แชร์ประสบการณ์หางานที่จีนและทำวีซ่าทำงานจีนด้วยตัวเอง 2023

สวัสดีจ้า.... 

ปีนี้ 2023 , เราลาออกจากที่ทำงานเก่าที่มาเก๊าแล้วจ้าาาา (เคยเขียนรีวิวไว้แล้วเรื่องเอกสารตั้งแต่ปี 2019 ลองไปอ่านได้นะ) , อยู่มาเก๊า 2019 - 2023 (โควิดเริ่มก็อยู่มาเก๊า โควิดจบแล้วเราก็ออกเนอะ) 1 เดือนก่อนจะลาออก เราก็เริ่มหางานที่จีนแผ่นดินใหญ่ วิธีการหางานที่ดีที่สุดคือติดต่อกับบริษัทโดยตรงค่ะ โทรไปถามว่ายังรับสมัครตำแหน่งนี้ไหม? รับต่างชาติไหม? หาไปหามา ก็ได้งานใหม่ที่เซี่ยงไฮ้จ้าาา จุดพลุ!!! (เรายังอยู่สายโรงแรมเหมือนเดิม)

**** เราพูดภาษาจีนได้นะคะ อ่าน พูด ฟัง เขียน ได้แบบ 100% ได้ HSK 5 ตอนปี 2018 ค่ะ **** 

เริ่มแรก เรากรอกใบสมัครทางเว็บไซต์ของโรงแรม แล้วได้รับอีเมลปฏิเสธกลับมา... ค่ะ... เราก็ไม่หวังอะไรแล้ว เดินหน้าหาที่ใหม่ วันรุ่งขึ้น Director of Human Resources (เรียกสั้นๆว่า DOHR) ส่งอีเมลกลับมาว่ายังสนใจตำแหน่งนี้ไหม? เราก็โอเค แต่ก็ยังงงๆว่าเค้าจะเอาเราจริงรึป่าว ในเมือปฏิเสธเราไปแล้ว  การติดต่อและสัมภาษณ์งานทั้งหมดใช้โปรแกรม wechat แบบวิดีโอคอล (ยกเว้นครั้งสุดท้ายใช้  Microsoft Team ) , การส่งเอกสารจะส่งผ่านอีเมลเท่านั้น

สัมภาษณ์งานรอบที่ 1 - DOHR
แล้วเราก็นัดวันสัมภาษณ์กับ DOHR ก็ถามเรื่องทั่วไปว่าทำไมถึงมาสมัตรที่ที่บลาๆๆ เราก็ถามเค้าตรงๆเลยนะว่าเราโดนปฏิเสธไปแล้วนะ ทำไมถึงติดต่อกลับมา คุณมีเหตุผลอะไรรึป่าว เค้าก็บอกว่า เค้าดูเรซูเม่เราอย่างละเอียด แล้วคิดว่าเราเหมาะกับอีกตำแหน่งนึง แล้วเค้าก็บลาๆๆๆ โอเค เราตกลงที่จะสัมภาษณ์อีกตำแหน่ง เค้าก็นัดวันสัมภาษณ์กับ Hotel Manager (เรียกสั้นๆว่า HM) เอ้า รอบแรกผ่านแล้วจ้า

สัมภาษณ์งานรอบที่ 2 - Hotel Manager
รอบสอง สัมภาษณ์กับ HM โหดมาก... โหดมากจริงๆ เค้าไม่ถามอะไรเกี่ยวกับตัวโรงแรม ข้อมูลโรงแรม ไม่ถามอะไรเลย เค้าแค่บอกเราว่า(จำได้ขึ้นใจ) "If you are in this position, you have to work your as**off " แล้วก็ถามว่าเข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งนี้รึป่าว รู้มั้ยว่าตำแหน่งนี้ต่อไปจะไปไหน ไอ้ 18 เดือนนี่เธอต้องอยู่ให้รอดนะ เค้าสามารถเอาเราออกได้เสมอถ้าเราทำไม่ได้ , บอกได้เลยว่าตอนสัมภาษณ์เรากลับมาก เกือบร้องจริงๆ แต่ก็ต้องสู้ไง เค้าบอกว่า ตอนนี้เค้าไม่ต้องการคำตอบนะว่าเธอจะรับตำแหน่งนี้หรือไม่รับ ให้กลับไปคิดทบทวนมาให้ดีๆ แล้วค่อยบอกเค้า , อ่ะ โอเค รออีกหนึ่งชั่วโมงเราก็ตอบเค้าไปว่า เราพร้อมที่จะ work my as**off , เค้าตอบกลับมาคำเดียว "then prepare yourself" , รอบสองผ่านจ้าาา

สัมภาษณ์งานรอบที่ 3 - Reginal Human Resources Director
รอบนี้ ชิล.. ชิลมากเลยยยยยย สัมภาษณ์ไม่ถึง 10 นาที เค้าแค่ถามว่า เนี่ยะ เคยอยู่เซี้ยงไฮ้ใช่ไหม ชอบไหม ถามว่าอะไรที่จะเป็นอุปสรรคในการทำงานตำแหน่งนี้ เราก็ตอบไปตามความเป็นจริง เหมือนเค้าอึ้งไปนิดนึง เราบอกเค้าว่าเราต้องเจออุปสรรคนี้แน่นอน เราก็เลยต้องเตรียมตัวเตรียมใจ เค้าก็ยิ้มๆแล้วบอกว่า see ypu then , รอบสามผ่านจ้าาา

สัมภาษณ์งานรอบที่ 4 - General Manager / Area Vice President Operations
รอบนี้สัมภาษณ์ตอนเลิกงานพอดี เค้าก็ถามเกี่ยวกับโรงแรมบ้าง รู้จักแบรนด์เรามั๊ย แล้วตำแหน่งที่จะทำเนี้ยะ รู้มั้ยว่าคืออะไร คำถามของ GM จะเหมือนกับว่าเอาคำถามของสามคนที่แล้วมายำรวมๆกันเลยค่าาาา คำถามสุดท้ายที่เค้าถามคือ คิดว่าจะมี Language barrier หรือ Culture shock ไหม , เราตอบแบบมั่นใจมากว่าไม่มี เพราะก่อนที่เราจะอยู่มาเก๊า เราอยู่เซี้ยงไฮ้มา 2 ปีและเพื่อนเราเป็นคนจีนทั้งหมด ที่มาเก๊าเราก็มีเพื่อนคนจีนสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมของคนจีน เราไม่มีปัญหาแน่นอน โอเค จบ เค้าบอกเดี๋ยวเค้าขอไปคุยกับ DOHR ก่อนนะ , รอบนี้เครียดมาก เพราะเป็นรอบสุดท้าย ถ้าเค้าโอเค เราได้ไป ถ้าเค้าไม่โอเค เราอด แล้วเราก็ทักไปถาม DOHR ว่าเป็นยังไงบ้างคะ , โอเค ผ่านจ้าาาาา 

ตอนนี้ Pudong International Ariport ก็อยู่แค่หน้าปากซอยจ้าาา
**ขอไม่บอกนะคะว่าได้ตำแหน่งอะไร ระดับคือ supervisory to management ค่ะ**
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่