ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราเที่ยวในช่วงโควิดและมีการล็อกดาวน์ เดือนมกราคม 2022 ที่ Ontario ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ปิดทั้งหมด และ Quebec ร้านอาหารก็ปิดเข้าได้แต่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ที่เรายืนยันที่จะไปต่อเพราะจองไว้เรียบร้อยหมดแล้ว
ส่วนตัวเราใช้รถสาธารณะทั้งหมดเลยค่ะ เพราะขับรถไม่เป็น เวลาไปสถานที่ต่างๆ ใช้ Google map ช่วยอย่างเดียวเลยค่ะ
🔆วันที่ 1 - Niagara
บินจากแวนคูเวอร์ รอบ 8 โมงเช้าไปถึงโทรอนโต Pearson airport ประมาณ บ่าย 4 ถึงสนามบินก็นั่งรถสาย 40 และต่อด้วยสาย 12 ลงสถานี ที่ Niagara Bus Falls Terminal
ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชมกว่าๆ ( เปิดกลูเกิ้ลแมพในการเดินทาง)
เมื่อถึง Niagara ก็เรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านเข้าไปยังโรงแรม Embassy suite ใช้เวลา 8 นาที ค่าแท็กซี่ $15 ( ถ้าไม่มีแท็กซี่ ใช้แอพ Uber/ Lyft ได้)
ถึงโรงแรมเกือบๆสองทุ่ม พักผ่อนและเดินไป Niagara viewpoint เผื่อถ่ายรูปไนแองการ่าตอนกลางคืนกับแสงไฟ สวยมากๆ
รีวิวโรงแรม :: Embassy suite by Hilton วิวดีมากกก เห็นทั้ง Horseshoes fall และ American fall มั่นใจมากว่าวิวห้องที่เราได้สวยที่สุดในโรงแรมและในทุกๆย่านแล้ว ชื่อห้อง Presidential suite มี2 ห้องนอน 2 เตียงใหญ่ ในห้องมีเครื่องนวดให้ด้วย
🔆วันที่ 2 Niagara- Toronto
ตอนเช้าตื่นขึ้นมาถ่ายรูปเล่นในห้องพัก สวยมากๆ และก็ไปถ่ายรูปที่ข้างน้ำตกอีกครั้ง (จากโรงแรมไปน้ำตกใช้เวลาในการเดิน 15นาที)
เช็คเอาท์ ตอนเที่ยงและไป Toronto วิธีกลับใช้แบบเดิมคือ เรียกอูเบอร์ไปส่งที่ Niagara Bus Falls Terminal และนั่งสาย 12 ไปลงสถานี Burlington Go เพื่อนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง
เนื่องจากเราทำบัตรเครดิตหาย ลืมไว้ที่โรงแรมเลยใช้เวลาครึ่งวันในการหา เลยเสียเวลาในการไปถึงโทรอนโต กว่าจะถึงก็ทุ่มนึงก็เช็คอิน และก็ทำได้แค่ไปเดินเที่ยวๆดูในตัวเมืองดาวน์ทาวน์ ตามห้าง Eaton ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุด และป้าย Toronto Sign ซึ่งมี Ice skating rink สวยงาม
ตอนนั้นร้านอาหารเปิดแบบ Outdoor dining คือ อากาศ -20 องศานะ😆 หนาวมาก ขอบาย (แต่ก็มีร้านเปิดที่มีไฟและที่กั้นลมให้แต่ก็หนาวอยู่ดี)
พักที่ The Clarence Park เป็น hostel ที่แชร์กับคนอื่นแบบนอนรวม ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่รู้สึกไม่ค่อยสะอาด
🔆 วันที่ 3 Toronto - Ottawa
วันนี้ตอนเช้าเดินเล่นสำรวจเมืองตรงฝั่ง CN Tower และทะเล หลังจากนั้นเราได้นั่งรถที่จองไว้ผ่าน app ที่ชื่อว่า “ Poparide “ ซึ่งเป็นแอพที่เราขอติดรถไปกับคนที่จะไปเมืองนั้นๆ ซึ่งถ้าหากเรามีรถ เราก็สามารถระบุได้ว่าเรามีที่นั่งเหลือกี่ที่ให้คนอื่นมาแชร์ทริปกับเรา
(แอพนี้ก็มีความปลอดภัยอยู่ตรงที่เป็นแอพที่ต้องใช้บัตรประจำตัวในการยืนยันตัวตนและเราจะเห็นรีวิวของคนขับก่อนได้ คุยกับคนขับก่อนจองได้ แต่ต้องจ่ายเงินผ่านแอพเท่านั้น
ข้อดีของแอพนี้คือ ประหยัดค่าเดินทางมากๆ และคนขับก็สามารถไปรับและส่งเราถึงสถานที่ปลายทางได้เลยทันที
ข้อเสียคือ ลุ้นเสี่ยงเอาว่าจะเจอคนแปลกๆไหม และก็ต้องแชร์ทริปกับผู้โดยสารคนอื่นๆด้วย)
หลังจากนั้นก็นั่งรถมาเรื่อยๆ ใช้เวลาจากโทรอนโตมา Ottawa ทั้งหมด 5 ชมเต็มๆ มีแวะปั้มเข้าห้องน้ำระหว่างทางบ้าง คนขับก็ใจดีแวะพาไปดูจุดชมวิว เมือง Kingston 10 นาทีด้วย
ออกเดินทางจาก Toronto เที่ยงครึ่ง ถึง Ottawa ประมาณ หกโมงครึ่ง เช็คอินเข้า
รีวิวที่พัก ::โรงแรม ByWard Blue Inn ครบครันมีอุปกรณ์เครื่องครัวให้ครบ วิวดี เดินทางง่าย เดินไป รถไฟฟ้า 7 นาทีถึง ประทับใจ
🔆 วันที่ 4 - Ottawa
วันนี้เช็คอินที่โรงแรมใหม่ ออกไปเดินเล่นแถวหน้ารัฐสภา Parliament Hill, Peace Tower ดูน้ำตกที่ Rideau Falls ถ่ายรูปหน้าโบสถ์ Notre-Dame Cathedral Basilica และเล่นไอซ์เกตตอนค่ำๆ ได้แค่ดู บรรยากาศ Outdoor เมืองนี้ก็สวยมากๆๆ เขาบอกว่าหน้าร้อน tulip festival สวยกว่านี้อีก
รีวิวที่พัก:: โรงแรม Fairmont Château Laurier แห่งนี้จัดเป็น National Historical Site of Canada แห่งหนึ่ง
ด้านในสวยมากๆ อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า เดิน1 นาทีถึง
🔆 วันที่ 5 Ottawa - Quebec
เดินเล่นแถวโรงแรมและเล่น ice skate ที่แม่น้ำ Rideau canel ซึ่งเป็นแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งและใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับจัดเป็น
World Heritage UNESCO เลยทีเดียว และเราโชคดีมากๆๆๆที่วันที่เราไป เป็นวันที่เขาเปิดแม่น้ำให้เล่นไอซ์สเกตได้พอดี ซึ่งจะต้องหนาวมากพอ และน้ำจะต้องหนากลายเป็นน้ำแข็งมากกว่า 30 CM เพื่อความปลอดภัยก่อนเล่นได้จริง
เราเช็คเอาท์และไปขึ้นรถไฟ เพื่อไป Quebec รอบบ่าย 2 และถึง Old Quebec ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 6 ชม โดยแวะจอดที่ Montréal ตอน 5โมง และรถไฟจอด 30 นาที ประมาณ2 ทุ่มครึ่ง เมื่อถึงควิเบกก็เรียกอูเบอร์เข้าโรงแรม
เข้าพักโรงแรม : Hotel Manoir Vieux-Quebec โรงแรมอยู่ใน Old Québec ใกล้โรงแรม Fairmont Le Château Frontenac มากๆ ซึ่งเป็นโรงแรมลักษณะปราสาทและสวยที่สุดในเมือง และด้านล่างของโรงแรมมี Tourism center ด้วย
🔆วันที่ 6 Quebec
วันนี้ไป โรงแรมน้ำแข็งหรือ Hotel de Glacé (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม Hôtel Valcartier) ด้านในจะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด เปิดให้คนภายนอกเข้าดูรายวัน $24.99 เข้าออกได้ตลอดทั้งวัน ในนั้นก็จะมี ice bar ที่เราจะสั่งคอกเทลทานได้ และมีโซนห้องพักจริงๆ ซึ่งจะนอนพักจริงๆก็ได้แต่ก็จะหนาวมาก ตกคืนละ $300-400 ถ้าหากพักที่นี่ ก็จะได้ห้องพักที่ โรงแรม Valcartier ไปด้วย เพราะในโรงแรมน้ำแข็ง ไม่มีห้องอาบน้ำ มีแต่ห้องน้ำประกอบใช้สาธารณะเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Tubing สปา, ร้านอาหารที่นี่ด้วย
การเดินทาง:: เรียกอูเบอร์ ไปกลับ $100 แต่ถ้าไม่ติดโควิดก็จะมีทัวร์ รวมรถไปกลับ $35 (มีสองรอบต่อวัน) ใช้เวลา40-45นาที
กลับมาตอนเย็นก็ไปเดินต่อที่ Quartier Petit Champlain ซึ่งเป็นจุดไฮท์ไลท์หนึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดที่แค่เดินเล่นก็สวยมากๆ มีความเป็น Christmas ตลอดเวลา
มีร้านค้าต่างๆมากมาย ตึกอาคารมีความยุโรปสูงมาก
ถ้าใครว่างก็นั่งเรือข้ามฝากไปได้ค่ะ แต่พอดีเราไม่มีเวลาเลยได้แค่ดูพระอาทิตย์ตกดินฝั่งนี้ เพราะถ้าข้ามฝากไป ก็จะเห็นฝั่งโรงแรมสวยมากๆ
วันที่7 Quebec
วันนี้มาเช็คอินโรงแรมในฝันของเราที่ Fairmont Le Château Frontenac โรงแรมแห่งนี้จัดเป็น National Historical Site of Canada เป็นจุดที่เคยมีหนังเกาหลีมาถ่ายทำ จำไม่ได้เรื่องอะไรค่ะ ในโรงแรมก็สวยมากๆ วิวจากห้องพักเห็นยอดปราสาท
และเมื่อเช็คอินที่นี่ เราก็จะได้บัตรเล่น Toboggan slide au 1884 มาเล่นฟรี2 ใบพร้อมกับโกโก้ร้อน 2 แก้วค่ะ
วันนี้ไปเดินพิพิธภัณฑ์ Museum of Civilization ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่อันดับสองในแคนาดา ใช้ระยะเวลา 3-4 ชม ในการเดิน
รีวิวที่พัก :: โรงแรมนี้ เมนู Spaghetti Cabonara อร่อยมากๆๆๆค่ะ อาหารเช้าก็อร่อยค่ะ
วันที่ 8 Québec - Montreal
เช็คเอาท์จากโรงแรม 11 โมง เรียกอูเบอร์ไปสถานีรถไฟ และนั่งรถไฟไป Montréal 3 ชม ถึงมอลทีออลประมาณ4โมง หิมะตกหนักมากๆ หนาวๆ เลยไม่ได้ออกไปไหนค่ะ
พักโรงแรม : Samesun ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพราะไฟดับสามรอบ และหลายชมค่ะ
🔆วันที่ 9 Montréal
วันนี้อากาศแจ่มใส ไปเดินเล่นที่มหาลัยชื่อดัง
ชื่อ McGill University และเข้าพิพิธภัณฑ์ McCord Museum Musée McCord หลังจากนั้นก็ไปดูวิวที่ Mount Royal Observatory
🔆วันที่ 10 Montréal
วันสุดท้ายก่อนกลับ ไปเที่ยว Old Montréal ซึ่งเป็นจุดที่มีอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่มีความเป็นยุโรปสูงมาก สวยมากๆ และก็เข้าพิพิธภัณฑ์ Pointe-a-Calliere Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เล่าถึงประวัติความเป็นมาของเมืองนี้
หลังจากนั้นก็เดินเล่นที่ Old port Montreal และขึ้นเครื่องกลับ Vancouver
++++++++++++++++
แหล่งที่เที่ยวตามเมืองต่างๆ
Toronto
- Tour Casa Loma (Fri-Sat)
- CN tower - daily
- Ripley's Aquarium of Canada
- Visit the Royal Ontario Museum ไดโนเสาร์ (ROM) (Wed-Sun)
- Art gallery
- Ontario Science Centre (Daily exp- Tue)
Ottawa
- Parliament Hill
- Peace Tower
- National Gallery of Canada
- Library of Parliament
- Diefenbunker, Canada's Cold War Museum
- Notre-Dame Cathedral Basilica
- Canada Aviation and Space Museum 9-5 pm
- Byward Market
Montreal
- McGill University
- Old Montreal Vieux-Montréal
- Mont Royal
- The Montreal Museum of Fine Arts Musée des beaux-arts de Montréal
- Pointe-à-Callière
- Château Dufresne ปราสาท
- Old Montreal Vieux-Montréal
- La Grande Roue de Montréal ชิงช้า
- Notre-Dame Basilica of Montreal Basilique Notre-Dame de Montréal โบสถ์
- Notre-Dame-de-Bon-Secours
Quebec
- Quartier Petit Champlain
- Museum of Civilization Musée de la civilisation
- Place Royale
- Notre-Dame de Québec Basilica-
- City Hall of Quebec City Hôtel de Ville de Québec
- Place D'Youville
- Montmorency Falls La Chute
ยังไงช่วยโหวตเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ไว้รอบหน้าจะมารีวิวการมาเที่ยวเจาะลึกๆในแต่ละเมืองให้ฟังค่ะ ขอบพระคุณค่า☺️
รีวิวทริปเที่ยวคนเดียว 10 คืน 10 วัน 5 เมืองในแคนาดา🇨🇦 แบบไม่มีรถ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าทริปนี้เป็นทริปที่เราเที่ยวในช่วงโควิดและมีการล็อกดาวน์ เดือนมกราคม 2022 ที่ Ontario ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ปิดทั้งหมด และ Quebec ร้านอาหารก็ปิดเข้าได้แต่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ที่เรายืนยันที่จะไปต่อเพราะจองไว้เรียบร้อยหมดแล้ว
ส่วนตัวเราใช้รถสาธารณะทั้งหมดเลยค่ะ เพราะขับรถไม่เป็น เวลาไปสถานที่ต่างๆ ใช้ Google map ช่วยอย่างเดียวเลยค่ะ
🔆วันที่ 1 - Niagara
บินจากแวนคูเวอร์ รอบ 8 โมงเช้าไปถึงโทรอนโต Pearson airport ประมาณ บ่าย 4 ถึงสนามบินก็นั่งรถสาย 40 และต่อด้วยสาย 12 ลงสถานี ที่ Niagara Bus Falls Terminal
ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชมกว่าๆ ( เปิดกลูเกิ้ลแมพในการเดินทาง)
เมื่อถึง Niagara ก็เรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านเข้าไปยังโรงแรม Embassy suite ใช้เวลา 8 นาที ค่าแท็กซี่ $15 ( ถ้าไม่มีแท็กซี่ ใช้แอพ Uber/ Lyft ได้)
ถึงโรงแรมเกือบๆสองทุ่ม พักผ่อนและเดินไป Niagara viewpoint เผื่อถ่ายรูปไนแองการ่าตอนกลางคืนกับแสงไฟ สวยมากๆ
รีวิวโรงแรม :: Embassy suite by Hilton วิวดีมากกก เห็นทั้ง Horseshoes fall และ American fall มั่นใจมากว่าวิวห้องที่เราได้สวยที่สุดในโรงแรมและในทุกๆย่านแล้ว ชื่อห้อง Presidential suite มี2 ห้องนอน 2 เตียงใหญ่ ในห้องมีเครื่องนวดให้ด้วย
🔆วันที่ 2 Niagara- Toronto
ตอนเช้าตื่นขึ้นมาถ่ายรูปเล่นในห้องพัก สวยมากๆ และก็ไปถ่ายรูปที่ข้างน้ำตกอีกครั้ง (จากโรงแรมไปน้ำตกใช้เวลาในการเดิน 15นาที)
เช็คเอาท์ ตอนเที่ยงและไป Toronto วิธีกลับใช้แบบเดิมคือ เรียกอูเบอร์ไปส่งที่ Niagara Bus Falls Terminal และนั่งสาย 12 ไปลงสถานี Burlington Go เพื่อนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง
เนื่องจากเราทำบัตรเครดิตหาย ลืมไว้ที่โรงแรมเลยใช้เวลาครึ่งวันในการหา เลยเสียเวลาในการไปถึงโทรอนโต กว่าจะถึงก็ทุ่มนึงก็เช็คอิน และก็ทำได้แค่ไปเดินเที่ยวๆดูในตัวเมืองดาวน์ทาวน์ ตามห้าง Eaton ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุด และป้าย Toronto Sign ซึ่งมี Ice skating rink สวยงาม
ตอนนั้นร้านอาหารเปิดแบบ Outdoor dining คือ อากาศ -20 องศานะ😆 หนาวมาก ขอบาย (แต่ก็มีร้านเปิดที่มีไฟและที่กั้นลมให้แต่ก็หนาวอยู่ดี)
พักที่ The Clarence Park เป็น hostel ที่แชร์กับคนอื่นแบบนอนรวม ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่รู้สึกไม่ค่อยสะอาด
🔆 วันที่ 3 Toronto - Ottawa
วันนี้ตอนเช้าเดินเล่นสำรวจเมืองตรงฝั่ง CN Tower และทะเล หลังจากนั้นเราได้นั่งรถที่จองไว้ผ่าน app ที่ชื่อว่า “ Poparide “ ซึ่งเป็นแอพที่เราขอติดรถไปกับคนที่จะไปเมืองนั้นๆ ซึ่งถ้าหากเรามีรถ เราก็สามารถระบุได้ว่าเรามีที่นั่งเหลือกี่ที่ให้คนอื่นมาแชร์ทริปกับเรา
(แอพนี้ก็มีความปลอดภัยอยู่ตรงที่เป็นแอพที่ต้องใช้บัตรประจำตัวในการยืนยันตัวตนและเราจะเห็นรีวิวของคนขับก่อนได้ คุยกับคนขับก่อนจองได้ แต่ต้องจ่ายเงินผ่านแอพเท่านั้น
ข้อดีของแอพนี้คือ ประหยัดค่าเดินทางมากๆ และคนขับก็สามารถไปรับและส่งเราถึงสถานที่ปลายทางได้เลยทันที
ข้อเสียคือ ลุ้นเสี่ยงเอาว่าจะเจอคนแปลกๆไหม และก็ต้องแชร์ทริปกับผู้โดยสารคนอื่นๆด้วย)
หลังจากนั้นก็นั่งรถมาเรื่อยๆ ใช้เวลาจากโทรอนโตมา Ottawa ทั้งหมด 5 ชมเต็มๆ มีแวะปั้มเข้าห้องน้ำระหว่างทางบ้าง คนขับก็ใจดีแวะพาไปดูจุดชมวิว เมือง Kingston 10 นาทีด้วย
ออกเดินทางจาก Toronto เที่ยงครึ่ง ถึง Ottawa ประมาณ หกโมงครึ่ง เช็คอินเข้า
รีวิวที่พัก ::โรงแรม ByWard Blue Inn ครบครันมีอุปกรณ์เครื่องครัวให้ครบ วิวดี เดินทางง่าย เดินไป รถไฟฟ้า 7 นาทีถึง ประทับใจ
🔆 วันที่ 4 - Ottawa
วันนี้เช็คอินที่โรงแรมใหม่ ออกไปเดินเล่นแถวหน้ารัฐสภา Parliament Hill, Peace Tower ดูน้ำตกที่ Rideau Falls ถ่ายรูปหน้าโบสถ์ Notre-Dame Cathedral Basilica และเล่นไอซ์เกตตอนค่ำๆ ได้แค่ดู บรรยากาศ Outdoor เมืองนี้ก็สวยมากๆๆ เขาบอกว่าหน้าร้อน tulip festival สวยกว่านี้อีก
รีวิวที่พัก:: โรงแรม Fairmont Château Laurier แห่งนี้จัดเป็น National Historical Site of Canada แห่งหนึ่ง
ด้านในสวยมากๆ อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า เดิน1 นาทีถึง
🔆 วันที่ 5 Ottawa - Quebec
เดินเล่นแถวโรงแรมและเล่น ice skate ที่แม่น้ำ Rideau canel ซึ่งเป็นแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งและใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับจัดเป็น
World Heritage UNESCO เลยทีเดียว และเราโชคดีมากๆๆๆที่วันที่เราไป เป็นวันที่เขาเปิดแม่น้ำให้เล่นไอซ์สเกตได้พอดี ซึ่งจะต้องหนาวมากพอ และน้ำจะต้องหนากลายเป็นน้ำแข็งมากกว่า 30 CM เพื่อความปลอดภัยก่อนเล่นได้จริง
เราเช็คเอาท์และไปขึ้นรถไฟ เพื่อไป Quebec รอบบ่าย 2 และถึง Old Quebec ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 6 ชม โดยแวะจอดที่ Montréal ตอน 5โมง และรถไฟจอด 30 นาที ประมาณ2 ทุ่มครึ่ง เมื่อถึงควิเบกก็เรียกอูเบอร์เข้าโรงแรม
เข้าพักโรงแรม : Hotel Manoir Vieux-Quebec โรงแรมอยู่ใน Old Québec ใกล้โรงแรม Fairmont Le Château Frontenac มากๆ ซึ่งเป็นโรงแรมลักษณะปราสาทและสวยที่สุดในเมือง และด้านล่างของโรงแรมมี Tourism center ด้วย
🔆วันที่ 6 Quebec
วันนี้ไป โรงแรมน้ำแข็งหรือ Hotel de Glacé (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม Hôtel Valcartier) ด้านในจะเป็นน้ำแข็งทั้งหมด เปิดให้คนภายนอกเข้าดูรายวัน $24.99 เข้าออกได้ตลอดทั้งวัน ในนั้นก็จะมี ice bar ที่เราจะสั่งคอกเทลทานได้ และมีโซนห้องพักจริงๆ ซึ่งจะนอนพักจริงๆก็ได้แต่ก็จะหนาวมาก ตกคืนละ $300-400 ถ้าหากพักที่นี่ ก็จะได้ห้องพักที่ โรงแรม Valcartier ไปด้วย เพราะในโรงแรมน้ำแข็ง ไม่มีห้องอาบน้ำ มีแต่ห้องน้ำประกอบใช้สาธารณะเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Tubing สปา, ร้านอาหารที่นี่ด้วย
การเดินทาง:: เรียกอูเบอร์ ไปกลับ $100 แต่ถ้าไม่ติดโควิดก็จะมีทัวร์ รวมรถไปกลับ $35 (มีสองรอบต่อวัน) ใช้เวลา40-45นาที
กลับมาตอนเย็นก็ไปเดินต่อที่ Quartier Petit Champlain ซึ่งเป็นจุดไฮท์ไลท์หนึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดที่แค่เดินเล่นก็สวยมากๆ มีความเป็น Christmas ตลอดเวลา
มีร้านค้าต่างๆมากมาย ตึกอาคารมีความยุโรปสูงมาก
ถ้าใครว่างก็นั่งเรือข้ามฝากไปได้ค่ะ แต่พอดีเราไม่มีเวลาเลยได้แค่ดูพระอาทิตย์ตกดินฝั่งนี้ เพราะถ้าข้ามฝากไป ก็จะเห็นฝั่งโรงแรมสวยมากๆ
วันที่7 Quebec
วันนี้มาเช็คอินโรงแรมในฝันของเราที่ Fairmont Le Château Frontenac โรงแรมแห่งนี้จัดเป็น National Historical Site of Canada เป็นจุดที่เคยมีหนังเกาหลีมาถ่ายทำ จำไม่ได้เรื่องอะไรค่ะ ในโรงแรมก็สวยมากๆ วิวจากห้องพักเห็นยอดปราสาท
และเมื่อเช็คอินที่นี่ เราก็จะได้บัตรเล่น Toboggan slide au 1884 มาเล่นฟรี2 ใบพร้อมกับโกโก้ร้อน 2 แก้วค่ะ
วันนี้ไปเดินพิพิธภัณฑ์ Museum of Civilization ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่อันดับสองในแคนาดา ใช้ระยะเวลา 3-4 ชม ในการเดิน
รีวิวที่พัก :: โรงแรมนี้ เมนู Spaghetti Cabonara อร่อยมากๆๆๆค่ะ อาหารเช้าก็อร่อยค่ะ
วันที่ 8 Québec - Montreal
เช็คเอาท์จากโรงแรม 11 โมง เรียกอูเบอร์ไปสถานีรถไฟ และนั่งรถไฟไป Montréal 3 ชม ถึงมอลทีออลประมาณ4โมง หิมะตกหนักมากๆ หนาวๆ เลยไม่ได้ออกไปไหนค่ะ
พักโรงแรม : Samesun ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพราะไฟดับสามรอบ และหลายชมค่ะ
🔆วันที่ 9 Montréal
วันนี้อากาศแจ่มใส ไปเดินเล่นที่มหาลัยชื่อดัง
ชื่อ McGill University และเข้าพิพิธภัณฑ์ McCord Museum Musée McCord หลังจากนั้นก็ไปดูวิวที่ Mount Royal Observatory
🔆วันที่ 10 Montréal
วันสุดท้ายก่อนกลับ ไปเที่ยว Old Montréal ซึ่งเป็นจุดที่มีอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่มีความเป็นยุโรปสูงมาก สวยมากๆ และก็เข้าพิพิธภัณฑ์ Pointe-a-Calliere Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เล่าถึงประวัติความเป็นมาของเมืองนี้
หลังจากนั้นก็เดินเล่นที่ Old port Montreal และขึ้นเครื่องกลับ Vancouver
++++++++++++++++
แหล่งที่เที่ยวตามเมืองต่างๆ
Toronto
- Tour Casa Loma (Fri-Sat)
- CN tower - daily
- Ripley's Aquarium of Canada
- Visit the Royal Ontario Museum ไดโนเสาร์ (ROM) (Wed-Sun)
- Art gallery
- Ontario Science Centre (Daily exp- Tue)
Ottawa
- Parliament Hill
- Peace Tower
- National Gallery of Canada
- Library of Parliament
- Diefenbunker, Canada's Cold War Museum
- Notre-Dame Cathedral Basilica
- Canada Aviation and Space Museum 9-5 pm
- Byward Market
Montreal
- McGill University
- Old Montreal Vieux-Montréal
- Mont Royal
- The Montreal Museum of Fine Arts Musée des beaux-arts de Montréal
- Pointe-à-Callière
- Château Dufresne ปราสาท
- Old Montreal Vieux-Montréal
- La Grande Roue de Montréal ชิงช้า
- Notre-Dame Basilica of Montreal Basilique Notre-Dame de Montréal โบสถ์
- Notre-Dame-de-Bon-Secours
Quebec
- Quartier Petit Champlain
- Museum of Civilization Musée de la civilisation
- Place Royale
- Notre-Dame de Québec Basilica-
- City Hall of Quebec City Hôtel de Ville de Québec
- Place D'Youville
- Montmorency Falls La Chute
ยังไงช่วยโหวตเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ไว้รอบหน้าจะมารีวิวการมาเที่ยวเจาะลึกๆในแต่ละเมืองให้ฟังค่ะ ขอบพระคุณค่า☺️