เล่าย้อนหลังเมื่อสัปดาห์ก่อน พอดีเรามีปัญหากับเพื่อนสนิทที่ทำงานด้วยกันคนนึง
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 66 พ่อเราเสียชีวิต เพื่อนเราคนนี้ไปงานสวดศพพ่อเรา ในคินวันที่ 2 กับวันเผา
คืนวันนั้น เพื่อนเราไปที่งาน ประเด็น
1. มาถึงงานไม่ยอมลงจากรถ รอประมาณ 10 - 15 นาที เรายืนรอจนขาเเข็ง จนต้องเคาะกระจก แล้วเชิญลงมา
2. ลงมาเคารพศพ แล้วมองไปรอบๆ แล้วเริ่มมีคอมเมนต์
2.1 โลงศพ ทำไมใช้โลงแบบนี้ (พ่อเราใช้โลงไม้ ที่มีลวดลายไม้ พร้อมลายเทพนม) เลยถามว่า มันไม่ดีเหรอ เขาว่า เปล่า มันดี กว่าที่คิด ไม่คิดว่าจะเอารุ่นนี้
2.2 ถามเราว่า งานนี้ใครเป็นแม่งาน เลยตอบไปว่า ไม่มี มีแต่พวกเราช่วยกัน พี่น้องลูกหลาน
2.3 ถามต่อ เอาเงินจากไหน มาจัดงานศพ .....ซึ่งประเด็นนี้ งง กับคำถาม ว่าเขาถามไปเพื่ออะไร ก็เลยไม่ตอบ
วันเผา 16 ก.ย.66
เราทำหน้าที่รับเเขก แจกดอกไม้จันทน์ + ของชำร่วย ตอนแรกไม่คิดว่าเขาจะมา พอมาเจอกัน เขาแจ้งว่า ตอนแรกว่าจะไม่มานะ พอดีเจ้านายใช้ให้มา ก็เลยมา เราก็อืมมมมม.....
ช่วงที่กำลังแจกของชำร่วย ลูกหลานทุกคนขึ้นไปบนเมรุหมดแล้ว เหลือเราคนสุดท้าย กำลังจะเดินขึ้นไป เพื่อนเราสะกิดที่ต้นแขนเรา เราก็หันไป เพื่อนเรามองหน้า แล้วพูดว่า " ขอกับข้าว หน่อยซิ " เราอึ้งนะ อึ้งมากกกก ไอ้เราก็ไม่คิดว่า จะพูดคำนี้
ด้วยความที่เราเกรงใจแขกคนอื่น เราเลยตอบกลับไปว่า รอแป๊บนะ เดี๋ยวขอไปดูหน้าพ่อครั้งสุดท้ายก่อน เดี๋ยวลงมา
สุดท้าย ... กลับ เพราะไม่ได้กับข้าว ประมาณว่า ขี้เกียจรอ และกลับเลยแบบไม่บอกเราด้วย
หลังจากวันนั้นเราก็มาทำงาน เขาก็ไม่พูดกับเรานะ แถมเพิ่งมารู้ว่า เอาของชำร่วย รับมาก็ไม่เอา แต่เอาไปให้เจ้านายต่อ เราก็เลยไปถามว่า แล้วเอาของชำร่วยของตัวเองไปให้เจ้านายทำไม เพราะเดี๋ยวมาทำงานเราก็เอามาให้อยู่ดี เขาก็เลยตอบว่า เออ เดี่ยวไปเลือก เอาใหม่
ต่อมาอีกนิด เราจะเอาของชำร่วยให้น้องที่ออฟฟิศอีกคน พอดีน้องคนนั้นไม่ได้ไปวันเผา เขาว่า ไม่ต้องให้นะ เราก็เลยถามกลับว่าทำไม เขาตอบว่า น้องคนนั้นไม่รับของชำร่วยงานศพ มันไม่ชอบ เราก็อ๋อ... สงสัยถือเคล็ดมั้ง แต่สุดท้ายพอมาเจอน้องคนนั้น เขาตอบกลับมาว่า ที่เขาบอกว่า ไม่รับของเพราะ เขาคิดว่า เดี่ยวจะไม่พอแจกคนอื่น เขาเลยว่า เขาจะขอรับแค่ชิ้นเดียวพอ เพราะเขาใส่ซองรวมไปกับแฟน ไม่ได้บอกว่า ไม่รับ
แล้วก็มีเพื่อนร่วมงานบางส่วนที่ใส่เงินทำบุญแบบรวมกันมา เราก็เลยเรียกหัวหน้างานมารับไป เพื่อเอาไปให้
จนมีคนนึง (คนที่เป็นตัวแทนมารับของ) พูดขึ้นมาว่า อ้าว..พี่ มีของชำร่วยด้วยเหรอ เห็นพี่..(คนที่เป็นประเด็น) เขาเอาซองไปเรี่ยไร แล้วเขาก็บอกว่า งานนี้ใส่ซองไปก็ไม่รู้จะมีของชำร่วยให้หรือเปล่านะ
เราเล่าเรื่องนี้ให้ญาติพี่น้องเราฟัง ทุกคนลงมติเดียวกัน ให้เลิกคบไปเลย และเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่รู้เรื่องก็เลยมีแต่คนไม่พอใจ
แต่ที่แน่ๆ เราไม่คุยด้วยหลายวันแล้ว แต่ด้วยความที่อยู่ที่ทำงานเดียวกัน เดี๋ยวก็คงมาหาเรื่องเราอีกอยู่ดี เลยอยากหาวิธีการรับมือ หรือหาวิธีที่ทำให้รู้สึกสำนึกบ้าง
มีวิธีจัดการกับคนแบบนี้ยังไงดี
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 66 พ่อเราเสียชีวิต เพื่อนเราคนนี้ไปงานสวดศพพ่อเรา ในคินวันที่ 2 กับวันเผา
คืนวันนั้น เพื่อนเราไปที่งาน ประเด็น
1. มาถึงงานไม่ยอมลงจากรถ รอประมาณ 10 - 15 นาที เรายืนรอจนขาเเข็ง จนต้องเคาะกระจก แล้วเชิญลงมา
2. ลงมาเคารพศพ แล้วมองไปรอบๆ แล้วเริ่มมีคอมเมนต์
2.1 โลงศพ ทำไมใช้โลงแบบนี้ (พ่อเราใช้โลงไม้ ที่มีลวดลายไม้ พร้อมลายเทพนม) เลยถามว่า มันไม่ดีเหรอ เขาว่า เปล่า มันดี กว่าที่คิด ไม่คิดว่าจะเอารุ่นนี้
2.2 ถามเราว่า งานนี้ใครเป็นแม่งาน เลยตอบไปว่า ไม่มี มีแต่พวกเราช่วยกัน พี่น้องลูกหลาน
2.3 ถามต่อ เอาเงินจากไหน มาจัดงานศพ .....ซึ่งประเด็นนี้ งง กับคำถาม ว่าเขาถามไปเพื่ออะไร ก็เลยไม่ตอบ
วันเผา 16 ก.ย.66
เราทำหน้าที่รับเเขก แจกดอกไม้จันทน์ + ของชำร่วย ตอนแรกไม่คิดว่าเขาจะมา พอมาเจอกัน เขาแจ้งว่า ตอนแรกว่าจะไม่มานะ พอดีเจ้านายใช้ให้มา ก็เลยมา เราก็อืมมมมม.....
ช่วงที่กำลังแจกของชำร่วย ลูกหลานทุกคนขึ้นไปบนเมรุหมดแล้ว เหลือเราคนสุดท้าย กำลังจะเดินขึ้นไป เพื่อนเราสะกิดที่ต้นแขนเรา เราก็หันไป เพื่อนเรามองหน้า แล้วพูดว่า " ขอกับข้าว หน่อยซิ " เราอึ้งนะ อึ้งมากกกก ไอ้เราก็ไม่คิดว่า จะพูดคำนี้
ด้วยความที่เราเกรงใจแขกคนอื่น เราเลยตอบกลับไปว่า รอแป๊บนะ เดี๋ยวขอไปดูหน้าพ่อครั้งสุดท้ายก่อน เดี๋ยวลงมา
สุดท้าย ... กลับ เพราะไม่ได้กับข้าว ประมาณว่า ขี้เกียจรอ และกลับเลยแบบไม่บอกเราด้วย
หลังจากวันนั้นเราก็มาทำงาน เขาก็ไม่พูดกับเรานะ แถมเพิ่งมารู้ว่า เอาของชำร่วย รับมาก็ไม่เอา แต่เอาไปให้เจ้านายต่อ เราก็เลยไปถามว่า แล้วเอาของชำร่วยของตัวเองไปให้เจ้านายทำไม เพราะเดี๋ยวมาทำงานเราก็เอามาให้อยู่ดี เขาก็เลยตอบว่า เออ เดี่ยวไปเลือก เอาใหม่
ต่อมาอีกนิด เราจะเอาของชำร่วยให้น้องที่ออฟฟิศอีกคน พอดีน้องคนนั้นไม่ได้ไปวันเผา เขาว่า ไม่ต้องให้นะ เราก็เลยถามกลับว่าทำไม เขาตอบว่า น้องคนนั้นไม่รับของชำร่วยงานศพ มันไม่ชอบ เราก็อ๋อ... สงสัยถือเคล็ดมั้ง แต่สุดท้ายพอมาเจอน้องคนนั้น เขาตอบกลับมาว่า ที่เขาบอกว่า ไม่รับของเพราะ เขาคิดว่า เดี่ยวจะไม่พอแจกคนอื่น เขาเลยว่า เขาจะขอรับแค่ชิ้นเดียวพอ เพราะเขาใส่ซองรวมไปกับแฟน ไม่ได้บอกว่า ไม่รับ
แล้วก็มีเพื่อนร่วมงานบางส่วนที่ใส่เงินทำบุญแบบรวมกันมา เราก็เลยเรียกหัวหน้างานมารับไป เพื่อเอาไปให้
จนมีคนนึง (คนที่เป็นตัวแทนมารับของ) พูดขึ้นมาว่า อ้าว..พี่ มีของชำร่วยด้วยเหรอ เห็นพี่..(คนที่เป็นประเด็น) เขาเอาซองไปเรี่ยไร แล้วเขาก็บอกว่า งานนี้ใส่ซองไปก็ไม่รู้จะมีของชำร่วยให้หรือเปล่านะ
เราเล่าเรื่องนี้ให้ญาติพี่น้องเราฟัง ทุกคนลงมติเดียวกัน ให้เลิกคบไปเลย และเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่รู้เรื่องก็เลยมีแต่คนไม่พอใจ
แต่ที่แน่ๆ เราไม่คุยด้วยหลายวันแล้ว แต่ด้วยความที่อยู่ที่ทำงานเดียวกัน เดี๋ยวก็คงมาหาเรื่องเราอีกอยู่ดี เลยอยากหาวิธีการรับมือ หรือหาวิธีที่ทำให้รู้สึกสำนึกบ้าง