1.สื่อในกรุงยังคิดว่าผู้ว่า นายอำเภอ กำนัน ผญบ. อบต. ยังมีอิทธิพลต่อแนวคิด การดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เลย ...ในพื้นที่ชนบท กำนัน ผญบ. อบต. ไม่ได้มีภาพลักษณ์แบบโบราณ ที่เป็นผู้มีอิทธิพล ตามที่สื่อจินตนาการ..ส่วนใหญ่ เกือบทุกคนก็เป็นคนเกษตรกร หรือคนที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ อาสามาเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ในการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสื่อสารจากหน่วยงานราชการต่างๆ เขาไม่ได้มีอิทธิพลชักนำด้านการเมืองใดๆเลย...(พี่ชายเป็น ผญบ. เช้ามาถ้าไม่มีประชุมที่อำเภอ ก็ไปทำไร่ ทำนา ตามปกติ มีเรื่องอะไรก็ประกาศเสียงตามสาย) เช่นเดียวกันกับระดับปลัดอำเภอ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ก็นั่งทำงานที่ศาลากลาง ยิ่งไม่มีบทบาทอิทธิพลใดๆเลย ดังนั้นการยกว่า มหาดไทยคือ กระทรวงเกรด เอ เป็นเรื่องที่น่าจะไม่ใช่ ไม่ควรเอาบริบทของ กทม. มาเทียบกับจังหวัดที่ผู้ว่ามาจากการแต่งตั้งครับ
2. กระทรวงศึกษาธิการ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เจ้ากระทรวงจะเอาใครมาเป็น...ปัญหาคือ ความคิด และอิทธิพลของข้าราชการประจำระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการมันฝังแน่น ทำให้การศึกษาไทยยิ่งตกต่ำลง แม้จะมีงบประมาณมาก แต่ไม่มีความคุ้มค่าทางการลงทุนเลย ผมในฐานะครูสอนมา 33 ปี
2.1 ในการสอบบรรจุรับราชการครู จะรับเฉพาะผู้ที่มีวุฒิการศึกษาด้านครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ซึ่งความรู้ด้านวิชาการเมื่อเทียบกับผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ คนละเรื่อง...โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษา ทำให้นักเรียนไทยมีความรู้ด้านคณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ ภาษาอังกฤษ ในระดับที่ต่ำ เหตุผลคือ ครูผู้สอนมีระดับความรู้ที่เรียนมาไม่ได้สูงมาก..เพราะสาขาที่เรียนจบมา เน้นในเรื่องการสอน วิธีการสอน ไม่ได้เน้นในเรื่องวิชาการ ซึ่งเป็นปัญหามานาน ดังนั้น ใครก็ได้เมื่อเข้ามาแล้ว เข้ามาจัดการปลดล๊อคเรื่องนี้ การศึกษาไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน...
2.2 ครูปัจจุบัน ทุกคนที่เริ่มรับราชการมุ่งเป้ากันไปเป็นผู้บริหาร เพราะการได้ตำแหน่งระดับสูง จะมีเส้นทางที่ง่ายต่อสายผู้สอน...ทำให้ครูที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เกือบทุกคน เมื่อเรียนต่อระดับสูง จะเรียนสายบริหารการศึกษากันเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะระเบียบแย่ๆ ที่ได้ออกกันมา เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกันนั้น คือ ผู้จะสอบเป็นผู้บริหาร ต้องมีวุฒิบริหารการศึกษา...เป็นเรื่องที่ตลกร้องไห้ต่อการศึกษาไทย ระเบียบแบบนี้ได้ทำลายความรู้ด้านวิชาการของครู ของนักเรียน ของประเทศ...ถ้าไม่เชื่อ ไปสำรวจดูได้เลยว่า สาขาบริหารการศึกษากำลังบูมมาก..แต่สาขาที่เกี่ยวข้องด้านวิชาการไม่มีครูคนไหนมาเรียน เพื่อเพิ่มความรู้..นี่คือ การศึกษาไทย
.....ถ้าผมมีโอกาส ผมจะเข้าไปคุยกับท่าน เจ้ากระทรวงคนใหม่ในกระทรวงศึกษาธิการ ท่านไม่จำเป็นต้องเรียนครู เรียนการศึกษา แค่รู้ความจริง และกล้าล้างระบบ ที่มันฝังโดยข้าราชการประจำ คุรุสภา กคศ.....
จากใจครูภูธรส่งเสียงถึงสื่อในกรุงเทพในเรื่องมหาดไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ
2. กระทรวงศึกษาธิการ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เจ้ากระทรวงจะเอาใครมาเป็น...ปัญหาคือ ความคิด และอิทธิพลของข้าราชการประจำระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการมันฝังแน่น ทำให้การศึกษาไทยยิ่งตกต่ำลง แม้จะมีงบประมาณมาก แต่ไม่มีความคุ้มค่าทางการลงทุนเลย ผมในฐานะครูสอนมา 33 ปี
2.1 ในการสอบบรรจุรับราชการครู จะรับเฉพาะผู้ที่มีวุฒิการศึกษาด้านครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ซึ่งความรู้ด้านวิชาการเมื่อเทียบกับผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ คนละเรื่อง...โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษา ทำให้นักเรียนไทยมีความรู้ด้านคณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ ภาษาอังกฤษ ในระดับที่ต่ำ เหตุผลคือ ครูผู้สอนมีระดับความรู้ที่เรียนมาไม่ได้สูงมาก..เพราะสาขาที่เรียนจบมา เน้นในเรื่องการสอน วิธีการสอน ไม่ได้เน้นในเรื่องวิชาการ ซึ่งเป็นปัญหามานาน ดังนั้น ใครก็ได้เมื่อเข้ามาแล้ว เข้ามาจัดการปลดล๊อคเรื่องนี้ การศึกษาไทยจะดีขึ้นอย่างแน่นอน...
2.2 ครูปัจจุบัน ทุกคนที่เริ่มรับราชการมุ่งเป้ากันไปเป็นผู้บริหาร เพราะการได้ตำแหน่งระดับสูง จะมีเส้นทางที่ง่ายต่อสายผู้สอน...ทำให้ครูที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เกือบทุกคน เมื่อเรียนต่อระดับสูง จะเรียนสายบริหารการศึกษากันเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะระเบียบแย่ๆ ที่ได้ออกกันมา เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกันนั้น คือ ผู้จะสอบเป็นผู้บริหาร ต้องมีวุฒิบริหารการศึกษา...เป็นเรื่องที่ตลกร้องไห้ต่อการศึกษาไทย ระเบียบแบบนี้ได้ทำลายความรู้ด้านวิชาการของครู ของนักเรียน ของประเทศ...ถ้าไม่เชื่อ ไปสำรวจดูได้เลยว่า สาขาบริหารการศึกษากำลังบูมมาก..แต่สาขาที่เกี่ยวข้องด้านวิชาการไม่มีครูคนไหนมาเรียน เพื่อเพิ่มความรู้..นี่คือ การศึกษาไทย
.....ถ้าผมมีโอกาส ผมจะเข้าไปคุยกับท่าน เจ้ากระทรวงคนใหม่ในกระทรวงศึกษาธิการ ท่านไม่จำเป็นต้องเรียนครู เรียนการศึกษา แค่รู้ความจริง และกล้าล้างระบบ ที่มันฝังโดยข้าราชการประจำ คุรุสภา กคศ.....