อาถรรพ์รัก 7 ปี มันจริงใช่ไหม ไม่เคยเชื่อจนมาเจอกับตัว

"เราเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมา 7 ปีกว่า ไม่คิดว่าจะมาถึงจุด ๆ นี้"
          เพิ่งไปเห็นกระทู้ของคน ๆ หนึ่งมา เรื่องความรัก 7 ปี เราก็เลยอยากจะพูดถึงความรักของเราเหมือนกัน
เรากับแฟนคบกันมาตั้งแต่ปี 58 เข้ากันได้ทุกเรื่อง เข้าใจกันและกันมากที่สุด อยู่กันแบบเหมือนคนในครอบครัว ที่ไม่มีความเขินอายใด ๆ ต่อกัน
ที่อยากจะบอกก็คือ
- ลำบากด้วยกันมาตั้งเยอะ อย่างกัดก้อนเกลือกิน คือจริงที่สุด มีครั้งหนึ่งเราทั้งคู่ไม่มีเงินเหลือ แล้วอีกหลายวันกว่าจะสิ้นเดือน พวกเราถึงขั้นกินข้าวต้มกับไข่เค็ม/ ปลาเค็มที่ซื้อมากินหลายๆ มื้อหน่อย หรือทุกครั้งที่เราไปเที่ยว ตจว.ด้วยกัน ไม่เคยมีคำว่าสบาย มีแต่คำว่าลำบาก แว๊นมอ'ไซค์ เป็นร้อย ๆ กิโล หรือเดินกันเป็นสิบ ๆ กิโล และอีกหลาย ๆ อย่างที่เราลำบากด้วยกันมา
- ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซัพพอร์ตกันทุกอย่างจนแต่ละคนมีอนาคตที่ดีขึ้น
- ที่สำคัญที่สุดคือ "แฟนรักเรามาก" รักที่สุด ทำทุกอย่างได้เพื่อเรา เราต้องการอะไรก็จะให้ทุกอย่าง และเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายยังคงอบอุ่นและแสดงความรักต่อกันเสมอ
*แล้วเราไม่รักกันตอนไหน*
เรามั่นใจในแฟนเรามาก ไม่เคยเช็ค ไม่เคยตาม ไม่เคยว่าอะไรเลย แฟนอยากเที่ยว อยากดื่มก็ไม่เคยว่า ไม่เคยยุ่ง หรือเพราะว่าไม่ตาม จึงกลายเป็นว่าเราไม่รัก? (เรามีเพื่อนที่ตามแฟนมากๆๆๆ จนเราคิดว่าถ้าเราเป็นผู้ชายก็คงรำคาญ พอเรามีแฟนจึงไม่ตาม)
จุดเริ่มต้นของปัญหา
- เข้าสู่ปีที่ 6 เราเริ่มเปลี่ยนไป จริง ๆ ในตอนนั้นก็ไม่คิดว่าเราผิดนะ แต่พอย้อนกลับมาดู ผิดที่เราเอง ปกติแฟนจะทักหาเราบ่อยมาก ๆ แต่หลัง ๆ มานี้เราไม่ค่อยอ่าน และไม่ค่อยตอบ คือเราเปลี่ยนงานด้วยและไม่ค่อยว่าง หรือไม่ให้ความสำคัญก็ไม่รู้ จนแฟนเริ่มบ่น แล้วเราก็บอกว่ารำคาญ เพราะประโยคนี้แหละ หลังจากนั้นแฟนบอกว่า งั้นต่อไปจะไม่ทักไปหาแล้ว  (หลังจากนั้นมา คือเราจะคุยกันก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้า และมีเรื่องที่จะคุยเท่านั้น ไม่มีเรื่องเล่าอื่น ๆ มาพูดคุยกันอีกเลย)
- ถัดมา แฟนออกไปท่องโลกกว้าง ขอบอกก่อน 6 ปีที่ผ่านมา เราอยู่กับแฟนตลอด ทั้งชีวิตของแฟนคือเรา แฟนมีแค่เรา ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเลย วันไหนเราเลิกงานเร็ว แฟนก็จะเลิกงานเร็วด้วยเพื่อให้ได้มีเวลามาอยู่กับเรา เป็นแบบนี้สม่ำเสมอ ประเด็นหลัก ๆ ก็คือ ในทุก ๆ วันของเราทั้งคู่ มีแค่กิน เดินห้าง ดูซีรีย์ นอน ไม่มีอย่างอื่นอีก เที่ยวกลางคืนก็ไม่เที่ยว ดื่มก็ไม่ดื่ม จนเราก็เข้าใจนะว่าแฟนคงจะเบื่อ แต่ให้ทำไง ไปเที่ยวกัน 2 คน มันก็ไม่สนุก เราก็ไม่อยากไป
     และต่อเนื่องมาจากไม่คุย วันหนึ่งแฟนบอกอยากไปเที่ยวกลางคืน เราไม่อยากไปจึงพูดไปว่า "เธอไปเลย ไปหาเพื่อนเที่ยว ชวนเพื่อนไปเที่ยว" คือตอนนั้นไม่คิดอะไรจริง ๆ แค่คิดว่าอยู่กันแบบนี้ก็คงเบื่อ เลยให้เค้าไปเที่ยวบ้าง และเราก็รู้ว่าเค้าไม่ค่อยมีเพื่อน ผลสรุปคือ เค้าไปเที่ยวโดยหาเพื่อนเที่ยวในแอพ แต่ในส่วนนี้เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรนะ เพราะแค่ไม่อยากให้เค้าเบื่อ
- สืบเนื่องจากการเที่ยว แรก ๆ อาจเบื่อจึงอยากเที่ยว และคงอยากทำให้เราหึงเราหวงมั้ง แต่เนื่องจากเราไม่ได้คุยกันก่อนหน้ามาแล้ว ยิ่งเจอแบบนี้ คือเราก็ยิ่งไม่คุย ไม่โทร ไม่ตาม จากไปเที่ยวกลางคืน กลายเป็นไปเที่ยวกลับมาเช้าอีกวัน หรือ ส-อา ไปนอนบ้านเพื่อนที่เจอในแอพ และหรือไปเที่ยวกลับมาอีกที 2 วันให้หลังโดยไม่มีการบอกกล่าว เพราะเราไม่โทร ไม่ถาม เค้าก็ไม่โทร ไม่บอก
- สำคัญที่สุดคือตัวเราเอง เราเป็นคนใส่ใจแฟนน้อยลง เพราะอยู่ด้วยกันมานาน สนิทกันอยู่กันแบบครอบครัว คือไม่รู้แล้วว่ารักหรือผูกพัน หลัง ๆ มาแฟนชวนไปไหน เราก็ไม่ไป ชวนไปห้างเราก็บอกว่าเบื่อไม่ไป (ไม่เบื่อได้ไง เดินทุกอาทิตย์ แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเพราะไม่ค่อยมีเงิน)

สุดท้าย เข้าสู่ปีที่ 7 ก็มาถึงจุดนี้จนได้ เราก้เตรียมใจมาพักใหญ่แล้วละ ว่าคงไปต่อไม่ได้ แล้ววันที่แฟนบอกเลิกก็มาถึง สิ่งที่เจ็บที่สุดที่เราได้รู้คือ แฟนเราไปมีคนคุยใหม่ตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวกับเพื่อนในแอพครั้งแรกแล้ว คุยกันน่าจะ 7-8 เดือนได้ จนแฟนลืมเราได้แล้ว จึงมาบอกเลิก 

ก็คิดนะ ทำไมต้องปีที่ 7 ที่เราคบกันด้วย อีก 4 เดือนก่อนเลิกก็จะครบ 8 ปีแล้ว ไม่เคยเชื่อจริง ๆ เรื่องอาถรรพ์รัก 7 ปี จนมาเจอกับตัวเอง
เรากับแฟนรักกันมาก เป็นทุกอย่างของกันและกัน ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดๆ นี้ หรือเพราะเราคบกันนานไป ไม่เคยพูดกันเรื่องอนาคตเลย ใช้ชีวิตอยู่กันไปวันๆ แบบเลื่อนลอย
       จนถึงตอนนี้ที่อยากจะบอกไปถึงใครคนนั้นถ้าได้อ่าน ผิดที่เราเอง ที่ไม่ใส่ใจมากพอ จนเธอรู้สึกเหมือนเป็นของตาย ทั้ง ๆ ที่ดีกับเราทุกอย่าง เป็นแฟนที่น่ารักและรักเรามาก ผูกพันกันมาก เป็นทุกอย่างของกันและกัน   "แล้วเราไม่รักกันตอนไหน" ขอบคุณนะสำหรับเวลาที่ผ่านมา เราคงจะหาคนที่เคยรักเราแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วแหละ  
(เราทั้งคู่จบกันด้วยดีนะคะ ในวันสุดท้ายของการเป็นแฟน เราก็ยังไม่เข้าใจว่าที่ตัวเองเปลี่ยนไปเป็นเพราะหมดรัก เหลือแค่ความผูกพัน หรือรักจนเฉยไม่เหลือความตื่นเต้นเหมือนวันแรกที่คบกัน)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คุณเคยเชื่อจิทวิทยา อุปทานหมู่ปะหละครับ คิดว่ามันต้องเป็นเพราะอันนั้นอันนู้นอันนี้ คุณคบของคุณมาอยู่ดีๆ ลืมวันลืมปี ลืมทุกสิ่ง จนมาถึงวันแตกหักแล้วคุณไม่รู้หละยังไง

แต่เสียงจากในอดีต จากข้อความที่เคยอ่าน จากคำบอกเล่า คุณสะดุดติ่งติดใจขึ้นมา เอะเลข 7 ต้องใช่แน่ๆ

แล้วคุณเชื่อเลยครับ จริงแล้วมันซิมเปิ้ลมาก ไม่เกี่ยวกับตัวเลขเลยดีกว่า

คุณเคยได้ยินเรื่องความทรงจำหรือหูแว่วแบบ เดจาวูว่า เหมือนเคยได้ยินจากไหนน๊า มันคุ้นอะรู้สึกได้เหมือนเคยไปเจอไปเห็นตอนไหนแต่นึกไม่ออก ตอนแรกคบไปปีที่ 1 2 3 4 5 6 ไม่มีอะไรเพราะคุณไม่เคยได้อ่านหรือจดจำอะไรที่เกี่ยวกับตัวเลขพวกนี้

แต่พอมัน 7 คุณสะดุด คุณรู้สึกเหมือนซัมติงสักอย่าง นั่นแหละครับที่ผมจะสื่อ เมื่อคุณเสพสิ่งใดซ้ำๆ มาพอระดับนึง มันเหมือนถูกสะกดจิตฝังไว้ในความทรงจำ ขอแค่เห็น หรือ ได้ยิน หรือ ได้รับรู้ มันจะคงอยู่ในสมอง แล้วยิ่งคุณกลัว หรือ คุณอ่าน คุณเล่นอะไรกับมันซึมซับกับมันอยู่พักนึง แล้วคุณลืม คิดว่าลืมสนิทแล้วแน่ๆ แต่สมองคนเราจดจำอะไรได้นานมากขนาดเรื่องราวในวัยเด็กยังจำได้บ้างเลย แล้วคุณไม่ได้ลืมมันหลอกครับ

ถึงเวลาปัญหาเกิด หรือ ถึงเวลาที่ 7 มันทริกเกอร์ คุณสะดุดมันขึ้นมาแล้วกลับจำมันได้เฉย แล้วคุณก็ไปขุดเลยเพราะคุณพยายามนึกหรือหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ปัญหามันเกิดมาตั้งนานแล้วครับตั้งแต่ปีที่ 3-4 แล้วด้วยซ้ำแค่คุณไม่เคยใส่ใจเพราะมองว่ามันอาจจะไม่มีอะไร หรือ มองว่าบ้าน่ามันไม่มีอะไรหลอกมั้ง

มันไม่ได้ผิดที่ 7 ปีหลอกครับ มันผิดตั้งแต่การเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันที่ไม่ลงตัวมาตั้งแต่ช่วงพักหนึ่งแค่นั้น เพราะคุณตอบคำถามส่วนนี้มาแล้วครับว่า

ปีที่ 5-6 อาการก็เริ่มออกแล้ว ?? เห็นปะ 7 เกี่ยวอะไรหรอครับ ^^ แก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่รอเหตุเกิดแล้วค่อยมาหาคำตอบ

คนสมัยนี้แทบจะถูกเรื่องราว อาถรรพ์ 7 ปีฝังหัวไปหมดครับ มันคือการฝังลากลึกความทรงจำที่ไม่ดีใส่ตัวเองโดยไม่รู้ตัวกันทั้งนั้นครับ แล้วพอมันเกิดขึ้นหลายคน ซ้ำๆ แล้วพยายามแชร์ พยายามนำเสนอ คุณคิดจริงๆ หรอว่าคุณจะรอดเนื้อหาเกี่ยวกับอาถรรพ์เลข 7
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่