เรื่องจริงยิ่งกว่าละคร

สวัสดีค่ะเพื่อนๆในพันทิป เรามีเรามีเรื่องมาแชร์และขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ 
เรื่องมีอยู่ว่า น้องเราคบกับแฟนคนนึง ซึ่งทำงานในที่เดียวกัน
ก่อนอื่นขอแทนน้องว่า A ส่วนแฟนน้องขอแทนว่า B

หลังจากAคบกับBได้ประมาณสองเดือน แฟนของ A ได้ขับรถมาที่บ้านแล้วซื้อของมาฝากไว้ที่บ้าน
โดยบอกว่าจะมาเซอร์ไพรซ์ A ที่บ้าน เย็นนี้เจอกันนะคะ
(เราก็เลยงงว่าคนนี้คือใครมาได้ยังไงทำไมกล้าจังเลย) ก็น่าแปลกใจอยู่
คบกันไม่ทันไรทำไมถึงกล้ามาที่บ้าน ซื้อของซื้อเค้กมาเซอร์ไพรซ์ทั้งที่คบกันไม่ถึงปี

ช่วงแรกๆ B จะเข้ามาบ้านบ่อยๆ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ซึ่งการเข้ามาคือการทำกับข้าวให้พ่อของแม่เรากินบ่อยๆ
แต่การเข้ามาแบบนี้ทำให้ตงิดใจนิดหน่อยคือเป็นการทำเพื่อเอาใจอะไรหรือเปล่ามีจุดประสงค์อะไร 
B จะทำแบบนี้เกือบทุกอาทิตย์แล้วหลังจากทำกับข้าวให้กิน อาทิตย์ถัดมาก็จะมีการขอยืมรถยนต์แม่ของ A ไปต่างจังหวัด
เราเห็นว่า B ทำแบบนี้บ่อยๆเราเลยลองบอกพ่อกับแม่ว่า มาทำกับข้าวให้กินแบบนี้เพื่อหวังอะไรหรือเปล่านานๆไปจะทำแบบนี้เร้อ

คบกันมาเกือบ1ปีมั้ง
จนวันนึงเราได้ไปเห็นข้อความที่ B คุยกับน้องอีกคนของเรา(วัยมัธยม)ว่าจะขอยืมรถไปฉีดวัคซีนแต่จริงๆแล้วคือจะเอารถไปเที่ยว
ยิ่งเราเห็นข้อความแบบนี้เรายิ่งไม่ชอบเลย เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ตั้งแต่แรก
อยากไปเที่ยวแต่ใช้คำพูดหลอกเพื่อเอารถของแม่ไปใช้ แต่พอกลับมาทุกครั้งไม่มีการเติมน้ำมันกลับมาเลย
ตัว AกับB เองต่างคนก็ต่างไม่มีรถยนต์แต่ B เหมือนเป็นคนที่ชอบเที่ยวเค้าจะสรรหาคำพูดให้แม่เราใจอ่อน
คือ B เป็นคนพูดเก่งและพูดเป็น
คือ เราเคยถามว่าเราเคยถาม B ว่าจะไปเที่ยวยังไงกันหรอ? : B ตอบว่าตอบว่าจะนั่งรถทัวร์ไปเองเกรงใจแม่  
เหมือนจะพูดให้ดูดีเหมือนมีความเกรงใจแต่พอวันไปจริงๆดันเอารถยนต์แม่ไป (มันน่าหมั่นไส้ไหมค่ะทุกคน)

และหลังๆมาจะเริ่มมาที่บ้านทุกอาทิตย์ และมีการจะซื้อของชิ้นหนึ่งมาติดไว้ที่ห้องของน้องเรา 
เรายิ่งแปลกใจไปใหญ่ว่าทำไมถึงลงทุนซื้อให้ขนาดนี้ และมีความคิดอยู่ว่าถ้าซื้อให้ขนาดนี้อีกไม่นานต้องเข้ามาอยู่แน่ๆ
และก็เป็นไปอย่างที่เราคิด 
ด้วยความที่ B จะมาที่บ้านเรา ในวันเสาร์-อาทิตย์บ่อยๆ ซึ่งวันนั้นมันดึกนางBเลยเป็นคนมาพูดกับแม่เราเองว่าขอนอนได้ไหม
ด้วยความเป็นแม่เลยไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยให้นอนไป (ส่วนเราเองก็ยังงงน่ะ คบกันไม่ถึงปีมาขอนอนบ้านแล้วหรอ ทำไมกล้าขนาดนี้)
ต้องบอกก่อนว่าห้องนอนมันแยกโซนกันเพราะห้องของAจะอยู่หลังบ้าน

มีอีกเหตุการณ์หนึ่งคือทางมหาวิทยาลัยจะมีการสัมภาษณ์การเข้าศึกษาวิชาชีพ AB เลยยืมรถพ่อเราเพื่อขับไป ตจว
แต่เราจับสังเกตได้ว่านัดสัมภาษณ์เข้า แต่ทำไมไม่ออกตั้งแต่เช้า มาออกไปช่วงสายจะทันได้ยังไง
เราเลยได้ทำการเสิชดูว่าทางมหาวิทยาลัยมีการสัมภาษณ์จริงหรือเปล่า
จนได้ข้อมูลมาว่าทางมหาวิทยาลัยจะทำการสัมภาษณ์ทางออนไลน์เท่านั้น
และยิ่งงงกว่านั้นคือการที่จะเข้าไปดูรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์มันจะต้องผ่านหน้ากระดาษที่บอกวันเวลาและสถานที่การสัมภาษณ์
มันเป็นไปได้หรอที่จะไม่รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะมีการสัมภาษณ์แบบไหน เลยเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการหาเรื่องเอารถไปเที่ยวอีกแล้วหรอ
*ย้ำนะคะว่าการเอารถของพ่อกับแม่ไปใช้จะไม่มีการเติมน้ำมันกลับมาให้เลย

มันมีหลายเหตุการณ์มากๆ ที่มันไม่เมคเซ้นท์เล่าไม่หมดจริงๆ
อีกเหตุการณ์นึงล่ะกันค่ะ B บอกว่าสัตว์เลี้ยงของB ตกจากที่สูงเลยจะพาไปหาหมอที่ ตจว 
จะขอยืมรถยนต์แม่เราไปซึ่ง Aน้องเราเป็นคนขอนี่แหละ มันไม่เมคเซ้นท์คือในตัวจังหวัดที่ตัวเองอยู่เนี่ย
มีคลินิคสัตวแพทย์หลายร้านเลย ทำไมไม่พาไป แล้วกว่าจะพาไปคลินิคที่ ตจว อ่ะ มันตั้งหลายชั่วโมง
เหมือนจะอ้างเพื่อจะเอารถไปเที่ยวมากกว่า แต่สุดท้ายเลยถามเค้าเลยบอกว่าเพื่อนเค้าพาไป แต่คงภายในจังหวัดนี่แหละ
เพราะ A ก็กลับมานอนที่บ้านปกติ  และวันถัดมานาง B ก็มานอนที่บ้านนี้ ทั้งที่บอกว่าสัตว์เลี้ยงตกจากที่สูงแต่ไม่คิดจะอยู่ดูอาการมันหน่อยหรอ
ไม่เป็นห่วงมันหรอ แต่ดันมานอนค้างที่บ้านนี่ นี่แหละว่าทำไมมันมีจุดให้เอ๊ะ! หลายๆอย่างๆ

หลังจากนั้นก็จะมีการทำแบบนี้บ่อยครั้งทั้งการยืมรถและการมานอนที่บ้านแต่เหมือนช่วงหลังหลังพ่อแม่เรารู้ทัน
เลยจะบอกว่าพ่อแม่มีธุระที่จะต้องใช้รถให้ยืมไม่ได้ (แต่ครั้งไหนเห็นว่าจะใช้ ใช้เพื่อไปธุระจริงๆก็จะให้ยืม)

***ลักษณะของ B ที่เราสัมผัสได้คือ B จะชอบบ่นถึงเพื่อนร่วมงาน ว่าตัวเองทำดีทุกอย่างแต่ทำไมถึงถูกบ่น และเพื่อนร่วมงานบางกลุ่มไม่ชอบBเลย
อันนี้เราคิดว่าเป็นแค่เราคนเดียวที่รู้สึกกับ B แบบนั้น ด้วยความที่นางเป็นคนพูดเป็น เอาใจเป็น และเป็นคนชอบพูดแขวะ อยู่ๆก็ยิ้มเยาะอันนี้เรางงมากทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่คนเรามันดูออกว่าอันไหนจริงอันไหนเสแสร้ง 
นางค่อนข้างเป็นคนปากดี ด่าเก่งสู้คน แต่พอเวลาอยู่ A กับพ่อแม่เรา จะทำตัวน่าสงสารมากๆ เพราะเวลาBมีปัญหากับA 
B จะขับรถมอไซค์มาที่บ้านเลย ดึกสามทุ่มสี่ทุ่มก็มา (ไม่มีความเกรงใจเลยว่ามันคือเวลาพักผ่อน) และจะมานั่งร้องห่มร้องไห้กับแม่เรา
เราก็ได้แต่ยืนฟังและจับสังเกตว่า เป็นการร้องไห้เพื่อให้แม่เห็นใจแค่นั้นอยากให้แม่เราช่วย
ร้องไปสักพักหัวเราะได้ปกติ เป็นงง เธอเสียใจอยู่จริงๆหรอ
*** เค้าจะคิดว่าเค้าดีทุกอย่าง เก่งทุกอย่าง ใครบอกอะไรก็จะสวนกลับมาว่าอ๋อ รู้แล้วค่ะ 
***เวลาทะเลาะกับ A นางมักจะพูดว่านางทำดีให้ทุกอย่าง พอถามกลับเรื่องอะไร นางก็ตอบแค่ว่า ทุกอย่าง

ที่จับสังเกตได้คือต่อหน้าแม่เราเค้าร้องไห้ดูน่าสงสารน่ะ
แต่มีอยู่วันนึงAB ทะเลาะกัน และวันนั้น A กลับบ้านมาแต่วันเราก็สงสัยแหละปกติไม่กลับบ้านเร็ว ซึ่งวันนั้นเราอยู่สวนข้างๆบ้าน
นาง B ก็จอดรถไว้หน้าบ้าน พอดูว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลยขับรถไปจอดข้างใน  สักพักเริ่มมืดเราเลยเข้าบ้านและได้ยืนเสียงทะเลาะกันดังมากขึ้นกูใส่A
ตรงจุดนี้แหละค่ะ ทำไมนางBถึงกล้ามาด่าและเสียงดังในบ้านเราขนาดนี้ ไม่มีสำนึกและไม่มีความเกรงใจเลย เรามองว่าไม่สมควรมากๆที่ทำแบบนี้
นิสัยแย่มากๆ และทำแบบนี้อยู่ 3 ครั้ง  จนครั้งที่3แม่เราก็อยู่บ้านก็ยังกล้าทะเลาะเสียงดังอีก 
**ส่วนแม่เราได้ยินน่ะ แต่บอกว่าปล่อยให้เค้าแสดงออกมาให้หมด** 
ผ่านมาหลายเดือนที่เราเคยพูดว่าที่นางมาทำกับข้าวนางจะทำตลอดไปหรอ ไม่ใช่ทำเพื่อเอาใจเฉยๆหรอและมันจริงอย่างที่เราคิดค่ะหลังๆมาไม่ทำ
วันนั้นนางซื้อของมากินกัน2คน ทั้งที่แม่อยู่ตรงนั้นก็ไม่ชวนค่ะ แต่บางครั้งก็ชวนบ้างไม่ชวนบ้าง แต่การทำอาหารแบบแรกๆที่เข้ามาไม่มีเลยจ่ะ

และผ่านมาหลายๆเหตุการณ์ นางBก็บอกว่าจะลาออกจากงาน ปากพูดไว้ดูดีมากค่ะว่าจะไปต่างประเทศ จะไปทำพาสปอร์ตต่างๆนาๆ
และจะยืมรถแม่เราไปทำใบขับขี่ที่ ตจว อีก ทั้งที่ทำภายในจังหวัดที่ตัวเองอยู่ก็ได้เพราะเราก็ทำค่ะ (เห็นไหมค่ะ เหมือนจะเอารถเพื่อไปเที่ยวด้วย)
สุดท้ายได้ลาออกจริงๆค่ะ แล้วBจะไปนอนไหนล่ะสรุปมานอนที่บ้านเราเฉยค่ะ แล้วขนของต่างๆและสัตว์เลี้ยงมาไว้บ้านเราทั้งที่บ้านเราเลี้ยงสัตว์10กว่าตัวแล้ว นางBบอกว่าจะไปอยู่กับญาติที่ ตจว แต่รอทำห้องให้เสร็จก่อน เลยถามว่าจะเอาสัตว์เลี้ยงไว้ที่นี่หรอ นางBบอกว่าที่บ้านญาติเค้าก็มีสัตว์เลี้ยงเหมือนกันกลัวจะลำบาก เราก็คิดน่ะอ่าว! บ้านนี้ก็เลี้ยงตั้ง10กว่าตัว ไม่เกรงใจบ้างหรอ

ต้องบอกว่าแรกๆที่มาทำกับข้าวนางจะซื้อวัตถุดิบมาเอง แต่พอลาออกแล้วแล้ว B ก็อยู่ที่บ้านฟรีๆร่วมเดือน Bก็จะเทียวเข้าเทียวออกหยิบของในตู้เย็นไปทำกับข้าวไข่หมดก็ไม่ซื้อด้วย เนื้อชิ้นใหญ่ๆที่ซื้อใส่ตู้ไว้ก็เอาไปหมด ยังดีที่เราเห็นเลยหั่นไว้ครึ่งนึง
ลืมค่ะ ตั้งแต่เริ่มเทียวมาบ้านแรกๆก็จะเปิดประตูเข้ามาในบ้านเองเลย เตียงนอนชั้นล้างที่แม่และน้องอีกคนของเราใช้นอน
นางก็มานอนไขว้ห้างสบายใจตอนที่แม่ไม่อยู่ แต่เราดันเห็นเลยเดินลงบันไดแบบเสียงดังๆให้รู้ สักพักนางถึงออกไป

มาค่ะ พอถึงตอนBย้ายไป ตจว และบอกว่าจะหางานทำที่นั่น ส่วนของเสื้อผ้าทั้งหลายนางก็เอาไว้ที่บ้านนี้ มันเยอะมากน่ะแล้วเอาไปยัดๆไว้ที่ห้องเก็บของจนบ้านนี้ไม่ที่จะเก็บของ และการทำแบบนี้เราพอเดาออกได้เลยค่ะว่านางไม่มีทางทำอย่างที่พูดไว้แน่ๆ เพราะข้าวของสัตว์เลี้ยงก็ยังอยู่บ้านนี้
พอนางไปอยู่กับญาติที่ ตจว จริง แต่สุดท้ายก็เทียวมาบ้านนี้ อยู่ทีเป็นอาทิตย์
พฤติกรรมที่นางB ทำคือ
- ทำเป็นมาล้างจานในบ้านตอนแม่นี่กลับมา ตอนแม่ไม่อยู่ไม่ทำ เหมือนทำดีให้เห็น เราเลยถามล้างทำไม(เพราะปกติทุกอย่างในบ้านเราเป็นคนทำ)
นางตอบว่าไม่มีใครล้าง ตอนนั้นเราโมโหมากเหมือนมาพูดใส่เราหรอหรือยังไง 
ทั้งที่เวลานางทำกับข้าวอยู่หลังบ้านมักจะแช่ไว้ไม่ล้างทันทีแต่จะมาล้างจานที่อยู่ในบ้านเนี่ยน่ะ  เวลากินขยะก็ทิ้งไม่เป็นที่ ห้องนอนรกแค่ไหนก็ไม่จัดให้Aทั้งที่ตัวเองมาเป็นผู้อาศัย คือมันย้อนแย้งค่ะต่อหน้าเหมือนขยัน แต่สิ่งที่ตัวเองทำไว้ยังไม่จัดการให้เรียบร้อยเลย
เหมือนจะเข้ามาพยายามมีเสียงในบ้าน อีกความคิดคือเหมือนนางคิดว่านางจะมาเป็นเจ้าของบ้านนี้ประมาณนี้ค่ะ
-สรุปที่ลาออกจากงาน ก็ไม่ได้งานใหม่ ที่พูดว่าจะไป ตปท ก็ไม่ไป พูดไว้ดูสูงและสวยหรูมาก แต่ไม่เป็นอย่างที่พูดสักอย่าง
-เทียวไปมาระหว่างตจว กับบ้านนี้ 
-ปัจจุบันมาอยู่บ้านนี่ เลี้ยงสัตว์แต่ไม่ค่อยเก็บอึไปทิ้งมาอยู่บ้านเค้าแทนที่จะทำตัวมีประโยชน์แต่มันเหมือนมาเป็นภาระมากกว่า
-ค่อนข้างขี้เกียจ มาอยู่ก็เปิดแอร์แต่ใครล่ะจ่ายค่าไฟแม่เราทั้งนั้น มาก็มาอยู่เฉยๆ กว่าจะได้ยินเสียงออกจากห้องก็ช่วงบ่าย รอAมารับออกไปอย่างเดียว

ยังสงสัยอยู่ว่าถ้าเราไม่อยู่บ้าน แล้วทุกคนเค้าออกไปทำงานกันหมดเท่ากับว่านางมาอยู่ที่บ้านนี่คนเดียวโดยไม่ทำอะไรเลย
ทำไมนางถึงไม่ละอายบ้างหรอ ว่าบางทีมันก็ไม่สมควร
พ่อแม่เรา จากที่อยู่บ้านเดินเข้าออกนั่งนอกบ้านชิลๆสบายๆ การอาบน้ำเข้าห้องน้ำ ต้องมาคอยระวังนางอยู่ 
จะทำยังไงให้นางรู้ตัวดี ว่าที่บ้านไม่โอเคสักเท่าไหร่ที่อยู่แบบนี้ แต่เข้าใจว่ายากเพราะน้องเราเป็นคนพาเข้ามา

สิ่งหนึ่งไม่เจ้าใจเลยว่าจะลาออกจากงานทำไม ถ้าจะเทียวไปเทียวมาแบบนี้ถ้าทำงานที่เดิมนางและสัตว์เลี้ยงของนางก็จะอยู่ห้องเช่าของนาง รถก็มีใช้พอลาออกก็ส่งรถไป ตจว พอเทียวมาบ้านนี้ก็ต้องใช้รถบ้านนี้ รถก็รถเราแต่ทำเหมือนเป็นรถของตัวเองไปแล้ว 

จบแล้วค่ะ
บางทีอาจใช้คำพูดไม่ถูก อยากจะพูดเยอะกว่านี้แต่เรียบเรียงไม่ถูกจริงๆค่ะ ยังมีรายละเอียดอีกยิบย่อยแต่เล่าไม่หมด
ในชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะเจอคนแบบนี้ ต่อหน้าก็ทำดี แต่สำหรับเราที่อยู่บ้านบ่อยที่สุดจะเห็นพฤติกรรมBบ่อยที่สุด 
เราก็คิดน่ะว่าพูดให้ใครฟังก็เหมือนเป็นการใส่ร้ายเค้าเปล่าๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่