อดีตอธิการบดีนิติ มธ.ชี้ เพื่อไทยอย่าเสียสัตย์อีก ต้องแก้ รธน.ให้เป็นประชาธิปไตยไม่สืบทอดอำนาจรัฐประหาร
https://www.matichon.co.th/clips/news_4165365
พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชี้รัฐบาลเศรษฐา อย่าใช้เสียงมากลากไป ต้องมีความชอบธรรม และต้องแก้รัฐธรรมนูญห้ได้อย่าเสียสัตย์ ประชาชนไม่อยากให้มีการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ชมคลิป
ACT เสนอตั้งวอร์รูมปราบโกง-ชู 5 ข้อเรียกร้องต่อรบ.ใหม่
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_608750/
ACT เสนอตั้งวอร์รูมปฏิบัติการร่วม เพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน ชู 5 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่
นาย
วิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวในการเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ว่า การรวมตัวในวันนี้ถือเป็นปีที่ 12 ในการเดินหน้าต่อต้านคอรัปชัน และเวลานี้พูดไม่ได้ว่าสถานการณ์ต่อต้านคอร์รัปชันดีขึ้นจนจับต้องได้ แต่ยังคงหน้ากังวลแต่ไม่จำเป็นต้องสิ้นหวัง เพราะในวันนี้จะมีโอกาสร่วมกันนำเสนอต่อรัฐบาลใหม่ เสนอให้ภาครัฐมีความจริงจังในการมีนโยบายที่ชัดเจน มีมาตรการ มีกระบวนการในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชันร่วมกับภาคประชาชน
ควรมีการตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน ในรูปแบบวอร์รูมเพราะจะได้รับทราบวิกฤตที่กระทบกับคนไทยทุกคน กระทบกับทุกภาคส่วน สร้างความเสียหายความสูญเสียทางด้านสังคมและเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงจำเป็นต้องยกระดับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชันอย่างรวดเร็วและจริงจัง
โดยคอรัปชันไม่ได้หมายถึงการให้สินบนเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองเท่านั้น แต่รวมถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับเครือข่ายพวกพ้องด้วย การสมรู้ การละเลยไม่เอาโทษ ไม่ดำเนินการ การใช้อิทธิพลเพื่อการรีดไถ การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การใช้ระบบอุปถัมภ์การเอื้อประโยชน์จากนโยบายไปสู่ส่วนใดส่วนหนึ่งโดยเอนเอียง
ซึ่งเป็นคำนิยามของคอรัปชันที่กว้างขวางมาก และเวลานี้ยังไม่สามารถจับต้องผลสำเร็จของการต่อต้านคอร์รัปชันได้ แต่ยังเห็นความหวัง เพราะมองเห็นการตื่นตัวของประชาชนคนไทยขององค์กรในภาคส่วนต่างๆในการร่วมกันเป็นผู้ที่ไม่ยอมรับและเป็นผู้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของประเทศ เป็นพลังที่จะต้องขับเคลื่อนกันต่อไป
โดยองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนประชาชนเสนอข้อเรียกร้องการต่อต้านคอรัปชันถึงรัฐบาลใหม่ 5 ข้อ ประกอบด้วย
1. กำหนดให้การปราบปรามคอรัปชันเป็นวาระแห่งชาติตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนทุกภาคส่วนมีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน พร้อมมีวอร์รูมเพื่อการทำงานอย่างทันเหตุการณ์
2. สนับสนุนให้ป.ป.ง. สตง. และ ป.ป.ท. ทำหน้าที่ได้อย่างอิสระเป็นพลังมีเอกภาพออกจากรัฐบาล
3. เร่งรัดออกกฎหมายต่อต้านคอรัปชันที่ค้างคาอยู่ เช่น กฎหมายข้อมูลสาธารณะในความครอบครองของรัฐ กฎหมายปกป้องผู้เปิดโปงคอร์รัปชั่น หรือกฎหมายป้องกันการเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
4. ทุกหน่วยงานต้องพร้อมเปิดเผยข้อมูลนับจาก TOR ไปจนถึงสัญญาต่างๆในรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงกับ ACT Ai ตามมาตรฐานสากลได้อย่างโปร่งใสและถูกต้อง
และ 5. แก้ไขกฎระเบียบราชการต่างๆที่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลปัญหาคอรัปชันและเมื่อพบทุจริตคอรัปชันให้ติดตามแก้ไขลงโทษในทันทีอย่าประวิงเวลาจนประชาชนลืม
ก.ท่องเที่ยวฯ เผยนักท่องเที่ยวจีนมาไทย ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3
https://ch3plus.com/news/economy/morning/364987
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 ก.ย. 66 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว มากกว่า 18 ล้านคน ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.51 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้ในภาพรวมของนักท่องเที่ยวอาเซียน ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.22 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ขยายตัวติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนปรับตัวลดลงร้อยละ 27.08 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก ยังคงปรับตัวลดลงร้อยละ 23.05 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพรวม ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 505,006 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 23,422 คน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ 4.43 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ก.ย. 66)
โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49.6 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.51 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และนักท่องเที่ยวลาว เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.88 ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ปรับตัวลดลงร้อยละ 27.08 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 10.60 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และร้อยละ 4.28 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ตามลำดับ
ทั้งนี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัปดาห์ถัดไป ยังคงลดลง จากการเป็นช่วงนอกฤดูกาลการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชียใต้ รวมถึงการเป็นช่วงหลังการมีวันหยุดยาวช่วงวันชาติของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์ถัดไป จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 480,000 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากระยะใกล้ ได้แก่ ตลาดอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ เป็นหลัก
ในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย จะยังคงปรับตัวลง จากการเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของหลายภูมิภาค ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน ยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน
สำหรับประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 4 ก.ย. 66 พบว่าไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งสัปดาห์ (28 ส.ค.-3 ก.ย. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 505,006 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 72,229 คน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 18,076,075 คน สร้างรายได้
จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 755,720 ล้านบาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด จำนวน 123,341 คน รองลงมา ได้แก่ จีน (48,669 คน) อินเดีย (26,953 คน) เกาหลีใต้ (26,728 คน) และลาว (24,951 คน)
JJNY : พท.อย่าเสียสัตย์อีก│ACT เสนอตั้งวอร์รูมปราบโกง│นักท่องเที่ยวจีนมาไทยลดลง│บริษัทอสังหาฯจีนผิดนัดชำระหนี้กว่า 68%
https://www.matichon.co.th/clips/news_4165365
พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชี้รัฐบาลเศรษฐา อย่าใช้เสียงมากลากไป ต้องมีความชอบธรรม และต้องแก้รัฐธรรมนูญห้ได้อย่าเสียสัตย์ ประชาชนไม่อยากให้มีการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ชมคลิป
ACT เสนอตั้งวอร์รูมปราบโกง-ชู 5 ข้อเรียกร้องต่อรบ.ใหม่
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_608750/
ACT เสนอตั้งวอร์รูมปฏิบัติการร่วม เพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน ชู 5 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่
นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวในการเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ว่า การรวมตัวในวันนี้ถือเป็นปีที่ 12 ในการเดินหน้าต่อต้านคอรัปชัน และเวลานี้พูดไม่ได้ว่าสถานการณ์ต่อต้านคอร์รัปชันดีขึ้นจนจับต้องได้ แต่ยังคงหน้ากังวลแต่ไม่จำเป็นต้องสิ้นหวัง เพราะในวันนี้จะมีโอกาสร่วมกันนำเสนอต่อรัฐบาลใหม่ เสนอให้ภาครัฐมีความจริงจังในการมีนโยบายที่ชัดเจน มีมาตรการ มีกระบวนการในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชันร่วมกับภาคประชาชน
ควรมีการตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน ในรูปแบบวอร์รูมเพราะจะได้รับทราบวิกฤตที่กระทบกับคนไทยทุกคน กระทบกับทุกภาคส่วน สร้างความเสียหายความสูญเสียทางด้านสังคมและเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงจำเป็นต้องยกระดับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชันอย่างรวดเร็วและจริงจัง
โดยคอรัปชันไม่ได้หมายถึงการให้สินบนเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองเท่านั้น แต่รวมถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับเครือข่ายพวกพ้องด้วย การสมรู้ การละเลยไม่เอาโทษ ไม่ดำเนินการ การใช้อิทธิพลเพื่อการรีดไถ การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การใช้ระบบอุปถัมภ์การเอื้อประโยชน์จากนโยบายไปสู่ส่วนใดส่วนหนึ่งโดยเอนเอียง
ซึ่งเป็นคำนิยามของคอรัปชันที่กว้างขวางมาก และเวลานี้ยังไม่สามารถจับต้องผลสำเร็จของการต่อต้านคอร์รัปชันได้ แต่ยังเห็นความหวัง เพราะมองเห็นการตื่นตัวของประชาชนคนไทยขององค์กรในภาคส่วนต่างๆในการร่วมกันเป็นผู้ที่ไม่ยอมรับและเป็นผู้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของประเทศ เป็นพลังที่จะต้องขับเคลื่อนกันต่อไป
โดยองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนประชาชนเสนอข้อเรียกร้องการต่อต้านคอรัปชันถึงรัฐบาลใหม่ 5 ข้อ ประกอบด้วย
1. กำหนดให้การปราบปรามคอรัปชันเป็นวาระแห่งชาติตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนทุกภาคส่วนมีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน พร้อมมีวอร์รูมเพื่อการทำงานอย่างทันเหตุการณ์
2. สนับสนุนให้ป.ป.ง. สตง. และ ป.ป.ท. ทำหน้าที่ได้อย่างอิสระเป็นพลังมีเอกภาพออกจากรัฐบาล
3. เร่งรัดออกกฎหมายต่อต้านคอรัปชันที่ค้างคาอยู่ เช่น กฎหมายข้อมูลสาธารณะในความครอบครองของรัฐ กฎหมายปกป้องผู้เปิดโปงคอร์รัปชั่น หรือกฎหมายป้องกันการเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
4. ทุกหน่วยงานต้องพร้อมเปิดเผยข้อมูลนับจาก TOR ไปจนถึงสัญญาต่างๆในรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงกับ ACT Ai ตามมาตรฐานสากลได้อย่างโปร่งใสและถูกต้อง
และ 5. แก้ไขกฎระเบียบราชการต่างๆที่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลปัญหาคอรัปชันและเมื่อพบทุจริตคอรัปชันให้ติดตามแก้ไขลงโทษในทันทีอย่าประวิงเวลาจนประชาชนลืม
ก.ท่องเที่ยวฯ เผยนักท่องเที่ยวจีนมาไทย ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3
https://ch3plus.com/news/economy/morning/364987
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 ก.ย. 66 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว มากกว่า 18 ล้านคน ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.51 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้ในภาพรวมของนักท่องเที่ยวอาเซียน ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.22 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ขยายตัวติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนปรับตัวลดลงร้อยละ 27.08 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก ยังคงปรับตัวลดลงร้อยละ 23.05 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพรวม ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 505,006 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 23,422 คน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ 4.43 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ก.ย. 66)
โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49.6 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.51 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และนักท่องเที่ยวลาว เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.88 ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ปรับตัวลดลงร้อยละ 27.08 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 10.60 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และร้อยละ 4.28 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ตามลำดับ
ทั้งนี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัปดาห์ถัดไป ยังคงลดลง จากการเป็นช่วงนอกฤดูกาลการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชียใต้ รวมถึงการเป็นช่วงหลังการมีวันหยุดยาวช่วงวันชาติของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์ถัดไป จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 480,000 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากระยะใกล้ ได้แก่ ตลาดอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ เป็นหลัก
ในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย จะยังคงปรับตัวลง จากการเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของหลายภูมิภาค ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน ยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน
สำหรับประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 4 ก.ย. 66 พบว่าไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งสัปดาห์ (28 ส.ค.-3 ก.ย. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 505,006 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 72,229 คน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 18,076,075 คน สร้างรายได้
จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 755,720 ล้านบาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด จำนวน 123,341 คน รองลงมา ได้แก่ จีน (48,669 คน) อินเดีย (26,953 คน) เกาหลีใต้ (26,728 คน) และลาว (24,951 คน)