JJNY : #conforall ล่าสุด 161,999 ชื่อ│“นิด้าโพล”ชี้ตั้งรบ.สลายขั้ว│‘พัทยา’เหงา‘ตี๋หมวย’เที่ยวลดลง│เมียนมาระงับส่งออกข้าว

ยิ่งชีพ เปิดยอด #conforall ล่าสุด 161,999 รายชื่อ เหนือปาฏิหาริย์คือเจตจำนง ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4149054
 
 
ยิ่งชีพ เปิดยอด #conforall ล่าสุด 161,999 รายชื่อ เหนือปาฏิหาริย์คือเจตจำนง ปชช.
 
กรณีแคมเปญ “เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%” #conforall ซึ่งเป็นกิจกรรมที่รณรงค์เพื่อร่วมผลักดันการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตั้งเป้าหมายเชิญชวนประชาชนเข้าชื่อให้ครบ 50,000 ชื่อ เพื่อเสนอคำถามสำหรับการทำประชามติ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทว่า กกต.ระบุว่า ไม่สามารถนำรายชื่อที่รวบรวมผ่านช่องทางออนไลน์ไปเสนอคำถามประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ จึงต้องขอแรงประชาชนร่วมกันลงรายชื่อใหม่อีกครั้งบนกระดาษ ตามจุดต่างๆ ที่มีการตั้งบูธ ต้องได้ 50,000 รายชื่อตามเป้า ภายใน 25 สิงหาคมนี้ ซึ่งล่าสุดได้ทะลุเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย
 
กระทั่งคืนวานนี้ (25 สิงหาคม) ยอดก็ได้ทะลุ 100,000 รายชื่อด้วย และทีมงานนับรายชื่อผู้ร่วมแคมเปญต่อไป ทั้งจากที่ส่งมาทางไปรษณีย์ และตามจุดลงทะเบียนต่างๆ
 
ล่าสุด วันนี้ 26 สิงหาคม เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการไอลอว์ (iLaw) ได้ทวีตรูปภาพกระดานสรุปยอดรายชื่อของแคมเปญ #conforall ที่มีตัวเลข 161,999 พร้อมระบุข้อความว่า
 
“สามวันก่อนเรียกว่าปาฏิหาริย์
เมื่อวานได้แสนนึง เรียกว่าบรรทัดฐานของสังคมใหม่
วันนี้กำลังสงสัยว่า พวกเราทำอะไรลงไป
แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดี”

ขณะที่ทางด้าน เพจ iLaw ได้ระบุว่า  

ยอดรายชื่อเสนอคำถามประชามติล่าสุด อัพเดท 20.00 น. ของวันที่ 26 สิงหาคม 2566 เพิ่มขึ้นและทะลุไปไกลจากเอกสารที่มากับซองไปรษณีย์
 
แต่ทุกเสียงที่แสดงเจตจำนงร่วมกัน ไม่ได้มีความหมายแค่ตัวเลข
 
หลังตัวเลขมีเรื่องเล่ามากมาย กว่าหนึ่งคนจะตัดสินใจลงชื่อ กว่าจะเดินทางหากันเจอ กว่าจะรวบรวมจนได้มา
คืนนี้ ชวนทุกคนมาแชร์ประสบการณ์
 
สามวันที่ผ่านมา แต่ละคนช่วยกันหารายชื่อกันมากมายหลากหลายวิธี เกิดอะไรขึ้นสารพัด พบเจอและผ่านอะไรกันมาบ้าง … เล่าหน่อยยยยย
  
https://twitter.com/yingcheep/status/1695432844620050935
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/pfbid02LS9X1csxAuMxSBqJUKxdUwhBy8wifwttFE1k8j9EJaoSfbtrinyrWWyAxgGmtpU6l
 


“นิด้าโพล” ชี้ตั้งรัฐบาลสลายขั้ว ชู “เศรษฐา”เป็นนายกฯ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_604155/

“นิด้าโพล” ชี้ตั้งรัฐบาลสลายขั้ว ชู “เศรษฐา”เป็นนายกฯ ยังมีขัดแย้งทางการเมืองกลุ่มส้ม ขณะ”ทักษิณ”กลับไทยเข้ากระบวนยุติธรรม ก็ช่วยไม่ได้
 
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความขัดแย้งทางการเมือง สลายหรือยัง?” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง
 
โดยเมื่อถามถึงการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มต่าง ๆ ของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 87.63 ระบุว่า ไม่เคย ไปร่วมชุมนุมใด ๆ กับกลุ่มทางการเมืองเหล่านี้ รองลงมา ร้อยละ 4.35 ระบุว่า เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. – กลุ่มเสื้อแดง) ร้อยละ 3.13 ระบุว่า เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม. – กลุ่มเสื้อเหลือง) ร้อยละ 3.05 ระบุว่า เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และร้อยละ 2.82 ระบุว่า เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มสามนิ้ว (กลุ่มเสื้อส้ม)
 
ด้านกลุ่มทางการเมืองที่ประชาชนมองว่าตนเองอยู่ในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 69.47 ระบุว่า ไม่อยู่ในกลุ่มทางการเมืองใด ๆ รองลงมา ร้อยละ 19.85 ระบุว่า กลุ่มสามนิ้ว (กลุ่มเสื้อส้ม) ร้อยละ 6.64 ระบุว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
(นปช. – กลุ่มเสื้อแดง) ร้อยละ 2.59 ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม. – กลุ่มเสื้อเหลือง) และร้อยละ 1.45 ระบุว่า  กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
 
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ “สลายขั้ว” ของพรรคเพื่อไทย โดยมีคุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้มีการสลายความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง กปปส. พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.72 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 20.61 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 20.53 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 19.85 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อการกลับประเทศไทยของคุณทักษิณ ชินวัตร เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะทำให้มีการ สลายความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง กปปส. พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.76 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 22.29 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 18.25 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 1.68 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อความขัดแย้งระหว่างกลุ่มทางการเมืองในอนาคต พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.39 ระบุว่า กลุ่มเสื้อส้ม กับ ทุกกลุ่ม (เสื้อเหลือง เสื้อแดง กปปส.) รองลงมา ร้อยละ 24.89 ระบุว่า ไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกลุ่มอีกต่อไป ร้อยละ 16.56 ระบุว่า กลุ่มเสื้อแดง กับ กลุ่มเสื้อส้ม ร้อยละ 6.72 ระบุว่า กลุ่มเสื้อเหลือง กับ กลุ่มเสื้อแดง ร้อยละ 2.44 ระบุว่า กลุ่มเสื้อแดง กับ กลุ่ม กปปส. ร้อยละ 2.29 ระบุว่า กลุ่มเสื้อเหลือง กับ กลุ่มเสื้อส้ม ร้อยละ 1.45 ระบุว่า  กลุ่ม กปปส. กับ กลุ่มเสื้อส้ม ร้อยละ 0.53 ระบุว่า กลุ่มเสื้อเหลือง กับ กลุ่ม กปปส. และร้อยละ 10.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
  


‘พัทยา’ เหงา ‘ตี๋หมวย’ เที่ยวลดลง-ยอดจองห้องพักฮวบ เหตุปักหมุดพูลวิลล่าของจีน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4149074

‘พัทยา’ เหงา ‘ตี๋หมวย’ เที่ยวลดลง-ยอดจองห้องพักฮวบ เหตุปักหมุดพูลวิลล่าของจีน
 
นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวในปัจจุบันของเมืองพัทยา ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะนี้มีจำนวนลดน้อยลงกว่าเดิมจากคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากมีการตรวจเข้มในการออกวีซ่าให้ยากมากขึ้น และเรื่องของการสายการบินที่พบว่า มีจำนวนไฟล์ทที่น้อย มีไม่เพียงพอกับนักท่องเที่ยวจีน
 
นายบุญอนันต์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาตอนนี้จะเป็นกลุ่มเที่ยวด้วยตัวเอง (เอฟไอที) เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ก็มีกรุ๊ปทัวร์เข้ามาบ้าง ประมาณ 40%
 
หากเปรียบเทียบกับช่วงโลซีซั่นก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาน้อยกว่า ประมาณ 40% ยอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงนี้มีน้อย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวจะอาศัยอยู่ตามพูลวิลล่า โรงแรมที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนเหมือนกัน
 
และหากเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า นักท่องเที่ยวจีนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด หากเปรียบเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ซึ่งที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าเนื่องจาก ภูเก็ต และเชียงใหม่ มีสนามบินตรง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวก
 
พัทยา มีสนามบินอู่ตะเภา ก็จริง แต่ยังมีไฟลท์บินน้อย แม้ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนยังถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักในเมืองพัทยา ส่วนช่วงที่สถานการณ์ปกติ ไม่ว่าจะเดินทางมาแบบกรุ๊ปทัวร์ หรือเอฟไอที นักท่องเที่ยวเหล่านี้สามารถนำเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจภายในเมืองพัทยา และยังเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของเมืองพัทยาอีกด้วย” นายบุญอนันต์ กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่