ครอบครัวพาลเมอร์ ประกอบไปด้วย รัสเซลล์ ..จูน พ่อและแม่ แมทธิวลูกชายคนโต และอลิซลูกสาวคนเล็ก
พวกเขาอาศัยอยู่ในอารารัตเมืองเล็กๆแห่งนึงของออสเตรเลีย วันนึงทุกคนพากันไปเที่ยวฝายเก็บน้ำไม่ไกลจากบ้าน
ปรากฏว่าเกิดเรื่องเศร้าขึ้น เมื่ออลิซเกิดจมน้ำเสียชีวิต...ทุกคนในครอบครัวรวมถึงเพื่อนๆ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น
หากแต่หลังจากนั้นไม่นาน ภายในบ้านพาลเมอร์ก็เกิดปรากฏการณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้..
นั่นทำให้แมทธิว พี่ชายของอลิซ ซึ่งกำลังสนใจในการเล่นกล้องถ่ายรูป ตัดสินใจติดตั้งกล้องวิดีโอไว้รอบๆ ตัวบ้าน
เพื่อบันทึกภาพต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขณะเดียวกันจูน ที่ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกสาว ก็ไปพบกับเรย์ เคเมนีย์ นักจิตวิทยาบำบัดเพื่อขอคำปรึกษา
โดยเรย์เชื่อว่า วิญญาณของอลิซยังไม่ไหนและยังคงอยู่ในบ้านจนถึงตอนนี้
ซึ่งเมื่อมารวมกับภาพในกล้องวีดีโอที่แมทธิวถ่ายไว้ ผลที่ได้ทำให้ทุกคนในบ้านพาลเมอร์เชื่อว่า อลิซยังอยู่ที่บ้านนี้จริงๆ......
โจเอล แอนเดอร์สัน เป็นผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ซึ่งเขาได้คำนวณต้นทุนไว้ว่าหากสร้างเป็นรูปแบบหนังทั่วไป
งบประมาณต้องสูงเกินที่มีอย่างแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดังนั้นเจ้าตัวจึงตัดสินใจนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดในรูปแบบสารคดีแนวสมมติ
ที่เขาสามารถถ่ายทำได้ด้วยงบประมาณที่ต่ำกว่ามาก โดยแรงบันดาลใจนั้นมาจากการผู้คนต่างใช้เทคโนโลยีมาบันทึกชีวิตของตนเอง
และเป็นสื่อกลางในการที่เราสามารถสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงตัวตนของเรา..
หากแต่ถ้าไม่ใช่มนุษย์ล่ะที่อยากจะสื่อสาร แต่เป็นสิ่งอื่น....
ข้อความจากนี้คือการเปิดเผยสาระสำคัญของหนังทั้งหมด ถ้าคิดจะชมหนังเรื่องนี้ อย่ากดอ่านครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยแอนเดอร์สันได้คัดเลือกนักแสดงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเพื่อรักษาความรู้สึกให้เหมือนสารคดีเอาไว้ให้มากที่สุดครับ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในช่วงเวลาประมาณห้าสัปดาห์โดยฟุตเทจหลายรูปแบบ.. ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่มีบทสนทนาที่ชัดเจน
มีเพียงแค่โครงเรื่องคร่าวๆเท่านั้นๆ ดังนั้นทุกฉากนักแสดงจะได้รับการบรีฟความรู้สึกและแนวเรื่องแบบคร่าวๆ ที่เหลือคือการด้นสดทั้งหมด
และตัวของแอนเดอร์สันเองก็ยังรับหน้าที่เป็นผู้สัมภาษณ์นอกจอในฉากสัมภาษณ์หลายฉากที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้
แม้ว่าเสียงของเขาจะมาแค่แว่วๆ และไม่เห็นตัวเลยก็ตาม
Lake Mungo สำหรับผม ครึ่งแรกคือการปูเรื่องให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วงครึ่งแรกของหนังบอกตรงๆว่า เล่นเอาทำผมเชื่อเลยครับ เชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดมันในหนังคือเรื่องจริง
แม้ว่าจะรู้ว่ามันคือหนังแนว Mockumentary มาก่อนก็ตาม
..หลังจากนั้นหนังเริ่มเผยปมหลายอย่างของอลิซ ที่ยังค้างคาอยู่
และแทบทุกเรื่องเป็นสิ่งที่พ่อแม่และพี่ชายของเธอไม่เคยทราบมาก่อน
ซึ่งความลับต่างๆ เหล่านั้นทำให้คนที่เหลืออยู่เข้าใจในตัวของเธอมากยิ่งขึ้น และเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
เมื่อรู้ว่าตัวของเธอนั้นต้องพบเจอกับอะไรบ้างที่ผ่านมา....
ด้วยความที่เวลาของหนังมีแค่ 88 นาที จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะประเด็นของหนังยังสามารถที่จะต่อยอดและขยายความออกไปได้อีกมาก
อย่างไรก็ตามจุดเด่นของหนังในเรื่องของการนำเสนอก็ทำให้ Lake Mungo มีความสมบูรณ์แบบในตัวของมัน
และทำให้คนดูต้องคอยลุ้นไปตลอดว่าสิ่งต่างๆที่ถูกซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังการจากไปของอลิซนั้นยังสิ่งใดอีกบ้างที่กำลังจะเปิดเผยออกมา..
นี่คือหนังผีที่เศร้าและสะเทือนใจครับ เพราะมันจับประเด็นเรื่องของความสัมพันธ์ของครอบครัวเป็นหลักใหญ่
(ยิ่งตอนท้ายของเรื่องมันยิ่งทั้งเศร้า จนแทบจะร้องไห้รวมถึงน่ากลัวไปพร้อมๆกันจริงๆ หายากนะครับอารมณ์แบบนี้)
เราทุกคนเกิดและโตขึ้นมา เราคุ้นเคยกับคนในบ้าน คนที่เรารักมากแค่ไหน
แต่แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีพื้นที่ส่วนตัวที่เราเข้าไปไม่ถึงกันทั้งนั้น เว้นซะแต่ว่าเราจะเปิดใครกับใครสักคนที่เป็นคนที่เราไว้ใจได้...
อลิซในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน.. เธอแค่ต้องการอยากให้คนในบ้านได้รู้ รู้จักเธอให้มากกว่านี้ แต่แค่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว..
หากมีเวลา ยังมีโอกาส การแสดงออกซึ่งความรักให้กับคนที่เราใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ
อย่าลังเล เพราะเมื่อคุณไม่มีเขาคนนั้นอีกแล้ว.. คุณจะเสียใจและอาจจะต้องรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต...
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Lake Mungo (2008) ความลับของวิญญาณ... ==
ครอบครัวพาลเมอร์ ประกอบไปด้วย รัสเซลล์ ..จูน พ่อและแม่ แมทธิวลูกชายคนโต และอลิซลูกสาวคนเล็ก
พวกเขาอาศัยอยู่ในอารารัตเมืองเล็กๆแห่งนึงของออสเตรเลีย วันนึงทุกคนพากันไปเที่ยวฝายเก็บน้ำไม่ไกลจากบ้าน
ปรากฏว่าเกิดเรื่องเศร้าขึ้น เมื่ออลิซเกิดจมน้ำเสียชีวิต...ทุกคนในครอบครัวรวมถึงเพื่อนๆ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น
หากแต่หลังจากนั้นไม่นาน ภายในบ้านพาลเมอร์ก็เกิดปรากฏการณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้..
นั่นทำให้แมทธิว พี่ชายของอลิซ ซึ่งกำลังสนใจในการเล่นกล้องถ่ายรูป ตัดสินใจติดตั้งกล้องวิดีโอไว้รอบๆ ตัวบ้าน
เพื่อบันทึกภาพต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขณะเดียวกันจูน ที่ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกสาว ก็ไปพบกับเรย์ เคเมนีย์ นักจิตวิทยาบำบัดเพื่อขอคำปรึกษา
โดยเรย์เชื่อว่า วิญญาณของอลิซยังไม่ไหนและยังคงอยู่ในบ้านจนถึงตอนนี้
ซึ่งเมื่อมารวมกับภาพในกล้องวีดีโอที่แมทธิวถ่ายไว้ ผลที่ได้ทำให้ทุกคนในบ้านพาลเมอร์เชื่อว่า อลิซยังอยู่ที่บ้านนี้จริงๆ......
โจเอล แอนเดอร์สัน เป็นผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ซึ่งเขาได้คำนวณต้นทุนไว้ว่าหากสร้างเป็นรูปแบบหนังทั่วไป
งบประมาณต้องสูงเกินที่มีอย่างแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่เขาสามารถถ่ายทำได้ด้วยงบประมาณที่ต่ำกว่ามาก โดยแรงบันดาลใจนั้นมาจากการผู้คนต่างใช้เทคโนโลยีมาบันทึกชีวิตของตนเอง
และเป็นสื่อกลางในการที่เราสามารถสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงตัวตนของเรา..
หากแต่ถ้าไม่ใช่มนุษย์ล่ะที่อยากจะสื่อสาร แต่เป็นสิ่งอื่น....
ข้อความจากนี้คือการเปิดเผยสาระสำคัญของหนังทั้งหมด ถ้าคิดจะชมหนังเรื่องนี้ อย่ากดอ่านครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Lake Mungo สำหรับผม ครึ่งแรกคือการปูเรื่องให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..หลังจากนั้นหนังเริ่มเผยปมหลายอย่างของอลิซ ที่ยังค้างคาอยู่
และแทบทุกเรื่องเป็นสิ่งที่พ่อแม่และพี่ชายของเธอไม่เคยทราบมาก่อน
ซึ่งความลับต่างๆ เหล่านั้นทำให้คนที่เหลืออยู่เข้าใจในตัวของเธอมากยิ่งขึ้น และเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
เมื่อรู้ว่าตัวของเธอนั้นต้องพบเจอกับอะไรบ้างที่ผ่านมา....
ด้วยความที่เวลาของหนังมีแค่ 88 นาที จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะประเด็นของหนังยังสามารถที่จะต่อยอดและขยายความออกไปได้อีกมาก
อย่างไรก็ตามจุดเด่นของหนังในเรื่องของการนำเสนอก็ทำให้ Lake Mungo มีความสมบูรณ์แบบในตัวของมัน
และทำให้คนดูต้องคอยลุ้นไปตลอดว่าสิ่งต่างๆที่ถูกซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังการจากไปของอลิซนั้นยังสิ่งใดอีกบ้างที่กำลังจะเปิดเผยออกมา..
นี่คือหนังผีที่เศร้าและสะเทือนใจครับ เพราะมันจับประเด็นเรื่องของความสัมพันธ์ของครอบครัวเป็นหลักใหญ่
(ยิ่งตอนท้ายของเรื่องมันยิ่งทั้งเศร้า จนแทบจะร้องไห้รวมถึงน่ากลัวไปพร้อมๆกันจริงๆ หายากนะครับอารมณ์แบบนี้)
เราทุกคนเกิดและโตขึ้นมา เราคุ้นเคยกับคนในบ้าน คนที่เรารักมากแค่ไหน
แต่แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีพื้นที่ส่วนตัวที่เราเข้าไปไม่ถึงกันทั้งนั้น เว้นซะแต่ว่าเราจะเปิดใครกับใครสักคนที่เป็นคนที่เราไว้ใจได้...
อลิซในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน.. เธอแค่ต้องการอยากให้คนในบ้านได้รู้ รู้จักเธอให้มากกว่านี้ แต่แค่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว..
หากมีเวลา ยังมีโอกาส การแสดงออกซึ่งความรักให้กับคนที่เราใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ
อย่าลังเล เพราะเมื่อคุณไม่มีเขาคนนั้นอีกแล้ว.. คุณจะเสียใจและอาจจะต้องรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต...
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===