่มจากประกันกลุ่มของบริษัท 4,517 บาทครับ

พอถึงโรงพยาบาล คอ หู จมูก ไม่เคยมาที่นี่มาก่อนต้องลงทะเบียนใหม่ แต่ใช้เวลาไม่นานครับ สักพักเข้าพบหมอ หมอดูผลที่หยิบมาด้วยและคลำที่คอ หมอคลำไม่เจอครับบอกว่าเจาะให้ไม่ได้ เพราะก้อนเล็กมากคลำไม่เจอ ไม่มีเครื่องอัลตราซาวน์ การทำแบบนี้คือต้องอัลตราซาวน์ไปด้วยและเจาะพร้อมกันซึ่งที่นี่ทำไม่ได้ครับ เลยสรุปกลายเป็นมาเสียเที่ยว ศึกษามาไม่ดี รีบใจร้อนไปหน่อยคุยกับ Call Center ว่าทำได้ก็รีบมาเลย 

หลังจากนั้นลองโทรกลับไปโรงพยาบาลพระราม 9 อีกรอบแล้วบอกเค้าว่าเราพร้อมจ่ายเงินเองไม่ต้องรอประกันครับ พยาบาลเลยขอติดต่อหมอเฉพาะทางก่อนว่าเร็วสุดได้วันไหน และเค้าก็โทรกลับมาบอกว่าเป็นวันพรุ่งนี้ (7 กันยายน 2566) 16.00 ถ้าเราโอเคให้รีบแจ้งเพราะเค้าต้องรีบจองคิว เราก็โอเคครับ ตอนนั้นคิดว่าโรงพยาบาลเดียวกับที่ตรวจเจอดีแล้วจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม เลยโทรไปยกเลิกที่นัดกับโรงพยาบาลพญาไท 2 เอาไว้ และก็ตัดใจคิดว่าวันนี้กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน พยายามไม่คิดมากอาจจะไม่เป็นมะเร็งก็ได้ถึงแม้ว่าใจจะคิดไปแล้ว 

พ่อแม่น้องก็พร้อมให้กำลังใจเต็มที่ วันนี้คือรักแม่มากครับ ตัวติดแม่อยากอยู่กับแม่ตลอดเวลา ทั้งที่ปกติก็อยู่กับแม่ตลอดอยู่แล้วครับ ค่อนข้างตัวติดกันแต่วันนี้พิเศษกว่าวันอื่นๆ รู้สึกใจหาย วูบวาบแปลกๆ กลับมาถึงบ้านก็นอนเลยครับไม่คิดอะไร ตื่นอีกทีประมาณห้าโมงเย็น น้องกลับมาพาไปเลี้ยงชาบูปลอบใจ วันนั้นคือกินข้าวไม่ลงทั้งวันซึ่งปกติกินเก่งมาก ยังแอบคิดว่าเอะหรือจะผอมนะ กินเสร็จกลับมานอนอีกครับ เหมือนสมองไม่อยากรับรู้อะไรอยากนอนอย่างเดียว ตอนนั้นยังทำใจไม่ได้ครับ 

ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่