เรื่องเล่าขนหัวลุก ตอน แม่ก็คือแม่

เรื่องที่จะเล่าเป็นประสบการณ์การตรงที่เจอมากับตัวเอง และเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 
        เรื่องราวเกิดขึ้นสมัยเราอายุ 13 ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่พ่อกับแม่เรากลับมาอยู่บ้าน หลังจากที่ไปทำงานที่ไปทำงานที่อื่นมาหลายปีแกก็เริ่มสร้างเนื้อสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลยกะว่าจะสร้างบ้านไว้ให้ลูกอยู่ พอสร้างบ้านเสร็จได้ไม่ถึงเดือนทีนี้ย่าที่อยู่อีกจังหวัดแกเสีย พ่อกับแม่เราหลังจากจัดงานศพเสร็จสับก็กลับมาบ้านตัวเองก็คุยกันตัดสินใจจะย้ายไปอยู่ที่บ้านย่าทาวร แล้วจะเอาน้องคนเล็กไปด้วยให้น้องคนโตอยู่กับเราทีนี่ แล้วทีนี้วันก่อนแกจะเดินทางช่วงเย็นแกพวกยายๆข้างบ้านก็บอกว่าเห็นแก เดินเก็บดอกไม้ที่อยู่แถวๆบ้าน ตักน้ำใส่ขันใส่น้ำหอมแล้วแกก็เรียกตายาย
" แม่ พ่อ มานั่งตรงนี้หน่อยหนูเก็บดอกไม้มาไหว้พึ่งนี้จะไปแล้ว " 
ตากับยายก็พูดเสียงดังใส่แม่ไป " จะไหว้ทำไม จะไปก็ไปไม่ต้องมาไหว้มันไม่ดี " 
แม่เราก็เลยตอบ " หนูมาขอขมาไง กว่าจะได้กลับมาให้หนูทำเถอะไม่เป็นไรหรอก "
ตากับยายก็หงุดหงิดอยู่พักหนึ่งตามประสาคนแกที่เค้ารู้ไม่ใช่เทศกาลไม่ต้องขอขมาอะไร คือแถวบ้านเราถือเรื่องนี้  แต่สุดท้ายแกก็ยอม แม่ก็เอาดอกไม้ที่ อยู่ในขันน้ำพรมล้างมื้อล้างเท้าให้ตายาย แล้วแกก็น้ำตาไหล ตายายก็เลยถาม " เป็นอะไร " แกก็ตอบ "หนูไม่อยากไป" ตาก็ยกมือจับหัว " ไม่เป็นไรลูกผัวไปไหนเมียก็ไปด้วยถึงมีเรื่องทะเลาะกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน เองอยู่นี่มัน (หมายถึงพ่อ) ก็มาตามเองไปอยู่ดี " แม่ก็พยักหน้าแล้วก็ไหว้ตากับยาย ตกช่วงค้ำเราที่ไปโรงเรียนกลับมาพอดีที่บ้านก็เลี้ยงส่งพ่อแม่กับใหญ่แล้วอยู่ๆป้าข้างบ้านก็พูดให้พ่อฟังว่า " เอาเมื่อคืนป้าฝัน ว่ามีเครื่องบินสองลำมาจอดหน้าบ้านเองระวังหน่อยน่ะเดินทางอ่ะ หรือไม่ก็อยู่ทีนี่สักพักค่อยไป " พ่อเราก็เลยพูดเสียงดังใส่ " เพ้อเจ้อน่ะป้า ผมวางแผนไว้แล้วว่าจะไป ป้าไปนั่งกินข้าวนุ้นไป่ "  หลังจากนั้นพอจบงานเลี้ยงเราก็เดินไปหาแม่ที่แต่งตัว เราจะขอตังค์แม่ไปโรงเรียนก่อนวันที่จะไป เราก็พูดกับแม่ " แม่ขอตังค์ไปโรงเรียนหน่อย " แม่ก็ยื่นเงินให้เรา 100 แล้วก็พูดว่า " ตั้งใจเรียนนะลูก " เราก็ยกมือไหว้แล้วไปนอน เช้าวันต่อมาเราไปโรงตามปกติที่นี้ตอนเลิกเรียนเราก็ไปซื้อชาไข่มุกมาแก้วหนึ่ง เดินออกจากร้านได้ไม่กี่เก้าดูดชาไข่มุกได้คำ 1 แก้วแตกคามือเราเลย ไอ้เราก็ตกใจแต่ไม่ได้คิดอะไรคงเพราะแก้วมันบางเสียดายด้วยตังค์ที่แม่ให้ก็หมดแล้วด้วย  
เราขับรถกลับถึงบ้านวางกะเปล่า ไอ้ไม่ถึง 5 นาทีตำรวจโทรมาหายายข้างบ้าน ว่าแม่พ่อรถคว่ำ ตากับยายก็รีบขับรถไปที่เกิดเหตุ พักหนึ่งแล้วตำรวจก็โทรมาอีก แม่กับพ่อเราเสียแล้ว เราก็ร้องไห้เตรียมเสื้อผ้าข้าวของไปรับศพแม่โรงบาล พอถึงโรงบาลลุงที่มาโรงบาลกับายแกวิ่งตาแดงมาหาเรา เราก็ตามถามลุง แม่อยู่ไหน แกก็บอกอยู่ทางนู้นนอนอยู่กับพ่อเองไง วินาทีที่เห็นผ้าขาวห่อร่างแม่ตัวเองเราทรุดลงกับพื้น จนลุงต้องพยุงเราขึ้นมา เราก็ไหวศพแม่เสร็จเราก็ถามลุง น้องไปไหน เพราะน้องไปกลับแม่แต่น้องไม่เป็นอะไรแค่ช่วงในภาวะตกใจเพราะเด็กแค่ 6 ขวบ โรงบาลก็มาพาร่างแม่กลับบ้าน ถึงที่หมายทางบ้านเราก็เตรียมสถานที่จัดงานศพแล้ววันงานก็มีลุงเพื่อนพ่อที่ไปกับแม่ก็เล่าให้ฟังว่า ไปกัน 5 คน พ่อก็เราทะเลาะกันแล้วขับรถเร็วกำลังจะแซงทางสองเรน แต่พอดีรถสวนเรนมาแกเลยหักหลบแล้วข้างทาง ลุงแกไม่เป็นไรแต่เมียแกตอนนี้อยู่โรงบาลผิวหนังหน้าหายไปครึ่งหนึ่ง ทุกคนในงานตกใจกันพักใหญ่งานจัดให้แม่พ่อก็ 7 วัน ในระหว่าง 7 วันก็ วันแรกไม่มีอะไรวันที่สองตำรวจโทรมาหาพี่ชายแม่ ว่าให้มาเอารถกลับไปหน่อยผมไม่ไหวแล้ว ผมจะเข้าไปดูรถไม่ได้เลยกลิ่นคราวเลือดท่วมรถ แถมหมาก็เห่าทั้งคืนจนผมไม่ได้นอน รถก็ร้องทั้งๆที่พังขนานนั่นมารับกลับไปเถอะคับ น้ำเสียงเค้าลุงบอกแทบจะคุกเข่าอ้อนวอน วันต่อมาลุงกับน้าเลยก็นัดกันไปลากรถกลับลุงก็ขับขันลากส่วนน้าเขยก็ขับรถพ่อกับแม่ กลับมาถึงบ้านแกบอกระหว่างขับมานิผมขนลุกทั้งตัวเลย กลิ่มคราวเลือด กลิ่นธูปนิเต็มรถเลย แต่ผมก็ยกมือไหว้บอกผมเองเดี่ยวผมจะพาพี่กลับบ้านไม่ต้องห่วงนะจู่ๆกลิ่นก็หายไปทั้งหมดเลย วันที่ 4 น้าผู้ชายน้องสาวแม่ก็มาเล่าให้ยาวฟังอีกว่า เมื่อคืนผมนอนบ้านอีกหลังหนึ่ง ด้วยความที่บ้านเรามี 2 หลัง ผมนอนคนเดียวระหว่างที่นอนๆก็รู้สึกเหมือนแบบมีคนนอนลงข้างๆ ผมก็สาวมือไป มือผมโดนผมยาวเลยด้วยผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าแม่คงมานอนด้วย ตื่นเช้ามาผมก็ถรมแม่เนี่ยได้ไปนอนก็ผมไหม ยายก็บอกไม่ได้ไป ไม่ใครไปหรอก ไม่ใช่พี่ไปหาเหรอ น้าก็รีบจุดธูปไหว้แม่ทันที และวันที่ 6 อยู่ๆไฟก็ดับทั้งหมู่บ้าน แต่พอมองไปโรงเย็นาี่ใส่พ่อแม่อยู่กับติด ทุกในงานก็ต้องใจแล้วก็พูดบอกแกว่า เราทุกคนมาดีมาด้วยรักและหวังดีอย่ามาทำให้กลัว แค่นั้นไม่นานไฟก็ติดขึ้นมาเชยๆ สุดท้ายวันที่เผาร่างแก ด้วยความที่ว่าหมู่บ้านสมัยนั้น เมรุ มีแค่อันเดียว วัดก็เตรียมให้เผาคน หนึ่งบนกองฟอน คนหนึ่งเผาในเมรุ ด้วยความที่แม่เราอายุน้อยกว่าพ่อแกก็ได้เผ่าบนกองฟอน ตอนที่สวดทำพิธีก็ไม่มีอะไร จนตอนจะจุดไฟทางพ่อไหม้ไปแล้ว แต่แม่เด็กในวัดจุดยังไงก็ไม่ติดทั้งๆที่ลาดน้ำมันแล้ว หลวงที่สวดก็เลยให้เรากับน้องไปขอขมาแม่เป็นครั้งสุดท้าย และให้คนในครอบครัวเป็นคนจุดเราก็เดินไปทั้งน้ำตาบอกลาแม่ แล้วน้าผู้ชายก็เดินถือไฟทิ้งใส่กองฟอนติด ไฟลุกท่วมเผ่าร่างแม่ไปเผ่าเสร็จ ที่บ้านก็เก็บกระดูกมาใส่ที่ใส่อัดทิ แล้วก็มาเก็บไว้ในบ้านที่ห้องแก แต่เชื่อเถอะคนอยู่บ้านอยู่ไม่ได้ เพราะอะไรโปรดติดตามค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่