ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะหนูท้อใจกับเเม่เรื่องการคบเพื่อนมากๆ😭😭
หนูอยากจะมาปรึกษาค่ะว่าจะอธิบายกับเเม่ยังไงดีว่าการตัดผมสั้นไม่ใช่ทอมและคนนิสัยไม่ดี
หนูขอเล่าเรื่องของตัวเองก่อนนะคะ
หนูอายุ15ปีค่ะเรียนอยู่ชั้นม.4 หนูมีเพื่อนที่คบกันมาตั้งเเต่ป.2 ชื่อว่า C ค่ะ(นามสมมตินะคะ)(ลักษณะของเพื่อนหนูคือตัดผมสั้นเหมือนสาวหล่อค่ะ) หนูมาเข้าม.ต้นที่โรงเรียนเดียวกันกับCเเต่คนละห้อง เรามาสนิทกันอีกทีตอน ม.3 ก็พบว่าเราเข้าหากันง่ายกว่าตอนเด็ก เเถมหนูกับเพื่อนลงตัวกันมากๆเป็นขั้วตรงข้ามของกันเเละกัน รู้นิสัยใจคอกันค่ะ เเล้วหนูก็เล่าเรื่องนี้ให้เเม่ฟัง ในตอนนั้นเเม่ไม่โอเคมากๆที่เพื่อนหนูตัดผมสั้นและสนิทกัน แม่ก็กลัวว่าหนูจะไม่สนิทกับเพื่อนคนอื่น เพราะเห็นอยู่เเต่กับC หนูก็บอกเเม่ว่า"หนูมีเพื่อนอีกหลายคนเเต่คนนี้เราเจอกันทีเดียวตอนเลิกเรียนเพราะเรากลับเวลาเดียวกันเเละชอบซื้อของร้านเดียวกันและอยู่ด้วยกันบ่อย" หลังจากนั้นแม่ก็หงุดหงิดเเละไม่คุยกันต่อ
จนกระทั่งหนูสอบติด ม.ปลายโรงเรียนประจำจังหวัด เเละได้เเยกกับเพื่อนสนิทหลายๆคน ในทีเเรกหนูก็ไปหาเพื่อนสนิทที่โรงเรียนเก่า(ไม่ใช่ c ) หนูบอกเเม่ แม่ก็ดูโอเคเเต่ก็จะถามว่า"ได้ไปเจออีทอมนั่นรึป่าว" เราอึ้งเลยค่ะ เราไม่เข้าใจทำไมแม่ถึงเรียกอย่างนั้นหนูก็ตอบไปว่า"ไม่แม่ วันนี้เขากลับบ้านไว เเต่ว่าเพื่อนหนูมันไม่ใช่ทอมนะ เพื่อนหนูชื่อcไง เป็นเพื่อนกันตั้งเเต่ป.2 แม่จำไม่ได้หรอ"เรายังพูดไม่ทันจบเเม่ก็ตอบมาว่า"ไม่รู้จัก ไม่อยากรู้จัก" เราก็อึ้งค่ะว่าทำไมเเม่ไม่ชอบเพื่อนเราขนาดนั้น ต่อมาเเม่ก็พูดต่อว่า"เป็นผู้หญิงแท้ๆยังอยากจะตัดผมสั้นเป็นผู้ชาย แบบนี้เขาเรียกทอมไม่เรียกผู้หญิง ทำไมถึงตัดผมสั้นก็ไม่รู้" (หนูขออธิบายนะคะว่าทำไมเพื่อนหนูถึงตัดผมสั้นนะคะ คือเพื่อนcเนี่ยเป็นผมมัน มันมากกก เป็นกรรมพันธุ์ต่อจากย่า แล้วตอนประถมก็โดนเพื่อนๆและครูบูลี่บ่อยๆว่า ผมสกปรก อะไรแบบนี้ค่ะ เพราะตอนนั้นไว้ผมตามระเบียบของโรงเรียน พอเข้ามา ม.ต้น ทางโรงเรียนไม่ค่อยซีเรียสกับทรงผมเลยตัดผมสั้นได้ เลยทำให้ดูแลง่ายกว่าค่ะ และเข้ากับรูปหน้าด้วย สวยไปอีกแบบ)
หลังจากนั้นแม่ก็ห้ามไม่ให้หนูไปโรงเรียนเก่าอีกเลยค่ะ หนูไม่รู้เหตุผลจริงๆของเเม่เลยว่าทำไมถึงไม่ให้กลับไปหาเพื่อนเก่า
จนวันนึงหนูสอบกลางภาคเสร็จ เพื่อนcก็ชวนหนูไปเที่ยวที่งานเทศกาลค่ะ หนูเลยไปขอแม่ว่าไปได้ไหม วันที่เพื่อนcนัดไปเป็นวันหยุด และนัดไปตอนกลางวัน ทีแรกแม่ก็บอกว่า "ไปเลยเดี๋ยวให้พ่อไปส่ง"หนูก็พอยิ้มออกมาได้ค่ะว่าได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเเล้ว เเต่แม่ก็ดับฝันหนูสะก่อนว่า"ไปกับใครก็ได้เเต่ไม่ใช่อีทอมนั่นนะ" คำที่เเม่พูดในวันนั้นทำให้หนูดิ่งมาตลอดว่าทำไมเเม่ต้องไม่ชอบเพื่อนของหนูด้วย
หนูไม่รู้ว่าจะคุยกับเเม่เรื่องเพื่อนยังไงดี แม่ดูอคติกับเพื่อนหนูมากๆ ทั้งๆที่เราเคยรู้จักกันมาก่อน แล้วหลังจากนั้นหนูก็พยายามอธิบายว่าเขาไม่ใช่ทอมเลยเขาเป็นคนดีกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่เคยเอาเปรียบหรือทำร้ายร่างกายกับจิตใจหนูเลยค่ะ เเต่ในมุมของผู้ใหญ่หนูก็เป็นเด็กที่เถียงคำไม่ตกฟากอยู่ดี หนูไม่รู้จะทำยังไงดีเเล้วเพราะเพื่อนที่อยู่ข้างๆหนูตลอดคือcค่ะ แม่หนูเคยพูดมาครั้งนึงว่า "ที่แม่ให้สอบเข้าโรงเรียนใหม่เพราะอยากเเยกหนูกับเพื่อนออกจากกัน"ค่ะ
มันทำให้หนูทั้งดิ่งทั้งนอยกับคำพูดนั้นเพราะหนูตั้งใจอ่านหนังสือเเละสอบเข้าโรงเรียนนั้นเพื่อเเม่ 🥲
นี่คือเรื่องราวของหนูค่ะ หากหนูพิมพ์ไม่รู้เรื่องหรือภาษาไทยไม่ถูดหนูขอโทษนะคะ นี่คือกระทู้เเรกของหนูเลย
หนูอยากรู้ว่าจะทำยังไงให้เเม่ยอมรับเพื่อนหนูสักทีว่าเขาไม่ใช่ทอมเเละคนไม่ดีค่ะ หนูอยากให้แม่เห็นเขาเป็นเพื่อนคนนึง ไม่ใช่คนที่แปลกประหลาดเลย😭😭
ขอบคุณที่อ่านปัญหาและเรื่องราวของหนูจนจบนะคะ🙏🏻🙏🏻
และขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
ทำยังไงให้เเม่เข้าใจการคบเพื่อนของเราคะ?😭
หนูอยากจะมาปรึกษาค่ะว่าจะอธิบายกับเเม่ยังไงดีว่าการตัดผมสั้นไม่ใช่ทอมและคนนิสัยไม่ดี
หนูขอเล่าเรื่องของตัวเองก่อนนะคะ
หนูอายุ15ปีค่ะเรียนอยู่ชั้นม.4 หนูมีเพื่อนที่คบกันมาตั้งเเต่ป.2 ชื่อว่า C ค่ะ(นามสมมตินะคะ)(ลักษณะของเพื่อนหนูคือตัดผมสั้นเหมือนสาวหล่อค่ะ) หนูมาเข้าม.ต้นที่โรงเรียนเดียวกันกับCเเต่คนละห้อง เรามาสนิทกันอีกทีตอน ม.3 ก็พบว่าเราเข้าหากันง่ายกว่าตอนเด็ก เเถมหนูกับเพื่อนลงตัวกันมากๆเป็นขั้วตรงข้ามของกันเเละกัน รู้นิสัยใจคอกันค่ะ เเล้วหนูก็เล่าเรื่องนี้ให้เเม่ฟัง ในตอนนั้นเเม่ไม่โอเคมากๆที่เพื่อนหนูตัดผมสั้นและสนิทกัน แม่ก็กลัวว่าหนูจะไม่สนิทกับเพื่อนคนอื่น เพราะเห็นอยู่เเต่กับC หนูก็บอกเเม่ว่า"หนูมีเพื่อนอีกหลายคนเเต่คนนี้เราเจอกันทีเดียวตอนเลิกเรียนเพราะเรากลับเวลาเดียวกันเเละชอบซื้อของร้านเดียวกันและอยู่ด้วยกันบ่อย" หลังจากนั้นแม่ก็หงุดหงิดเเละไม่คุยกันต่อ
จนกระทั่งหนูสอบติด ม.ปลายโรงเรียนประจำจังหวัด เเละได้เเยกกับเพื่อนสนิทหลายๆคน ในทีเเรกหนูก็ไปหาเพื่อนสนิทที่โรงเรียนเก่า(ไม่ใช่ c ) หนูบอกเเม่ แม่ก็ดูโอเคเเต่ก็จะถามว่า"ได้ไปเจออีทอมนั่นรึป่าว" เราอึ้งเลยค่ะ เราไม่เข้าใจทำไมแม่ถึงเรียกอย่างนั้นหนูก็ตอบไปว่า"ไม่แม่ วันนี้เขากลับบ้านไว เเต่ว่าเพื่อนหนูมันไม่ใช่ทอมนะ เพื่อนหนูชื่อcไง เป็นเพื่อนกันตั้งเเต่ป.2 แม่จำไม่ได้หรอ"เรายังพูดไม่ทันจบเเม่ก็ตอบมาว่า"ไม่รู้จัก ไม่อยากรู้จัก" เราก็อึ้งค่ะว่าทำไมเเม่ไม่ชอบเพื่อนเราขนาดนั้น ต่อมาเเม่ก็พูดต่อว่า"เป็นผู้หญิงแท้ๆยังอยากจะตัดผมสั้นเป็นผู้ชาย แบบนี้เขาเรียกทอมไม่เรียกผู้หญิง ทำไมถึงตัดผมสั้นก็ไม่รู้" (หนูขออธิบายนะคะว่าทำไมเพื่อนหนูถึงตัดผมสั้นนะคะ คือเพื่อนcเนี่ยเป็นผมมัน มันมากกก เป็นกรรมพันธุ์ต่อจากย่า แล้วตอนประถมก็โดนเพื่อนๆและครูบูลี่บ่อยๆว่า ผมสกปรก อะไรแบบนี้ค่ะ เพราะตอนนั้นไว้ผมตามระเบียบของโรงเรียน พอเข้ามา ม.ต้น ทางโรงเรียนไม่ค่อยซีเรียสกับทรงผมเลยตัดผมสั้นได้ เลยทำให้ดูแลง่ายกว่าค่ะ และเข้ากับรูปหน้าด้วย สวยไปอีกแบบ)
หลังจากนั้นแม่ก็ห้ามไม่ให้หนูไปโรงเรียนเก่าอีกเลยค่ะ หนูไม่รู้เหตุผลจริงๆของเเม่เลยว่าทำไมถึงไม่ให้กลับไปหาเพื่อนเก่า
จนวันนึงหนูสอบกลางภาคเสร็จ เพื่อนcก็ชวนหนูไปเที่ยวที่งานเทศกาลค่ะ หนูเลยไปขอแม่ว่าไปได้ไหม วันที่เพื่อนcนัดไปเป็นวันหยุด และนัดไปตอนกลางวัน ทีแรกแม่ก็บอกว่า "ไปเลยเดี๋ยวให้พ่อไปส่ง"หนูก็พอยิ้มออกมาได้ค่ะว่าได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเเล้ว เเต่แม่ก็ดับฝันหนูสะก่อนว่า"ไปกับใครก็ได้เเต่ไม่ใช่อีทอมนั่นนะ" คำที่เเม่พูดในวันนั้นทำให้หนูดิ่งมาตลอดว่าทำไมเเม่ต้องไม่ชอบเพื่อนของหนูด้วย
หนูไม่รู้ว่าจะคุยกับเเม่เรื่องเพื่อนยังไงดี แม่ดูอคติกับเพื่อนหนูมากๆ ทั้งๆที่เราเคยรู้จักกันมาก่อน แล้วหลังจากนั้นหนูก็พยายามอธิบายว่าเขาไม่ใช่ทอมเลยเขาเป็นคนดีกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่เคยเอาเปรียบหรือทำร้ายร่างกายกับจิตใจหนูเลยค่ะ เเต่ในมุมของผู้ใหญ่หนูก็เป็นเด็กที่เถียงคำไม่ตกฟากอยู่ดี หนูไม่รู้จะทำยังไงดีเเล้วเพราะเพื่อนที่อยู่ข้างๆหนูตลอดคือcค่ะ แม่หนูเคยพูดมาครั้งนึงว่า "ที่แม่ให้สอบเข้าโรงเรียนใหม่เพราะอยากเเยกหนูกับเพื่อนออกจากกัน"ค่ะ
มันทำให้หนูทั้งดิ่งทั้งนอยกับคำพูดนั้นเพราะหนูตั้งใจอ่านหนังสือเเละสอบเข้าโรงเรียนนั้นเพื่อเเม่ 🥲
นี่คือเรื่องราวของหนูค่ะ หากหนูพิมพ์ไม่รู้เรื่องหรือภาษาไทยไม่ถูดหนูขอโทษนะคะ นี่คือกระทู้เเรกของหนูเลย
หนูอยากรู้ว่าจะทำยังไงให้เเม่ยอมรับเพื่อนหนูสักทีว่าเขาไม่ใช่ทอมเเละคนไม่ดีค่ะ หนูอยากให้แม่เห็นเขาเป็นเพื่อนคนนึง ไม่ใช่คนที่แปลกประหลาดเลย😭😭
ขอบคุณที่อ่านปัญหาและเรื่องราวของหนูจนจบนะคะ🙏🏻🙏🏻
และขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ