ขั้นตอนการจัดงานศพแบ่งปันเพื่อเป็นวิทยาทานกันนะคะ

สวัสดีค่ะ เนื่องจากคุณพ่อของแฟนเสียชีวิต และเพิ่งจะจัดงานศพเสร็จ เราเลยอยากมาเล่าขั้นตอนการจัดงานศพ เพื่อเป็นวิทยาทาน จะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดนะคะ

ขอเล่าเรื่องราวตอนคุณพ่อเข้ารักษาตัวก่อนนะคะ คุณพ่อไปรักษาด้วยอาการปวดท้อง หมอวินิจฉัยว่าเป็นลำไส้อุดตัน คุณหมอจึงให้แอดมิท แต่คุณพ่อเกิดหยุดหายใจกะทันหัน ในคืนนั้นระหว่างรอทำการรักษาตอนเช้า

คุณหมอปั๊มหัวใจคุณกลับมา แต่คุณพ่อสมองขาดอ๊อกซิเจนไปถึง20นาที สมองเสียหายมาก ไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง ไม่รับรู้อะไรเลย ไม่สามารถตอบสนองใดๆต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาและนอนอยู่ในห้องICU คุณหมอเองก็ให้ดูอาการวันต่อวัน

ในวันที่10ที่คุณพ่อนอนอยู่ในICU คุณหมอได้คุยกับแฟนว่าสมองคุณพ่อเสียหายมาก คนไข้ไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง คุณหมอถามว่า ถ้าคุณพ่อหยุดหายใจอีกครั้ง จะให้ทำCPR หรือไม่ คุณแม่แฟนบอกว่า ไม่อยากให้คุณพ่อเจ็บมากกว่านี้เเล้ว มันเป็นนาทีที่บีบหัวใจมากนะคะที่เราเห็นแฟนเราเซ็นชื่อยินยอม ไม่ให้ทำการCPR ไม่ฉีดยาเพิ่มความดัน ไม่เจาะเลือด ไม่เจาะคอเพื่อใส่ท่อช่วยหายใจเนื่องจากพ่อเป็นเบาหวาน จะยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ให้รักษาตามอาการถ้าติดเชื้อก็ให้ยาฆ่าเชื้อ เราเห็นแฟนเราเซ็นชื่อทั้งน้ำตา เเละเค้าเดินไปที่เตียงพ่อ พร้อมขอโทษที่ตัดสินใจทำแบบนี้

หลังจากนั้น คุณหมอขอย้ายคุณพ่อ มาอยู่ห้องธรรมดา ก็รักษาตามอาการค่ะ ให้ยาฆ่าเชื้อ ยาเบาหวาน ยาความดัน ยาสลายลิ่มเลือดที่พ่อต้องทานอยู่แล้วทางสายยาง เพราะใส่เครื่องช่วยหายใจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เราก็ทำใจกันตามที่คุณหมอแจ้ง

คุณพ่อรักษาอยู่1เดือนกับ17วัน 6.30 น.ของวันเสาร์ เราเห็นสายเข้าเครื่องแฟนเป็นเบอร์โรงพยาบาล นาทีนั้นเรารู้เเล้วละว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะพ่อให้เวลาพวกเราได้ทำใจกันมาสักพัก

เราเองก็มีได้อ่านไว้บ้างว่าจะต้องทำอย่างไร มีคุยกับเพื่อนบ้าง มันเลยทำให้พวกเรามีสติ หลังจากแฟนวางสาย เราก็อาบน้ำแต่งตัว เอาเอกสารบัตรประชาชนตัวจริงของคุณพ่อ ทะเบียนบ้านตัวจริง ชุดสำหรับให้คุณพ่อใส่ไปด้วย

ก่อนไปโรงพยาบาล เราเเวะวัดเเถวบ้าน คุยกับเจ้าหน้าที่วัดเพื่อจองศาลา เเจ้งว่าจะสวดทั้งหมด3วันแล้วเผาเลย เจ้าหน้าที่ก็จะเเจ้งมาว่าศาลาไหนว่าง ระหว่างนั้นคุณน้าก็โทรมาเเจ้งว่าสั่งโลงศพเรียบร้อยจะมาส่งพร้อมรถตู้ ให้เราประสานงานกับรถว่าไปรับศพประมาณกี่โมง ส่วนคุณแม่ก็ไปทำรูปใส่กรอบ

ไปถึงโรงพยาบาล เราไปตึกที่คุณพ่อเข้ารักษา เคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เสร็จเเล้วก็เอาใบเสร็จรับเงินไปที่ห้องพ่อบ้านเพื่อทำรับเอกสารรับรองจากโรงพยาบาลว่าคุณพ่อเสียชีวิตด้วยเหตุใดเพื่อไปทำเรื่องขอใบมรณะบัตรที่สำนักงานเขต โชคดีที่ในโรงพยาบาลมีสำนักงานเขต รับทำสูติบัตร/มรณะบัตร ในโรงพยาบาลเลย เราก็เอาเอกสารไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะให้ระบุว่า ใครเป็นผู้เเจ้ง จะจัดงานศพที่วัดไหน ใช้เอกสารคือบัตรประชาชนตัวจริงของผู้ตายและบัตรประชนของผู้เเจ้ง ใช้เวลาประมาณ10นาทีเราก็ได้ใบมรณะบัตรมา

หลังจากได้ใบมรณะบัตร เราก็กลับไปเอาชุดคุณพ่อที่รถ เพื่อไปติดต่อรับศพที่นิติเวช ยื่นเอกสารใบรับรองการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลออกให้มา พร้อมบัตรประชาชนตัวจริงของผู้ตาย บัตรประชาชนตัวจริงผู้ขอรับศพ เจ้าหน้าที่ให้กรอกเอกสารว่าจะจัดการศพอย่างไร เผาหรือฝัง จัดงานศพที่วัดไหน ฉีดฟอร์มาลีนไหม กรอกเสร็จก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่พร้อมมอบชุดที่จะให้คุณพ่อใส่ครี้งสุดท้าย

วันนั้นที่นิติเวชมีศพรอผ่าพิสูจน์ประมาณ20ศพ ศพคุณพ่อไม่จำเป็นต้องผ่าพิสูจน์ เนื่องจากเสียชีวิตเพราะป่วย แต่ด้วยวันนั้นมีศพหลายศพมีคุณหมอคนเดียว ทำให้ต้อง
ต้องรอคิวในการรับศพ เราเลยมีเวลาไปทานข้าว แล้วก็สั่งสแน๊คบ๊อกซ์สำหรับงานศพในคืนนั้น เราสั่งทั้งหมด100ชุด โดยเลือกขนมที่น่าจะเก็บได้3วัน สั่งขนมเสร็จ รถตู้ก็มารับศพพอดี

เมื่อถึงคิว เจ้าหน้าที่เรียกเราชำระเงินค่าฉีดฟอร์มาลีน เสร็จเเล้วก็ไปพบเจ้าหน้าที่สิบเวรเพื่อทำเรื่องขอรับศพ คุณตำรวจเเจ้งให้บอกรถตู้มารอรับศพที่ประตูด้านข้าง เรากับแฟนก็ไปรอรับศพ เจ้าหน้าที่เข็นศพคุณพ่อพร้อมกับคุณตำรวจโดยมีผ้าคลุมหน้าไว้ พอมาถึงรถตู้ก็เปิดผ้าให้ดูว่าใช่คุณพ่อไหม คนขับรถตู้ก็เอาโลงลงจากรถ ให้เรากับแฟนจุดธูปบอกคุณพ่อว่าจะพากลับไปทำศพที่วัดไหนเเล้วก็เอาศพคุณพ่อใส่โลงเเล้วขึ้นถ เนื่องจากเราขับรถไม่เป็น เเล้วก็ไปกับแฟนเเค่2คน แฟนของพี่คนขับรถเลยเป็นคนถือกระถางธูปให้

พี่คนขับมาถึงวัดก่อนเราเลยสักแป๊บ พอเราไปถึง ก็เอาโลงวางในศาลา เจ้าหน้าที่วัดก็มาถามว่าจะรดน้ำศพไหม ถ้ารดน้ำก็ไปซื้อพวงมาลัยที่ใส่ข้อมือได้ ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ น้ำอบ ดอกไม้4กำ ผ้าห่มคลุมศพ แล้วก็สั่งดอกไม้สำหรับตกแต่งซึ่งมีราคาตั้งแต่5000บาทขึ้นไป เพราะที่วัดไม่มีดอกไม้ปลอม ต้องสั่งเป็นดอกไม้สดเท่านั้น เราไปถึงวัดกันประมาณบ่าย2โมง ออกไปหาซื้อของเพื่อรดน้ำศพ สั่งน้ำเเข็ง เพื่อแช่น้ำเย็นไว้สำหรับแขกซื้อพวกกระดาษทิชชู่ ของอื่นๆ ซองสำหรับใส่ซองให้พระ

ประมาณ4โมงเย็นดอกไม้ที่สั่งไว้ก็มาส่ง ญาติๆก็มา เราก็ทำพิธีรดน้ำศพ สัปเหร่อเป็นคนทำพร้อมกับซื้อของมาทำพิธี มีเหล้าขาวมะพร้าวอ่อนเเละอื่นๆ เราเลยใส่ซองค่าของให้สัปเหร่อไป รดน้ำเสร็จก็นำศพใส่โลงเพื่อฟังสวด

เริ่มสวดคืนเเรกตอนประมาณ1ทุ่ม มีญาติๆเป็นเจ้าภาพ สวดเสร็จจะมีเจ้าหน้าที่ของวัดคอยจุดธูป เพื่อไม่ให้ธูปดับทุกคืน

เช้าวันที่2 เราไปใส่บาตรพร้อมกับเตรียมอาหารไปวางที่ข้างโลง จุดธูปบอกเเล้วรอธูปดับเราถึงกลับ
ช่วงเย็นก็เหมือนคืนเเรกมีพระมาสวด4รูปตอนประมาณ1ทุ่ม

วันที่3 เช้าเราไปหาซื้อของที่จะใช้ในวันเผาและเก็บอัฐิเราเลือกของชำร่วยเป็นยาธาตุเพราะว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลเพราะปวดท้อง ซื้อดอกไม้จันทน์ โกศ ผ้าขาวบาง ลุ้งสำหรับใส่อัฐิ น้ำอบ ญาติๆก็คุยกับแฟนว่าไม่ต้องมีพระมาสวดกัณฑ์เทศน์หรอก มีเเค่ญาติๆไม่กี่คน ก็เลยมีพระ4รูปมาสวดเหมือนคืนเเรก

วันที่4วันเผา เราไปวัดกันแต่เช้าเนื่องจากแฟนบวชหน้าไฟ  คุณน้าเป็นคนเตรียมอาหารมาถวายเลี้ยงพระ10รูป คุณแม่ก็เตรียมล้างจานที่ยืมมาจากวัด เราก็ไปซื้อดอกไม้10กำสำหรับถวายพระ ไปแลกเงินใส่ซองที่ธนาคาร หลังจากถวายเพลเสร็จ เจ้าหน้าวัดก็มาถามว่าจะมีประธานวางผ้ากี่คน พร้อมขอรายชื่อ

ถึงเวลา15.30 ก่อนเวลาเผา เจ้าหน้าที่เอารถเข็นศพมาที่ศาลา ขนโลงขึ้นรถ มีพระนำสวด1รูปตามด้วยเณร กระถางธูป และรูป เดินรอบเมรุ3รอบเเล้วเจ้าหน้าเอาโลงขึ้นบนเมรุ

เจ้าหน้าที่วัดจัดสถานที่ เอาดอกไม้ที่เเต่งที่ศาลามาวางที่เมรุ เตรียมดอกไม้จันทน์ ของชำร่วย เมื่อเรียบร้อยก็เชิญเเขกขึ้นวางผ้าไตรทอดหน้าศพพร้อมพระสงฆ์1รูป/แขก1ท่าน สวดตอนวางผ้า แล้วให้ประธานวางดอกไม้จันทน์ เมื่อประธานวางผ้าครบ จึงขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ระหว่างนั้นก็มีพระ4รูปสวด หลังจากวางดอกไม้จันทน์ครบทุกคน เจ้าหน้าแจ้งว่าจะเปิดโลงพร้อมเผาจริง ให้ญาติขึ้นไปดูหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย เสร็จเเล้วก็ทำการเผาจริง

เสร็จเเล้วเราก็มาเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับเจ้าหน้าที่วัด เจ้าหน้าที่เเจ้งเวลามาเก็บอัฐิในวันพรุ่งนี้

เช้าวันที่5 ของที่ต้องซื้อเพิ่มวันเก็บอัฐิมีดอกมะลิ กุหลาบ เหรียญ10จำนวน9 เหรียญ ดอกไม้1กำ อาหารถวายพระ1ชุด ซองสำหรับให้พระสวด

ไปถึงวัดก็ไปขึ้นไปที่บนเมรุ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะเอาไปลอยอังคารและเก็บบางส่วนใส่โกศ แฟนขอ1ชิ้นเพื่อทำจี้ห้อยคอ เจ้าหน้าที่เค้าวางกระดูกชิ้นใหญ่9ส่วนในถาด จะมีกระดูกส่วนกระโหลก เเขน ขา ส่วนลำตัว เเล้วส่วนที่เหลือใส่ถังไว้ เจ้าหน้าที่เอาเหรียญวางบนกระดูกส่วนละ1เหรียญ ให้เราจุดธูปบอกว่ามารับอัฐิและจะนำอัฐิไปลอยอังคารที่วัดไหนแล้วให้เราโปรยน้ำอบ ดอกไม้ ที่อัฐิ เสร็จเเล้วพระสงฆ์1รูปสวด หลังจากนั้นถวายอาการที่เตรียมมากับพระ เจ้าหน้าที่เอาเหรียญ9เหรียญที่วางบนอัฐิใส่ในโกศและเอากระดูกทั้ง9ส่วนโดยหักเป็นชิ้นเล็กๆใส่ในโกศ เลือกชิ้นกระโหลกเล็กๆให้แฟนสำหรับทำจี้ เสร็จเเล้วเจ้าหน้าจะเอาเถ้าพร้อมอัฐิที่เหลือทั้งหมดใส่ในลุ้ง ห่อด้วยผ้าขาว เพื่อนำไปลอยอังคารเจ้าหน้าที่เเจ้งว่าก่อนออกจากวัดให้ถือรูปโดยหันหน้ารูปเข้าตัวแล้วกอดไว้ พอพ้นประตูวัดค่อยหันรูปออก ก่อนเอาอัฐิขึ้นรถก็ให้บอกพ่อด้วยว่าจะไปไหน

เราไปลอยอังคารในวันนั้นเลย เราไปลอยอังคารที่วัดกู้ ที่ปากเกร็ด ไปถึงวัดก็นิมนต์พระ1รูปไปนำสวดก่อนที่จะลอยอังคาร

เมื่อกลับถึงบ้าน ก่อนที่จะโกศกับรูปเข้าบ้าน ให้เอาไว้ในรถก่อน คุณแม่ต้องจุดธูปไหว้พระพุทธ จุดธูปแจ้งเจ้าที่ พระแม่ธรณี จัดที่สำหรับวาง เมื่อเสร็จเรียบร้อยถึงเอารูปและโกศลงจากรถเเละเข้าบ้านได้

ในส่วนของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เราเเยกเป็นวันตามนี้นะคะ

ค่าใช้จ่ายตั้งแต่รับศพและสวด3วัน

ค่าโลงศพ 2200
ค่าฉีดฟอร์มาลีน+รับศพ1200
ค่าดอกไม้รดน้ำ 500
ค่ากรอบรูป1000
ค่าดอกไม้เแต่งศาลา5000
ค่าสแน๊คบ็อซ์4000
ค่าของใช้อื่นๆ3000(ซอง ,น้ำเเก้ว,กาแฟ,น้ำอัดลม,ผ้าห่ม)
ใส่ซองสัปเหร่อ500
ใส่ซองพระ3คืน2400
ค่าดอกไม้กำ500

ค่าใช้จ่ายวันเผา
ค่าของชำร่วย,ดอกไม้จันทน์ 500
ดอกไม้กำ600
อาหารถวายเพลพระ20รูป5000
ใส่ซองพระ20ซอง 4000
ใส่ซองพระอุปปัชชา500
ค่าเช่าศาลา 1500
ค่าเผา2500
ค่าธูปใหญ่ ค่าคนจุดธูป ค่าเทียน ค่าธูป1500
ค่าน้ำแข็ง400
ใส่ซองเจ้าหน้าที่3วัน 600
ค่าผ้าไตรทอดหน้าศพ4ชุด 800
ใส่ซองให้แม่บ้านล้างจาน 200

ค่าใช้จ่ายวันเก็บอัฐิ/ลอยอังคาร

ค่าดอกไม้200
โกศ ผ้าขาว ลุ้ง 1200
ใส่ซองพระตอนเก็บอัฐิ200
ใส่ซองพระตอนลอยอังคาร200

แล้วก็มีพวกค่าใช้จ่ายอื่นๆยิบย่อยรายวัน/ทำบุญให้วัด อีกประมาณ3000

เราไม่ได้จัดงานใหญ่ค่ะ ที่คุยกับแฟนคือจัดงานสวดให้พ่อ และก็มีแต่ญาติๆที่มาร่วมงานเท่านั้นเลยทำให้ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และงานก็เสร็จออกมาด้วยดีค่ะ

หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์ เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่