นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองประธานบริหารบริษัทไทยซัมมิท และปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พร้อมทั้งผู้ร่วมจดจัดตั้งอีก 24 คน ยื่นจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 ในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ธนาธรได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และปิยบุตรได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนแรก
ในการลงสู้ศึกเลือกครั้งแรก ปี 2562 ได้ ส.ส. ทั้งสิ้น 88 คน
พรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต 26 ที่นั่ง และได้คะแนนมหาชนมากเป็นอันดับสามรองจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย และยังเป็นพรรคที่ได้คะแนนมหาชนมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร
"หลังประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นการทางเสร็จสิ้น พรรคอนาคตใหม่ได้ สส. รวมกัน 88 ราย ก่อนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะคำนวณจำนวน สส.บัญชีรายชื่อในสัดส่วนที่พึงมีใหม่ ทำให้จำนวน สส.ลดลงเหลือ 81 ราย"
หลังการเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่แถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอีก 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเศรษฐกิจใหม่, พรรคเพื่อชาติ, และ พรรคพลังปวงชนไทย
และได้รับการเสนอชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี3 0 มีนาคม พ.ศ. 2562
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นำสมาชิกลงนามสัตยาบันยืนยันจุดยืนทางการเมืองของพรรค ซึ่งมีใจความว่า จะส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย คัดค้านระบอบรัฐประหาร
20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. และให้ตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อเว้นว่าง
จึงมีผลให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทนตำแหน่งที่ว่างลง ทำให้มานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 51 พรรคอนาคตใหม่ เลื่อนลำดับขึ้นมา
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และห้ามจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
สืบเนื่องจากกรณีที่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาท ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
ประวัติพรรคอนาคตใหม่ - ก้าวไกล ก่อตั้งขึ้น ปี 62 มีหัวหน้าพรรคมาแล้วถึง 2 รุ่น ล่าปี 66 เป็นพรรคชนะเลือกตั้ง อันดับ 1
พร้อมทั้งผู้ร่วมจดจัดตั้งอีก 24 คน ยื่นจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 ในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ธนาธรได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และปิยบุตรได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนแรก
ในการลงสู้ศึกเลือกครั้งแรก ปี 2562 ได้ ส.ส. ทั้งสิ้น 88 คน
พรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต 26 ที่นั่ง และได้คะแนนมหาชนมากเป็นอันดับสามรองจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย และยังเป็นพรรคที่ได้คะแนนมหาชนมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร
"หลังประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นการทางเสร็จสิ้น พรรคอนาคตใหม่ได้ สส. รวมกัน 88 ราย ก่อนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะคำนวณจำนวน สส.บัญชีรายชื่อในสัดส่วนที่พึงมีใหม่ ทำให้จำนวน สส.ลดลงเหลือ 81 ราย"
หลังการเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่แถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอีก 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเศรษฐกิจใหม่, พรรคเพื่อชาติ, และ พรรคพลังปวงชนไทย
และได้รับการเสนอชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี3 0 มีนาคม พ.ศ. 2562
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นำสมาชิกลงนามสัตยาบันยืนยันจุดยืนทางการเมืองของพรรค ซึ่งมีใจความว่า จะส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย คัดค้านระบอบรัฐประหาร
20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. และให้ตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อเว้นว่าง
จึงมีผลให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทนตำแหน่งที่ว่างลง ทำให้มานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 51 พรรคอนาคตใหม่ เลื่อนลำดับขึ้นมา
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง และห้ามจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
สืบเนื่องจากกรณีที่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาท ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560