ทำไมสตุ๊ดการ์ดถึงปล่อยตัวกัปตันทีมของสโมสรคนสำคัญอย่าง วาตารุ เอ็นโดะ ไปให้ลิเวอร์พูลในราคาแค่ 16 ล้านปอนด์เท่านั้นครับ กัปตันทีมเลยน่ะครับ แถมเป็นกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นด้วย
ทำไมปล่อยไปในราคาถูกเช่นนี้
1 เพราะ นักเตะอายุเยอะแล้ว จะ 31 แล้ว ?
2 เพราะ สัญญาใกล้จะหมดแล้ว ปล่อยไปตอนนี้ คุ้มกว่า ปล่อยฟรี ?
3 เพราะ เป็นคนเอเชีย เลย ไม่กล้าตั้งราคาสูง ?
เพราะ อะไรครับ ลองมาวิเคราะห์กัน
ข้อมูล วาตารุ เอ็นโดะ
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามบุนเดสลีกาเป็นประจำ นัดล่าสุดที่ได้เห็นฝีเท้าของเอ็นโดะ คงจะเป็นเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่นแพ้ในการดวลจุดโทษให้กับโครเอเชียไป 1-3 หลังเสมอ 1-1 ในช่วง 120 นาที
ในเกมนั้น เอ็นโดะคือหัวใจสำคัญในแดนกลางของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีสถิติผ่านบอลแม่นยำที่สุดในทีม 88.1% เทียบชั้นได้กับคีย์แมนฝั่งตรงข้ามอย่าง ลูกา โมดริช (88.7%) ได้เลย อีกทั้งยังสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากที่สุดในสนาม 4 ครั้ง เท่ากับกองกลางคู่แข่งอย่าง มาร์เซโล โบรโซวิช
ส่วนในระดับสโมสร แม้ผลงานของสตุ๊ตการ์ตในฤดูกาลล่าสุดจะไม่ดีนัก จบอันดับ 16 ของตาราง แต่ฟอร์มส่วนตัวของเอ็นโดะก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว จากการทำไป 5 ประตู 4 แอสซิสต์
สถิติที่น่าทึ่งของเอ็นโดะอีกอย่างก็คือ ด้วยส่วนสูง 178 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับนักฟุตบอลในยุโรป ตลอด 3 ฤดูกาลในบุนเดสลีกา เขากลับเอาชนะในการดวลลูกกลางอากาศได้มากกว่า 58% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงชีวิตนักฟุตบอลของเอ็นโดะ แทบจะไม่เคยอยู่ในสถานะซูเปอร์สตาร์มาก่อนเลย โดยเว็บไซต์ด้านข้อมูลอย่าง transfermarkt เคยประเมินค่าตัวสูงสุดของเขาอยู่ที่ 10 ล้านยูโรเท่านั้น แต่สิ่งที่หลายฝ่ายพูดตรงกัน คือกองกลางวัย 30 ปีคนนี้ถือเป็น ‘นักสู้’ ตัวจริง
อีก 1 ปัจจัยที่ทำให้เอ็นโดะเป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ คือการที่เขาเป็นกัปตันทีมทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร ซึ่งสำหรับคนเอเชียแล้ว การมาเล่นในลีกสูงสุดของยุโรปและได้รับปลอกแขนเป็นผู้นำทีม นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
หลายคนมองว่าการที่ลิเวอร์พูลเล็งคว้าตัว เอ็นโดะ อาจเป็นเพียงแค่การหาผู้เล่นเข้ามาแก้ขัดจากวิกฤติในแดนกลาง ณ ขณะนี้ แต่พอลองพิจารณาดูจากหลายๆ ปัจจัยแล้ว การดึงนักเตะวัยเข้าเลข 3 ที่ค่าตัวไม่แพงนักในสภาวะตลาดแบบนี้ และสามารถใช้งานได้ในทันที อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของลิเวอร์พูลในตอนนี้ก็เป็นได้
ทำไมสตุ๊ดการ์ดถึงปล่อยตัวกัปตันทีมของสโมสรคนสำคัญอย่าง วาตารุ เอ็นโดะ ไปให้ลิเวอร์พูลในราคาแค่ 16 ล้านปอนด์เท่านั้นครับ
ทำไมปล่อยไปในราคาถูกเช่นนี้
1 เพราะ นักเตะอายุเยอะแล้ว จะ 31 แล้ว ?
2 เพราะ สัญญาใกล้จะหมดแล้ว ปล่อยไปตอนนี้ คุ้มกว่า ปล่อยฟรี ?
3 เพราะ เป็นคนเอเชีย เลย ไม่กล้าตั้งราคาสูง ?
เพราะ อะไรครับ ลองมาวิเคราะห์กัน
ข้อมูล วาตารุ เอ็นโดะ
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามบุนเดสลีกาเป็นประจำ นัดล่าสุดที่ได้เห็นฝีเท้าของเอ็นโดะ คงจะเป็นเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่นแพ้ในการดวลจุดโทษให้กับโครเอเชียไป 1-3 หลังเสมอ 1-1 ในช่วง 120 นาที
ในเกมนั้น เอ็นโดะคือหัวใจสำคัญในแดนกลางของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีสถิติผ่านบอลแม่นยำที่สุดในทีม 88.1% เทียบชั้นได้กับคีย์แมนฝั่งตรงข้ามอย่าง ลูกา โมดริช (88.7%) ได้เลย อีกทั้งยังสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากที่สุดในสนาม 4 ครั้ง เท่ากับกองกลางคู่แข่งอย่าง มาร์เซโล โบรโซวิช
ส่วนในระดับสโมสร แม้ผลงานของสตุ๊ตการ์ตในฤดูกาลล่าสุดจะไม่ดีนัก จบอันดับ 16 ของตาราง แต่ฟอร์มส่วนตัวของเอ็นโดะก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว จากการทำไป 5 ประตู 4 แอสซิสต์
สถิติที่น่าทึ่งของเอ็นโดะอีกอย่างก็คือ ด้วยส่วนสูง 178 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับนักฟุตบอลในยุโรป ตลอด 3 ฤดูกาลในบุนเดสลีกา เขากลับเอาชนะในการดวลลูกกลางอากาศได้มากกว่า 58% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงชีวิตนักฟุตบอลของเอ็นโดะ แทบจะไม่เคยอยู่ในสถานะซูเปอร์สตาร์มาก่อนเลย โดยเว็บไซต์ด้านข้อมูลอย่าง transfermarkt เคยประเมินค่าตัวสูงสุดของเขาอยู่ที่ 10 ล้านยูโรเท่านั้น แต่สิ่งที่หลายฝ่ายพูดตรงกัน คือกองกลางวัย 30 ปีคนนี้ถือเป็น ‘นักสู้’ ตัวจริง
อีก 1 ปัจจัยที่ทำให้เอ็นโดะเป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ คือการที่เขาเป็นกัปตันทีมทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร ซึ่งสำหรับคนเอเชียแล้ว การมาเล่นในลีกสูงสุดของยุโรปและได้รับปลอกแขนเป็นผู้นำทีม นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
หลายคนมองว่าการที่ลิเวอร์พูลเล็งคว้าตัว เอ็นโดะ อาจเป็นเพียงแค่การหาผู้เล่นเข้ามาแก้ขัดจากวิกฤติในแดนกลาง ณ ขณะนี้ แต่พอลองพิจารณาดูจากหลายๆ ปัจจัยแล้ว การดึงนักเตะวัยเข้าเลข 3 ที่ค่าตัวไม่แพงนักในสภาวะตลาดแบบนี้ และสามารถใช้งานได้ในทันที อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของลิเวอร์พูลในตอนนี้ก็เป็นได้