เป็นละครที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะดูตั้งแต่แรกเนื่องด้วยเป็นละครเบาสมอง..ซึ่งปกติจะไม่ค่อยอินกับละครแนวนี้…
กว่าจะได้ดูจริงๆจังๆก็ปาเข้าไปอีพี6-7แล้ว..
แต่พอได้ดูแล้ว..อยากจะบอกว่าต้องกลับไปย้อนดูอีพีแรกจนถึงปัจจุบันอย่างเหลือเชื่อ…
ความชอบในละครเรื่องนี้ไม่ใช่พ็อตเรื่อง..แค่เป็นความพอดีๆ..มีความมาถูกจังหว่ะถูกเวลาไปเสียทุกเรื่อง..แม้จะมีซีนอารมณ์ให้น้ำตาหน่วยตา..แต่ยังไม่ทันได้ไหล..ก็มีคำพูดหรือสถานการณ์ทำให้ยิ้มออกมาเฉยๆ..เหมือนคนบ้า..ที่ร้องไห้..และหัวเราะไปในเวลาเดียวกัน..
ความดีงานของนักแสดงที่แสดงได้เป็นธรรมชาติ..ไม่ได้พยายามประดิษฐ์จนเกินไป..ไม่ได้เล่นใหญ่ตามสไตล์ละครเบาสมองทั่วไป..ไม่ได้ยัดเยียดมุขฝืดๆ ฝืนๆเข้ามาในละคร..
มันเป็นควรสนุกที่ลงตัวแบบที่ไม่ค่อยเห็นในละครบ้านเราเท่าที่ควร..
ผมเชื่อว่าหลายคนที่เปิดใจดูละครเรื่องนี้จะรู้สึกไม่ต่างกัน..
มันเหมือนการเจอกันกับบางสิ่งที่หายไปจากตัวเราไปนานแสนนาน..
นั้นคือความเป็นตัวเรา..และความใจดีที่เราเคยมี..แต่หายจากเราตอนไหนก็ไม่รู้..
นั้นคือความเป็นมนุษย์ที่ทำผิดได้เท่ากัน..แต่อยู่ที่เราจะยอมรับ..และก้าวผ่านความผิดพลาดนั้นไปได้แค่ไหน..อย่างไร..
ได้ยินคำพูดนี้บ่อยๆ..การให้อภัยตัวเอง..ในละครหลายเรื่อง..แต่เรื่องนี้คือรู้สึกไปตามนั้นจริงๆ..ว่าการให้อภัยใคร..ก็ไม่สำคัญเท่าให้อภัยตัวเราเองให้ได้เสียก่อน..
หลายสิ่งที่เกิดขึ้นในละคร..ไม่ใช่เรื่องใหม่..ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าละครจะพาเราไปทางไหน..แต่เหนือสิ่งอื่นใด..คือการเล่าเรื่องธรรมดาได้สนุก..มีสีสัน..และมีขีวิตชีวาจนทำให้เรารู้สึกเป็นคนอีกหนึ่งคนในเรื่องไปด้วย…
นานมากแล้วที่ผมดูละครแล้วรู้สึกดูไปจับผิดไป..ดูไปด่าไป..ดูไปบ่นไป..แต่สำหรับละครเรื่องนี้ “มาตาลดา” เป็นเรื่องหนึ่งในรอบหลายปีที่ผมดูแล้วยิ้ม..และร้องไห้ไปกับชีวิตสมมุติที่ดูอยู่ตรงหน้าได้อย่างสนิทใจ..
รู้สึกขอบคุณตัวเองที่เปิดใจดูละครเรื่องนี้..และขอบคุณอะไรก็ตาม..หรือใครก็ตามที่ทำให้มีละครเรื่องนี้..
“มาตาลดา…ผู้หญิงอันเป็นที่รักของแม่”
#มาตาลดา
การได้พบเจอกันอีกครั้งของบางสิ่งที่หายไปจากมาตาลดา
กว่าจะได้ดูจริงๆจังๆก็ปาเข้าไปอีพี6-7แล้ว..
แต่พอได้ดูแล้ว..อยากจะบอกว่าต้องกลับไปย้อนดูอีพีแรกจนถึงปัจจุบันอย่างเหลือเชื่อ…
ความชอบในละครเรื่องนี้ไม่ใช่พ็อตเรื่อง..แค่เป็นความพอดีๆ..มีความมาถูกจังหว่ะถูกเวลาไปเสียทุกเรื่อง..แม้จะมีซีนอารมณ์ให้น้ำตาหน่วยตา..แต่ยังไม่ทันได้ไหล..ก็มีคำพูดหรือสถานการณ์ทำให้ยิ้มออกมาเฉยๆ..เหมือนคนบ้า..ที่ร้องไห้..และหัวเราะไปในเวลาเดียวกัน..
ความดีงานของนักแสดงที่แสดงได้เป็นธรรมชาติ..ไม่ได้พยายามประดิษฐ์จนเกินไป..ไม่ได้เล่นใหญ่ตามสไตล์ละครเบาสมองทั่วไป..ไม่ได้ยัดเยียดมุขฝืดๆ ฝืนๆเข้ามาในละคร..
มันเป็นควรสนุกที่ลงตัวแบบที่ไม่ค่อยเห็นในละครบ้านเราเท่าที่ควร..
ผมเชื่อว่าหลายคนที่เปิดใจดูละครเรื่องนี้จะรู้สึกไม่ต่างกัน..
มันเหมือนการเจอกันกับบางสิ่งที่หายไปจากตัวเราไปนานแสนนาน..
นั้นคือความเป็นตัวเรา..และความใจดีที่เราเคยมี..แต่หายจากเราตอนไหนก็ไม่รู้..
นั้นคือความเป็นมนุษย์ที่ทำผิดได้เท่ากัน..แต่อยู่ที่เราจะยอมรับ..และก้าวผ่านความผิดพลาดนั้นไปได้แค่ไหน..อย่างไร..
ได้ยินคำพูดนี้บ่อยๆ..การให้อภัยตัวเอง..ในละครหลายเรื่อง..แต่เรื่องนี้คือรู้สึกไปตามนั้นจริงๆ..ว่าการให้อภัยใคร..ก็ไม่สำคัญเท่าให้อภัยตัวเราเองให้ได้เสียก่อน..
หลายสิ่งที่เกิดขึ้นในละคร..ไม่ใช่เรื่องใหม่..ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าละครจะพาเราไปทางไหน..แต่เหนือสิ่งอื่นใด..คือการเล่าเรื่องธรรมดาได้สนุก..มีสีสัน..และมีขีวิตชีวาจนทำให้เรารู้สึกเป็นคนอีกหนึ่งคนในเรื่องไปด้วย…
นานมากแล้วที่ผมดูละครแล้วรู้สึกดูไปจับผิดไป..ดูไปด่าไป..ดูไปบ่นไป..แต่สำหรับละครเรื่องนี้ “มาตาลดา” เป็นเรื่องหนึ่งในรอบหลายปีที่ผมดูแล้วยิ้ม..และร้องไห้ไปกับชีวิตสมมุติที่ดูอยู่ตรงหน้าได้อย่างสนิทใจ..
รู้สึกขอบคุณตัวเองที่เปิดใจดูละครเรื่องนี้..และขอบคุณอะไรก็ตาม..หรือใครก็ตามที่ทำให้มีละครเรื่องนี้..
“มาตาลดา…ผู้หญิงอันเป็นที่รักของแม่”
#มาตาลดา