อายุ 18 มีอาการชาแขนซ้าย

อายุ 18 ค่ะ มีอาการชาแขนซ้ายครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เริ่มจากชาที่ปลายนิ้วและค่อยๆชามาที่แขนเป็นอยู่ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นผ่านไป 3 วันก็เป็นอีกครั้ง เลยไปหาหมอที่รพ.รัฐ หมอถามอาการ บอกว่าอายุยังน้อยและไม่มีอาการอ่อนแรงไม่มีความเสี่ยงจะเป็น stroke และให้วิตามินบีรวมกับยา gabapentin 300 mg มาค่ะ ระหว่างนั้นก็ไม่ชาอีก แต่พอผ่านไปสัก 2 อาทิตย์ ก็เริ่มมีอาการชาอีกหลายครั้งค่ะ แต่จะชาแค่ไม่เกิน 5 นาทีก็หาย ช่วงนั้นเครียดเรื่องเรียนต่อกับหลายๆเรื่องมากค่ะ มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่เต็มปอด เลยไปหาหมอที่คลินิค หมอฟังเสียงหัวใจกับปอด บอกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ แต่ไม่มีอาการปอดรั่ว บอกว่าเป็นแพนิคกับซึมเศร้า ทำให้อาจจะมีอาการชาด้วย ก็ให้ยา Flulium 5 (Clorazepate Diapotassium) กับวิตามิน B 12 มาค่ะ ระหว่างกินยาก็เริ่มดีขึ้น แต่พอยาหมดเริ่มมีอาการหายใจไม่เต็มปอดอีก เป็นอยู่เกือบเดือน เมื่อเดือนที่แล้วอยู่ๆมีอาการมึนหัว จากนั้นเริ่มมีอาการปวดหัวข้างเดียวคือข้างซ้าย เป็นอยู่ 2 วันก็หาย ก็พยายามไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ จนตอนนี้อาการแพนิคดีขึ้นมากเกือบหายแล้วค่ะ แต่ยังมีอาการชาบ้าง และปวดหัวนิดหน่อยบางครั้ง แต่แทบไม่มีอาการปวดหัวแล้ว อาการชาคือเริ่มเป็นที่ปลายนิ้ว และค่อยๆเป็นที่มือ แขน หน้า ศีรษะ และลำตัวซีกซ้ายค่ะ แต่ที่ขาไม่เป็นนะคะ ระหว่างที่ชาขึ้นมาที่แขน ตรงที่ชาที่นิ้วจะหาย ชาแบบรู้สึกแขนหนักๆ แต่ไม่มีอาการอ่อนแรง เป็นไม่เกิน 5 นาทีก็หายปกติ ลองสังเกตเวลาที่เป็นก็ไม่ได้นอนทับแขนนะคะ อยู่ๆก็เป็น แต่ตอนนี้จะเป็นประมาณอาทิตย์ละครั้งค่ะ อยากไปตรวจที่รพ.ให้ละเอียดอีกครั้ง แต่ต้องไปตรวจตรงแผนกไหนเหรอคะ เพราะเวลาไปรพ.รัฐ กับคลินิคหมอแค่ถามอาการเบื้องต้นเฉยๆ ส่วนเอกชนเงินไม่พอค่ะ555 กลัวจะเป็นเนื้องอกในสมอง หรือจะเป็นเพราะเครียดคะ เพราะหลังจากที่พยายามไม่เครียดก็เริ่มดีขึ้น แต่ยังมีอาการชาบ้างบางครั้ง ปัจจุบันไม่ได้กินยาแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่