สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะชวนไปเที่ยวแคนาดากันค่ะ แคนาดา 11 วัน ตะวันตกไปตะวันออก
แคนาดาเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ติดอยู่กับสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งทางด้านธรรมชาติ ตึกรามบ้านช่อง เมืองใหญ่ เปิด google ขึ้นมา มีแต่รูปที่เที่ยวสวยๆ ให้อยากไปค้นหา แคนาดาจึงเป็นจุดหมายที่เราอยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง แพลนไว้ต้องแต่ก่อนโควิด เพิ่งจะมีโอกาสไปในครั้งนี้เอง
### แคนาดา เที่ยวช่วงเวลาไหนดี ###
ช่วงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว คือ ช่วง summer ประมาณปลายมิถุนายน-ต้นกันยายน เพราะอากาศอบอุ่นที่สุด ( ตอนเราไปปลายกค. อุณหภูมิอยู่ที่ 5-25 องศา นี่อุ่นสุดแล้วใช่ไหม ? ) ระยะเวลาตอนกลางวันยาว พระอาทิตย์ตกเกือบสามทุ่ม สถานที่เที่ยวเปิดให้บริการ กิจกรรมต่างๆสามารถทำได้ เราเลือกที่จะไปปลายกรกฎาคม-ต้นสิงหาคม เพราะช่วงนี้มีวันหยุดยาวของไทย จะได้ไม่ต้องใช้วันลามากเกินไป ^^ ส่วนช่วงเวลาอื่น ก็มีความสวยงามกันไปตามฤดูกาล สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งปิด ถนนปิด ก็ต้องศึกษาก่อนไปดีๆนะคะ
### แคนาดา เที่ยวที่ไหนดี ###
แคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่มาก เพราะฉะนั้นคนส่วนมาก มันจะเลือกเที่ยวไม่ตะวันตก ( Vancouver , Calgary , Rockies mountain เป็นต้น ) ก็ตะวันออก ( Toronto , Montreal , Ottawa , Quebec เป็นต้น ) ด้านใดด้านหนึ่ง จะได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะการข้ามบินข้ามฝั่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 4.30 ชม.เลยทีเดียว ตอนแรกเราแค่อยากไป rockies mountain แต่ Niagara Falls ที่โตรอนโตก็ไม่อยากพลาด เพราะมีคนบอกว่าถ้าชมจากฝั่งแคนาดาจะสวยกว่าอเมริกา ไม่รู้เราจะมีโอกาสได้มาอีกเมื่อไหร่ เลยยอมควบทั้งตะวันตกตะวันออกไปในครั้งเดียวกัน เก็บที่เที่ยวที่สำคัญๆให้ครบในรอบเดียวไปเลย
### VISA ###
สำหรับคนไทยจำเป็นต้องขอวีซ่า โดยต้องยื่นเอกสารทางอินเตอร์เนตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าวีซ่าใช้เวลานานในการขอ เราเดินทางเดือนกรกฎาคม เริ่มดำเนินการยื่นเอกสารเดือนกุมภาพันธ์ ขั้นตอนในการกรอกเอกสารบางส่วนต้องกรอกผ่าน pdf ซึ่งคอมพิวเตอร์บางเครื่องเปิดไม่ได้ ต้องลงโปรแกรมใหม่หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ ในคนที่ไม่ชำนาญเรื่องคอมพิวเตอร์แบบเราถือว่ายุ่งยากพอควร กว่าเราจะยื่นเอกสารครบก็มีนาคม ตอนจ่ายเงินค่า biometric ถ้าเลือกเป็น family ก็คือ พ่อ แม่ ลูก เท่านั้น พี่สาวน้องสาว ไม่ใช่ family เราเลยต้องมาจ่ายค่า biometric ของน้องสาวอีกครั้ง หลังยื่นไปวันรุ่งขึ้นก็ได้รับอีเมลล์แจ้งให้ไปเก็บ biometric แต่เราอยู่ต่างจังหวัด กว่าจะได้ขึ้นไปเก็บ biometric ก็เมษายน ได้วีซ่าเดือนพฤษภาคม
เดือนมิถุนายน 2566 แคนาดาประกาศว่า สามารถทำ eTA เข้าแคนาดาโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ โดยต้องเคยเดินทางเข้าแคนาดาภายใน 10 ปี หรือมีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 7 CAD แอบกรีดร้องในใจ แล้วที่ฉันทำวีซ่าไปสี่พันกว่าคืออะไร ???
### ตั๋วเครื่องบิน ###
เนื่องจากเราบินไปและกลับคนละสนามบิน อยากได้สายการบินเดียวกันทั้งไปและกลับ เราจึงได้ตั๋วของ Korean air มา โดยเลือกขาไปลง Vancouver ขากลับเป็น Toronto เล็งตั๋วอยู่นาน ไม่มีแนวโน้นที่จะลงเลย เราได้ตั๋วมาในราคา 50000+ โดยสามารถโหลดกระเป๋าได้ 23 กก 2 ใบ ขาไปมีเวลา transit ที่เกาหลี 13 ชม. จึงมีเวลาออกไปเดินเล่นใน seoul ได้ อาหารโอเค เบื่อ bibimbap กันไปเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางในประเทศ เนื่องจากเวลาเราน้อย เราจึงเลือกเดินทางทางเครื่องบินสำหรับระยะไกลเป็นหลัก โดยเรามีบิน 3 ครั้ง
- Vancouver to Calgary : westjet air , 2950 B รวมโหลดกระเป๋า 23 กก ฟรี carry on
- Calgary to Toronto : westjet air, 6500 B รวมโหลดกระเป๋า 23 กก ฟรี carry on
- Toronto to Montreal : air Canada 4000 B ฟรี carry on
นอกจากนี้ เราเลือกใช้รถไฟ VIA สำหรับการเดินทางระยะสั้น
- Montreal to ottawa : 1200 B
- Ottawa to Toronto : 1500 B
### ที่พัก ###
เราเลือกเป็น Airbnb เป็นหลัก ยกเว้น 2 คืนสุดท้ายเลือกเป็นโรงแรม โดยเราเลือกเป็นที่พักที่เป็นส่วนตัว ไม่ไกลจาก mrt / bus stop เพราะเราพาคุณแม่ไปด้วย มีครัวให้ทำอาหาร มีเครื่องซักผ้าอบผ้า ค่าที่พักเฉลี่ยคืนละ 7-8000 บ ที่พักที่ Banff ควรจองล่วงหน้านานๆ เพราะหาค่อนข้างยาก ราคาค่อนข้างสูง
### Sim and Internet ###
เราเลือกสมัคร package roaming / Ready2fly ของ AIS “ Popular “ ready2fly global dataroam 7GB+free 3GB (15 day) 899B ไม่รวมภาษี จากที่เราใช้เล่น internet ทั่วไป ,เปิด google map นำทาง , FB , line , instagram ถึงที่พักมี internet ก็ต่อเนต ไม่เล่น youtube , vdo ก็ใช้ได้เพียงพอนะคะ มีเหลือกลับมา 4-5 GB เลย บางช่วงจะไม่มีสัญญาณนะคะ แถว Banff , icefield ควรจะโหลด google map offline ไปล่วงหน้าค่ะ เมื่อไปถึงแคนาดา ais จะจับสัญญาณของ rogers วันที่อยู่ Toronto สัญญาณ rogers ล่ม ทำให้เล่น internet ไม่ได้ กลับบ้านไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าต้องขึ้นรถสายไหน เรียกแทกซี่ก็ไม่มี app uber/lift ก็ใช้ไม่ได้ ทำให้ต้องเดินกลับบ้านจาก google map offline เกือบ 4 กม. ถ้าไปกันหลายคน ลองเปลี่ยนสัญญาณมือถือดูนะคะ เผื่อระบบอื่นจะไม่ล่ม
### แลกเงิน ###
ที่แคนาดารับบัตรเครดิตเกือบทุกแห่ง แม้แต่ซื้อขนมหนึ่งชิ้นในตลาดยังรับบัตรเลยค่ะ แต่เราแค่ 2 แห่งที่รับ cash only คือ ร้านอาหารจีนใน Toronto กับรถเมย์ที่ victoria ที่เหลือรับบัตรทั้งหมดค่ะ เวลาแลกเงินไปจากไทย ถ้าเป็นร้าน superrich จะไม่มีเงิน CAD สำรองไว้ที่ร้านต้องโทรจองก่อนเท่านั้น เคย walk-in ไปซื้อ ก็ไม่มีต้องเดินทางไปสำนักงานใหญ่จึงจะซื้อได้ เราแลกเงินสดติดตัวไว้เล็กน้อย ที่เหลือแลกผ่านบัตร SCB planet กับ Youtrip ค่ะ โดยทั่วไป youtrip จะเรทถูกกว่าเล็กน้อย แบบว่าน้อยมากๆๆ เราทยอยแลกไว้เป็นระยะ ได้เรทตั้งแต่ 25.00-26.90
เรื่องภาษีต้องรู้ แต่ละรัฐของแคนาดา มีการเก็บภาษีไม่เท่ากัน ราคาสินค้าและบริการที่แสดงให้เห็นยังไม่รวมภาษี ภาษี ยังแบ่งออกเป็น PST , GST , HST แบ่งยิบแบ่งย่อยอีกด้วย เพราะฉะนั้น ในแต่ละรัฐ ควรจะรู้ว่าต้องเสียภาษีรวมกี่เปอร์เซนไว้หน่อย เช่น
- Alberta ( Calgary ) = total 5% ( GST 5%)
- British Columbia ( Vancouver ) = total 12% ( GST 5% + PST 7% )
- Ontario ( Toronto , ottawa ) = total 13% ( HST 13%)
- Quebec ( Montreal ) = total 14.975 % ( GST 5% + QST 9.975% )
### แผนการเดินทาง ###
วีซ่าพร้อม ตั๋วพร้อม ที่พักพร้อม แลกเงินแล้ว เปิดซิมแล้ว พร้อมออกเดินทางแล้วค่ะ ....
D0 : Bangkok-Incheon-Vancouver
D1 : Vancouver : Stanley park
D2 : Victoria : Butchart garden
D3 : Vancouver : Capillano suspension bridge , Canada place , gastown , Granville islands market
D4 : Calgary : Minnewanka loop road
D5 : Banff : Lake Louise , Moraine lake , Emerald lake , natural bridge , Takkakaw falls
D6 : Banff : Columbia Icefield , Peyto lake
D7 : Banff : Banff gondola , Banff town
D8 : Toronto : CN tower , Nathan Philips Square , ROM , Harbourfront , Toronto islands
D9 : Toronto : Niagara Falls
D10 : Montreal : One day trip in montreal
D11 : Ottawa : One day trip in Ottawa
D12 : Toronto-Incheon-Bangkok(+1)
DAY 1 : stanley park
วันนี้เรามาถึงแวนคูเวอร์ตอนเกือบบ่ายโมง ผ่านตม.มาแบบงง ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เจอแต่ machine ทำไปตาม step ไม่เจอเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ใดๆ ไม่มีการ stamp ใน passport กระเป๋ามาอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับกระเป๋าก็เข้าเมืองกันค่ะ
การเข้าเมืองทำได้หลายวิธี แต่เราเลือกที่พักไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า เราจึงเลือกเข้าเมืองด้วย Translink คนละ 8.15 CAD ( วันเสาร์ อาทิตย์ และวันธรรมดาหลัง 18.30 จะคิดเป็น 1 Zone ทั้งหมด ) ผู้สูงอายุ 7.10 CAD เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า ก็เข้าที่พักกัน หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็พร้อมออกมาผจญภัยแล้วค่ะ วันนี้อากาศดี แดดดี การเดินทางก็เปิด google map เลยค่ะ ขึ้นรถบัส ก็ใช้บัตรเครดิตแตะได้เลยค่ะ คำนวณดีๆ ถ้าใช้หลายเที่ยวหน่อย ซื้อเป็น one day pass จะคุ้มกว่า
Stanley park
Stanley park สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางเมืองแวนคูเวอร์ เป็นสวนสาธารณะที่มีทางเดินริมน้ำที่ใหญ่ที่สุด ระยะทางประมาณ 9 ไมล์ ระดับความแข็งแรงแบบเรา จักรยานเท่านั้น เดินไม่ไหว 555 โดยทางจักรยานจะเป็นแบบ one-way เท่านั้น มีสองเลน เลนด้านนอกติดริมน้ำ สำหรับเดิน วิ่ง เลนด้านสำหรับจักรยาน บางช่วงจะเป็นช่วงที่ขี่จักรยานไม่ได้ ต้องจูงแทน ระยะทางสั้นๆ ระหว่างที่ขี่จักรยาน ถ้าเราขี่ขวางทางคนอื่น ก็จะมีคนกดกระดิ่ง แล้วบอก on your left , on your right น่ารักดีค่ะ ร้านจักรยานมีให้เลือกมากมาย ตอนแรกเล็งร้าน Jo-E cycle ไว้ แต่ไม่มีจักรยานในวันทีเราไป จึงเลือกร้านข้างๆแทน ราคาชม.ละ 7 CAD มีหมวกกันน๊อกให้ ร้านบอกว่าถ้าปั่นไม่หยุด จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม แต่ถ้าหยุดด้วยก็แล้วแต่คุณ วันที่เราไปเค้ามีเทศกาลดอกไม้ไฟ ร้านปิด 1 ทุ่ม ต้องรีบหน่อย ร้านจะขอบัตรเครดิตแล้วจดหมายเลขไว้ กลับมาค่อยจ่ายเงิน ว่าใช้ไปกี่ชม สรุปวันนั้นเราขี่ไป 2 ชม หมดไป 49.39 CAD สำหรับ 3 คน
Stanley park มีหลายส่วนเลยค่ะ ถ้ามีเวลาน่าจะเที่ยวได้มากกว่านี้ มีทั้ง aquarium lagoon เราได้แค่ปั่นจักรยานริมน้ำ ก็หมดเวลาแล้วค่ะ วิวสวย แต่แดดแรงมาก ถึงจะไม่ร้อนก็ตาม คาดว่าค่า UV น่าจะสูง ขี่ลอดสะพาน lions gate bridge วิวมุมนี้สวยค่ะ ต่อไปก็จะเป็นชายหาด third + second beach คนมาพักผ่อนชายหาดเยอะ จัดว่าหนาแน่นมาก เมื่อเทียบกับชายหาดเมืองไทย หลังจากนั้นก็ขี่มาคืนจักรยาน
ใกล้ๆร้านจักรยาน มีร้าน Kintaro Ramen อยู่ review ดี จานใหญ่มากกกก แบบทานไม่หมด บะหมี่เยอะ ถั่วงอกเยอะ หมูแบบไม่มัน แห้งมาก หมูแบบมันอร่อยดีค่ะ น้ำซุปเค็ม ถ้าเอาแบบอร่อย ร้านในกทม.อร่อยกว่าเยอะ แต่ถ้าเอาปริมาณ อาจจะสู้ไม่ได้
Day 2 : Butchart Garden
เช้านี้ต้องตื่นเช้า เพื่อไป butchart garden เนื่องจากเวลาในการเดินทางเที่ยวละ 4.30 ชม โดยนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Bridgeport station จะเห็นป้ายสำหรับรถบัสสาย 620 นั่งจนมาสุดสาย จะถึงท่าเรือ Tsawwassen ferry express ซื้อตั๋วเรือ ferry เพื่อข้ามไปยัง Swartz bay ค่าตั๋วใช้บัตรเครดิตได้ โดยเรือจะออกทุกชั่วโมง ออกตรงเวลา .00 น โดยต้องซื้อตั๋วก่อนเรือออก 10 นาทีนะคะ ไม่งั้นต้องรอรอบต่อไป นั่งเรืออีกประมาณ 1.30 ชม เมื่อมาถึงฝั่ง swartz bay เดินไปทางด้านขวาหาป้ายรถบัสสาย 81 Brentwood นั่งไปสุดสายลงป้าย butchart garden โดยรถบัสสาย 81 นี้ รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ไม่รับบัตรเครดิต 2.5 CAD/เที่ยว สามารถจ่าย 5 CAD สำหรับ day trip ได้เลยค่ะ ( ตอนอยู่บนเรือ เราซื้อขนมจากตู้กด เพื่อให้ได้เงินทอนมา สำหรับจ่ายค่ารถให้พอดีค่ะ ) ส่วนขากลับนั่งกลับเหมือนเดิมค่ะ รอที่ท่ารถได้เลย รวมเวลาไปกลับเกือบ 9 ชม
Butchart Garden
Butchart Garden เป็นสวนขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้กับ victoria ในเกาะ vancouver islands แบ่งออกเป็นหลายๆสวน เช่น sunken garden , rose garden , italian garden , japanese garden แต่ละสวนก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ช่วงที่ไปดอกไม้บานเยอะมาก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แต่คนก็เยอะมากตามไปด้วย มีร้านอาหาร ร้านไอศกรีมให้บริการ วันที่ไปอากาศดี ค่อยข้างร้อน ร่วมกับน่าจะมีอาการ jet lag เราใช้เวลาอยู่ในสวน 2 ชมแล้วกลับเลย บนเรือคือหลับเป็นตาย
ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีเวลาไม่เยอะ ไม่จำเป็นต้องมา เพราะใช้เวลาเดินทางค่อยข้างนาน ไม่ค่อยคุ้ม แต่ถ้าจะไปเที่ยว victoria ต่อ อันนั้นน่าจะ
[CR] Canada in the Summer 2023 ประเทศที่ใช้คำว่า สวย สิ้นเปลืองมาก ^^
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะชวนไปเที่ยวแคนาดากันค่ะ แคนาดา 11 วัน ตะวันตกไปตะวันออก
แคนาดาเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ติดอยู่กับสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งทางด้านธรรมชาติ ตึกรามบ้านช่อง เมืองใหญ่ เปิด google ขึ้นมา มีแต่รูปที่เที่ยวสวยๆ ให้อยากไปค้นหา แคนาดาจึงเป็นจุดหมายที่เราอยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง แพลนไว้ต้องแต่ก่อนโควิด เพิ่งจะมีโอกาสไปในครั้งนี้เอง
### แคนาดา เที่ยวช่วงเวลาไหนดี ###
ช่วงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว คือ ช่วง summer ประมาณปลายมิถุนายน-ต้นกันยายน เพราะอากาศอบอุ่นที่สุด ( ตอนเราไปปลายกค. อุณหภูมิอยู่ที่ 5-25 องศา นี่อุ่นสุดแล้วใช่ไหม ? ) ระยะเวลาตอนกลางวันยาว พระอาทิตย์ตกเกือบสามทุ่ม สถานที่เที่ยวเปิดให้บริการ กิจกรรมต่างๆสามารถทำได้ เราเลือกที่จะไปปลายกรกฎาคม-ต้นสิงหาคม เพราะช่วงนี้มีวันหยุดยาวของไทย จะได้ไม่ต้องใช้วันลามากเกินไป ^^ ส่วนช่วงเวลาอื่น ก็มีความสวยงามกันไปตามฤดูกาล สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งปิด ถนนปิด ก็ต้องศึกษาก่อนไปดีๆนะคะ
### แคนาดา เที่ยวที่ไหนดี ###
แคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่มาก เพราะฉะนั้นคนส่วนมาก มันจะเลือกเที่ยวไม่ตะวันตก ( Vancouver , Calgary , Rockies mountain เป็นต้น ) ก็ตะวันออก ( Toronto , Montreal , Ottawa , Quebec เป็นต้น ) ด้านใดด้านหนึ่ง จะได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะการข้ามบินข้ามฝั่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 4.30 ชม.เลยทีเดียว ตอนแรกเราแค่อยากไป rockies mountain แต่ Niagara Falls ที่โตรอนโตก็ไม่อยากพลาด เพราะมีคนบอกว่าถ้าชมจากฝั่งแคนาดาจะสวยกว่าอเมริกา ไม่รู้เราจะมีโอกาสได้มาอีกเมื่อไหร่ เลยยอมควบทั้งตะวันตกตะวันออกไปในครั้งเดียวกัน เก็บที่เที่ยวที่สำคัญๆให้ครบในรอบเดียวไปเลย
### VISA ###
สำหรับคนไทยจำเป็นต้องขอวีซ่า โดยต้องยื่นเอกสารทางอินเตอร์เนตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าวีซ่าใช้เวลานานในการขอ เราเดินทางเดือนกรกฎาคม เริ่มดำเนินการยื่นเอกสารเดือนกุมภาพันธ์ ขั้นตอนในการกรอกเอกสารบางส่วนต้องกรอกผ่าน pdf ซึ่งคอมพิวเตอร์บางเครื่องเปิดไม่ได้ ต้องลงโปรแกรมใหม่หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ ในคนที่ไม่ชำนาญเรื่องคอมพิวเตอร์แบบเราถือว่ายุ่งยากพอควร กว่าเราจะยื่นเอกสารครบก็มีนาคม ตอนจ่ายเงินค่า biometric ถ้าเลือกเป็น family ก็คือ พ่อ แม่ ลูก เท่านั้น พี่สาวน้องสาว ไม่ใช่ family เราเลยต้องมาจ่ายค่า biometric ของน้องสาวอีกครั้ง หลังยื่นไปวันรุ่งขึ้นก็ได้รับอีเมลล์แจ้งให้ไปเก็บ biometric แต่เราอยู่ต่างจังหวัด กว่าจะได้ขึ้นไปเก็บ biometric ก็เมษายน ได้วีซ่าเดือนพฤษภาคม
เดือนมิถุนายน 2566 แคนาดาประกาศว่า สามารถทำ eTA เข้าแคนาดาโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ โดยต้องเคยเดินทางเข้าแคนาดาภายใน 10 ปี หรือมีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 7 CAD แอบกรีดร้องในใจ แล้วที่ฉันทำวีซ่าไปสี่พันกว่าคืออะไร ???
### ตั๋วเครื่องบิน ###
เนื่องจากเราบินไปและกลับคนละสนามบิน อยากได้สายการบินเดียวกันทั้งไปและกลับ เราจึงได้ตั๋วของ Korean air มา โดยเลือกขาไปลง Vancouver ขากลับเป็น Toronto เล็งตั๋วอยู่นาน ไม่มีแนวโน้นที่จะลงเลย เราได้ตั๋วมาในราคา 50000+ โดยสามารถโหลดกระเป๋าได้ 23 กก 2 ใบ ขาไปมีเวลา transit ที่เกาหลี 13 ชม. จึงมีเวลาออกไปเดินเล่นใน seoul ได้ อาหารโอเค เบื่อ bibimbap กันไปเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางในประเทศ เนื่องจากเวลาเราน้อย เราจึงเลือกเดินทางทางเครื่องบินสำหรับระยะไกลเป็นหลัก โดยเรามีบิน 3 ครั้ง
- Vancouver to Calgary : westjet air , 2950 B รวมโหลดกระเป๋า 23 กก ฟรี carry on
- Calgary to Toronto : westjet air, 6500 B รวมโหลดกระเป๋า 23 กก ฟรี carry on
- Toronto to Montreal : air Canada 4000 B ฟรี carry on
นอกจากนี้ เราเลือกใช้รถไฟ VIA สำหรับการเดินทางระยะสั้น
- Montreal to ottawa : 1200 B
- Ottawa to Toronto : 1500 B
### ที่พัก ###
เราเลือกเป็น Airbnb เป็นหลัก ยกเว้น 2 คืนสุดท้ายเลือกเป็นโรงแรม โดยเราเลือกเป็นที่พักที่เป็นส่วนตัว ไม่ไกลจาก mrt / bus stop เพราะเราพาคุณแม่ไปด้วย มีครัวให้ทำอาหาร มีเครื่องซักผ้าอบผ้า ค่าที่พักเฉลี่ยคืนละ 7-8000 บ ที่พักที่ Banff ควรจองล่วงหน้านานๆ เพราะหาค่อนข้างยาก ราคาค่อนข้างสูง
### Sim and Internet ###
เราเลือกสมัคร package roaming / Ready2fly ของ AIS “ Popular “ ready2fly global dataroam 7GB+free 3GB (15 day) 899B ไม่รวมภาษี จากที่เราใช้เล่น internet ทั่วไป ,เปิด google map นำทาง , FB , line , instagram ถึงที่พักมี internet ก็ต่อเนต ไม่เล่น youtube , vdo ก็ใช้ได้เพียงพอนะคะ มีเหลือกลับมา 4-5 GB เลย บางช่วงจะไม่มีสัญญาณนะคะ แถว Banff , icefield ควรจะโหลด google map offline ไปล่วงหน้าค่ะ เมื่อไปถึงแคนาดา ais จะจับสัญญาณของ rogers วันที่อยู่ Toronto สัญญาณ rogers ล่ม ทำให้เล่น internet ไม่ได้ กลับบ้านไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าต้องขึ้นรถสายไหน เรียกแทกซี่ก็ไม่มี app uber/lift ก็ใช้ไม่ได้ ทำให้ต้องเดินกลับบ้านจาก google map offline เกือบ 4 กม. ถ้าไปกันหลายคน ลองเปลี่ยนสัญญาณมือถือดูนะคะ เผื่อระบบอื่นจะไม่ล่ม
### แลกเงิน ###
ที่แคนาดารับบัตรเครดิตเกือบทุกแห่ง แม้แต่ซื้อขนมหนึ่งชิ้นในตลาดยังรับบัตรเลยค่ะ แต่เราแค่ 2 แห่งที่รับ cash only คือ ร้านอาหารจีนใน Toronto กับรถเมย์ที่ victoria ที่เหลือรับบัตรทั้งหมดค่ะ เวลาแลกเงินไปจากไทย ถ้าเป็นร้าน superrich จะไม่มีเงิน CAD สำรองไว้ที่ร้านต้องโทรจองก่อนเท่านั้น เคย walk-in ไปซื้อ ก็ไม่มีต้องเดินทางไปสำนักงานใหญ่จึงจะซื้อได้ เราแลกเงินสดติดตัวไว้เล็กน้อย ที่เหลือแลกผ่านบัตร SCB planet กับ Youtrip ค่ะ โดยทั่วไป youtrip จะเรทถูกกว่าเล็กน้อย แบบว่าน้อยมากๆๆ เราทยอยแลกไว้เป็นระยะ ได้เรทตั้งแต่ 25.00-26.90
เรื่องภาษีต้องรู้ แต่ละรัฐของแคนาดา มีการเก็บภาษีไม่เท่ากัน ราคาสินค้าและบริการที่แสดงให้เห็นยังไม่รวมภาษี ภาษี ยังแบ่งออกเป็น PST , GST , HST แบ่งยิบแบ่งย่อยอีกด้วย เพราะฉะนั้น ในแต่ละรัฐ ควรจะรู้ว่าต้องเสียภาษีรวมกี่เปอร์เซนไว้หน่อย เช่น
- Alberta ( Calgary ) = total 5% ( GST 5%)
- British Columbia ( Vancouver ) = total 12% ( GST 5% + PST 7% )
- Ontario ( Toronto , ottawa ) = total 13% ( HST 13%)
- Quebec ( Montreal ) = total 14.975 % ( GST 5% + QST 9.975% )
### แผนการเดินทาง ###
วีซ่าพร้อม ตั๋วพร้อม ที่พักพร้อม แลกเงินแล้ว เปิดซิมแล้ว พร้อมออกเดินทางแล้วค่ะ ....
D0 : Bangkok-Incheon-Vancouver
D1 : Vancouver : Stanley park
D2 : Victoria : Butchart garden
D3 : Vancouver : Capillano suspension bridge , Canada place , gastown , Granville islands market
D4 : Calgary : Minnewanka loop road
D5 : Banff : Lake Louise , Moraine lake , Emerald lake , natural bridge , Takkakaw falls
D6 : Banff : Columbia Icefield , Peyto lake
D7 : Banff : Banff gondola , Banff town
D8 : Toronto : CN tower , Nathan Philips Square , ROM , Harbourfront , Toronto islands
D9 : Toronto : Niagara Falls
D10 : Montreal : One day trip in montreal
D11 : Ottawa : One day trip in Ottawa
D12 : Toronto-Incheon-Bangkok(+1)
DAY 1 : stanley park
วันนี้เรามาถึงแวนคูเวอร์ตอนเกือบบ่ายโมง ผ่านตม.มาแบบงง ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เจอแต่ machine ทำไปตาม step ไม่เจอเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ใดๆ ไม่มีการ stamp ใน passport กระเป๋ามาอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับกระเป๋าก็เข้าเมืองกันค่ะ
การเข้าเมืองทำได้หลายวิธี แต่เราเลือกที่พักไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า เราจึงเลือกเข้าเมืองด้วย Translink คนละ 8.15 CAD ( วันเสาร์ อาทิตย์ และวันธรรมดาหลัง 18.30 จะคิดเป็น 1 Zone ทั้งหมด ) ผู้สูงอายุ 7.10 CAD เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า ก็เข้าที่พักกัน หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็พร้อมออกมาผจญภัยแล้วค่ะ วันนี้อากาศดี แดดดี การเดินทางก็เปิด google map เลยค่ะ ขึ้นรถบัส ก็ใช้บัตรเครดิตแตะได้เลยค่ะ คำนวณดีๆ ถ้าใช้หลายเที่ยวหน่อย ซื้อเป็น one day pass จะคุ้มกว่า
Stanley park
Stanley park สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางเมืองแวนคูเวอร์ เป็นสวนสาธารณะที่มีทางเดินริมน้ำที่ใหญ่ที่สุด ระยะทางประมาณ 9 ไมล์ ระดับความแข็งแรงแบบเรา จักรยานเท่านั้น เดินไม่ไหว 555 โดยทางจักรยานจะเป็นแบบ one-way เท่านั้น มีสองเลน เลนด้านนอกติดริมน้ำ สำหรับเดิน วิ่ง เลนด้านสำหรับจักรยาน บางช่วงจะเป็นช่วงที่ขี่จักรยานไม่ได้ ต้องจูงแทน ระยะทางสั้นๆ ระหว่างที่ขี่จักรยาน ถ้าเราขี่ขวางทางคนอื่น ก็จะมีคนกดกระดิ่ง แล้วบอก on your left , on your right น่ารักดีค่ะ ร้านจักรยานมีให้เลือกมากมาย ตอนแรกเล็งร้าน Jo-E cycle ไว้ แต่ไม่มีจักรยานในวันทีเราไป จึงเลือกร้านข้างๆแทน ราคาชม.ละ 7 CAD มีหมวกกันน๊อกให้ ร้านบอกว่าถ้าปั่นไม่หยุด จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม แต่ถ้าหยุดด้วยก็แล้วแต่คุณ วันที่เราไปเค้ามีเทศกาลดอกไม้ไฟ ร้านปิด 1 ทุ่ม ต้องรีบหน่อย ร้านจะขอบัตรเครดิตแล้วจดหมายเลขไว้ กลับมาค่อยจ่ายเงิน ว่าใช้ไปกี่ชม สรุปวันนั้นเราขี่ไป 2 ชม หมดไป 49.39 CAD สำหรับ 3 คน
Stanley park มีหลายส่วนเลยค่ะ ถ้ามีเวลาน่าจะเที่ยวได้มากกว่านี้ มีทั้ง aquarium lagoon เราได้แค่ปั่นจักรยานริมน้ำ ก็หมดเวลาแล้วค่ะ วิวสวย แต่แดดแรงมาก ถึงจะไม่ร้อนก็ตาม คาดว่าค่า UV น่าจะสูง ขี่ลอดสะพาน lions gate bridge วิวมุมนี้สวยค่ะ ต่อไปก็จะเป็นชายหาด third + second beach คนมาพักผ่อนชายหาดเยอะ จัดว่าหนาแน่นมาก เมื่อเทียบกับชายหาดเมืองไทย หลังจากนั้นก็ขี่มาคืนจักรยาน
ใกล้ๆร้านจักรยาน มีร้าน Kintaro Ramen อยู่ review ดี จานใหญ่มากกกก แบบทานไม่หมด บะหมี่เยอะ ถั่วงอกเยอะ หมูแบบไม่มัน แห้งมาก หมูแบบมันอร่อยดีค่ะ น้ำซุปเค็ม ถ้าเอาแบบอร่อย ร้านในกทม.อร่อยกว่าเยอะ แต่ถ้าเอาปริมาณ อาจจะสู้ไม่ได้
Day 2 : Butchart Garden
เช้านี้ต้องตื่นเช้า เพื่อไป butchart garden เนื่องจากเวลาในการเดินทางเที่ยวละ 4.30 ชม โดยนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Bridgeport station จะเห็นป้ายสำหรับรถบัสสาย 620 นั่งจนมาสุดสาย จะถึงท่าเรือ Tsawwassen ferry express ซื้อตั๋วเรือ ferry เพื่อข้ามไปยัง Swartz bay ค่าตั๋วใช้บัตรเครดิตได้ โดยเรือจะออกทุกชั่วโมง ออกตรงเวลา .00 น โดยต้องซื้อตั๋วก่อนเรือออก 10 นาทีนะคะ ไม่งั้นต้องรอรอบต่อไป นั่งเรืออีกประมาณ 1.30 ชม เมื่อมาถึงฝั่ง swartz bay เดินไปทางด้านขวาหาป้ายรถบัสสาย 81 Brentwood นั่งไปสุดสายลงป้าย butchart garden โดยรถบัสสาย 81 นี้ รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ไม่รับบัตรเครดิต 2.5 CAD/เที่ยว สามารถจ่าย 5 CAD สำหรับ day trip ได้เลยค่ะ ( ตอนอยู่บนเรือ เราซื้อขนมจากตู้กด เพื่อให้ได้เงินทอนมา สำหรับจ่ายค่ารถให้พอดีค่ะ ) ส่วนขากลับนั่งกลับเหมือนเดิมค่ะ รอที่ท่ารถได้เลย รวมเวลาไปกลับเกือบ 9 ชม
Butchart Garden
Butchart Garden เป็นสวนขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้กับ victoria ในเกาะ vancouver islands แบ่งออกเป็นหลายๆสวน เช่น sunken garden , rose garden , italian garden , japanese garden แต่ละสวนก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ช่วงที่ไปดอกไม้บานเยอะมาก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แต่คนก็เยอะมากตามไปด้วย มีร้านอาหาร ร้านไอศกรีมให้บริการ วันที่ไปอากาศดี ค่อยข้างร้อน ร่วมกับน่าจะมีอาการ jet lag เราใช้เวลาอยู่ในสวน 2 ชมแล้วกลับเลย บนเรือคือหลับเป็นตาย
ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามีเวลาไม่เยอะ ไม่จำเป็นต้องมา เพราะใช้เวลาเดินทางค่อยข้างนาน ไม่ค่อยคุ้ม แต่ถ้าจะไปเที่ยว victoria ต่อ อันนั้นน่าจะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้