พอดีเมื่อวานมีเวลาว่างนิดนึงเลยลองมานั่งคิดๆว่าถ้าดูตามหลักสถิติแล้ว หลังจากการแข่งขันคัดโอลิมปิกจบลง แต่ละทีมจะมีคะแนนเปลี่ยนไปมากน้อยขนาดไหน ก่อนที่จะลองไปดูคะแนนกัน ขอแจ้งรายละเอียดคร่าวๆก่อนนะครับ
1. อันนี้เป็นการลองคำนวณคร่าวๆ คิดว่าน่าจะมีผิดพลาดบ้าง ถ้ามีผิดพลาดขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
2. การคำนวณคะแนนของ FIVB แบบใหม่นี้ ทำให้การลอง run simulation ยากขึ้นมาก เพราะคะแนนของแต่ละทีมจะเปลี่ยนตลอด พูดง่ายๆคือลำดับการแข่งขันมีผลต่อคะแนน เช่นถ้าไทยแข่งกับเกาหลีในเกมแรก และเยอรมันในเกมสุดท้าย คะแนนก็จะไม่เท่ากับการเจอเยอรมันในเกมแรก และเกาหลีในเกมสุดท้าย ทั้งๆที่ผลการแข่งขันอาจจะเหมือนกัน
3. ในการแข่งขันแต่ละแมทช์ ผลการแข่งขันจะออกได้ 6 หน้า คือ 3-0,3-1,3-2,2-3,1-3,0-3. นอกจากนี้ในการแข่งขันทั้ง 3 pools จะมีจำนวนแมทช์การแข่งขันทั้งหมด 84 แมทช์ ทำให้รูปแบบคะแนนที่จะออกได้ จะมีจำนวนทั้งหมด 6
84 หรือประมาณ สองแสนสามหมื่นล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้าน (ล้านทั้งหมด 10 ครั้ง) ซึ่งคงจะไม่สามารถแสดงผลได้ทุกรูปแบบและคงจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร
4. ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้นผมเลยลองใช้สมมติฐานว่าผลการแข่งขันจะเป็นไปตามความน่าจะเป็นที่มากที่สุดของแต่ละแมทช์ กล่าวคือ FIVB ใช้หลักสถิติในการคำนวณคะแนน โดยในการแข่งขันแต่ละแมทช์ FIVB จะคำนวณความน่าจะเป็นของผลการแข่งขันในแต่ละรูปแบบ ซึ่งความน่าจะเป็นนี้ก็คิดมาจากส่วนต่างของคะแนนทั้งสองทีม ยกตัวอย่างเช่นในเกมของ USA-Colombia เนื่องจากคะแนนต่างกันค่อนข้างมาก โอกาสที่ USA จะชนะ 3-0 มีถึง 68.27% ดังนั้นผมเลยสมมุติให้ USA ชนะ 3-0 ในทางกลับกัน ถ้าเป็นเกมระหว่าง Germany-Thailand เนื่องจากคะแนนต่างกันไม่มากนัก ความน่าจะเป็นจึงออกมาเป็นดังนี้
Germany wins 3-0 = 16.62%, Germany wins 3-1 = 21.47%, Germany wins 3-2 = 15.53%, Thailand wins 3-2 = 14.99%, Thailand wins 3-1 = 18.90%, Thailand wins 3-0 = 12.49%.
ดังนั้นในกรณีนี้ ผมสมมุติให้เยอรมันชนะไทย 3-1 เพราะเป็นผมการแข่งขันที่มีความน่าจะเป็นสูงสุดครับ
5. การใช้สมมติฐานแบบนี้ทำให้ทีมที่มีคะแนนสูงอยู่แล้วจะยิ่งมีคะแนนสูงๆขึ้นไปอีก ส่วนทีมที่คะแนนน้อยก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นการคำนวณแบบนี้โอกาสคาดเคลื่อนสูงมาก อย่าซีเรียส และขอความกรุณาอย่าดราม่ามากนะครับ
6. จากการใช้สมมติฐานนี้ ไทยจะแพ้ใน 4 แมทช์แรก (เยอ เมกา อิต โป) และจะชนะใน 3 แมทช์สุดท้าย (สโลเวเนีย เกา โคลอมเบีย) ดังนั้นก็มาช่วยกันลุ้นว่าเราต้องเก็บสามเกมสุดท้ายให้ได้แบบขาดๆตามคาด และควรจะพลิกให้ได้ใน 4 แมทช์แรก (หรือแพ้ 2-3 อะไรแบบนี้) เพื่อที่จะทำให้คะแนนสูงกว่าที่คาดการครับ
เกริ่นมายาวมาก มาลองดูการคาดการคะแนนกันครับ
จะเห็นว่าพอใช้สมมติฐานนี้ ทีมที่คะแนนเยอะอยู่แล้วจะยิ่งเยอะขึ้นไปอีกเพราะมีโอกาสที่จะชนะต่อเรื่อยๆสูง ส่วนทีมที่เริ่มด้วยคะแนนน้อยก็จะลดลงเรื่อยๆเพราะยิ่งแข่งยิ่งแพ้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามสมมติฐานนี้จริง คะแนนเกาหลีจะลดลงไปฮวบมากๆ ส่วนคะแนนไทยจะทรงๆเท่าเดิม
ลองมาดูอันดับก่อนและหลังกันดูครับ
จะเห็นว่าระบบการให้คะแนนแบบใหม่นี้ คือไม่มีคะแนนเข้าร่วมอีกต่อไป ถ้ารู้ว่าได้เข้าแข่งแล้วแพ้แน่ๆ นอนเล่นอยู่บ้านเฉยๆอาจจะดีกว่า ยกตัวอย่างเช่นด้วยสมมติฐานนี้ คาดการว่าเกาหลีจะแพ้รวด (แพ้ 3-0 ซะส่วนใหญ่ด้วย) ซึ่งจะทำให้คะแนนลดลงไปมากจริงๆ
สุดท้ายนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าอันนี้เป็นการลองคาดเดาตามหลักสถิติเฉยๆ โอกาสคลาดเคลื่อนสูงมากๆๆๆๆ ดังนั้นขอความกรุณางดดราม่านะครับ ถ้าเชียร์ทีมไหนหลักการเดิมง่ายๆคือเชียร์ให้ชนะให้มากที่สุด ยิ่ง 3-0 ยิ่งดีครับ แล้วคะแนนก็จะขึ้นเอง ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนขออภัยล่วงหน้านะครับ
มาลองคิดคะแนนอันดับโลกหลังจบการคัดโอลิมปิกของทุกทีมดูครับ
1. อันนี้เป็นการลองคำนวณคร่าวๆ คิดว่าน่าจะมีผิดพลาดบ้าง ถ้ามีผิดพลาดขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
2. การคำนวณคะแนนของ FIVB แบบใหม่นี้ ทำให้การลอง run simulation ยากขึ้นมาก เพราะคะแนนของแต่ละทีมจะเปลี่ยนตลอด พูดง่ายๆคือลำดับการแข่งขันมีผลต่อคะแนน เช่นถ้าไทยแข่งกับเกาหลีในเกมแรก และเยอรมันในเกมสุดท้าย คะแนนก็จะไม่เท่ากับการเจอเยอรมันในเกมแรก และเกาหลีในเกมสุดท้าย ทั้งๆที่ผลการแข่งขันอาจจะเหมือนกัน
3. ในการแข่งขันแต่ละแมทช์ ผลการแข่งขันจะออกได้ 6 หน้า คือ 3-0,3-1,3-2,2-3,1-3,0-3. นอกจากนี้ในการแข่งขันทั้ง 3 pools จะมีจำนวนแมทช์การแข่งขันทั้งหมด 84 แมทช์ ทำให้รูปแบบคะแนนที่จะออกได้ จะมีจำนวนทั้งหมด 684 หรือประมาณ สองแสนสามหมื่นล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้าน (ล้านทั้งหมด 10 ครั้ง) ซึ่งคงจะไม่สามารถแสดงผลได้ทุกรูปแบบและคงจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร
4. ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้นผมเลยลองใช้สมมติฐานว่าผลการแข่งขันจะเป็นไปตามความน่าจะเป็นที่มากที่สุดของแต่ละแมทช์ กล่าวคือ FIVB ใช้หลักสถิติในการคำนวณคะแนน โดยในการแข่งขันแต่ละแมทช์ FIVB จะคำนวณความน่าจะเป็นของผลการแข่งขันในแต่ละรูปแบบ ซึ่งความน่าจะเป็นนี้ก็คิดมาจากส่วนต่างของคะแนนทั้งสองทีม ยกตัวอย่างเช่นในเกมของ USA-Colombia เนื่องจากคะแนนต่างกันค่อนข้างมาก โอกาสที่ USA จะชนะ 3-0 มีถึง 68.27% ดังนั้นผมเลยสมมุติให้ USA ชนะ 3-0 ในทางกลับกัน ถ้าเป็นเกมระหว่าง Germany-Thailand เนื่องจากคะแนนต่างกันไม่มากนัก ความน่าจะเป็นจึงออกมาเป็นดังนี้
Germany wins 3-0 = 16.62%, Germany wins 3-1 = 21.47%, Germany wins 3-2 = 15.53%, Thailand wins 3-2 = 14.99%, Thailand wins 3-1 = 18.90%, Thailand wins 3-0 = 12.49%.
ดังนั้นในกรณีนี้ ผมสมมุติให้เยอรมันชนะไทย 3-1 เพราะเป็นผมการแข่งขันที่มีความน่าจะเป็นสูงสุดครับ
5. การใช้สมมติฐานแบบนี้ทำให้ทีมที่มีคะแนนสูงอยู่แล้วจะยิ่งมีคะแนนสูงๆขึ้นไปอีก ส่วนทีมที่คะแนนน้อยก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นการคำนวณแบบนี้โอกาสคาดเคลื่อนสูงมาก อย่าซีเรียส และขอความกรุณาอย่าดราม่ามากนะครับ
6. จากการใช้สมมติฐานนี้ ไทยจะแพ้ใน 4 แมทช์แรก (เยอ เมกา อิต โป) และจะชนะใน 3 แมทช์สุดท้าย (สโลเวเนีย เกา โคลอมเบีย) ดังนั้นก็มาช่วยกันลุ้นว่าเราต้องเก็บสามเกมสุดท้ายให้ได้แบบขาดๆตามคาด และควรจะพลิกให้ได้ใน 4 แมทช์แรก (หรือแพ้ 2-3 อะไรแบบนี้) เพื่อที่จะทำให้คะแนนสูงกว่าที่คาดการครับ
เกริ่นมายาวมาก มาลองดูการคาดการคะแนนกันครับ