คุณจะทำยังไงเมื่อแฟนที่คบกันอยู่ขี้งก

มันอึดอัดอะค่ะ บางเรื่องก็ไม่ต้องงกขนาดนั้นก็ได้ เงินเดือนเขาเยอะมากๆค่ะ แต่เราไม่เคยไปขอเงินเขานะคะ
1.จะซื้ออะไรคำนวณทุกอย่าง เช่นยาสระผมขวดนึงยืนคำนวณได้กี่กรัมตกกรัมละเท่าไหร่ซื้อแบบไหนคุ้มสุด
2.ถ้าไปเดินตลาด มีร้านกับข้าวอยู่2ร้าน จะเลือกร้านที่ถูกที่สุดถึงแม้จะเดินกลับไปซื้อไกลแค่ไหนก็ตาม บางทีปริมาณต่างกันนิดเดียวก็ไม่เอา
3.ไม่ยอมเสียเปรียบใคร เพื่อนร่วมงานหารเงินกันซื้อของมากินที่ออฟฟิศแฟนเราไม่เอาด้วยเพราะรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ กินได้ไม่คุ้ม จนไม่มีสังคมเลย หารไม่เกิน200หรอก
4.หาหมอโรงพยาบาลรัฐอย่างเดียว เคยไปรอ6โมงเช้ากลับมาอีกที11โมง ค่ายาคลีนิกประมาณ300ไม่ยอมจ่ายเด็ดขาด เราเซ็งมาก
5.ซื้ออะไรกินคำนวณหมด เช่น จะซื้อไก่ทอดกินคำนวณละว่าราคา40บาทถ้าไปซื้อมาทอดเองจะได้เยอะกว่า ก็ไม่ยอมซื้อที่ทอดขาย ไปซื้อของสดมาให้เราทอดเอง ซึ่งบางทีเราอยากกินตอนนั้น เหนื่อยไม่อยากกลับมาทำกับข้าว อยากกินน่องไก่น่องเดียว ไม่ซื้อบอกแพงไม่คุ้ม

เรารู้สึกว่ามันเยอะไป บางอย่างเสียเวลาชีวิตและน่าเบื่อมากเคยโวยวายไปก็หายแต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม คุณว่าเราเยอะไปมั้ยคะ หรือนี่ดีแล้วที่มีแฟนคำนวณและคิดเรื่องเงินก่อนใช้จ่าย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เราคิดว่าถ้าอยู่ตรงไหนแล้วอึดอัด นั่นคือ ตรงนั้นไม่ใช่ที่สำหรับเราค่ะ
ถ้าต้องใช้ความอดทนอยู่ด้วยกันมากกว่าความเข้าใจ สักวัน ความอดทนก็จะหมดลงค่ะ
ลองคุยกันให้ชัดเจน หากไม่ไหวก็ถอยออกมาดีกว่าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านแล้ว รู้สึกเหมือนโดนภรรยาเอามาเขียนถามกระทู้สัก 20 ปีก่อนเลย  ผมจะมาเล่าให้ จขกท. ฟังถึง บริบทของคนงกนะ

คือชีวิตผมน่ะ เกิดมาจากครอบคร้วยากจน แม่ไม่ไดทำงาน พ่อเป็นกรรมกร ชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ยากไร้ แต่ก็แบบ จน ๆ นั่นแหละ ไม่เคยมีอะไรเป็นของตัวเอง และก็อยู่บ้านเช่า แค่มีกิน มีเรียน แล้วก็นั่งรถเมล์เบียด ๆ ไปเรียนไปทำงานตั้งแต่เล็กจนโต ได้เงินไปโรงเรียนแค่ หลัก บาท ถึง สิบบาทก็เยอะสุดละ สุดท้ายเรียนจบแค่ อาชีวะ ก็ออกมาทำงานเพราะพ่อแก่ไม่มีแรงทำงานกรรมกรละ  สิ่งที่ผมรับมาคือมรดกที่ต้องเลี้ยงพ่อแม่ที่ชราละ แต่ผมท่องในใจตลอดนะว่าพ่อแม่ต้องสบายตอนแก่ และผมต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ และนั่นแหละจุดเริ่มต้นของความงก ที่สาว ๆ ไม่มีทางเข้าใจ

ผมเรียนจบมาเริ่มทำงานได้เงินเดือนแรก 5 พัน   ต้องใข้ให้ประหยัดสุดล่ะ เพราะส่วนนึง เก็บเป็นทุนเรียนต่อวิศวะ ส่วนนึงส่งให้พ่อแม่ใช้ เหลือใช้เองนิดเดียว กินข้าวก็ร้านแระหยัดสุด รถเมล์ก็คันที่ถูกที่สุด

ผ่านมา 5 ปี ผมสามารถเรียนจบวิศวะได้ หางานใหม่ได้เงินเดือน หมื่นห้า จุดนี้แหลที่สาว ๆ ไม่มีทางเข้าใจ เพราะผมยกเงินเดือนครึ่งนึงให้พ่อแม่ใช้ เพราะบอกตรง ๆ ถ้าไม่ให้พ่อแม่ตอนนั่น ถึงจุดพ่อแม่แก้ตาย ต่อให้ผมรวยคงได้แค่เผากระดาษเงินให้พ่อแม่ล่ะ และสุดท้ายผมก็โดนแฟนคนแรกทิ้ง เพราะประหยัดนี่แหละ

ผ่านมา 10 ปี จากความทุ่มเท ช่วงนั่นผมได้แฟนคือภรรยาคนปัจจุบันนั้นแหละที่เข้าใจชีวิตผมที่โคตรงกเลย ออมเงินทุกบาททุกสตางค์ ใข้ชีวิตโคตรประหยัดแบบที่ จขกท. ว่ามาเลย แต่ด้วยความ งก ความขยันทำงาน ความอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นนี่แหละ ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนเงินเดือนทะลุหลักแสน ตอนอายุ 30 และผมก็ยังกินอยู่ไม่ต่างจากเดิมนะ งกเหมือนเดิม แต่ความแตกต่างคือ ผมมีเงินออม ทะลุหลักล้านบาทแล้ว และมีบ้าน 2 หลัง หลังนึงให้พ่อแม่ อีกหลังก็ครอบครัวผมอยู่เอง

ผ่านมาจนอายุ 40 ปลาย ๆ ผมกลายเป็นผู้บริหารระดับสูง รายได้เดือนละ 5 แสน มีบ้าน มีคอนโดปล่อยเช่า มีที่ดิน มีหุ้น หุ้นกู้มี ที่สามารถสร้าง passive income ใช้จนตายละ ตอนนี้เลิกทำงานแล้ว  ลูก ๆ ได้เรียนโรงเรียนดี ๆ ทุกวันนี้ ชีวิตสุขสบาย ก็จากความงกในช่วงเริ่มต้นชีวิตนั่นแหละ  

ผมแค่อยากจะบอก จขกท. คนที่งกบางที มันก็มีเหตุผลของมันนั่นแหละ  ถ้างกเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น เพื่อชีวิต เพื่อการศึกษา เพื่อครอบครัว มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะคนจะรวยได้ มันก็มาจากการกระทำในอดีตทั้งนั้น คนจีนเสื่อผืนหมอนใบ ถ้าไม่งก ใช้เงินหมดไปวัน ๆ  จะรวยเป็นพันล้านหมื่นล้านได้หรือ

ถ้าคุณเกิดในครอบครัวที่สุขสบาย ชีวิตสุขสบาย คุณไม่เคยเปิดโลกมองชีวิตคนจน คุณไม่มีทางเข้าใจคนอื่นหรอก เพราะมันถูกมองจากทัศนะที่เป็นคุณงัย

ปล. แต่คนงก เพราะความงกอย่างเดียว ไม่ใช่เพิ่อพัฒนาตนเอง แต่เป็นกรอบสันดาน และก็จนไปจนตายมันก็มี  ต้องมองให้ออกเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่