ช่วงนี้ตลาดหุ้นก็พายเรือในอ่าง วนไปวนมา
เลยอยากเล่าเรื่องที่เจอมาเร็วๆนี้
1 เปิดกล้องวงจรปิดดูซิ
เมื่อก่อนช่วงวันหยุด ชอบขับรถไปซื้ออาหารที่ตลาดสดธนบุรี ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลธนบุรี 2
เพราะมีอาหารปรุงเสร็จพร้อมกินแบบครบวงจรจริงๆ
เมื่อสามสี่อาทิตย์ก่อน ได้ซื้อเนื้อปลากระพงทอดน้ำมัน 5 กล่อง กล่องละ 100 บาท
เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบรออะไร ที่ซื้อแล้วต้องรอทำ มักจะจ่ายเงินไปให้ก่อน แล้วค่อยกลับมาเอาของที่ซื้อทีหลัง
พอซื้ออย่างอื่นเสร็จ ก็กลับมาเอาเนื้อปลากระทงทอด ห้ากล่องที่สั่งไว้
คนทำบอกว่า ก็พี่เอาของไปแล้ว งงมากเลย ยืนยันไปว่า ผมยังไม่ได้มาเอาของไปเลย
ลูกจ้างคนทอดปลาก็ยืนยันว่า เอาของไปแล้ว เถียงกันอยู่นาน
เลยบอกเจ้าของร้านไปว่า ให้เปิดวงจรปิดดูซิ ว่าผมมาหยิบของไปหรือยัง
หลังเจ้าของร้านเปิดวงจรปิดดู ก็ยอมคืนเงิน 500 บาทให้โดยดี
ที่แท้มีคนมาตีกิน รู้ว่าผมจ่ายเงินไปแล้ว ฉวยโอกาสมาหยิบของที่ทำเสร็จแล้วไปเลย
สรุปได้ว่า ชีวิตในที่สาธารณะทุกวันนี้ ตัดสินกันได้ ด้วยกล้องวงจรปิดที่จับภาพไว้
เราจะทำอะไรให้นึกไว้เสมอว่า big brother is watching you
2 ไม่ทุกคนที่จะรู้จักการจ่ายออนไลน์ หรือมีคนคอยช่วยเหลือ
ทุกๆเดือน ผมจะเห็นหญิงสูงวัย เดินด้วยวอล์คเกอร์มาฝั่งตรงข้ามแบงค์
แรกๆก็สงสัยว่า เขาจะมาทำอะไร ทำไมต้องยอมลำบากขนาดนั้น
ในที่สุด ถามแม่บ้านที่ทำความสะอาดธนาคาร และผมจ้างมาทำความสะอาดบ้านให้ชั่วคราว
ได้ความว่า แกต้องเดินด้วยวอล์คเกอร์มาจากซอยฝั่งตรงข้ามธนาคาร ไกลประมาณ สองร้อยเมตร
เพื่อมาจ่ายหนี้บิลค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ที่คนจดมิเตอร์มาเสียบบิลไว้ที่บ้าน
เนื่องจากไม่เคยรู้เรื่องออนไลน์ ไม่มีมือถือ และอยู่ตัวคนเดียว
ทุกๆเดือน จึงมีหนึ่งวัน ที่ต้องพยายามเดินมาที่ธนาคาร
เพียงเพื่อ จ่ายเงินค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า
รวมสองรายการแค่เดือนละ 40 กว่าบาทเท่านั้น
ไม่งั้นอาจจะโดนตัดน้ำ ตัดไฟฟ้าได้ 
ตอนหลัง รปภ.ของธนาคาร จะเป็นคนเดินข้ามถนน เพื่อไปเอาบิลค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า มาจ่ายให้แทน
แกจะได้ ไม่ต้องเสี่ยงถูกรถชน ตอนเดินข้ามถนนมาจ่าย ค่าน้ำค่าไฟฟ้าแค่สี่สิบกว่าบาท
และก็ยังต้องจ่ายค่าทำรายการโอนค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ให้ธนาคารอีกรายการละ 15 บาท
พันคน ทุกข์พันอย่าง ร้อยคน ร้อยปัญหา
****** อัพเดทข้อมูล ตัวเลขค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าใหม่ หลังจากได้สอบถามกับทาง รปภ. ธนาคาร
3 ไม่ต้องรอวงจรปิดบอก
เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปซื้อของที่โกลเด้นเพรส ถนนสุโขทัย
ยอมรับว่า ไม่ได้นึกไปถึงเรื่องวงจรปิด เพียงแต่นึกไปถึง ใจเขา ใจเรา
ใครจะต้องรับผิดชอบ ที่คิดเงินค่าของผิดไปหกร้อยกว่าบาท
แน่นอนว่า หลานแคชเชียร์สาว ต้องรับผิดชอบแน่ๆ
หลังจากเปิดกล่องนับของแล้ว ก็ยอมเสียเวลานับขั่วโมง รีบขับรถกลับไปจ่ายเงินที่เขาคิดขาดไว้
ลำดับความแล้ว ได้ความว่า
ตอนผมขอซื้อจนหมด ที่วางโชว์ไว้ ทางพนักงานจัดของ ก็เลยหยิบของใส่ก่ลองให้ 2 กล่องใหญ่กล่องละ 24 ซอง
พร้อมตะโกนบอกกับแคชเชียร์ไปว่า ใส่ไว้กล่องละ 24 ซอง
เข้าใจว่าแคชเชียร์สาวคงได้ยินแค่คำว่า 24 ซองเลยคิดไปตามนั้น
เรื่องบางเรื่อง แค่คิดถึง ใจเขา ใจเรา สังคมก็คงอยู่ได้เป็นปกติครับ
ไม่จำเป็นต้องรอ big brother มาตัดสินเรา
😒😒😒😒 .............๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ อยากเล่าเรื่อง ระบบนิเวศน์ชีวิตแต่ละคน ที่มันไม่เหมือนกัน.....😎😎😎😎