โดนคนอื่นอ้างว่าเราเป็นแฟน ควรทำอย่างไร?

เราเพิ่งได้ยินจากคนรอบข้างที่หวังดีกับเราว่า ให้เราคิดดูดีๆที่คบกับผู้ชายคนนี้ เพราะเขาเป็นเสือผู้หญิงมาก่อน และอย่าไปพลาดท่าให้เด็ดขาด!
ทั้งๆที่ความจริง เราไม่ได้คบกับเขาเลยด้วยซ้ำ แถมทะเลาะกันไม่คุยกันนานเป็นปีๆ
แต่กลับมาได้ยินคนมาเล่าให้ฟังว่า เขามักจะพูดว่า เราเป็นแฟนของเขา เราทำงานเก่งทุกอย่าง และมีศักยภาพในการทำงานสูง 
สอบเข้ามาทำงานด้วยตนเองโดยไม่มีใครช่วย เราเก่งมากๆ และบอกว่าเราทำงานอยู่ตรงนั้นตรงนี้
...ทั้งๆที่ เขาและเราเคยถูกบุคคลที่สาม สี่ ห้า ที่ทำงานเก่าของพวกเรา ปั่นหูให้ทะเลาะกัน

และจบกันไปด้วยความบาดหมางกัน เขาก็พูดว่าไม่ชอบเรา เราก็บอกว่าเราไม่ได้ชอบเขา และตอกหน้าว่าเขาไม่หล่อเลยสักนิด เราจะชอบเขาได้อย่างไร? ซึ่งมันอาจจะเป็นประโยคตอกหน้าเขา แต่เราได้ทำการขอโทษเขาที่พูดแบบนั้นออกไป เพราะเขาพูดว่าเราต่อหน้า บุคคลที่ประสงค์ร้าย และคอยกลั่นแกล้งเราที่ทำงาน เพราะเขาร่วมงานและประสานงานในห้องเดียวกันกับบุคคลที่คอยกลั่นแกล้งเรามาก่อน 

เวลาเลยมาได้สัก 5 ถึง 6 ปีแล้ว จนเรามีงานมั่นคง เราสอบแข่งขันจนกว่าจะประสบความสำเร็จ จนเพิ่งมาได้ยินว่าเขาไปพูดว่า เขามีแฟนแล้ว และแฟนของเขาก็คือเรา... มันย้อนแย้งกับคำที่เขาขึ้นเสียงใส่เราตอนนั้น และเราก็ใช้น้ำเสียงเย็นยะเยือกใส่เขาไปเช่นกัน และพูดตอกหน้าเขาโดนไม่เกรงใจว่าตนเองเป็นแค่ลูกน้อง กลับไปโต้วาทีหัวหน้างานแบบนั้น...

แต่ถ้าถามความรู้สึก... แบบว่าเราชอบเขาไหม?
ก็เคยหลงไปเพราะอะไรหลายๆอย่าง เช่น ดวงเนื้อคู่ในเกณฑ์ชะตาที่เรายึดรอเนื้อคู่มาตลอดแบบติ๊งต๊อง พวกผู้หญิงที่ไม่หวังดีที่ตอนแรกยุให้คบกันแบบแกล้งเรา แล้วพอพวกเราทะเลาะกัน...ก็มาโทษว่าเราทำให้เขาเสียศักดิ์ศรี ทั้งๆที่เราน่าจะเป็นฝ่ายที่เสียศักดิ์ศรี เราไม่เคยคิดจะคบใครด้วยซ้ำ ทำงานเพื่อคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอด และรู้สังคมแวดวงในที่ทำงานดี จึงไม่มองใครและไม่เปิดใจให้ใครค่ะ

ถึงจะเขว้ไปเพราะคำพูดคนอื่น กับหมอดู และโหราศาตร์ไปอย่างหนักหน่วง แต่เราก็ไม่ได้วิ่งเข้าหา หรือแบบจะต้องประกาศอะไรขนาดนั้น เพราะเราเป็นผู้หญิงก็ต้องนิ่งเข้าไว้! แต่ก็มีบางทีก็จ้องมองหน้าของเขาเวลาที่ได้เจอกันก็คิดว่าเหมือนเคยเจอกันตามที่เขาเคยทักเราตอนที่เจอเราครั้งแรกว่า "เราเคยเจอกันมาก่อนไหม?" แต่ตอนนั้นคือด้วยลักษณะงานตำแหน่งของเขา เรากลับอคติกับคนกลุ่มนี้เราเลยปัดไปว่า "ไม่เคยเจอค่ะ" 

แต่พอมามองจ้องดีๆ ก็มีความรู้สึกไปเองจริงๆว่า...เหมือนเคยเจอกันทีไหนสักที่ ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันเลยสักครั้งค่ะ แต่ตอนที่ทะเลาะกันสารภาพเลยค่ะว่า เรากลับมานั่งร้องไห้เป็นเดือนๆ พร้อมทั้งโดนพวกพนักงานผู้หญิงที่ทำงานเก่ากลุ่มเล็กคอยแซะ พูดเสียดสีใส่ และกระแทกใส่เราตลอด
ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เรารู้ตัวเองว่า เราเผลอใจไปรักเขาได้อย่างไร? เรางงตัวเอง เพราะทั้งการกระทำของเขามันทำให้หัวหน้าบางคนจับสักเกตได้เช่นกันว่า เขากำลังหว่านเสน่ห์ใส่เรา เพียงแต่เราไม่เล่นด้วย และไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้น เราคิดว่าเขาเป็นแค่หัวหน้าคนหนึ่งมาตลอด เลยไม่ได้คิดอะไร แถมเขาแก่กว่าเราตั้ง 13 ปี

แต่อย่างไรก็ไม่ชอบเขาอยู่ดี จนกระทั่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นเกลียดค่ะ ...เพราะคนลือกันว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง และเราก็ไม่ชอบคนประเภทนี้เสียด้วย ถ้าเราพูดเสียมารยาทเราขออภัยก่อนเลยนะคะ คือเรา...ไม่อยากได้ว่าที่สามีในอนาคตที่ผ่านผู้หญิงมาแบบเป็นสิบๆ 
รวมถึงถ้าหากเราได้เอ่ยสถานะของเขาแล้ว...มีหรือผู้หญิงจะไม่ชอบกัน หากยิ่งได้แต่งงานกับเขา อนาคตก็จะได้เป็นคุณหญิงเดินเชิดๆหรูๆ ได้ออกงานสังคม และมีคนเคารพและทำความเคารพให้

แต่ว่า...ความรักในอุดมคติของเรา คือ...เราและคนในอนาคตต้องรักกันด้วยความจริงใจ และซื่อสัตย์ และยอมรับสิ่งที่ดีและผิดพลาดของอีกฝ่าย และมองเห็นตัวตนของอีกฝ่าย และไม่มองกันที่ผิวเผิน เช่น อาชีพ การงาน ตำแหน่ง หุ่น รวมถึงหน้าตาของอีกฝ่าย
(แต่ที่เราไปว่าเขาว่าไม่หล่อ คือสุดจะทนแล้วค่ะ เล่นพูดต่อหน้าคนที่คอยกลั่นแกล้งเรา เราก็ทำให้เขาหน้าแหกซะเลย! ก็มีพี่ที่เป็นกลางนั่งสะใจอยู่ข้างหลัง) 

แต่ตอนนี้กลับเป็นว่า...เราเป็นแฟนเขาแบบงงๆ เรานี่กุมขมับเลยค่ะ
เราไม่มีความรักให้ใครจริงๆค่ะ และคิดว่าอยากอยู่คนเดียว วันไหนขี้เกียจ ก็ขี้เกียจได้สบายๆ คงจะขิวๆสบายๆ เพราะส่วนตัวเราชอบไปเที่ยวไหนคนเดียว บางทีก็อาจจะมีเรียกเพื่อนๆไปเที่ยวด้วยกัน แต่เรามักจะมีแต่เพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้หญิงเราน้อยและเลือกคบคนค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่