เรื่องมีอยู่ว่าพี่สาวของเรานั่งวินวอเตอร์ไซค์รับจ้างไปทำงานปกติ แต่วันที่เกิดเหตุ ลุงวินขับมาแล้วมีมอเตอร์ไซค์อีกคันมาเกี่ยวรถที่พี่สาวเรานั่งมาล้ม สาเหคุที่เกี่ยวเพราะรถตู้เปลี่ยนเลนเข้ามาเลนที่รถมอเตอร์ไซค์ท้ังสองคันขับมา จึงทำให้มอเตอร์ไซค์คู่กรณีหักหลบมาเกี่ยวกัน ลุงวินมีอาการซี่โครงหัก ฟกซ้ำ และบาดแผลตามร่างกาย ส่วนพี่สาวเราไม่มีแผลอะไร แต่ขาหัก ตอนเกิดเหตุรถกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเอกชน ค่าผ่าตตัดเบ็ดเสร็จ 200,000 บาทขึ้น ซึ่งเกินวงเงิน พรบ. มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเราก็รอทางตำรวจแจ้งว่าสามารถใช้ประกันรถตู้ได้หรือไม่ ซึ่งทางประกันรถตู้และมอเติร์ไซค์คู่กรณีอีกคัน ล้วนไม่ยอมรับว่าผิด ตำรวจจึงต้องนัดมาเจรจากันใหม่อีกครั้ง แต่โรงพยาบาลเอกชนไม่สามารถรอได้ เราจึงต้องให้พี่สาวย้ายโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลรัฐบาล ซึ่งอยู่ไกลมาก
และทางโรงพยาบาลยังไม่สามารถผ่าตัดให้ได้โดยทันทีก็ให้กลับมาบ้านก่อน นัดไปอีกทีวันที่ 27 กรกฎา ซึ่งเหตุมันเกิดวันที่ 25 กรกฎา พี่สาวเราอยู่อพาร์ตเมนต์ชั้น 4 ไม่มีลิฟต์ ขึ้นไม่ได้ ต้องไปหาเปิดห้องเช่ารายวัน วันที่ 27 กรกฎา หมอแจ้งว่าได้คิวผ่าวันที่ 7 สิงหาคม พี่เราก็เลยขอแอดมิดรอผ่าเลย เพราะไม่อยากเทียวไปเทียวมา มันลำบาก เพราะตัวเขาค่อนข้างอวบและไม่มีคนดูแล แล้วตำรวจนัดคุยกันวันที่ 1 สิงหาคม เราก็กะว่าถ้าตำรวจให้รถตู้ผิดเราจะให้พี่สาวเราไปผ่าเอกชน สุดท้าย คู่กรณีที่เป็นคนขับรถตู้ แจ้งว่ามาไม่ได้ เพราะกลับบ้านต่างจังหวัด เราโทรหาก็ไม่รับ ไม่โทรกลับ คดีก็ยังไม่จบต้องเลื่อนไปอีก
ปัจจุบัน พี่สาวเราผ่าตัดเสร็จแล้วเรียบร้อย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เราหาห้องเช่าใกล้เราให้เขามาอยู่ก่อนเพื่อที่เราสามารถไปดูแลได้สะดวก (ส่วนตัวไม่สะดวกให้พี่สาวมาอยู่ด้วยได้) แล้วตำรวจตัดสินว่ารถทั้งสามคัน ได้แก่ วินมอเตอร์ไซค์คันที่พี่สาวเราซ้อนมา มอเตอร์ไซค์อีกครัน และรถตู้ ประมาทร่วม รับผิดชอบร่วมกัน กำลังจะนัดเจรจากันเรื่องค่าสินไหมทดแทน ค่าชดเชยรายได้ เราเรียกตามจริง แต่ส่วนค่าทำขวัญ ควรเรียกเท่าไหร่ดีคะ หรือมีค่าอะไรที่เราควรเรียกจากคู่กรณีบ้าง มีพี่ๆคนไหนสามารถแนะนำได้รบกวนหน่อยนะคะ กลัวเรียกมากไปน้อยไป
ปล.ค่าใช้จ่ายการรักษาและผ่าตัด ใช้วงเงิน พรบ.ของวินมอเตอร์ไซค์ ครบ 30,000 บาท และส่วนเกินใช้สิทธิ์บัตรทองค่ะ
การเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีเกิดอุบัติเหตุ ควรเรียกเท่าไหร่ ใครพอแนะนำได้บ้างคะ
และทางโรงพยาบาลยังไม่สามารถผ่าตัดให้ได้โดยทันทีก็ให้กลับมาบ้านก่อน นัดไปอีกทีวันที่ 27 กรกฎา ซึ่งเหตุมันเกิดวันที่ 25 กรกฎา พี่สาวเราอยู่อพาร์ตเมนต์ชั้น 4 ไม่มีลิฟต์ ขึ้นไม่ได้ ต้องไปหาเปิดห้องเช่ารายวัน วันที่ 27 กรกฎา หมอแจ้งว่าได้คิวผ่าวันที่ 7 สิงหาคม พี่เราก็เลยขอแอดมิดรอผ่าเลย เพราะไม่อยากเทียวไปเทียวมา มันลำบาก เพราะตัวเขาค่อนข้างอวบและไม่มีคนดูแล แล้วตำรวจนัดคุยกันวันที่ 1 สิงหาคม เราก็กะว่าถ้าตำรวจให้รถตู้ผิดเราจะให้พี่สาวเราไปผ่าเอกชน สุดท้าย คู่กรณีที่เป็นคนขับรถตู้ แจ้งว่ามาไม่ได้ เพราะกลับบ้านต่างจังหวัด เราโทรหาก็ไม่รับ ไม่โทรกลับ คดีก็ยังไม่จบต้องเลื่อนไปอีก
ปัจจุบัน พี่สาวเราผ่าตัดเสร็จแล้วเรียบร้อย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เราหาห้องเช่าใกล้เราให้เขามาอยู่ก่อนเพื่อที่เราสามารถไปดูแลได้สะดวก (ส่วนตัวไม่สะดวกให้พี่สาวมาอยู่ด้วยได้) แล้วตำรวจตัดสินว่ารถทั้งสามคัน ได้แก่ วินมอเตอร์ไซค์คันที่พี่สาวเราซ้อนมา มอเตอร์ไซค์อีกครัน และรถตู้ ประมาทร่วม รับผิดชอบร่วมกัน กำลังจะนัดเจรจากันเรื่องค่าสินไหมทดแทน ค่าชดเชยรายได้ เราเรียกตามจริง แต่ส่วนค่าทำขวัญ ควรเรียกเท่าไหร่ดีคะ หรือมีค่าอะไรที่เราควรเรียกจากคู่กรณีบ้าง มีพี่ๆคนไหนสามารถแนะนำได้รบกวนหน่อยนะคะ กลัวเรียกมากไปน้อยไป
ปล.ค่าใช้จ่ายการรักษาและผ่าตัด ใช้วงเงิน พรบ.ของวินมอเตอร์ไซค์ ครบ 30,000 บาท และส่วนเกินใช้สิทธิ์บัตรทองค่ะ