สวัสดีค่ะ ....เราชื่อตุ๊ดตู่ เรามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ..เราเป็นครอบครัวคนจีนที่ถูกครอบครอบครัวปลูกฝังให้ช่วยเหลือตัวเอง ....เรามีพี่น้อง 3 คนเราเป็น้องสาวคนสุดท้องมีพี่ชาย 2 คน พอถึงวัยทำงาน เราก็เก็บเงินเพื่อที่จะซื้อรถ แต่เงินเราไม่พอ แค่มอง ๆ รถมือสองไว้ แต่มองไว้นานจนเลิกมอง ไปตามเต้นท์รถก็ไม่ค่อยถูกใจ จนวันหนึ่งมีโพสขายรถมือสองสภาพดี รถบ้านใช้เองไมล์รถไม่เยอะ เราเห็นรถคันนั้น เราถูกใจมาก เป็นรถเก๋งยี่ห้องCityสีดำเงาสวยมาก อายุรถไม่ถึง 10 ปี มองดูในรูปแบบสวยมากๆๆๆ จนเรานัดไปดูรถ ซึ่งพาคุณป๊าไปด้วย พอไปถึงคนที่ขายรถเป็น คุณลุงคุณป้า ขายรถของลูกสาว ซึ่ง ไม่ได้ใช้แล้ว เราไม่สนใจเรื่องราคาเลย เราไม่สนประวัติรถด้วยเราคิดว่า เหมือนมันมีแรงดึงดูดมาก ว่าเราต้องเป็นเจ้าของให้ได้ เหมือนมันมีเสียงกระซิบว่าซื้อเราเลย เราอยากไปอยู่ด้วย ประมาณนี้ แต่เราไม่สนใจ เราคิดว่า เอาวะ..ถึงจะเสียงเงินซ่อมมากน้อยเราก็จะเอา ..แต่เหมือนคุณลุงจะเดาใจเราถูก เพราะท่านบอกคุณพ่อเราว่ารถไม่เคยมีประวัติชนหรือประวัติซ่อมอะไรเลย เป็นรถบ้าน ที่ลูกสาวขับไปทำงาน ตอนที่ดูรถนั้น เราบอกเลยว่า เราถูกใจมาก รถเหมือนใหม่มาก ท่านทั้ง 2 ดูแลรถดีมาก ๆ เราก็เลยถามว่าแล้วลูกสาวคุณลุงไม่ว่าเหรอที่ขายรถของลูกสาวไป...คำตอบของคุณลุงคุณป้าทำให้เราอึ้งไปนิดหนึ่ง เพราะท่านบอกว่า ลูกสาวเสียไปปีกว่าละ เป็นมะเร็ง แล้วที่ขายรถเพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้ จะจอดทิ้งไว้ก็สงสารรถ ......เราก็บอกว่าถ้าหนูได้ไปหนูจะดูแลต่อให้เองนะค่ะ...ท่านเสนอราคามาเราไม่เสียดายเงินที่ซื้อรถคนนี้เลย ....นี่คือประวัติรถที่เราทราบคร่าว ๆ แต่เรื่องมันเริ่ม เมื่อเราได้รถคันนี้มาแล้วประมาณ 3 เดือน และมีหลายเหตุการณ์มาก
เหตุการณ์แรก คือ เมื่อเราไปรับรถคันนี้ที่บ้านคุณลุงคุณป้า เราก็บอกว่า ไปอยู่บ้านด้วยกันนะคุณคนสวย เราก็รับปากกับครอบครัวนี้ว่าจะดูรถคันนี้อย่างดี วันแรกที่เข้าบ้าน พี่ชายคนที่2 เฮียต๊ะ อยู่ชั้น 2 ของบ้านก็เข้ามาทักว่ามีเพื่อนนั่งมากับเราเหรอ แล้วไม่เห็นลงมาเลยละ...เราก็งง เราก็บอกว่า เฮีย บ้าแล้ว ไม่มีใคร นอกจากรถอีกคันของป๋า นี่คือเหตุการณ์แรกที่เฮียต๊ะเห็น เราก็ใช้ชีวติปกติ ขับรถไปทำงาน เราก็พูดกับรถคนเดียวเหมือนมีเพื่อนอยู่ในรถเราก็บอกทุกครั้งก่อนไปทำงานทุกเช้าว่า คุณคนสวยวันนี้ไปทำงานด้วยกันนะ ทุกเช้า และทุกวัน จนติดเป็นนิสัย จนผ่านมาประมาณ 3 เดือน มีอยู่วันหนึ่งเราบอกกับรถคันนี้ว่า คุณคนสวย วันนี้มีงานเลี้ยงนะเราอาจจะกลับดึกหน่อย อดทนอยู่ที่จอดรถหน่อยนะ...และเราก็กลับดึกจริง อีกทั้งยังดื่มมาอีกด้วย...สภาพกรึ่ม ๆ พอใช้ได้เลย..ที่ทำงานกับที่บ้านก็อยู่ไม่ไกลกันนะคะ ทำให้เราเลยชะล่าใจไง กลับรถกลับได้ แต่รู้ไหมค่ะว่าเรากลับบ้านกี่โมง เรากลับมาถึงบ้านประมาณ ตี 3 นี่คื
อเหตุการณ์ที่ 2 ของเรื่องนี้ คือขณะที่เราขับรถกลับ ถนนทางกลับบ้านเราโล่งมาก ทำให้เราเหยียบเร็วมากแต่ทำให้เราได้ยินเสียงผู้หญิง บอกกับเราว่า ..ขับระวัง ๆ หน่อยซิ เดี๋ยวก็รถชนหรอก..ใกล้จะถึงบ้านแล้วจะรึบไปไหน...พอเราได้ยิน เรารู้สึกเย็นท้ายทอย ขนลุกซู่ เลย เพิ่งเคยเป็น เราว่าเราเจอดีแน่นอน...พอเราได้ยิน เราผ่อนคันเร่งทันที...แล้วเราก็พูดกับรถว่า ขอโทษจ้า คุณคนสวย เดียวเราก็ถึงบ้านแล้วเนาะ จะค่อย ๆ ก็แล้วกัน เราว่าเราเป็นคนไม่ค่อยกลัวผีนะ แต่เราพึ่งจะรู้สึกกลัวกับครั้งนี้แหละ นี่คือเหตุการณ์เตือนครั้งแรกของคุณคนสวย เ
หตุการณ์ที่ 3 คือ เราจะติดเป็นนิสัยว่าจะออกจากบ้านเราจะคุยกับรถเสมอ ว่าวันนี้เราจะไปไหน เหมือนเขาเป็นเพื่อเราเลย ทุกครั้ง วันหนึ่งหลังเลิกงานเราก็ขับรถผ่านบ้านของคุณลุงคุณป้าที่ขายรถให้เราตอนนั้นเราจำได้เลยเป็นช่วงเวลาประมา 5-6 โมงเย็นหลังเลิกงาน เราได้ยินเสียงกระซิบว่าแวะบ้านให้หน่อย ..เราตกใจอุทาน
ละคุณคนสวย...จะให้เราแวะบ้านใครเราก็จำได้ว่าทางนี้เป็นทางผ่านบ้านของคุณลุงคุณป้า เราเลยแวะเข้าไปทักทายตอนเย็นถึงบ้านนั้นประมาณ 1 ทุ่ม พอดี พอเข้าไปถึงหน้าบ้านจอดรถไว้ที่ประตูเราก็หาเหตุผลที่จะแวะไปหาท่านไม่ได้เลย แต่เสียงกระซิบก็บอกว่า พ่อกับแม่รอกินข้าวอยู่ข้างในนะ เข้าไปเลย ...เรานี่ เอาวะ ผีบอกขนาดนี้ขอไปถามดูหน่อยก็แล้วกันว่ารถคันนี้มันยังไง พอดีเราซื้อผลไม้ไว้ในรถด้วยเลยถือติดมือเข้าบ้าน พอเข้ามาถึงก็เจอคุณลุงกับคุณป้า เขาก็เลยชวนเราทานข้าว แล้วเราก็ตัดสินใจถามเลยว่ารถคันนี้มีประวัติอะไรคะ..เพราะว่าเจอเหตุการณ์ต่างๆ เราก็เล่าให้เขาทั้งสองฟัง คุณป้าเลยร้องไห้ เขาเล่าให้เราฟังว่าลูกสาวเขาชื่อ " พลอย " อายุน้อยกว่าเรา ประมาณ 1 ปี (เราอายุ 33 ย่าง 34 ) รักรถคันนี้มาก อีกท้ังเขาเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวนี้ เขาป่วยเป็นมะเร็ง ตอนก่อนเขาเสียเขารักรถมาก ให้พ่อกับแม่พาไปโรงพยาบาลตลอด สุดท้ายก่อนเขาจะเสีย เขาขอให้เก็บรถไว้ให้รอคนดี ๆ มาค่อยขาย วันนั้นคุณลุงเห็นเราทักมา ก็สนในเรา เลยติดต่อกัน จนได้ซื้อขายรถ เราก็บอกว่า หนูว่าเขายังไม่ไปไหน เขายังอยู่ในรถตลอดเลย เพราะหนูรู้สึกว่าเขานั้งเป็นเพื่อนตลอดตอนขับรถ เลยรู้สึกว่าเวลาขับรถเรารู้สึกปลอดภัย หลังจากเราก็ไปมาหาสู่ครอบครัวนี้ตลอด
เหตุการณ์ที่ 4 คุณพลอย หลังจากทราบเรื่องของเจ้าของรถตัวจริงเราก็ขอเรียกรถตัวเองว่าคุณพลอยเลยก็แล้วกัน หลังจากนั้นเราก็ใช้ชีวิตปกติ แต่คุณพลอยไม่เคยเขามารบกวนชีวิตเราเลย เขาจะมาเป็นบางครั้ง อย่างที่บอกว่าเราจะคุยกับรถเป็นประจำ เช่น คุณพลอยค่ะวันนี้เราไปเดินห้างกันดีกว่าซื้อของเข้าบ้านให้ป๊ากับม๊าดีกว่าเนาะ หรืออะไรทำนองนี้ วันหนึ่งเราก็คุยกับคุณพลอยว่า คุณพลอย เราเหนื่อยจังเลย ไม่อยากขับรถเลย กลัวหลับกลางทาง ก็มีเสียกระซิบ ว่าไปบ้านเราซิ ใกล้กว่าบ้านตัวอีก...ได้ยินอย่างนี้ เราสติมาเลย ไม่กล้าเหนื่อยเลย..เราก็บอกกลับไปว่าเราจะค่อย ๆขับกลับบ้านก็แล้วกันเนาะ ไม่อยากรบกวนคุณลุงคุณป้าเขา เราก็ค่อยๆ กลับบ้าน เ
หตุการณ์ที่ 5 คุณพลอยเข้าฝัน คืนหนึ่งในวันพระ เราก็ฝันเห็นคุณพลอย รู้ได้ไงนะเหรอ เราเห็นรูปรับปริญญาที่แขวนบนฝาบ้านของคุณลุงคุณป้าเขา คุณพลอยมาบอกว่า เราอยากกลับบ้าน เพราะคุณพ่อไม่ค่อยสบาย ตัวพาพ่อไปหาหมอหน่อย พ่อดื้อมากเลย พาพ่อไปหาหมอหน่อย พรุ่งนี้เลยนะ พ่อไม่สบายมาก ภาพที่เราเห็นในฝันคือคุณพลอยร้องไห้หนักมาก เพื่อมาขอร้องเรา เพราะเขาห่วงพ่อมาก เราสดุ้งตื่นตอน ประมาณตี 4 มีเสียงกระซิบบอกเลยว่า อาบน้ำไปหาพ่อให้หน่อย เรานี่ตื่นเต็มตามเลย รับอาบน้ำแต่ตัว ลงมาเกือบตี 5 เจอคุณแม่ที่กำลังทำกับข้าวใส่บาตรพระ เราก็บอกม๊าว่า ม๊าใส่บาตรให้คุณพลอยเจ้าของรถเก่าหน่อย เขามาหาหนู่ขอให้หนูช่วยไปหาคุณพ่อเขา ตอนเราบอกม๊า ม๋าตกใจ บอกว่ามีผู้หญิงบอกให้ม๊าไปปลุกลูกสาวให้ตื่นหน่อย ม๊าเลยตื่นแล้วมาทำกับข้าวใส่บาตรตอนนั้นเรารีบขับรถออกจากบ้านไปบ้านคุณพลอบเลย ตอนขับรถเราก็บอกกับคุณพลอยว่า คุณพลอยไปกับเรานะ ไปช่วยพ่อกัน เดียวเราโทรหาคุณแม่ให้ ตอนที่โทรหาคุณแม่ คุณแม่บอกว่าดีใจตอนที่เราโทรหาเพราะคุณพ่อตัวร้อนแล้วชัก คุยทางโทรศัพท์คุณแม่ก็ร้องไห้ไป พอเราไปถึง เราก็พาคุณพ่อไป รพ .คุณหมอบอกว่าคุณพ่อความดันสูงมาก มาช้ากว่านี้มีสิทธิเส้นเลือดในสมองแตก อีกทั้งมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดด้วย เราเหมือนเป็นลูกสาวที่พาคุณพ่อส่งโรงพยาบาล เราสงสารคุณลุงคุณป้ามาก เราก็บอกว่า คุณพลอย คุณพ่อปลอดภัยแล้วนะ พอคุณลุงได้รับการรักษาและแอดมิดที่ โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับมาที่รถบอกกับคุณพลอยเลยว่าคุณพ่อปลอดภัยแล้วนะ เราก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาว่าของคุณนะ และมีเสียงร้องไห้อยู่ข้าง ๆ หู เราก็บอกว่าเราจะช่วยดูแลคุณลุงคุณป้าเอง ตอนนี้เราก็บอกว่าขอเป็นลูกสาวคุณลุงคุณป้าได้ไหมเสียงก็เงียบไป เรากลับถึงบ้านก็เกือบตอนเย็นเราก็มาเล่าให้ป๊ากับม๊าฟังว่าเรื่องมันเป็นนยังไง อีกวันหนึ่งเราก็พาครอบครัวเราไปหาครอบครัวของคุณพลอย เพื่อเยี่ยมคุณลุง แล้วก็เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เกิดเรื่องให้ท่านทั้งสองฟัง แล้วเราก็บอกว่า เราขอเป็นลูกอีกคนของคุณลุงคุณป้าได้ไหม คุณป้าร้องไห้เลยค่ะ..หลังจากนั้นเราก็มาเยี่ยมท่านทั้งสองทุกวัน จนเรารับกลับบ้าน ตอนเย็นวันนั้นที่เรารับครอบครัวใหม่ของเรากลับบ้านด้วยรถคันเดิมของบ้านนี้ เราได้ยินเสียงกระซิบว่า ขอบคุณนะเรารักเธอมาก พี่สาว...เราก็หันไปเห็นคุณพ่อเพราะคุณพ่อเขานั่งอยู่ด้านข้างคนขับ คุณพ่อพูดกับเราว่า ดีแล้วที่รถของน้องพลอยอยู่กับเรา จะได้เจอน้องพลอยบ่อย ๆ ตอนคุณพ่อพูดคุณพ่อน้ำตาคลอเบ้าเลยคะ...เรื่องของคุณพลอยยังไม่จบนะจ๊ะ มีอีกเยอะเลย เดียวเรามาเล่าต่อนะ
คุณพลอยเขาเลือกเรา