พลังอำนาจของน้ำเสกที่คริสตชนลืมไปแล้ว

⚔️ น้ำเสกคาทอลิก อาวุธประจำกายและประจำบ้าน

     น้ำเสกหรือน้ำศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งเสมือนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย  ถูกนำออกไประหว่างสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (Triduum วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ถึงวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีการเสกน้ำปัสกา)  ในปีปัจจุบันนี้ บางวัดได้นำวิธีใหม่ซึ่งรวมเอาสิ่งอื่นมาแทนน้ำเสก คือทรายหรือกรวดเข้ามาในระหว่างเทศกาลมหาพรต  เพื่อแสดงออกให้คนทั่วไปเห็นเป็นการเรียกร้องให้รำลึกถึง 40 วันของพระเยซูเจ้าในถิ่นทุรกันดาน  เป็นการยากที่จะเข้าใจว่าทำไมบางวัดจึงยกเลิกสิ่งเสมือนของศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพเช่นนั้น จงปรึกษาอย่างสุภาพกับพระสงฆ์เจ้าอาวาสของคุณ เพื่อกระตุ้นการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือน้ำเสกกลับคืนมาสู่สถานะที่ถูกต้องเสียใหม่



🏠 น้ำเสกในบ้านคาทอลิก

     บ้านคาทอลิกหลายบ้านติดตั้งภาชนะใส่น้ำเสกไว้ที่ประตูหน้าบ้าน  เราจุ่มน้ำเสกตัวเราเองทุกครั้งที่เราออกจากบ้าน  ขอพระตรีเอกภาพทรงนำความนึกคิดของเรา คำพูดจาและการกระทำของเราขณะที่เราออกไปสู่โลก  ขอวิงวอนขอความคุ้มครองและการนำทางของพระองค์ในทุกสิ่งที่เราทำ  เมื่อเรากลับบ้าน เราเสกตัวเราอีก  เรียกจิตใจให้ระลึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของบ้าน  ในเวลาไม่นานก็จะกลายเป็นนิสัยติดตัวอย่างลึกซึ้ง  และถ้าสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวพรวดพราดออกไปโดยไม่ขอพระพร  คนอื่นจะรีบตะโกนบอกโดยไม่ต้องเชื้อเชิญทันทีว่า “ อย่าลืมเสกตัวเองด้วยนะ!”

     ขอให้พวกเรานึกถึงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในไฟชำระ ทุกครั้งที่เราเสกตัวเอง หนึ่งหยดเพื่อวิญญาณเหล่านั้นอาจเป็นทั้งหมดที่สามารถปลดปล่อยวิญญาณดวงหนึ่งไปสู่สวรรค์
     สัตบุรุษอาจได้รับพระคุณการุณย์ 100 วัน แต่ละครั้งที่ทำสำคัญมหากางเขนพร้อมจุ่มน้ำเสกขณะสวดและมีความเป็นทุกข์ถึงบาป  เป็นที่น่าเสียใจ  สัตบุรุษที่เดินผ่านประตูเข้าวัด  จุ่มนิ้วอย่างรีบร้อนลงไปในน้ำเสกทำท่าแกว่งมือคล้ายกำลังปัดแมลงที่บินรบกวน มากกว่าจะขอพระพรอย่างสง่าช้าๆ สำรวมตัวเพื่อรับพระหรรษทานยิ่งใหญ่  โปรดเลือกบทสวดเพื่อเสกตัวเอง โดยเติมบทภาวนาว่า  : “ด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้และด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพระองค์  โปรดชะล้างบาปทั้งหมดของข้าพระองค์ด้วย พระเจ้าข้า”

💦 ต่อไปนี้เป็นการใช้น้ำเสกเพิ่มเติมในชีวิตประจำวันของคาทอลิก

     เสกห้องต่างๆในบ้านของท่าน  เป็นต้นห้องนอนต่างๆ เพื่อซาตานจะไม่เข้าไปข้างใน  เป็นประเพณีคาทอลิกที่งดงามสำหรับบิดามารดา ที่จะพรมน้ำเสกแก่เด็กๆทุกคืน พร้อมกับสวดภาวนาสั้นๆว่า “จงหลับในศานติของพระเยซูเจ้า“ หรือตามธรรมเนียมชาวลาตินว่า “Que Te Bendigo” ขอพระองค์ประทานพรแก่ลูก   ครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆที่กลัวความเลวร้ายกลางคืน บางครั้งจะติดตั้งอ่างน้ำเสกเล็กๆในห้องนอนของเด็กๆเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว

     อย่าเสกบ้านครั้งเดียวแล้วลืมไปเลย แต่จงใช้น้ำเสกพรมบ้านบ่อยๆ ใครก็ตามที่ทนทุกข์น่ากลัวจากความไม่สงบสุขภายในบ้าน จงใช้น้ำเสกและเครื่องหมายกางเขน ในมุมของแต่ละห้องเพื่อผลดีจะเกิดขึ้นได้

     จงเสกเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยน้ำเสก และวางเหรียญนักบุญเบเนดิกต์บนเครื่อง เพื่อคุณจะได้ระลึกถึงอันตรายของอินเตอร์เน็ต  ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน  น้ำเสกจะช่วยได้เพื่อให้เครื่องมือของคุณศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเลี้ยงชีพได้

     จงเสกพรมยานพาหนะของครอบครัวและยานเพื่อธุรกิจของคุณ  และจงพิจารณาเข้าร่วมในองค์การยานยนต์คาทอลิก

     จงพรมเสกจักรยานของลูกๆ หนังสือเรียนของพวกเขา และสิ่งอื่นๆ พร้อมสวดภาวนาที่จะไม่ทำให้แตกออกไปจากความเชื่อ หรือนำไปสู่การประจญล่อลวง

     จงใช้ภาชนะรองรับน้ำเสกที่สะอาดและใหม่  และระมัดระวังอย่านำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น  จงสลายน้ำเสกเก่าๆโดยรินลงบนพื้นดินในบริเวณที่คนจะไม่เหยียบย่ำ

     โดยเป็นกรณีเช่นเดียวกับของที่เสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ น้ำเสกควรใช้อย่างศรัทธา โดยไม่มีความเชื่อถือแบบไสยศาสตร์ในการนำมาใช้  แต่ตรงข้าม ต้องใช้ด้วยการรับรู้ว่าผลประโยชน์ที่ได้รับนั้น ตรงมาจากพลังอำนาจของพระตรีเอกภาพและพระมหาไถ่ของเรา พระเยซูคริสตเจ้า วัตถุที่ได้รับการเสก ไม่ควรจะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางโลกใดๆ

     น้ำเสกเป็นสิ่งคล้ายศีลพื้นฐานที่สุด จัดให้คาทอลิกทุกแห่ง มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีพลังที่สุดด้วย  ชีวิตของเราคาทอลิกถูกซึมซับด้วยน้ำเสกจากนาทีแรกที่เรารับตราประทับของพระจิตเจ้าตอนล้างบาป จนกระทั่งร่างที่เหลือได้รับการเสกในพิธีกรรมบรรจุศพก่อนการฝัง การใช้น้ำเสกในบ้านเป็นประเพณีคาทอลิกอย่างหนึ่งที่คาทอลิกน้อยคนรับไปปฏิบัติ เป็นความสูญเสียอะไรเช่นนั้น! น้ำเสกมีพลังอำนาจยกบาปเบา  นักบุญเวียนเนย์ ในคำสอนของท่านเกี่ยวกับการแก้บาป  เสนอแนะว่า นาทีที่คิดว่าตนมีบาปเบา “จุ่มน้ำเสกด้วยความเคารพ  ทำอะไรอย่างหนึ่งที่เป็นงานดีๆที่การอภัยบาปเบาโปรดให้ : เช่น ให้ทาน  คุกเข่าสักการะศีลมหาสนิท  ฟังมิสซา” ศาสนจักรกระตุ้นเตือนการใช้น้ำเสกบ่อยๆในช่วงเวลาอันตราย เช่น ขณะมีพายุ  อัคคีภัย  ความเจ็บไข้ได้ป่วย และเมื่อมีการขัดแย้งชนิดใดๆในบ้านหรือในชุมชน



⏳ ประวัติศาสตร์ของการใช้น้ำเสก

     การใช้น้ำเสกย้อนวันเวลาไปสู่ยุคคริสตชนเริ่มแรก  แต่ก่อนศตวรรษที่ 5 ไม่มีหลักฐานทางเอกสารใดๆเป็นพิเศษ  ตั้งแต่สมัยกฎหมายยิวได้จัดการให้มีน้ำสำหรับการทำความบริสุทธิ์ทางพิธีกรรม เป็นการปลอดภัยที่จะอนุมานเอาว่า คริสตชนได้รับเอาการใช้น้ำนี้ตั้งแต่ต้น พระเยซูพระองค์เองก็ถูกล้างบาปด้วยน้ำ

     หนึ่งในเอกสารทางพิธีกรรมแรกเริ่มที่สุดโดยพระสังฆราชศตวรรษที่ 4 อ้างอิงถึงการทำพิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์(น้ำเสก) โดยอ้างพระนามของพระองค์เหนือน้ำนั้น และอนุมานว่า น้ำนั้นจะมีพลังอำนาจบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และโรคอื่นๆ โดยการดื่มหรือนวดทา และว่าจิตวิญญาณชั่วร้ายทั้งหลายจะลอยจากไป นักบุญเอปีฟานีโอได้เสกน้ำด้วยเครื่องหมายกางเขน และใช้อย่างได้ผลในการขับไล่ปีศาจตนหนึ่ง  ต่อมา บรรดาเอกสารเต็มไปด้วยเรื่องราวของการหายจากโรค ที่ได้มาจากการดื่มน้ำเสกในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า

     ในศตวรรษที่ 9 พระสันตะปาปาเลโอที่ 6 ได้ออกกฤษฎีกาว่า ทุกวันอาทิตย์ พระสงฆ์ควรจัดเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือน้ำเสก และสวด(หรือขับบท) Asperges ท่านยังกระตุ้นสัตบุรุษให้นำน้ำเสกใส่ภาชนะที่สะอาด กลับไปเสกบ้านของตน  เรือนสวนไร่นาและฝูงปศุสัตว์ด้วย

💧 น้ำเสกสี่ลักษณะ

     น้ำเสกที่ใช้กันปกติธรรมดาที่สุดคือที่ใส่ไว้ในภาชนะที่เรียกว่า อ่างน้ำเสก (stoups) ข้างประตูใหญ่ของวัดทุกวัด น้ำนี้สามารถพบได้ในที่จุ่มน้ำเสกและจัดให้ใช้ส่วนบุคคลที่เป็นสัตบุรุษ
     น้ำเสกปัสกา มีการทำพิธีเสกในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์(มิสซาสุกดิบ vigil mass) ซึ่งรวมทั้งการจุ่มเทียนเสกปัสกาลงในน้ำนั้นสามครั้ง น้ำเสกนี้มีจัดให้เพื่อการใช้ส่วนบุคคลด้วย  แม้วัดหลายวัดไม่ได้กระตุ้นเตือนสัตบุรุษให้นำไปใช้ประโยชน์ได้  ไม่นานมานี้  มันเป็นประเพณีที่ศรัทธาสำหรับบ้านคาทอลิกที่จะส่งคนหนุ่มสาวของครอบครัว ไปรับเอาน้ำนี้เพื่อเป็นเครื่องหมายการกลับมาของวันอาทิตย์ปัสกาที่น่าชื่นชมยินดีอีกปีหนึ่ง

     การเดินแห่ทั่วบ้านและในสวนจะนำโดยหัวหน้าครอบครัวที่เป็นผู้ชาย  หรือถ้าครอบครัวนั้นได้รับการเสกแล้ว  จะให้ผู้นำแห่เป็นนักบวชก็ได้  จะได้วิงวอนขอพรจากพระเป็นเจ้า ด้วยบทภาวนาดังนี้ :

     ข้าแต่พระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพและพระเจ้านิรันดร โปรดฟังคำวิงวอนของพวกเราที่ขอว่า แม้ขณะที่พระองค์ทรงปกป้องบ้านของชาวยิวที่ออกจากอียิปต์ โดยวิธีที่มีทูตสวรรค์ผู้ทำลาย ซึ่งบ้านเหล่านั้นถูกทาเปื้อนเลือดของลูกแกะตัวหนึ่ง ซึ่งหมายถึงปัสกาของเราที่ในนั้นพระคริสตเจ้าได้ถูกปล้นทำร้าย  ดังนั้น ขอพระองค์ในแบบเดียวกัน ได้ทรงถ่อมพระองค์ที่จะส่งทูตผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จากสวรรค์ ซึ่งทูตสวรรค์ผู้นี้ อาจจะดูแล เสริมส่ง  ป้องกัน เยี่ยมเยือน และปกป้องผู้อยู่อาศัยทุกคนของสถานที่อยู่แห่งนี้ ทั้งนี้ อาศัยพระนามพระคริสตเจ้าพระเจ้าของเรา อาแมน

     น้ำศักดิ์สิทธิ์หรือน้ำเสกเหล่านี้แต่ละชนิด อาจใช้สำหรับการสาดพรมทั่วไป ทำนองจารีตพิธีเป็นทุกข์ถึงบาปอีกแบบหนึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆก็เสกให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยน้ำเสกนี้  รวมทั้งเหรียญศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สายประคำ เทียน เช่นเดียวกับสิ่งของที่หมายในการใช้งานทุกวัน

     น้ำล้างบาป เหมือนน้ำศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ จะใส่เกลือผสมลงเล็กน้อย และยังมีส่วนผสมของน้ำมันเจิมคริสตชนใหม่และผู้รับศีลกำลัง จะใส่ไว้ในอ่างกว้างใหญ่ในบริเวณวัด คือหมายถึงที่ใช้ในการล้างบาป บ่อยครั้งทีเดียวจะตั้งอยู่ใกล้ประตูใหญ่ของวัด เพราะจะทำให้เราคิดถึงคำสัญญาตอนล้างบาป ที่ต้องจำก็คือ คุณต้องไม่นำน้ำนี้กลับไปบ้านของคุณ


     น้ำเกรกอเรียน ชนิดที่ไม่ค่อยรู้จักกัน เพราะใช้สำหรับการเสกวัดหลังใหม่ น้ำนี้จะมีส่วนผสมของเหล้าองุ่น เกลือและเถ้า เพื่อให้พระสังฆราชใช้ระหว่างจารีตพิธี

     น้ำที่มีการเสกเป็นเกียรติแก่นักบุญต่างๆ สำหรับใช้ในโอกาสพิเศษต่างๆ เป็นต้นในวันฉลองของท่าน มันเป็นประเพณีจะเสกเหล้าองุ่นเล็กน้อยด้วยน้ำเสก และดื่มแสดงความรักต่อนักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร

     น้ำจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรคาทอลิก เช่น ลูร์ด , น๊อค หรือฟาติมา ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่มีการเสก อาจเพียงเติมลงในน้ำเสกเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้น ขอเพิ่มว่า น้ำชนิดใดก็สามารถนำมาเพื่อล้างบาปเป็นการด่วนส่วนตัวได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่