อาหารทะเลญี่ปุ่นระส่ำ ส่งออกแสนล้านหายเกือบครึ่ง หลังจีน-ฮ่องกงแบนจากเหตุปล่อยน้ำ
.
อุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเลญี่ปุ่นมูลค่า 387,000 ล้านเยน (ประมาณ 93,000 ล้านบาท) เจอผลกระทบหนัก ตลาดส่งออกหายเกือบครึ่ง หลังจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจในความปลอดภัย จากการที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
.
บริษัท โตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ (Tokyo Electric Power Company) ซึ่งบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ (Fukushima Daiichi) ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันที่ 24 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ทำให้คำสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นของจีน ฮ่งกง และมาเก๊า เริ่มมีผลในทันที
.
ก่อนหน้านี้จีนประกาศไว้ว่าจะห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ถ้าญี่ปุ่นปล่อยน้ำลงทะเล แต่เมื่อญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงมหาสมุทรจริง ๆ จีนได้เพิ่มระดับการควบคุมเป็นการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ โดยห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมดจากทุกส่วนของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะไม่สามารถส่งขายจีนได้เลย
.
ขณะเดียวกัน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊าของจีนก็ประกาศหห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น ประกอบด้วยโตเกียว ฟุกุชิมะ ชิบะ กุนมะ โทชิกิ อิบารากิ มิยางิ นีงาตะ นากาโนะ และไซตามะ โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำ
.
การห้ามนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นของจีน ฮ่องกง และมาเก๊า คาดว่าจะสร้างผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการส่งออกไปยัง 3 ปลายทางนี้รวมกันคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของการส่งออกอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบนอย่างเต็มรูปแบบของจีนซึ่งเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นอย่างมาก
.
อุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเลญี่ปุ่นมูลค่า 387,000 ล้านเยน (ประมาณ 93,000 ล้านบาท) เจอผลกระทบหนัก ตลาดส่งออกหายเกือบครึ่ง หลังจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจในความปลอดภัย จากการที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
.
บริษัท โตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ (Tokyo Electric Power Company) ซึ่งบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ (Fukushima Daiichi) ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันที่ 24 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ทำให้คำสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นของจีน ฮ่งกง และมาเก๊า เริ่มมีผลในทันที
.
ก่อนหน้านี้จีนประกาศไว้ว่าจะห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ถ้าญี่ปุ่นปล่อยน้ำลงทะเล แต่เมื่อญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงมหาสมุทรจริง ๆ จีนได้เพิ่มระดับการควบคุมเป็นการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ โดยห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมดจากทุกส่วนของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะไม่สามารถส่งขายจีนได้เลย
.
ขณะเดียวกัน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊าของจีนก็ประกาศหห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น ประกอบด้วยโตเกียว ฟุกุชิมะ ชิบะ กุนมะ โทชิกิ อิบารากิ มิยางิ นีงาตะ นากาโนะ และไซตามะ โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำ
.
การห้ามนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นของจีน ฮ่องกง และมาเก๊า คาดว่าจะสร้างผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการส่งออกไปยัง 3 ปลายทางนี้รวมกันคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของการส่งออกอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบนอย่างเต็มรูปแบบของจีนซึ่งเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นอย่างมาก
ธุรกิจอาหารทะเลญี่ปุ่นระส่ำ
.
อุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเลญี่ปุ่นมูลค่า 387,000 ล้านเยน (ประมาณ 93,000 ล้านบาท) เจอผลกระทบหนัก ตลาดส่งออกหายเกือบครึ่ง หลังจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจในความปลอดภัย จากการที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
.
บริษัท โตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ (Tokyo Electric Power Company) ซึ่งบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ (Fukushima Daiichi) ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันที่ 24 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ทำให้คำสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นของจีน ฮ่งกง และมาเก๊า เริ่มมีผลในทันที
.
ก่อนหน้านี้จีนประกาศไว้ว่าจะห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ถ้าญี่ปุ่นปล่อยน้ำลงทะเล แต่เมื่อญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงมหาสมุทรจริง ๆ จีนได้เพิ่มระดับการควบคุมเป็นการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ โดยห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมดจากทุกส่วนของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะไม่สามารถส่งขายจีนได้เลย
.
ขณะเดียวกัน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊าของจีนก็ประกาศหห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น ประกอบด้วยโตเกียว ฟุกุชิมะ ชิบะ กุนมะ โทชิกิ อิบารากิ มิยางิ นีงาตะ นากาโนะ และไซตามะ โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำ
.
การห้ามนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นของจีน ฮ่องกง และมาเก๊า คาดว่าจะสร้างผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการส่งออกไปยัง 3 ปลายทางนี้รวมกันคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของการส่งออกอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบนอย่างเต็มรูปแบบของจีนซึ่งเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นอย่างมาก
.
อุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเลญี่ปุ่นมูลค่า 387,000 ล้านเยน (ประมาณ 93,000 ล้านบาท) เจอผลกระทบหนัก ตลาดส่งออกหายเกือบครึ่ง หลังจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น เหตุไม่มั่นใจในความปลอดภัย จากการที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
.
บริษัท โตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ (Tokyo Electric Power Company) ซึ่งบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ (Fukushima Daiichi) ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันที่ 24 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ทำให้คำสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นของจีน ฮ่งกง และมาเก๊า เริ่มมีผลในทันที
.
ก่อนหน้านี้จีนประกาศไว้ว่าจะห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ถ้าญี่ปุ่นปล่อยน้ำลงทะเล แต่เมื่อญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงมหาสมุทรจริง ๆ จีนได้เพิ่มระดับการควบคุมเป็นการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ โดยห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมดจากทุกส่วนของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะไม่สามารถส่งขายจีนได้เลย
.
ขณะเดียวกัน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊าของจีนก็ประกาศหห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น ประกอบด้วยโตเกียว ฟุกุชิมะ ชิบะ กุนมะ โทชิกิ อิบารากิ มิยางิ นีงาตะ นากาโนะ และไซตามะ โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำ
.
การห้ามนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นของจีน ฮ่องกง และมาเก๊า คาดว่าจะสร้างผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการส่งออกไปยัง 3 ปลายทางนี้รวมกันคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของการส่งออกอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบนอย่างเต็มรูปแบบของจีนซึ่งเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นอย่างมาก