สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องทุกข์ใจ ตามหัวข้อเลย
"เพื่อนบ้านเลี้ยงไก่ติดกับรั้วบ้าน ส่งกลิ่นเหม็น ทำยังไงดี?" อยากปรึกษาและระบายไปในตัว 5555+
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเรามาอาศัยบ้านแฟนอยู่ เท่าที่จำได้คือเล้าไก่มีมาตั้งแต่แรก เดิมทีบ้านเก่าของแฟนยังไม่ได้ปลูกใหม่ไม่มีคนอยู่ โดยจะมีเล้าไก่ติดกับรั้วของเพื่อนบ้านและด้านหลังบ้านเขาก็มีเลี้ยงไก่แต่ไม่มีเล้ากั้น ต่อมาเรากับแฟนก็ปลูกบ้านใหม่เป็น 2 ชั้น เราอยู่ชั้น 2 ส่วนชั้น 1 จะมีห้องของญาติพี่น้องเขาซึ่งเดินเข้าด้านข้างที่รั้วติดกับเล้าไก่ และประตูห้องพวกเขาจะหันหน้าไปทางเล้าไก่พอดี แต่เขาก็ยังเลี้ยงอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกมีกลิ่นรบกวนบ้าง ยิ่งตอนฝนตกยิ่งแย่เลย แต่ก็อยู่มาจนเกือบจะชิน จนตอนนี้อยู่มาได้ประมาณ 3-4 ปีล่ะ หลังบ้านไม่มีไก่ล่ะเพราะเจ้าของที่จะขายที่เลยรื้ออกหมด ก่อนหน้าเปิดหน้าต่างชั้น 2 ได้ เดินเข้าออกข้างบ้านได้ แต่ทุกวันนี้เปิดหน้าต่างบ้านไม่ได้เลย เดินเข้าด้านข้างบ้านเวลาถอยมอเตอร์ไซค์ออกคือแบบ "กูจะตาย" คือมันเหม็นมาก ทั้งขี้ไก่ ทั้งกลิ่นขยะเปียก ทั้งกลิ่นข้าวบูด ไม่รู้มาจากไหนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้กลิ่นเหม็นเน่าแบบนี้ไม่มีเลย
หรืออาจจะเพราะเราทำให้เขาหมั่นไส้ 555+ อ่ะจะเล่าให้ฟัง ยาวหน่อยนะ....
คือเรื่องเพิ่งเราจะติดแอร์ซึ่งช่างต้องปีนขอบรั้วเพื่อยกคอมแอร์ขึ้น เราเลยไปขอเข้าพื้นที่เล้าไก่แปปนึงเพราะยกฝั่งเรามันลำบากเพราะติดกันสาดเป็นแนวยาย ต้องยกติดตั้งเหนือกันสาดขึ้นไปอีก และใช้เวลายกไม่นาน ได้คำตอบมาว่า "สามีเขาไม่อยู่ให้รอสามีเขามาก่อนถึงจะเข้าได้" เราก็ หื้อต้องรอถึงตอนไหนล่ะนี่ ถ้ารอคงไม่ได้ทำแล้วเรานัดช่างมาแล้วด้วย ก็เลยโอเคไม่เป็นไรช่างเลยต้องยกคอมแอร์ปีนขึ้นทางขอบรั้วค่อยๆขยับเข้าไปตำแหน่งด้านในแบบทุลักทุเล เพราะเขาไม่ให้เข้า อ่ามันก็สิทธิ์ของเชาอ่าเนอะ (บ้านเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเล้าไก่ คือบ้านอยู่โน้นเลี้ยงไก่อยู่นี่ประมาณนี่อ่า) สรุปช่างทำเสร็จมืดห้าเลยตั้งแต่เช้า และสามีเขาก็ยังไม่มาด้วยนะ 555+ คิดดูถ้ารอคือเสียเวลาช่างหมดวันอ่ะ ติดตั้งเสร็จก็ปิดบ้านกำลังจะอาบน้ำพักผ่อน มีเสียงกดกริ่งเรียก คือเขาเรียกแฟนเรา แต่แฟนเราอาบน้ำเราเลยลงไปหาเขา เราเดินยิ้มไปแล้วก็พูดว่า "จ้าคุณน้า" ซึ่งเขารุ่นป้าแหละแต่ให้เกียรติอ่ะ เขาเปิดประเด็นแรกมา "....(แฟนเรา)ล่ะ จะคุยกับ....(แฟนเรา)" เราก็บอกว่า "อ่อ......เขาอาบน้ำอยู่ค่ะ" นึกในใจทำไมคุยกะเราไม่ได้ล่ะ งง เขาก็เลยต่อว่าเราว่า "บอกว่าไม่ให้เข้าไปทำไมยังเขาไปอยู่ล่ะ" ไอเราก็งึดเลย งงค่ะ เข้าไปตอนไหนวะ ก็เลยตอบกลับไปว่า "ไม่ได้เข้านะคะ ก็เห็นบอกว่าอ.ไม่อยู่ก็เลยไม่ได้เข้าค่ะ" เขาบอกเราว่า "แล้วเอาขึ้นยังไงถ้าไม่ได้เข้า" เราก็เลยบอกว่า "ก็ยกขึ้นด้านหน้าแล้วก็ปีนขอบรั้วขึ้นไปกันค่ะ" เขาตอบเราว่า "มันมีเศษแก้วไม่ใช่หรอจะเหยียบไปได้ยังไง" เราก็เลยบอกว่า "ก็เหยียบได้นะคะเพราะช่างเขาเอาขึ้นไปได้อ่าค่ะ" เราก็ยืนยันนะว่าเราไม่ได้เข้าไป เขาไม่จบอ่ะก็ย้ำอยู่นั่นว่าเราเข้าไป ก็เลยเรียกน้าข้างบ้านที่ช่วยกันยกมาเพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้ยกคอมแอร์เข้าทางเล้าไก่ของเขา และขณะที่เราคุยกับเขา เรายกมือไหว้และพูดดีมากเลยนะ แต่เขาไม่จบอ่ะ ตอนนั้นเราโมโหแล้วด้วยเลยพูดกับน้าว่า "มาคุยกับป้าแกให้หน่อยสิว่าเราเอาคอมแอร์ขึ้นทางไหน เขาหาว่าเราเอาเข้าทางเล้าไก่เขา" พูดจบเราก็เดินเข้าบ้านเลยอยู่ต่อเราพูดเยอะกว่านี้แน่อ่ะ ซึ่งเขาก็ยังพูดไล่หลังเราอยู่หาว่าเราเข้าไป เราเลยส่งคลิปกล้องวงจรปิดหน้าบ้านยืนยันไปทางหลานแกว่าเราเอาขึ้นทางนี้จริง แล้วเรื่องก็เงียบไป ซึ่งคำขอโทษไม่ว่าจะพูดเองหรือฝากมาในการกล่าวหาเราไม่มีสักคำ เราก็เออช่างเหอะคนแก่ก็แบบนี้ ก่อนหน้านี้ต้นไม้ล้ำเข้ามา ใบไม้ร่วงเต็มบ้านเลย เรายังไม่อะไรเลย เรื่องแค่นี้ทำไมมันดูยากเย็นเนอะ คหสต.นะ 5555+
สรุปตั้งแต่วันนั้นนะ ตึงมาเลยจ้าปกติเราก็ไม่ค่อยเจอป้าแกหรอกนะเจอแต่สามีแก บ้านแกไม่สุงสิงไม่เอาใครเลยอันนี้มันก็เรื่องของเขาแหละ แต่ต่อมาจะมีปัญหาจุกจิกมาเรื่อย คือแกซักผ้าเอาราวตากผ้ามาตากเกือบทุกวันคือก่อนหน้านี้ไม่เคยมาตากจริงๆนะ 555+ บางวันมีกางเกงใน เสื้อใน มาแขวนหันมาทางบ้านเราอีก คือมันตลกตรงที่ว่าแกหาผ้าที่ไหนมาซักนักหนาเนอะ บางวันคนในบ้านเราเผลอจอดรถตรงหน้าที่เขา ซึ่งเราก็บอกคนของเรานะแต่ด้วยความชินอ่ะมันก้มีลืมบ้าง เขาก็จะรีบลากราวมาตั้งเลย แต่ก่อนไม่เป็นหรอก บางทีไม่ใช่รถเรานะเราก็ขยับออกให้เพราะมันที่ของเขา แต่ลากราวตากชุดชั้นในออกมาโชว์นี่ก็ไม่ไหว ล่าสุดมีกลิ่นขยะเปียก 2-3 อาทิตย์เปิดหน้าต่างรับลมไม่ได้เลยโคตรเหม็น แล้วกลิ่นก็หายไปประมาณ 2 อาทิตย์ พอเปิดหน้าต่างได้อาทิตย์เดียว กลิ่นข้าวบูดขยะเปียกตีกันมั่วเลยเปิดหน้าต่างไม่ได้อีกแล้ว ชั้น 2 ว่าหนักแล้ว ไม่ต้องถามถึงคนที่พักอยู่ชั้น 1 คือเขาไม่มีความเกรงใจเลยอ่ะ เราคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้นะว่าเขาอาจจะแกล้งอ่ะ เพราะอยู่มาตั้งนานไม่มี พอมีเรื่องปุ๊บกลิ่นมาปั๊บ หัวจะปวด
บ้านเป็นที่ดินติดกันในชุมชน ซ้ายบ้านคน กลางบ้านเรา ขวาเล้าไก่ ติดกับเล้าไก่ก็บ้านคนอีกหลัง หลังบ้านเราเป็นที่ดินเปล่าติดที่ดินเปล่าก็จะมีบ้านคน
ส่วนใหญ่มันเป็นบ้านคนอ่ะ แต่บรรยากาศตรงเรานี่แย่สุดล่ะ
ทำอะไรได้บ้างกับเหตุการณ์นี้ เราไม่มีปัญหากับการเลี้ยงไก่ของเขา แต่มีปัญหาเรื่องกลิ่นที่มันรุนแรงขึ้นทุกวันอ่ะ แล้วกลิ่นข้าวบูดกลิ่นขยะเปียกซึ่งก่อนหน้านี้มันไม่มีอ่ะเราพอโอเคนะ และเราเป็นคนชอบเปิดหน้าต่างรับลมเพื่อให้ในบ้านอากาศถ่ายเทสะดวก ยิ่งช่วงหน้าร้อนก็ยิ่งต้องเปิดเพราะชั้น 2 ร้อนมาก ตอนนี้เปิดไม่ได้ เพราะมันเหม็นนนนนนน เห็นใจเพื่อนบ้านบ้างไม่ได้หรืออออออ เขาไม่ได้พักที่เล้าไก่ไงอาจจะไม่ได้กลิ่น แต่เรารั้วบ้านติดกับเล้าไก่เลยนะ ฮืออออ...
ขอบคุณนะคะที่ลำบากอ่านจนจบ... อัดอั้นค่ะ 5555+
เพื่อนบ้านเลี้ยงไก่ติดกับรั้วบ้าน ส่งกลิ่นเหม็น ทำยังไงดี?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเรามาอาศัยบ้านแฟนอยู่ เท่าที่จำได้คือเล้าไก่มีมาตั้งแต่แรก เดิมทีบ้านเก่าของแฟนยังไม่ได้ปลูกใหม่ไม่มีคนอยู่ โดยจะมีเล้าไก่ติดกับรั้วของเพื่อนบ้านและด้านหลังบ้านเขาก็มีเลี้ยงไก่แต่ไม่มีเล้ากั้น ต่อมาเรากับแฟนก็ปลูกบ้านใหม่เป็น 2 ชั้น เราอยู่ชั้น 2 ส่วนชั้น 1 จะมีห้องของญาติพี่น้องเขาซึ่งเดินเข้าด้านข้างที่รั้วติดกับเล้าไก่ และประตูห้องพวกเขาจะหันหน้าไปทางเล้าไก่พอดี แต่เขาก็ยังเลี้ยงอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกมีกลิ่นรบกวนบ้าง ยิ่งตอนฝนตกยิ่งแย่เลย แต่ก็อยู่มาจนเกือบจะชิน จนตอนนี้อยู่มาได้ประมาณ 3-4 ปีล่ะ หลังบ้านไม่มีไก่ล่ะเพราะเจ้าของที่จะขายที่เลยรื้ออกหมด ก่อนหน้าเปิดหน้าต่างชั้น 2 ได้ เดินเข้าออกข้างบ้านได้ แต่ทุกวันนี้เปิดหน้าต่างบ้านไม่ได้เลย เดินเข้าด้านข้างบ้านเวลาถอยมอเตอร์ไซค์ออกคือแบบ "กูจะตาย" คือมันเหม็นมาก ทั้งขี้ไก่ ทั้งกลิ่นขยะเปียก ทั้งกลิ่นข้าวบูด ไม่รู้มาจากไหนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้กลิ่นเหม็นเน่าแบบนี้ไม่มีเลย
หรืออาจจะเพราะเราทำให้เขาหมั่นไส้ 555+ อ่ะจะเล่าให้ฟัง ยาวหน่อยนะ....
คือเรื่องเพิ่งเราจะติดแอร์ซึ่งช่างต้องปีนขอบรั้วเพื่อยกคอมแอร์ขึ้น เราเลยไปขอเข้าพื้นที่เล้าไก่แปปนึงเพราะยกฝั่งเรามันลำบากเพราะติดกันสาดเป็นแนวยาย ต้องยกติดตั้งเหนือกันสาดขึ้นไปอีก และใช้เวลายกไม่นาน ได้คำตอบมาว่า "สามีเขาไม่อยู่ให้รอสามีเขามาก่อนถึงจะเข้าได้" เราก็ หื้อต้องรอถึงตอนไหนล่ะนี่ ถ้ารอคงไม่ได้ทำแล้วเรานัดช่างมาแล้วด้วย ก็เลยโอเคไม่เป็นไรช่างเลยต้องยกคอมแอร์ปีนขึ้นทางขอบรั้วค่อยๆขยับเข้าไปตำแหน่งด้านในแบบทุลักทุเล เพราะเขาไม่ให้เข้า อ่ามันก็สิทธิ์ของเชาอ่าเนอะ (บ้านเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเล้าไก่ คือบ้านอยู่โน้นเลี้ยงไก่อยู่นี่ประมาณนี่อ่า) สรุปช่างทำเสร็จมืดห้าเลยตั้งแต่เช้า และสามีเขาก็ยังไม่มาด้วยนะ 555+ คิดดูถ้ารอคือเสียเวลาช่างหมดวันอ่ะ ติดตั้งเสร็จก็ปิดบ้านกำลังจะอาบน้ำพักผ่อน มีเสียงกดกริ่งเรียก คือเขาเรียกแฟนเรา แต่แฟนเราอาบน้ำเราเลยลงไปหาเขา เราเดินยิ้มไปแล้วก็พูดว่า "จ้าคุณน้า" ซึ่งเขารุ่นป้าแหละแต่ให้เกียรติอ่ะ เขาเปิดประเด็นแรกมา "....(แฟนเรา)ล่ะ จะคุยกับ....(แฟนเรา)" เราก็บอกว่า "อ่อ......เขาอาบน้ำอยู่ค่ะ" นึกในใจทำไมคุยกะเราไม่ได้ล่ะ งง เขาก็เลยต่อว่าเราว่า "บอกว่าไม่ให้เข้าไปทำไมยังเขาไปอยู่ล่ะ" ไอเราก็งึดเลย งงค่ะ เข้าไปตอนไหนวะ ก็เลยตอบกลับไปว่า "ไม่ได้เข้านะคะ ก็เห็นบอกว่าอ.ไม่อยู่ก็เลยไม่ได้เข้าค่ะ" เขาบอกเราว่า "แล้วเอาขึ้นยังไงถ้าไม่ได้เข้า" เราก็เลยบอกว่า "ก็ยกขึ้นด้านหน้าแล้วก็ปีนขอบรั้วขึ้นไปกันค่ะ" เขาตอบเราว่า "มันมีเศษแก้วไม่ใช่หรอจะเหยียบไปได้ยังไง" เราก็เลยบอกว่า "ก็เหยียบได้นะคะเพราะช่างเขาเอาขึ้นไปได้อ่าค่ะ" เราก็ยืนยันนะว่าเราไม่ได้เข้าไป เขาไม่จบอ่ะก็ย้ำอยู่นั่นว่าเราเข้าไป ก็เลยเรียกน้าข้างบ้านที่ช่วยกันยกมาเพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้ยกคอมแอร์เข้าทางเล้าไก่ของเขา และขณะที่เราคุยกับเขา เรายกมือไหว้และพูดดีมากเลยนะ แต่เขาไม่จบอ่ะ ตอนนั้นเราโมโหแล้วด้วยเลยพูดกับน้าว่า "มาคุยกับป้าแกให้หน่อยสิว่าเราเอาคอมแอร์ขึ้นทางไหน เขาหาว่าเราเอาเข้าทางเล้าไก่เขา" พูดจบเราก็เดินเข้าบ้านเลยอยู่ต่อเราพูดเยอะกว่านี้แน่อ่ะ ซึ่งเขาก็ยังพูดไล่หลังเราอยู่หาว่าเราเข้าไป เราเลยส่งคลิปกล้องวงจรปิดหน้าบ้านยืนยันไปทางหลานแกว่าเราเอาขึ้นทางนี้จริง แล้วเรื่องก็เงียบไป ซึ่งคำขอโทษไม่ว่าจะพูดเองหรือฝากมาในการกล่าวหาเราไม่มีสักคำ เราก็เออช่างเหอะคนแก่ก็แบบนี้ ก่อนหน้านี้ต้นไม้ล้ำเข้ามา ใบไม้ร่วงเต็มบ้านเลย เรายังไม่อะไรเลย เรื่องแค่นี้ทำไมมันดูยากเย็นเนอะ คหสต.นะ 5555+
สรุปตั้งแต่วันนั้นนะ ตึงมาเลยจ้าปกติเราก็ไม่ค่อยเจอป้าแกหรอกนะเจอแต่สามีแก บ้านแกไม่สุงสิงไม่เอาใครเลยอันนี้มันก็เรื่องของเขาแหละ แต่ต่อมาจะมีปัญหาจุกจิกมาเรื่อย คือแกซักผ้าเอาราวตากผ้ามาตากเกือบทุกวันคือก่อนหน้านี้ไม่เคยมาตากจริงๆนะ 555+ บางวันมีกางเกงใน เสื้อใน มาแขวนหันมาทางบ้านเราอีก คือมันตลกตรงที่ว่าแกหาผ้าที่ไหนมาซักนักหนาเนอะ บางวันคนในบ้านเราเผลอจอดรถตรงหน้าที่เขา ซึ่งเราก็บอกคนของเรานะแต่ด้วยความชินอ่ะมันก้มีลืมบ้าง เขาก็จะรีบลากราวมาตั้งเลย แต่ก่อนไม่เป็นหรอก บางทีไม่ใช่รถเรานะเราก็ขยับออกให้เพราะมันที่ของเขา แต่ลากราวตากชุดชั้นในออกมาโชว์นี่ก็ไม่ไหว ล่าสุดมีกลิ่นขยะเปียก 2-3 อาทิตย์เปิดหน้าต่างรับลมไม่ได้เลยโคตรเหม็น แล้วกลิ่นก็หายไปประมาณ 2 อาทิตย์ พอเปิดหน้าต่างได้อาทิตย์เดียว กลิ่นข้าวบูดขยะเปียกตีกันมั่วเลยเปิดหน้าต่างไม่ได้อีกแล้ว ชั้น 2 ว่าหนักแล้ว ไม่ต้องถามถึงคนที่พักอยู่ชั้น 1 คือเขาไม่มีความเกรงใจเลยอ่ะ เราคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้นะว่าเขาอาจจะแกล้งอ่ะ เพราะอยู่มาตั้งนานไม่มี พอมีเรื่องปุ๊บกลิ่นมาปั๊บ หัวจะปวด
บ้านเป็นที่ดินติดกันในชุมชน ซ้ายบ้านคน กลางบ้านเรา ขวาเล้าไก่ ติดกับเล้าไก่ก็บ้านคนอีกหลัง หลังบ้านเราเป็นที่ดินเปล่าติดที่ดินเปล่าก็จะมีบ้านคน
ส่วนใหญ่มันเป็นบ้านคนอ่ะ แต่บรรยากาศตรงเรานี่แย่สุดล่ะ
ทำอะไรได้บ้างกับเหตุการณ์นี้ เราไม่มีปัญหากับการเลี้ยงไก่ของเขา แต่มีปัญหาเรื่องกลิ่นที่มันรุนแรงขึ้นทุกวันอ่ะ แล้วกลิ่นข้าวบูดกลิ่นขยะเปียกซึ่งก่อนหน้านี้มันไม่มีอ่ะเราพอโอเคนะ และเราเป็นคนชอบเปิดหน้าต่างรับลมเพื่อให้ในบ้านอากาศถ่ายเทสะดวก ยิ่งช่วงหน้าร้อนก็ยิ่งต้องเปิดเพราะชั้น 2 ร้อนมาก ตอนนี้เปิดไม่ได้ เพราะมันเหม็นนนนนนน เห็นใจเพื่อนบ้านบ้างไม่ได้หรืออออออ เขาไม่ได้พักที่เล้าไก่ไงอาจจะไม่ได้กลิ่น แต่เรารั้วบ้านติดกับเล้าไก่เลยนะ ฮืออออ...
ขอบคุณนะคะที่ลำบากอ่านจนจบ... อัดอั้นค่ะ 5555+