จากกระทู้ที่แล้วนะครับ ตามที่ผมสงสัยเรื่องความทะเยอทะยานของผู้ชาย มาดูกระทู้เก่าได้เลยครับ
ขอเกริ่นนำอีกครั้ง ผมบอกว่าผมทำงานราชการแล้ว ตั้งแต่อายุ 19 เงินเดือนจะขึ้นตามระบบปีละ 2 ครั้ง และตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ผมชอบมากและจะกอดไว้จนเกษียณเลยครับ ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ มีเงินเหลือให้ใช้มากมายไม่ขัดสน แต่ก็ไม่ถึงกับรวย ผมเป็นคนที่สมถะ ประหยัด อดออมอยู่แล้ว ไม่ค่อยจะเอาเงินมาใช้ฟุ่มเฟือยเท่าไหร่ อย่างมากก็ค่าน้ำมัน จากการขี่มอไซค์/รถยนต์เข้ามาทำงานในเมืองวันละ 25 กิโล แค่นั้นเอง ตามประสาคนอยู่บ้านนอกชนบท ผมชื่นชอบชีวิตชิวๆ ไม่หวือหวา ใช้ชีวิตแบบไม่มีหนี้สิน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ซื้อ มีความสุขมากๆกับชีวิตที่แสนธรรมดา
แล้วมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งใน Pantip นะครับ มาคอมเม้นท์แนะนำผมว่าความทะเยอทะยานที่ว่า ควรหางานเสริมทำ อย่าติดแต่ว่าเลิกงานเสร็จนอนอยู่บ้าน ซึ่งมันตรงข้ามกับชีวิตผมากๆ เพราะว่าผมคิดว่าเวลาเลิกงานคือเวลาที่ผมพักผ่อน เพื่อที่จะไปทำงานในวันต่อไป
มันเลยทำให้ผมนึกถึงเพื่อนผมคนหนึ่งขึ้นมา มีเพื่อนคนหนึ่งที่เขาเป็นแบบนี้ คือเป็นผู้ชายที่ซีเรียสตลอดเวลา เขาต้องไต่เต้าตลอดเวลา เหมือนไล่ตามนั่นนี่ตลอด เหมือนคนไม่รู้จักพอ ชีวิตเพื่อนผมไม่มีความสุขเลยครับ เคยถามเขาว่าทำไมไม่เอาเวลาไปทำงานตอนกลางคืนก็พักผ่อน จะได้สบาย เขาบอกว่าความสบายเป็นเหมือนกับยาพิษที่จะคอยฆ่าตัวเขาไปทีละนิด คือเพื่อนผมคนนี้เขาไม่ยอมอยู่เฉยๆเลยครับ เวลาพักผ่อนน้อยมากๆ วันละ 4 5 ชม. เองมั้ง เพราะเขาทำงานหนักมากๆ ทั้งๆที่งานออฟิศของเขาก็เงินเดือนสูงกว่าผมอยู่แล้ว เขาก็ยังทำงานเสริมขายของนั่นนี่อีก
ผมโดนเคยเขาพูดติดตลกอยู่นะครับว่า ถึงแม้ผมจะเก็บเงินได้เป็นแสนแล้ว ทำไมไม่คิดที่จะทำเงินให้ได้ ล้านบ้าง สองล้านบ้างล่ะ อย่าคิดว่าอยู่เฉยๆ แล้วดี ให้นึกถึงสมัยก่อนที่เขาขี่ม้าขี่วัว มันก็ดีอยู่แล้ว แต่ก็มีคนคิดค้นรถยนต์เครื่องยนต์ออกมาใช้ เขาอยากให้ผมเป็นเหมือนคนที่คิดรถยนต์ อย่าอยู่เฉยๆ ให้คิดหาทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เกิดเป็นผู้ชายสบายได้แค่ตอนเดียวคือตายแล้ว นอกนั้นเราจะหยุดพักผ่อนไม่ได้ ทำงานให้หนักๆเข้าไว้ ความอดทน ยิ่งเรามีความอดทนต่อแรงกดดันมากแค่ไหน เรานี่แหละจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง
คำว่าทะเยอทะยานในสายตาผู้หญิง คือคนแบบเพื่อนผมหรือเปล่าครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่า ในเมื่องานที่ทำดีอยู่แล้ว พอใจอยู่แล้ว เราจะไปลำบากทำให้ตัวเองไม่มีความสุขไปทำไม งั้นแสดงว่าถ้าผมอยากจะจีบสาว มีแฟน ผมก็ต้องทำในสิ่งที่ผมไม่ชอบ ทำแล้วไม่สบายใจ แต่ได้เงินเยอะๆ แบบนี้หรอครับ ส่วนตัวยังไม่มีแฟนนะครับ ยังไม่สนใจเรื่องนั้น ผมเองก็พึ่งรู้ว่าการที่ผู้ชายสักคนจะมีแฟน ต้องเป็นคนทะเยอทะยาน ยากลำบากขนาดนี้เลยหรอ
คำว่าทะเยอทะยาน ในสายตาผู้หญิง คือผู้ชายที่ไม่ชอบความสบายใช่ไหมครับ
ขอเกริ่นนำอีกครั้ง ผมบอกว่าผมทำงานราชการแล้ว ตั้งแต่อายุ 19 เงินเดือนจะขึ้นตามระบบปีละ 2 ครั้ง และตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ผมชอบมากและจะกอดไว้จนเกษียณเลยครับ ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ มีเงินเหลือให้ใช้มากมายไม่ขัดสน แต่ก็ไม่ถึงกับรวย ผมเป็นคนที่สมถะ ประหยัด อดออมอยู่แล้ว ไม่ค่อยจะเอาเงินมาใช้ฟุ่มเฟือยเท่าไหร่ อย่างมากก็ค่าน้ำมัน จากการขี่มอไซค์/รถยนต์เข้ามาทำงานในเมืองวันละ 25 กิโล แค่นั้นเอง ตามประสาคนอยู่บ้านนอกชนบท ผมชื่นชอบชีวิตชิวๆ ไม่หวือหวา ใช้ชีวิตแบบไม่มีหนี้สิน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ซื้อ มีความสุขมากๆกับชีวิตที่แสนธรรมดา
แล้วมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งใน Pantip นะครับ มาคอมเม้นท์แนะนำผมว่าความทะเยอทะยานที่ว่า ควรหางานเสริมทำ อย่าติดแต่ว่าเลิกงานเสร็จนอนอยู่บ้าน ซึ่งมันตรงข้ามกับชีวิตผมากๆ เพราะว่าผมคิดว่าเวลาเลิกงานคือเวลาที่ผมพักผ่อน เพื่อที่จะไปทำงานในวันต่อไป
มันเลยทำให้ผมนึกถึงเพื่อนผมคนหนึ่งขึ้นมา มีเพื่อนคนหนึ่งที่เขาเป็นแบบนี้ คือเป็นผู้ชายที่ซีเรียสตลอดเวลา เขาต้องไต่เต้าตลอดเวลา เหมือนไล่ตามนั่นนี่ตลอด เหมือนคนไม่รู้จักพอ ชีวิตเพื่อนผมไม่มีความสุขเลยครับ เคยถามเขาว่าทำไมไม่เอาเวลาไปทำงานตอนกลางคืนก็พักผ่อน จะได้สบาย เขาบอกว่าความสบายเป็นเหมือนกับยาพิษที่จะคอยฆ่าตัวเขาไปทีละนิด คือเพื่อนผมคนนี้เขาไม่ยอมอยู่เฉยๆเลยครับ เวลาพักผ่อนน้อยมากๆ วันละ 4 5 ชม. เองมั้ง เพราะเขาทำงานหนักมากๆ ทั้งๆที่งานออฟิศของเขาก็เงินเดือนสูงกว่าผมอยู่แล้ว เขาก็ยังทำงานเสริมขายของนั่นนี่อีก
ผมโดนเคยเขาพูดติดตลกอยู่นะครับว่า ถึงแม้ผมจะเก็บเงินได้เป็นแสนแล้ว ทำไมไม่คิดที่จะทำเงินให้ได้ ล้านบ้าง สองล้านบ้างล่ะ อย่าคิดว่าอยู่เฉยๆ แล้วดี ให้นึกถึงสมัยก่อนที่เขาขี่ม้าขี่วัว มันก็ดีอยู่แล้ว แต่ก็มีคนคิดค้นรถยนต์เครื่องยนต์ออกมาใช้ เขาอยากให้ผมเป็นเหมือนคนที่คิดรถยนต์ อย่าอยู่เฉยๆ ให้คิดหาทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เกิดเป็นผู้ชายสบายได้แค่ตอนเดียวคือตายแล้ว นอกนั้นเราจะหยุดพักผ่อนไม่ได้ ทำงานให้หนักๆเข้าไว้ ความอดทน ยิ่งเรามีความอดทนต่อแรงกดดันมากแค่ไหน เรานี่แหละจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง
คำว่าทะเยอทะยานในสายตาผู้หญิง คือคนแบบเพื่อนผมหรือเปล่าครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่า ในเมื่องานที่ทำดีอยู่แล้ว พอใจอยู่แล้ว เราจะไปลำบากทำให้ตัวเองไม่มีความสุขไปทำไม งั้นแสดงว่าถ้าผมอยากจะจีบสาว มีแฟน ผมก็ต้องทำในสิ่งที่ผมไม่ชอบ ทำแล้วไม่สบายใจ แต่ได้เงินเยอะๆ แบบนี้หรอครับ ส่วนตัวยังไม่มีแฟนนะครับ ยังไม่สนใจเรื่องนั้น ผมเองก็พึ่งรู้ว่าการที่ผู้ชายสักคนจะมีแฟน ต้องเป็นคนทะเยอทะยาน ยากลำบากขนาดนี้เลยหรอ