เลิกกับแฟนเพราะเขาบอกว่าอยากใช้ชีวิตคนเดียวมากกว่า

สวัสดีค่ะเรายังเป็นนักศึกษาปี2อยู่ ช่วง3เดือนก่อนเคยตั้งกระทู้ว่าไม่เข้าใจแฟนที่เพิ่งขึ้นมหาลัยเขาขอเราแยกกันอยู่3เดือนแล้วบอกจะกลับมายังอยู่แน่นอน
มาวันนี้ครบ3เดือนแล้ว ปกติก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้วส่วนใหญ่จะโทรคุยกันมากกว่า เราจบโรงเรียนมัธยมที่เดียวกันเขาเป็นน้องเรา1ปี เราพยายามให้เขาพูดออกมาว่าจะเอายังไงต่อเพราะไม่อยากรอไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าเขาไม่อยากไปต่อจะได้หยุด ตอนแรกเขาก็เบี่ยงจะตอบตลอด บอกว่าไม่ว่าง เครียดอยู่ค่อยคุยหลังสอบไฟนอลก่อนแต่อีกตั้งเดือนนึงถึงจะสอบ เราเลยขอว่าให้เครียดไปเลยวันนี้วันเดียว เขาก็บอกว่าพรุ่งนี้ ตอนนี้อยู่ข้างนอก จนสุดท้ายก็ยอมเคลียร์กันในคืนนั้นเลย เขาว่างั้นผมเลิกเลย ผมอยากใช้ชีวิตแบบนี้ เราถามว่าทำไมไม่บอกกันให้เร็วกว่านี้ล่ะ เขาให้เหตุผลว่า อยากลองใจตัวเอง ยังรู้สึกกับเราอยู่แต่อยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมากกว่า  แล้วเขาก็บอกว่าไม่ใช่เพราะเขามีสาวอื่นมันเพราะเขาอยากอยู่คนเดียวจริงๆ
เขาไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าขอโทษตอนที่เราระบายความรู้สึกออกไป เราลากันครั้งสุดท้ายด้วยการบอกรักกันครั้งสุดท้าย เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน สัญญา
เราทำใจมาตลอด3เดือนมีกำแพงใส่เขาสูงกว่าเดิม อยากรั้งเขาไว้แต่คิดว่าการปล่อยเขาออกไปคงดีที่สุด 
เราร้องไห้อยู่เป็นชม.ก็พอดีขึ้นบ้างเพราะเพื่อนกับน้องๆที่รู้เรื่องก็ชวนเล่นเกม แต่มันดีขึ้นแค่ชั่วคราว ตอนนี้ตื่นมามันปวดใจหน่วงๆบอกไม่ถูก
หาอ่านกระทู้คนที่โดนเหมือนกันเขาก็บอกว่าผช.แบบนี้เห็นแก่ตัว คิดว่าเพราะเรายังทำใจไม่ได้ที่ต้องลาจากคนแรกที่ทำให้รู้ว่ารักเป็นยังไง

เราจะหวังมากไปมั้ยถ้าเราหวังว่าสักวันนึงถ้ามีโอกาสอยากกลับไปคบกับเขาในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า
อยากยืนข้างๆเขาในวันที่เขาเรียนจบอยากเห็นเขาประสบความสำเร็จตอนนี้ไม่ว่าจะสถานะอะไรก็ตาม
แต่มันคงดีกว่าถ้าได้อยู่ข้างๆในฐานะแฟนคนนึง
ที่บอกเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเราก็ไม่รู้จะทำยังไงเวลาเจอหน้ากัน มหาลัยเราคนละที่แต่อยู่ติดกันวันที่น้องๆเรียนจบเราก็ต้องเจอเขาอยู่แล้ว เราดันคิดไปไกลเรื่องอนาคตแล้ววางเขาไว้ในนั้นเต็มไปหมดเลยเพราะตั้งใจจะจริงจังกับคนนี้แต่สุดท้ายก็พังเพราะคำว่าอยากใช้ชีวิตคนเดียวของเขา
รักแรกมันลืมยากจริงๆ กลัวใจตัวเองจะกลับไปอ้อนวอนเขาทั้งๆที่เป็นแบบนั้น ควรจัดการความรู้สึกยังไงดีคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่