"เมนู-พลอย" แฉยับ ”บุ้ง ทะลุวัง"
ทำร้ายด้วยคำพูดรุนแรงด้อยค่า
ใช้ทำกิจกรรมเพื่อขอทุน
เชื่อ” ก้าวไกล" ไม่เกี่ยวอยู่เบื้องหลัง
4 กันยายน 2566 ช่องยูทูบ "CSILA Channel" ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ “เมนู” สุพิชฌาย์ กับ “พลอย” เบญจมาภรณ์ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวังถึงการถูกทำร้ายจาก “บุ้ง ทะลุวัง”
“เมนู” สุพิชฌาย์ เล่าว่า ตนเข้าร่วมกลุ่มเพราะทะลุวังเป็นตัวตั้งตัวตีในการยืนเคียงข้างเหยื่อ เราก็เลือกใช้โอกาสนั้นในการออกมาสื่อสารเรื่องความรุนแรงทางเพศ ซึ่งกลุ่มทะลุวังไม่มีรูปแบบ การทำงานมั่วไปหมด แต่มีความพยายามแบ่งชนชั้นอยู่ แล้วก็มีความพยายามยึดติดกับคำว่าทะลุวังมาก ๆ เหมือนต้องกลายเป็นนามสกุลต่อท้ายเพื่อเกียรติยศเพื่ออะไรสักอย่าง เพื่อการถูกยอมรับ
“ความรุนแรงตอนนั้นบุ้งเสนอมาเพื่อให้เราไว้ตอบโต้กับรัฐ เพราะช่วงนั้นทะลุวังโดนหนักมาก ทั้งโดนตาม แล้วก็โดนหมายจับ 2 ครั้งในอาทิตย์เดียว ครั้งแรกรู้สึกได้เลยว่าเรากลัว ครั้งที่สองเนี่ยมันก็เลยมีความคิดที่ว่าทำอะไรไม่ได้จริง ๆ แล้ว ต้องด่าแหละ แล้วก็กลายเป็นภาพของการไลฟ์สดด่าตำรวจแบบนั้นไปเลย” “เมนู” สุพิชฌาย์ ระบุ
“เมนู” สุพิชฌาย์ เล่าด้วยว่า ไม่มีการลงไม่ลงมือ แต่จะเป็นการแสดงออก เช่น ปิดประตูใส่หน้า ตะคอก ใช้คำพูดรุนแรง ขัดใจก็แสดงความไม่พอใจ และไม่มีการขอโทษ เพราะต่อให้เราเป็นคนถูกก็ตาม เขาก็จะทำให้เราเป็นคนผิดอยู่ดี
ด้าน “พลอย” เบญจมาภรณ์ เล่าว่า รู้จักกับบุ้งมาประมาณ 3 ปีแล้ว ตั้งแต่เป็นนักกิจกรรมช่วงแรก ๆ ช่วงที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องระบบการศึกษา รวมทั้งมันมีการ Convince เกิดขึ้น ตอนนั้นต่อให้ไม่อยากทำงานก็ต้องออกไปทำ เพราะงานกับที่บ้านก็ปะปนกันไปหมด แล้วมันก็มีแหล่งอำนาจที่สุดท้ายแล้วคือเราก็ต้องพึ่งพาบุ้งอยู่ดี เราเลือกไม่ได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ
“พลอย” เบญจมาภรณ์ เล่าว่า ส่วนลักษณะความรุนแรงที่บุ้งแสดงออกนั้น ตนอยู่ได้ไม่นานเลยไม่เจออะไรมาก เพราะเราพึ่งพาตัวเองได้ มีที่พึ่งมีคนให้คุยด้วย เลยไม่โดนผลกระทบ เขาไม่กล้าทำอะไรเรา แต่เขาเลือกที่จะใช้วิธีไปพูดกับคนอื่นว่าเราเป็นคนไม่ดี ตลอดเวลาที่อยู่กับเขาบรรยากาศในห้องมันแย่มาก ๆ มันเป็นเหมือนนรก ทุกคนไม่มีความสุข ไม่มีใครกล้าทำอะไร ทุกคนอึดอัด แต่ก็ออกไม่ได้ ต่างคนต่างคิดว่าถ้าเราออกแล้วคนนั้นล่ะจะทำยังไง ตอนโดนหมายจับแทนที่จะได้หายใจ ได้กลับไปตั้งสติตั้งหลักใหม่ กลายเป็นต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทั้งที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย มันเป็นความแพนิกของเขาไปเอง แล้วกดดันให้ทุกคนเครียดมาก ๆ หลังจากนั้นต้องเข้าไปคุยกับนักจิตบำบัดบ่อยเลย มันแย่จริง ขนาดอยู่แค่ 2-3 เดือน
พลอยเล่าอีกว่าการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกับบุ้งทำให้พ่อตัดค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงต้องพึ่งพาบุ้ง “ตอนแรกบุ้งก็ทำตัวเป็นเหมือนพ่อแม่เลย เหมือนคลอดเราออกมา พออยู่ไปนาน ๆ เข้า มันก็มีเรื่องของการเอาเงิน มีผลประโยชน์เกิดขึ้น เราต้องออกไปทำกิจกรรม เขาก็เอาจุดที่เราไม่มีที่บ้านซัปพอร์ตตรงนี้ในการขอทุนเลี้ยงดูเรา และตัวเขาด้วย ตัวเขาไม่ได้ทำงานแล้ว พอเราเหนื่อย หมดไฟ เขาก็เริ่มแสดงออกด้วยการพูดจารุนแรง
นอกจากเงินทุนที่เราออกไปทำกิจกรรมแล้ว มันก็มีเงินที่เราขายของได้ด้วย พวกสติกเกอร์ เขาก็เป็นคนบอกเราว่าจะต้องเอาเงินตรงส่วนนี้ไปจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เอาเงินจากเราไปหมดเลย”
เมื่อถามว่า มีพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังจริงไหม ทั้งสองคนเล่ายืนยีนว่า ไม่จริง ไม่มีพรรคการเมืองเกี่ยวข้องเลย เพราะพรรคก้าวไกลยังโดนบุ้งด่าบ่อยมาก บุ้งมีแนวทางใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหว เลยไม่มีพรรคไหนเป็นเบื้องหลังแน่นอน โดนด่าเปิงหมด.
ที่มา
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000079472#google_vignette
#roundtablethailand
roundtablethailand.com
@@@ บุ้ง ทำกิจกรรม หาทุน @@@
ทำร้ายด้วยคำพูดรุนแรงด้อยค่า
ใช้ทำกิจกรรมเพื่อขอทุน
เชื่อ” ก้าวไกล" ไม่เกี่ยวอยู่เบื้องหลัง
4 กันยายน 2566 ช่องยูทูบ "CSILA Channel" ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ “เมนู” สุพิชฌาย์ กับ “พลอย” เบญจมาภรณ์ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวังถึงการถูกทำร้ายจาก “บุ้ง ทะลุวัง”
“เมนู” สุพิชฌาย์ เล่าว่า ตนเข้าร่วมกลุ่มเพราะทะลุวังเป็นตัวตั้งตัวตีในการยืนเคียงข้างเหยื่อ เราก็เลือกใช้โอกาสนั้นในการออกมาสื่อสารเรื่องความรุนแรงทางเพศ ซึ่งกลุ่มทะลุวังไม่มีรูปแบบ การทำงานมั่วไปหมด แต่มีความพยายามแบ่งชนชั้นอยู่ แล้วก็มีความพยายามยึดติดกับคำว่าทะลุวังมาก ๆ เหมือนต้องกลายเป็นนามสกุลต่อท้ายเพื่อเกียรติยศเพื่ออะไรสักอย่าง เพื่อการถูกยอมรับ
“ความรุนแรงตอนนั้นบุ้งเสนอมาเพื่อให้เราไว้ตอบโต้กับรัฐ เพราะช่วงนั้นทะลุวังโดนหนักมาก ทั้งโดนตาม แล้วก็โดนหมายจับ 2 ครั้งในอาทิตย์เดียว ครั้งแรกรู้สึกได้เลยว่าเรากลัว ครั้งที่สองเนี่ยมันก็เลยมีความคิดที่ว่าทำอะไรไม่ได้จริง ๆ แล้ว ต้องด่าแหละ แล้วก็กลายเป็นภาพของการไลฟ์สดด่าตำรวจแบบนั้นไปเลย” “เมนู” สุพิชฌาย์ ระบุ
“เมนู” สุพิชฌาย์ เล่าด้วยว่า ไม่มีการลงไม่ลงมือ แต่จะเป็นการแสดงออก เช่น ปิดประตูใส่หน้า ตะคอก ใช้คำพูดรุนแรง ขัดใจก็แสดงความไม่พอใจ และไม่มีการขอโทษ เพราะต่อให้เราเป็นคนถูกก็ตาม เขาก็จะทำให้เราเป็นคนผิดอยู่ดี
ด้าน “พลอย” เบญจมาภรณ์ เล่าว่า รู้จักกับบุ้งมาประมาณ 3 ปีแล้ว ตั้งแต่เป็นนักกิจกรรมช่วงแรก ๆ ช่วงที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องระบบการศึกษา รวมทั้งมันมีการ Convince เกิดขึ้น ตอนนั้นต่อให้ไม่อยากทำงานก็ต้องออกไปทำ เพราะงานกับที่บ้านก็ปะปนกันไปหมด แล้วมันก็มีแหล่งอำนาจที่สุดท้ายแล้วคือเราก็ต้องพึ่งพาบุ้งอยู่ดี เราเลือกไม่ได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ
“พลอย” เบญจมาภรณ์ เล่าว่า ส่วนลักษณะความรุนแรงที่บุ้งแสดงออกนั้น ตนอยู่ได้ไม่นานเลยไม่เจออะไรมาก เพราะเราพึ่งพาตัวเองได้ มีที่พึ่งมีคนให้คุยด้วย เลยไม่โดนผลกระทบ เขาไม่กล้าทำอะไรเรา แต่เขาเลือกที่จะใช้วิธีไปพูดกับคนอื่นว่าเราเป็นคนไม่ดี ตลอดเวลาที่อยู่กับเขาบรรยากาศในห้องมันแย่มาก ๆ มันเป็นเหมือนนรก ทุกคนไม่มีความสุข ไม่มีใครกล้าทำอะไร ทุกคนอึดอัด แต่ก็ออกไม่ได้ ต่างคนต่างคิดว่าถ้าเราออกแล้วคนนั้นล่ะจะทำยังไง ตอนโดนหมายจับแทนที่จะได้หายใจ ได้กลับไปตั้งสติตั้งหลักใหม่ กลายเป็นต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทั้งที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย มันเป็นความแพนิกของเขาไปเอง แล้วกดดันให้ทุกคนเครียดมาก ๆ หลังจากนั้นต้องเข้าไปคุยกับนักจิตบำบัดบ่อยเลย มันแย่จริง ขนาดอยู่แค่ 2-3 เดือน
พลอยเล่าอีกว่าการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกับบุ้งทำให้พ่อตัดค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงต้องพึ่งพาบุ้ง “ตอนแรกบุ้งก็ทำตัวเป็นเหมือนพ่อแม่เลย เหมือนคลอดเราออกมา พออยู่ไปนาน ๆ เข้า มันก็มีเรื่องของการเอาเงิน มีผลประโยชน์เกิดขึ้น เราต้องออกไปทำกิจกรรม เขาก็เอาจุดที่เราไม่มีที่บ้านซัปพอร์ตตรงนี้ในการขอทุนเลี้ยงดูเรา และตัวเขาด้วย ตัวเขาไม่ได้ทำงานแล้ว พอเราเหนื่อย หมดไฟ เขาก็เริ่มแสดงออกด้วยการพูดจารุนแรง
นอกจากเงินทุนที่เราออกไปทำกิจกรรมแล้ว มันก็มีเงินที่เราขายของได้ด้วย พวกสติกเกอร์ เขาก็เป็นคนบอกเราว่าจะต้องเอาเงินตรงส่วนนี้ไปจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เอาเงินจากเราไปหมดเลย”
เมื่อถามว่า มีพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังจริงไหม ทั้งสองคนเล่ายืนยีนว่า ไม่จริง ไม่มีพรรคการเมืองเกี่ยวข้องเลย เพราะพรรคก้าวไกลยังโดนบุ้งด่าบ่อยมาก บุ้งมีแนวทางใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหว เลยไม่มีพรรคไหนเป็นเบื้องหลังแน่นอน โดนด่าเปิงหมด.
ที่มา https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000079472#google_vignette
#roundtablethailand
roundtablethailand.com