พึ่งเที่ยวจบมาหมาดๆเลยค่ะ อยากมาอัพเดทการเดินทางเผื่อจะได้เป็นประโยชน์ เนื่องจากข้อมูลที่เรานั่งอ่านก่อนไปในเน็ตก็มีแบบนานหลายปีแล้ว
คิดว่าอันนี้น่าจะพอช่วยอัพเดทได้บ้างค่ะ
ทริปใช้เวลาทั้งหมด 17 วัน
เริ่มจาก
CNX> BKK >
New York > Peru > New York > BKK > CNX
พอดีได้ตั๋วไป New york ถูก แต่ไม่อยากเที่ยวเมกา เลยแพลนกันว่าจะไปเมกาใต้แทน (ก็ได้เหรอ
)
สถานที่ที่พวกเราสองคนอยากไปมานานแล้ว มีปรับแผนเยอะมาก จะไปทะเลเกลือที่ที่โบลิเวียด้วยแต่สุดท้ายจบที่เปรูประเทศเดียวค่ะ
งบทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ
คนละ 115,000.- บาท ไม่รวมช้อปปิ้ง ซื้อของ กล้องพัง
คือเป็นค่าทริป กินอยู่เที่ยวอย่างเดียวค่ะ ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจากเชียงใหม่
ตอนอยู่นิวยอร์คใช้บัตร SCB Planet Card ที่ทะยอยแลกดอลล่าเก็บไว้ตั้งแต่ตอนดอลล่าอ่อนค่าค่ะ
เก็บเดือนละ 5000 บาทไปเรื่อยๆ ใช้รูดตามสถานีได้หมดเลย ร้านสะดวกซื้อ ง่ายมาก
ส่วนที่เปรูใช้เงิน Sol ประมาณ 9.5 บาท/1 sol ง่ายๆทริปนี้เราจะ x10 เลยนะคะ
เอาดอลล่าไปแลกโซล ที่สนามบิน และในลิม่าเอาค่ะ
ก่อนเดินทางไปอเมริกาใต้ คนไทยจะต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไปก่อน ฉีดปุ๊บกว่าจะมีผลหรือตัวยา activate ก็ 10 วัน
เพราะฉะนั้นควรวางแผนไปฉีดก่อนจะเดินทางเนิ่นๆน้า
เชียงใหม่ ไปฉีดได้ที่
คลีนิกเวชศาสตร์การเดินทางและการท่องเที่ยว ถ.ศรีดอนไชย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ตรงข้ามสุริวงศ์ บุคเซนเตอร์ค่ะ เราเลยถือโอกาสฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปด้วยเลย กลัวช่วงนี้เป็นก่อนเดินทาง
ที่นี่ฉีดไม่แพงค่ะ ทั้ง 2 วัคซีน
และเราก็โชคดีที่เจอน้องหมอทั้ง 3 ท่าน ให้คำแนะนำดีมากๆสำหรับการเดินทางไปพักอาศัยยังพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมากถึง 3600 เมตร
เพราะเราจะเจอกับ Altitude Sickness แน่นอน
ก็มีการแนะนำให้ทานยาไดอะม็อกซ์ก่อนไปถึงกี่วัน แนะนำให้ทานยามาลาเรียยังไง ซึ่งตอนที่พิมพ์อยู่ก็ยังทานยามาลาเรียยังไม่จบคอร์สเลยค่ะ
55555 กันไว้ดีกว่าแก้เน๊อะ
ขอเริ่มสตาร์ทจากสนามบินสุวรรณภูมิเลยนะคะ
ได้ตั๋วเครื่องบินของฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์มาในราคาประมาณ คนละ 21,000 บาท ฟูลเซอวิส
ถือว่าถูกมากๆ อาหารดี บริการดี มีหนังให้ดู 100กว่าเรื่อง
ไป stop ที่มนิลาก่อน โดยบินจากไทยไปมนิลาเพียง 3 ชั่วโมง พักเปลี่ยนเครื่องเพียง 1 ชั่วโมง
จุดนี้ๆ เริ่มเจอปัญหาที่สนามบินกับการที่ต้องไปต่อเครื่อง
กราวน์ที่ไทยแจ้งมาตอนเช็คอิน บอกว่าให้ไป identify กระเป๋าตอนถึงมะนิลาด้วย คือ งง มากๆ ที่กระเป๋าไม่ลากยาวไปถึงนิวยอร์ค
ก็วิ่งกันวุ่นเลยในสนามบิน เพราะจุดเช็คกระเป๋านั้นอยู่อีกเกทกับเกทที่จะไปต่อเครื่อง และเราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
แล้วก็มีคนงงๆ เหมือนกับเราเยอะมากๆ
สรุปไฟล์นั้นไปถึงนิวยอร์คดีเลย์ค่ะ จากที่จะต้องถึง 5 ทุ่ม 45 กลับดีเลย์ไปประมาณชั่วโมงนึง
ไปถึงเรียก Uber ไปพักที่ ไชน่าทาวน์ใน Manhattan ได้ที่พักจาก Airbnb มาในราคา 4 พันกว่าบาท/คืน
ใช้เวลาเที่ยวนิวยอร์ค 2 วัน แล้วถึงบินไปลิม่าค่ะ
ทริปนี้เราเน้นแบกเป้ ลุยๆ กัน 2 คนนะคะ
ที่พักอะไรต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนตามงบของแต่ละท่านได้เลย
นิวยอร์คช่วงนี้เป็น summer ค่ะ อยู่กลางแดดที่ไม่มีลมจะร้อน แต่ลมจะเป็นลมเย็นๆนะคะ ถ้าอยู่ในร่ม เย็นเลยค่ะ
เราออกเดินทางจากนิวยอร์คไปเปลี่ยนเครื่องที่ Fort Lauderdale,FL พักเครื่อง 2 ชม. มีเวลาให้หายใจหายคอ
นั่งกินBurger kingสบายๆ
นั่ง Jetblue ตอนไปฟลอริดา และถึง Lima ตอน 3-4 ทุ่ม นั่งของ spirit Airlines
ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมดประมาณ 11-12 ชั่วโมง จากทวีปหนึ่งสู่อีกทวีป
ค่าตั๋ว 11,150/คน + ค่ากระเป๋า 3,325 /คน
ทริปนี้เจอค่าโหลดกระเป๋าแพงและบินบ่อยมากค่ะ แต่ละที่อยู่ใกลกันมาก
มาถึงสนามบิน Lima เจออากาศ 15 องศาเข้าไป ต้องค้นหาเสื้อกันหนาวออกมาใส่เลยค่ะ
เรานัด taxi ที่เจ้าของบ้านแนะนำไว้ พูดอังกฤษปร๋อเลย (คนที่นี่ใช้ภาษาสเปน)
เราไม่ได้พัก Lima นะคะ ไปพักที่ Miraflores แทน เมืองติดชายฝั่ง อารมณ์แบบเมืองตากอากาศ
ค่าแทกซี่ 20 ดอลล่า มันไกลอยู่ค่ะ นั่งรถสัก 30-40 นาที คนขับแท็กซี่เล่าเรื่องประเทศเปรูให้เยอะมากๆ
คือรอบนี้ไม่ได้ซื้อหนังสือ หรือ อ่านบทความอะไรมาก่อนเลยค่ะ
คิดแค่ว่าจะไปมาชูปิคชู เดี๋ยวไปอ่านประวัติหรือค่อยจ้างไกด์กัน
ที่พักที่จองไว้คืนละ 800+ ไม่แพงค่ะ ที่พักเมืองนี้
แต่ค่ากินนี่แพงเอาเรื่องนะคะ
ที่พักจาก airbnb เจ้าของบ้านเป็นเชพเบเกอรี่ค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย ข้างๆเป็นมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน เดินไป 1 นาทีถึง
เช้าวันรุ่งขึ้น แพลนเก็บ Lima และ Miraflores วันนี้ให้ครบวันเดียว
เพราะอีกวันต้องเดินทางต่อไป Cusco กุสโก้ เมืองที่จะสามารถเดินทางไปมาชูปิคชู และ Rainbow Mountain ได้
เช้ามาเดินจิ้มๆหาของกิน ไปเจอร้านอาหารเช้าที่นี่ค่ะ
คนเยอะด้วย
การสั่งอาหารที่นี่ยากลำบากมาก ถ้าร้านไหนไม่มีรูปภาพ และ ภาษาอังกฤษ
แต่ว่าเราโหลดแอพ dict ภาษาสเปนมาก่อน ที่ใช้แบบออฟไลน์ได้ ปีละ 300 บาท แม่นยำ ใช้ได้แปลได้เข้าใจดีค่ะ
คนที่นี่ใช้ภาษา spanish เป็นภาษาราชการเลยค่ะ
และฟังภาษาอังกฤษไม่ออกเลยแม่
จานด้านบนนี้ ลักษณะเหมือนขนมกล้วยบ้านเรา แต่ไม่ใช่ รสชาติออกเค็มๆ มีหมูและไข่เค็มข้างในค่ะ
ข้างๆเป็นเหมือนอาจาด มีรสเปรี้ยว ไม่หวาน อีกหน่อยจะเจออาจาดบ่อยๆในทริปค่ะ อิอิ
ส่วนอันนี้ ลองจิ้มมาดู เมนูแรก ของเครื่องดื่ม มันต้องเป็นเมนูคลาสสิค หรือ เมนูขายดีที่คนสั่งประจำแน่ ที่คิดไว้นะ 5555
ได้มาเป็นน้ำข้าวโพดม่วง ชื่อ Chicha ค่ะ
คือเป็นน้ำผลไม้ประจำประเทศเลยก็ว่าได้ ใครมาก็ควรต้องลองน้ำนี้นะคะ
แต่แก้วนี้คงจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านแน่ๆเลย เพราะใส่กระพรวน อบเชย หรือ cinnamon ลงไป ทำให้รสชาติเหมือนยาหม่องจนเราขยาด 5555
และยังใส่มะนาวหรือน้ำส้มลงไปด้วย
แต่พอไปลองที่อื่น เค้ากลับไม่ใส่ เป็นน้ำข้าวโพดเพียวๆผสมน้ำเปล่าให้เจือจางหน่อย อันนั้นหวานละมุน อร่อย ถูกปากคนไทยค่ะ 555
ทานเสร็จ เลยนั่ง uber ไปส่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ดูปิรามิดดินเหนียวขนาดใหญ่
ใกล้ๆแถวนั้นค่ะ ชื่อ
The Huaca Pucllana ค่ะ
ช่วงนี้เป็น Dry Season ค่ะ ทั้งปีมี 2 ฤดู ฝน กับ แห้งค่ะ Dry ก็จะหนาวๆ เย็นๆ
เดินเล่นในเมือง จะเห็นต้นกระบองเพชรอยู่เลียบฟุตบาทได้ตลอดทางค่ะ
สวยแปลกตาดี
uber มาส่งใกล้ๆปากทางเข้า เราเดินอีกนิดก็ถึง
มองจากด้านนอกรั้ว มันอลังการมาก
ค่าเข้าชมคนละ 15 Sol (150 บาท)
ฟรีไกด์ มีเป็นรอบๆ รอบภาษาสเปน และอังกฤษ รอบ english speaking guide อาจจะต้องรอให้นักท่องเที่ยวมาเยอะๆหน่อย ถึงจะออก
ฟังไกด์รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง 5555 แต่พอจับใจความได้ว่าที่นี่พึ่งมาค้นพบเมื่อ 40 ปีที่แล้วนี่เองค่ะ
ทั้งๆที่สิ่งก่อสร้างแห่งนี้เป็นยุค pre-inca เลย คืออายุหลักพันปี กรุงเทพเราก็แค่ 200 กว่าปีเอง
จากปิรามิดดินเผา เราก็แพลนไปทานร้านอาหารของเชฟชื่อดังในเปรู ซึ่งอันนี้ก็อ่านมาจากเพื่อนในพันทิปเนี่ยแหล่ะ
สั่งเหมือนเค้า 1 อย่าง อีก 1 อย่างก็ให้ทางร้านแนะนำ
อันนี้คือข้าวผัด ใส่หมูกรอบ มันหวาน เนื้อไก่ และเหมือนไส่อั่วหั่น ท็อปด้วยหอมแดงและอโวคาโด้ รสชาติก็ใช้ได้ น่าจะเป็นรสชาติที่อร่อยของชาว peruvian ละหล่ะ
ใครอยากลองเมนูนี้ชื่อว่า ARROZ CON CHANCHO ... ราคา490 บาท
ส่วนเมนูนี้ ให้ทางร้านแนะนำ เป็นเนื้อกับข้าวผสมมันบด อร่อยมากๆ
SECO DE RES CON TACU TACU DE ... จดไม่หมดชื่อยาวมาก จานนี้ 520 บาท
ทานอาหารเสร็จ เรียก uber ไป The park of love 40-60 บาท ไปนั่งชิลๆเอาบรรยากาศริมทะเล หากาแฟทาน
จากนี้ เราก็ไปเก็บสถานที่เที่ยว เป็นถนนคนเดินในเมือง Lima ค่ะ นั่งอูเบอร์ไป สัก 30 นาที
จริงๆมีคนแนะนำแอพชื่อ cabify ด้วย คล้ายๆอูเบอร์ แต่พอดีไม่ได้ใช้ เพราะอูเบอร์มันดีตรงที่ มันตัดบัตรเครดิตเลยค่ะ
คือ ไม่ได้พกเงินมาเยอะน่ะ 55555555
The Plaza de Armas
ใกล้ๆก็จะมีถนนคนเดิน หลายเส้น และยาวมากๆค่ะ มีของกิน ของฝากเยอะไปหมด
ไอศครีมอร่อยดีค่ะ ลองไปชิมดูนะ เหมือนรสช้าวโพด
มีร้านนึงที่คนต่อคิวยาวมากๆขายอยู่ แต่คอนเซปต์แฟนเราคือ ชีวิตนี้ห้ามรออาหาร
เลยไปร้านข้างๆที่ขายเหมือนกัน ละซื้อเจ้านี้กินแทนค่ะ 555555
ตรงนี้เป็นลานกิจกรรมข้างแม่น้ำค่ะ เหมือนเราจะไปวันเสาร์ คนเยอะมากๆ
อันนี้คล้ายๆตลกคาเฟ่บ้านเรา แล้วก็เก็บตังคนดูค่ะ
มีหลายซุ้มเลย
กลับที่พักมาเก็บของ พรุ่งนี้เตรียมตัวออกเดินทางไปเมืองกุสโก้
เราเริ่มกินยาไดอะมอกซ์ตามน้องหมอสั่งละค่ะ
ก็แอบคิดในในอยู่ว่า altitude sickness มันจะสักเท่าไหร่เชียว
เราเคยไปสูงสุดที่ Yading, Daocheng คุณหมิง ที่จุดสูงสุดคือ ทะเลสาบน้ำนม ความสูง 4600 เมตร เดินขึ้นยากมาก
แต่ไม่ปวดหัวไม่เป็นอะไรเลย แค่หายใจหอบเท่าน
[CR] เที่ยวเปรูไป MachuPicchu มาชูปิคชู Rainbow Mountain และตะลุยป่า Amazon 17 วัน (ส.ค. 2023)
พึ่งเที่ยวจบมาหมาดๆเลยค่ะ อยากมาอัพเดทการเดินทางเผื่อจะได้เป็นประโยชน์ เนื่องจากข้อมูลที่เรานั่งอ่านก่อนไปในเน็ตก็มีแบบนานหลายปีแล้ว
คิดว่าอันนี้น่าจะพอช่วยอัพเดทได้บ้างค่ะ
ทริปใช้เวลาทั้งหมด 17 วัน
เริ่มจาก
CNX> BKK > New York > Peru > New York > BKK > CNX
พอดีได้ตั๋วไป New york ถูก แต่ไม่อยากเที่ยวเมกา เลยแพลนกันว่าจะไปเมกาใต้แทน (ก็ได้เหรอ )
สถานที่ที่พวกเราสองคนอยากไปมานานแล้ว มีปรับแผนเยอะมาก จะไปทะเลเกลือที่ที่โบลิเวียด้วยแต่สุดท้ายจบที่เปรูประเทศเดียวค่ะ
งบทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ คนละ 115,000.- บาท ไม่รวมช้อปปิ้ง ซื้อของ กล้องพัง
คือเป็นค่าทริป กินอยู่เที่ยวอย่างเดียวค่ะ ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจากเชียงใหม่
ตอนอยู่นิวยอร์คใช้บัตร SCB Planet Card ที่ทะยอยแลกดอลล่าเก็บไว้ตั้งแต่ตอนดอลล่าอ่อนค่าค่ะ
เก็บเดือนละ 5000 บาทไปเรื่อยๆ ใช้รูดตามสถานีได้หมดเลย ร้านสะดวกซื้อ ง่ายมาก
ส่วนที่เปรูใช้เงิน Sol ประมาณ 9.5 บาท/1 sol ง่ายๆทริปนี้เราจะ x10 เลยนะคะ
เอาดอลล่าไปแลกโซล ที่สนามบิน และในลิม่าเอาค่ะ
ก่อนเดินทางไปอเมริกาใต้ คนไทยจะต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไปก่อน ฉีดปุ๊บกว่าจะมีผลหรือตัวยา activate ก็ 10 วัน
เพราะฉะนั้นควรวางแผนไปฉีดก่อนจะเดินทางเนิ่นๆน้า
เชียงใหม่ ไปฉีดได้ที่ คลีนิกเวชศาสตร์การเดินทางและการท่องเที่ยว ถ.ศรีดอนไชย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ตรงข้ามสุริวงศ์ บุคเซนเตอร์ค่ะ เราเลยถือโอกาสฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปด้วยเลย กลัวช่วงนี้เป็นก่อนเดินทาง
ที่นี่ฉีดไม่แพงค่ะ ทั้ง 2 วัคซีน
และเราก็โชคดีที่เจอน้องหมอทั้ง 3 ท่าน ให้คำแนะนำดีมากๆสำหรับการเดินทางไปพักอาศัยยังพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมากถึง 3600 เมตร
เพราะเราจะเจอกับ Altitude Sickness แน่นอน
ก็มีการแนะนำให้ทานยาไดอะม็อกซ์ก่อนไปถึงกี่วัน แนะนำให้ทานยามาลาเรียยังไง ซึ่งตอนที่พิมพ์อยู่ก็ยังทานยามาลาเรียยังไม่จบคอร์สเลยค่ะ
55555 กันไว้ดีกว่าแก้เน๊อะ
ขอเริ่มสตาร์ทจากสนามบินสุวรรณภูมิเลยนะคะ
ได้ตั๋วเครื่องบินของฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์มาในราคาประมาณ คนละ 21,000 บาท ฟูลเซอวิส
ถือว่าถูกมากๆ อาหารดี บริการดี มีหนังให้ดู 100กว่าเรื่อง
ไป stop ที่มนิลาก่อน โดยบินจากไทยไปมนิลาเพียง 3 ชั่วโมง พักเปลี่ยนเครื่องเพียง 1 ชั่วโมง
จุดนี้ๆ เริ่มเจอปัญหาที่สนามบินกับการที่ต้องไปต่อเครื่อง
กราวน์ที่ไทยแจ้งมาตอนเช็คอิน บอกว่าให้ไป identify กระเป๋าตอนถึงมะนิลาด้วย คือ งง มากๆ ที่กระเป๋าไม่ลากยาวไปถึงนิวยอร์ค
ก็วิ่งกันวุ่นเลยในสนามบิน เพราะจุดเช็คกระเป๋านั้นอยู่อีกเกทกับเกทที่จะไปต่อเครื่อง และเราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
แล้วก็มีคนงงๆ เหมือนกับเราเยอะมากๆ
สรุปไฟล์นั้นไปถึงนิวยอร์คดีเลย์ค่ะ จากที่จะต้องถึง 5 ทุ่ม 45 กลับดีเลย์ไปประมาณชั่วโมงนึง
ไปถึงเรียก Uber ไปพักที่ ไชน่าทาวน์ใน Manhattan ได้ที่พักจาก Airbnb มาในราคา 4 พันกว่าบาท/คืน
ใช้เวลาเที่ยวนิวยอร์ค 2 วัน แล้วถึงบินไปลิม่าค่ะ
ทริปนี้เราเน้นแบกเป้ ลุยๆ กัน 2 คนนะคะ
ที่พักอะไรต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนตามงบของแต่ละท่านได้เลย
นิวยอร์คช่วงนี้เป็น summer ค่ะ อยู่กลางแดดที่ไม่มีลมจะร้อน แต่ลมจะเป็นลมเย็นๆนะคะ ถ้าอยู่ในร่ม เย็นเลยค่ะ
เราออกเดินทางจากนิวยอร์คไปเปลี่ยนเครื่องที่ Fort Lauderdale,FL พักเครื่อง 2 ชม. มีเวลาให้หายใจหายคอ
นั่งกินBurger kingสบายๆ
นั่ง Jetblue ตอนไปฟลอริดา และถึง Lima ตอน 3-4 ทุ่ม นั่งของ spirit Airlines
ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมดประมาณ 11-12 ชั่วโมง จากทวีปหนึ่งสู่อีกทวีป
ค่าตั๋ว 11,150/คน + ค่ากระเป๋า 3,325 /คน
ทริปนี้เจอค่าโหลดกระเป๋าแพงและบินบ่อยมากค่ะ แต่ละที่อยู่ใกลกันมาก
มาถึงสนามบิน Lima เจออากาศ 15 องศาเข้าไป ต้องค้นหาเสื้อกันหนาวออกมาใส่เลยค่ะ
เรานัด taxi ที่เจ้าของบ้านแนะนำไว้ พูดอังกฤษปร๋อเลย (คนที่นี่ใช้ภาษาสเปน)
เราไม่ได้พัก Lima นะคะ ไปพักที่ Miraflores แทน เมืองติดชายฝั่ง อารมณ์แบบเมืองตากอากาศ
ค่าแทกซี่ 20 ดอลล่า มันไกลอยู่ค่ะ นั่งรถสัก 30-40 นาที คนขับแท็กซี่เล่าเรื่องประเทศเปรูให้เยอะมากๆ
คือรอบนี้ไม่ได้ซื้อหนังสือ หรือ อ่านบทความอะไรมาก่อนเลยค่ะ
คิดแค่ว่าจะไปมาชูปิคชู เดี๋ยวไปอ่านประวัติหรือค่อยจ้างไกด์กัน
ที่พักที่จองไว้คืนละ 800+ ไม่แพงค่ะ ที่พักเมืองนี้
แต่ค่ากินนี่แพงเอาเรื่องนะคะ
ที่พักจาก airbnb เจ้าของบ้านเป็นเชพเบเกอรี่ค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย ข้างๆเป็นมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน เดินไป 1 นาทีถึง
เช้าวันรุ่งขึ้น แพลนเก็บ Lima และ Miraflores วันนี้ให้ครบวันเดียว
เพราะอีกวันต้องเดินทางต่อไป Cusco กุสโก้ เมืองที่จะสามารถเดินทางไปมาชูปิคชู และ Rainbow Mountain ได้
เช้ามาเดินจิ้มๆหาของกิน ไปเจอร้านอาหารเช้าที่นี่ค่ะ
คนเยอะด้วย
การสั่งอาหารที่นี่ยากลำบากมาก ถ้าร้านไหนไม่มีรูปภาพ และ ภาษาอังกฤษ
แต่ว่าเราโหลดแอพ dict ภาษาสเปนมาก่อน ที่ใช้แบบออฟไลน์ได้ ปีละ 300 บาท แม่นยำ ใช้ได้แปลได้เข้าใจดีค่ะ
คนที่นี่ใช้ภาษา spanish เป็นภาษาราชการเลยค่ะ
และฟังภาษาอังกฤษไม่ออกเลยแม่
จานด้านบนนี้ ลักษณะเหมือนขนมกล้วยบ้านเรา แต่ไม่ใช่ รสชาติออกเค็มๆ มีหมูและไข่เค็มข้างในค่ะ
ข้างๆเป็นเหมือนอาจาด มีรสเปรี้ยว ไม่หวาน อีกหน่อยจะเจออาจาดบ่อยๆในทริปค่ะ อิอิ
ส่วนอันนี้ ลองจิ้มมาดู เมนูแรก ของเครื่องดื่ม มันต้องเป็นเมนูคลาสสิค หรือ เมนูขายดีที่คนสั่งประจำแน่ ที่คิดไว้นะ 5555
ได้มาเป็นน้ำข้าวโพดม่วง ชื่อ Chicha ค่ะ
คือเป็นน้ำผลไม้ประจำประเทศเลยก็ว่าได้ ใครมาก็ควรต้องลองน้ำนี้นะคะ
แต่แก้วนี้คงจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านแน่ๆเลย เพราะใส่กระพรวน อบเชย หรือ cinnamon ลงไป ทำให้รสชาติเหมือนยาหม่องจนเราขยาด 5555
และยังใส่มะนาวหรือน้ำส้มลงไปด้วย
แต่พอไปลองที่อื่น เค้ากลับไม่ใส่ เป็นน้ำข้าวโพดเพียวๆผสมน้ำเปล่าให้เจือจางหน่อย อันนั้นหวานละมุน อร่อย ถูกปากคนไทยค่ะ 555
ทานเสร็จ เลยนั่ง uber ไปส่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ดูปิรามิดดินเหนียวขนาดใหญ่
ใกล้ๆแถวนั้นค่ะ ชื่อ The Huaca Pucllana ค่ะ
ช่วงนี้เป็น Dry Season ค่ะ ทั้งปีมี 2 ฤดู ฝน กับ แห้งค่ะ Dry ก็จะหนาวๆ เย็นๆ
เดินเล่นในเมือง จะเห็นต้นกระบองเพชรอยู่เลียบฟุตบาทได้ตลอดทางค่ะ
สวยแปลกตาดี
uber มาส่งใกล้ๆปากทางเข้า เราเดินอีกนิดก็ถึง
มองจากด้านนอกรั้ว มันอลังการมาก
ค่าเข้าชมคนละ 15 Sol (150 บาท)
ฟรีไกด์ มีเป็นรอบๆ รอบภาษาสเปน และอังกฤษ รอบ english speaking guide อาจจะต้องรอให้นักท่องเที่ยวมาเยอะๆหน่อย ถึงจะออก
ฟังไกด์รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง 5555 แต่พอจับใจความได้ว่าที่นี่พึ่งมาค้นพบเมื่อ 40 ปีที่แล้วนี่เองค่ะ
ทั้งๆที่สิ่งก่อสร้างแห่งนี้เป็นยุค pre-inca เลย คืออายุหลักพันปี กรุงเทพเราก็แค่ 200 กว่าปีเอง
จากปิรามิดดินเผา เราก็แพลนไปทานร้านอาหารของเชฟชื่อดังในเปรู ซึ่งอันนี้ก็อ่านมาจากเพื่อนในพันทิปเนี่ยแหล่ะ
สั่งเหมือนเค้า 1 อย่าง อีก 1 อย่างก็ให้ทางร้านแนะนำ
อันนี้คือข้าวผัด ใส่หมูกรอบ มันหวาน เนื้อไก่ และเหมือนไส่อั่วหั่น ท็อปด้วยหอมแดงและอโวคาโด้ รสชาติก็ใช้ได้ น่าจะเป็นรสชาติที่อร่อยของชาว peruvian ละหล่ะ
ใครอยากลองเมนูนี้ชื่อว่า ARROZ CON CHANCHO ... ราคา490 บาท
ส่วนเมนูนี้ ให้ทางร้านแนะนำ เป็นเนื้อกับข้าวผสมมันบด อร่อยมากๆ
SECO DE RES CON TACU TACU DE ... จดไม่หมดชื่อยาวมาก จานนี้ 520 บาท
ทานอาหารเสร็จ เรียก uber ไป The park of love 40-60 บาท ไปนั่งชิลๆเอาบรรยากาศริมทะเล หากาแฟทาน
จากนี้ เราก็ไปเก็บสถานที่เที่ยว เป็นถนนคนเดินในเมือง Lima ค่ะ นั่งอูเบอร์ไป สัก 30 นาที
จริงๆมีคนแนะนำแอพชื่อ cabify ด้วย คล้ายๆอูเบอร์ แต่พอดีไม่ได้ใช้ เพราะอูเบอร์มันดีตรงที่ มันตัดบัตรเครดิตเลยค่ะ
คือ ไม่ได้พกเงินมาเยอะน่ะ 55555555
The Plaza de Armas
ใกล้ๆก็จะมีถนนคนเดิน หลายเส้น และยาวมากๆค่ะ มีของกิน ของฝากเยอะไปหมด
ไอศครีมอร่อยดีค่ะ ลองไปชิมดูนะ เหมือนรสช้าวโพด
มีร้านนึงที่คนต่อคิวยาวมากๆขายอยู่ แต่คอนเซปต์แฟนเราคือ ชีวิตนี้ห้ามรออาหาร
เลยไปร้านข้างๆที่ขายเหมือนกัน ละซื้อเจ้านี้กินแทนค่ะ 555555
ตรงนี้เป็นลานกิจกรรมข้างแม่น้ำค่ะ เหมือนเราจะไปวันเสาร์ คนเยอะมากๆ
อันนี้คล้ายๆตลกคาเฟ่บ้านเรา แล้วก็เก็บตังคนดูค่ะ
มีหลายซุ้มเลย
กลับที่พักมาเก็บของ พรุ่งนี้เตรียมตัวออกเดินทางไปเมืองกุสโก้
เราเริ่มกินยาไดอะมอกซ์ตามน้องหมอสั่งละค่ะ
ก็แอบคิดในในอยู่ว่า altitude sickness มันจะสักเท่าไหร่เชียว
เราเคยไปสูงสุดที่ Yading, Daocheng คุณหมิง ที่จุดสูงสุดคือ ทะเลสาบน้ำนม ความสูง 4600 เมตร เดินขึ้นยากมาก
แต่ไม่ปวดหัวไม่เป็นอะไรเลย แค่หายใจหอบเท่าน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น