รักพังเพราะทำหน้าที่ (บวชทดแทนคุณ)

สวัสดีครับ ผมชื่อ D (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ผมทำงานเป็นนักร้อง นักดนตรี ใน จ.ฉะเชิงเทรา ผมมีแฟนคนนึง ผมรักแฟนคนนี้มากครับ เราอยู่กินด้วยกันนานมาก ผมเข้าทางพ่อแม่เขาได้ดีระดับนึงเลย ว่างจากงานเล่นดนตรี ผมก็ช่วยทำงานอื่นๆ เช่น ฉีดยาหญ้า ฯลฯ แฟนผมคนนี้เป็นคนที่ออกจะห้าวนิดหน่อย มักจะทำตัวคล้ายเด็กอยู่ตลอด เนื่องจากเขาเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ยังเล็กๆ เราทั้งคู่อยู่กินกันแบบเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งแฟน ทะเลาะกันบ้างในบางครั้ง แต่ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือ เพราะผมเป็นคนให้เกียรติฝ่ายหญิง ทุกงานที่ผมไปทำผมมักจะพาเขาไปเสมอ รถก็ให้ใช้ ได้เงินมาก็ให้เกือบหมด อยากได้อะไรก็สรรหาให้ทุกอย่าง เรียกได้ว่าเป็นคนตามใจแฟนมากๆคนนึงเลย ผมมีแพลนจะแต่งและหมั้นหมายกันตอนผมสึก แต่เขาบอกว่าเขายังไม่พร้อม ผมก็ไม่ได้บังคบอะไร จนมาถึงวันที่ผมต้องบวช ผมเคยบอกเขาว่าผมจะบวชแค่15วัน เพราะผมทำงานเกี่ยวกับนักร้องนักดนตรี เขาก็โอเค แต่พ่อของผมขอให้ผมอยู่ครบพรรษา ผมเลยอยู่ตามคำขอของพ่อ ระหว่างที่ผมไปอยู่วัด ผมก็ให้รถเขาเอาไว้ใช้ตามปกติ แต่ที่เริ่มแปลกขึ้นทุกวันคือเขาเริ่มไม่เข้าบ้านโทรศัพท์ไม่รับ ผมเลยติดต่อไปที่แม่ของเขา แม่เขาก็บอกว่าเขาไปธุระ ผมก็เลยโล่งใจ จนผมบวชได้ประมาณ4วัน มีรุ่นน้องที่ทำงานด้วยกัน แคปรูปจาก FB ส่งมาให้ผมดู ภาพนั้นคือทำให้ผมใจสลายมาก เขาถ่ายรูปคลอเคลียกัน และได้ตั้งสถานะกัน ตอนนั้นผมเสียใจมากๆ ทำให้ผมรู้สึกไม่อยากบวชอยู่ ณ เวลานั้น แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ ผมเลยตัดสินใจอยู่ต่อ ผ่านไปประมาณ2วัน เขาได้ติดต่อกลับมาหาผม และได้บอกผมว่าท้อง ซึ่ง ณ เวลานั้นถ้าท้องก็ต้องเป็นลูกของผมอยู่แล้ว ผมเลยให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขาได้ไปตรวจอายุครรภ์ ผลสรุป เขาท้องได้ 2-3เดือน ซึ่งผมไม่เคยป้องกันเลยสักครั้ง เพราะผมอยากมีลูก เขากลับมาหาผมได้พักนึง และเขาก็เปลี่ยนรหัส FB ของเขา และหายไปเลยพักนึง จนกระทั้งเขาได้กลับมาอีกครั้งนึง โทรมาหาผม และได้บอกผมว่า "ลูกไม่ได้อยู่กับเราแล้ว" ผมเลยถามว่า "ทำไม" เขาให้คำตอบที่ผมโคตรจะเสียใจ คือ "หนูไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น แล้วคนนั้นมันติดยา หนูพูดอะไรไม่เขาหูหน่อยก็ตบตีหนู และมันก็เตะหนูจนแท้ง" ผมเลยกลั้นใจบอกเขาไปว่า ไม่เป็นไร คนเรามันมีพลาดกันได้ ลูกเราทำบุญมาแค่นี้ ผมเลยให้โอกาสเขาครั้งสุดท้ายเพื่อจะให้เขาปรับตัวใหม่ แต่กลับเหมือนเดิม เริ่มออกลายตั้งแต่กลับมาครั้งแรก บอกเลิกกับผมไป ผมเลยถามไปว่า ถามจริง ที่ทำไปไม่สงสารกันบ้างเหรอ เขาตอบมาว่า สงสารแต่จะทำยังไงได้ เขาจะมาแต่งหนู ผมเลยถามเขาไปว่า มั่นใจแล้วใช่ไหม ว่าเขาจะดูแลได้ มั่นใจแล้วใช่ไหมว่าดขาจะไม่ทำร้าย และมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าเขาจะแต่งจริงๆ ที่เขาบอกจะแต่ง รู้จักกันนานแล้วเหรอ เขาให้เหตุผลมาว่า รู้จักกันก่อนที่จะมาอยู่กับผมอีก ณ ตอนนั้นทำให้ผมรู้สึกดิ่งลงไปอีกครั้ง 
ข้อความสุดท้ายที่ผมได้คุยกัน ผมบอกเขาไปว่า "ขอให้เขาใจดีแบบที่ผมใจดี ขอให้เขารักแบบที่ผมรัก ขอให้เขาดูแลแบบที่ผมดูแล และชายคนนี้หวังดีกับหนูเสมอ" เหตูการ์ณในวันนี้ทำให้ผมได้ข้อคิดว่า คนเรา ถ้ามันรักกันจริง ต่อให้คุณไปทำงานเป็นสิบปีเขาก็รอ แต่ถ้าคนเราถ้ารักเล่นๆ คุณทำให้เขาแทบตาย เขาก็ไปจากคุณอยู่ดี 
และนี่คือประสบการ์ณที่ผมอยากจะแชร์และให้ข้อคิดครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านจนจบนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่