มิตรรัก นักแฟนตาซี SS5 EP0 : สอนเล่น FPL เบื้องต้น รอลุยซีซันใหม่สุดสัปดาห์นี้!

ติดภารกิจงานอยู่สิงคโปร์กว่า 2 สัปดาห์ (นี่ก็เริ่มพิมพ์บทความนี้ที่สิงคโปร์!) กำหนดทำสอนเล่น FPL เลยเขยิบมาเรื่อยจนซีซันจะเปิดอยู่แล้ว โดยผมจะทำ 2 ปี หนนึง เผื่อกุนซือ FPL มือใหม่ ยังไม่ทราบวิธีการเล่น จะได้ศึกษาเบื้องต้น และตามเพื่อนๆ ในคอมมูนิตี้ต่างๆ ได้ทัน

[เริ่มต้นสมัคร และสร้างแอคเคาท์]

เกม Fantasy Premier League เป็นเกมจัดตัวนักเตะ หรือเรียกกันติดปากว่าเกม “แฟนตาซี” ของพรีเมียร์ลีกเลย โดยผมเคยเขียนที่มาที่ไปของเกมแฟนตาซีไว้นานแล้วที่ The.Macho หากสนใจ ย้อนไปอ่านได้ >> คลิกที่นี่ <<

FPL คือเกมทางการของพรีเมียร์ลีก ที่ให้คุณจัดตัวนักเตะ ลุ้นคะแนนจากผลงานสนามจริง

Fantasy Premier League หรือเรียกสั้นๆ ว่า FPL ปกติจะสามารถเล่นได้ 2 ช่องทาง นั่นคือผ่านเว็บบราวเซอร์ fantasy.premierleague.com หรือผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ ที่ชื่อว่า Premier League – Official App

ส่วนตัวแล้ว ผมจะเน้นเล่นผ่านเว็บบราวเซอร์มากกว่า ด้วย UI ที่ใช้ง่าย และครบถ้วนกว่า ดังนั้นหน้าตาที่แคปเจอร์มาอธิบายการเล่น จะแคปมาจากเวอร์ชันเว็บบราวเซอร์ทั้งหมด (ผมเข้าผ่าน PC Desktop)

เริ่มกันตั้งแต่สร้างแอคเคาท์ เมื่อคุณเข้ามายัง fantasy.premierleague.com แล้วยังไม่มีแอคเคาท์ ก็สามารถกด Sign up ที่อยู่ด้านล่างของกล่องล็อคอิน โดยแอคเคาท์ที่สร้างนี้ จะใช้สำหรับเป็นแอคเคาท์เข้าใช้งานแพลตฟอร์มของพรีเมียร์ลีก หรือ EPL ซึ่ง FPL ก็เป็นส่วนนึงในนั้น

เมื่อกด Sign Up ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบตามขั้นตอน เพื่อสร้างแอคเคาท์

ขั้นตอนกรอกข้อมูลต่างๆ ไม่ยาก เพียงแต่ไม่มีภาษาไทยให้เลือก สามารถกรอกข้อมูลของคุณ เริ่มจากข้อมูลส่วนตัว, อีเมล์ (สำคัญมาก! ในการล็อคอิน และยืนยันอีเมล์ แนะนำให้จดไว้ ถ้าจำไม่ได้), ตั้งพาสเวิร์ดให้ตามเงื่อนไข ถัดจากนั้นจะเป็นการเลือกทีมที่ชอบ,​ การเลือกรับข้อมูลข่าวสารจาก EPL ครบจบก็ติ๊กรับทราบเงื่อนไข และกดลงทะเบียน

เมื่อกรอกข้อมูลต่างๆ เรียบร้อย เลื่อนลงมาติ๊กอ่านเงื่อนไข และกด Complete

กดลงทะเบียนเรียบร้อย คุณต้องเข้าไปยังอีเมล์ที่กรอกสมัคร เพื่อกด “Activate Account” จากเมล์ที่ Premier League ส่งมาให้ คลิกปุ๊บ การลงทะเบียนจะสมบูรณ์ สามารถใช้อีเมล์ และพาสเวิร์ดที่ตั้ง ล็อคอินเข้าได้เลย

เมื่อกด Complete ต้องเข้าไปยังอีเมล์เพื่อกด Activate เรียบร้อยก็ล็อคอินเข้าเล่นได้

[การเลือกทีมครั้งแรก]

เมื่อล็อคอินเข้าไป สามารถกดเข้าไปสร้างทีมครั้งแรกผ่านเมนู “Squad Selection” โดยจะเป็นการจัดทีม เหมือนการส่งทีมครั้งแรก

การจัดตัวครั้งแรก สามารถกด “Auto Pick” เพื่อให้ระบบจัดทีมอัตโนมัติไปก่อนได้ เพราะเรายังสามารถปรับทีมได้ไม่อั้น จนกว่าจะถึงเกมนัดแรกของซีซัน

การจัดทีมครั้งแรก สามารถกด Auto Pick ไปก่อนได้ เพราะเรายังแก้ได้จนนัดแรกเตะ

หรือจะจัดจริงจังก็สามารถทำได้ โดยเงื่อนไขหลักๆ ในการจัดตัว (รายละเอียดเต็มๆ พูดด้านล่าง) คือ
-> คุณมีงบประมาณจัดทีมไม่เกิน 100 ล้านปอนด์ โดยนักเตะแต่ละคนจะมีค่าตัวของตัวเอง
-> คุณต้องเลือกนักเตะ 15 ตัว ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู x2, กองหลัง x5, กองกลาง x5, กองหน้า x3 (นักเตะมีตำแหน่งในเกมตายตัว)
-> เลือกนักเตะจากทีมสโมสรเดียวกันได้สูงสุดแค่ 3 คน

เมื่อจัดทีมครั้งแรกเรียบร้อย กด “Enter Squad” ด้านล่าง ก็จะมี pop-up เด้งขึ้นมาให้ตั้งชื่อทีมของคุณ และเลือกทีมที่เชียร์ เลือกเรียบร้อยก็ติ๊กตกลง Terms and conditions และ Enter Squad ถือว่าการจัดทีมครั้งแรกเสร็จสมบูรณ์

ตั้งชื่อทีม, เลือกทีมที่เชียร์, ติ๊กตกลงเงื่อนไข แล้ว Enter squad ได้เลย

[รู้จักเมนูต่างๆ ของ FPL]

จัดทีมครั้งแรกเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่หน้าตาหลักของ FPL ที่คุณควรเข้าใจเมนูต่างๆ เพราะต้องใช้ให้คล่องตลอดการเล่นทั้งซีซัน โดยหน้าตาเมนูตามนี้


(01) Pick Team : เมนูที่ใช้บ่อยสุด เพื่อจัดทีม 11 ตัวจริง และ 4 ตัวสำรอง นอกจากนั้นยังเป็นหน้าไว้สำหรับเลือกกัปตัน/รองกัปตัน (คลิกที่ตัวนักเตะ แล้วเลือกได้เลย) และมีรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมดของทีมเรา เช่น คะแนน, ลีกต่างๆ ที่เราจอย, จำนวนการเปลี่ยนตัว และการเลือกเสื้อทีมของเราเป็นสีสัน

(02) Transfer : อีกเมนูสุดสำคัญ เพราะเมื่อคุณจะทำการเปลี่ยนตัวนักเตะออก แล้วเลือกตัวอื่นเข้ามาทดแทน ต้องมาที่หน้านี้ โดยจะมีฟิลเตอร์ให้คุณเลือกดูนักเตะทั้ง 20 ทีมของพรีเมียร์ลีกอยู่มากมายทางด้านขวา 

(03) Leagues & Cups : อีกฟังก์ชันสำคัญที่ทำให้การเล่น FPL สนุกขึ้น คือการมีลีกย่อย (Leagues) หรือฟุตบอลถ้วน (Cups) ทั้งหมดรวมอยู่ที่เมนูนี้ จะสร้างลีกให้เพื่อนจอย, จอยลีกเพื่อน, จอยลีก Public, ดูตารางคะแนนของลีกย่อย อยู่ที่นี่หมด

(04) Fixtures : เป็นตารางการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ซึ่งมันคือโปรแกรมของ FPL ด้วยเช่นกัน และเมนูนี้ยังมี FDR ที่ไว้กดดูโปรแกรมล่วงหน้าของแต่ละทีม ว่าใครเจองานยาก-ง่าย

(05) The Scout : เป็นเมนูที่ทาง EPL เค้าเตรียมข้อมูลไว้เสิร์ฟผู้เล่น มีทั้งข่าวสาร, บทวิเคราะห์, ดูรายชื่อนักเตะเล่นเซ็ตพีซ, และดูนักเตะได้รับบาดเจ็บ-ติดโทษแบน

(06) Podcast : EPL มีผู้เล่นทั่วโลกหลัก 8-10 ล้าน ID ต่อซีซัน เขาก็มีคอนเทนท์ให้ติดตามหลากหลาย นอกจากรายการทีวี (ใครติดกล่องทรูวิชันส์ อาจจะเคยผ่านตา) ยังมี Podcast ของกูรูให้ฟังกันด้วย

(07) Stats : เมนูที่ใช้ประโยชน์ในการดูสถิติต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งคุณสามารถฟิลเตอร์ข้อมูลที่อยากทราบได้สะดวกสบาย

(08) Prizes : ดูลิสต์รางวัลของ FPL ที่เค้าแจกให้ผู้ชนะต่างๆ

(09) Help : เมนูที่รวบรวมทั้งคำถามที่พบบ่อย, กฎ-กติกาของเกมทั้งหมด (มือใหม่ลองไล่อ่านดูหน่อยก็ดีนะครับ) และเงื่อนไขต่างๆ ของเกม

(10) Draft : เป็นวิธีการเล่น FPL อีกแบบ โดยจะผลัดกันเลือกตัวนักเตะไม่ให้ซ้ำกัน หรือเรียกว่าการดราฟท์ (ตามสไตล์การเล่นแฟนตาซีของอเมริกันเกมส์) ซึ่งผมจะไม่อธิบายในส่วนนี้ ไม่งั้นยืดเยื้อแน่

[กฎหลักของการเล่น]

สำหรับมือใหม่ อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะชะงักกับข้อมูลที่เยอะแยะไปหมด แต่อยากบอกว่าไม่ต้องกังวล ค่อยๆ ทำความเข้าใจไป โดยเน้นที่คอนเซปท์หลักของ FPL ที่ผมจะหยิบมาอธิบายให้ทราบก่อน เมื่อเข้าใจคอนเซปท์ อย่างอื่นจะตามมาไม่ยาก

< การวัดผล >

FPL เป็นเกมที่อิงจากผลงานนักเตะสนามจริง มานับเป็น “คะแนนของทีม” ซึ่งก็มาจากนักเตะแต่ละคนที่เราเลือกมาร่วมทีมนั่นเอง เช่น เราเลือกแรชฟอร์ด แล้วแรชฟอร์ดยิงได้จริง ก็จะได้คะแนนในเกม FPL ของเรา

โดยคะแนนจะคิดไปตามแต่ละ Gameweek (ผมเรียกทับศัพท์มาจากของ FPL เลย เพราะจะเข้าใจง่ายที่สุด ไม่อยากใช้คำว่า “สัปดาห์” เพราะบางครั้ง Gameweek อาจจะครอบคลุมมากกว่า 7 วัน การเรียกว่าสัปดาห์ทำให้สับสน) โดยตลอดซีซัน จะมีทั้งหมด 38 Gameweek ให้แข่งกัน

คะแนนของทีมจะถูกนำมาวัดกันว่าใครอันดับดีกว่ากัน โดยมีช่วงวัดผลต่างๆ กัน

“คะแนนของทีม” ที่ว่า จะถูกนำเอามาวัดกัน ใครได้มากกว่าก็อยู่อันดับสูงกว่า โดยเกมเค้าก็มีการจัดอันดับหลากหลายให้สนุกขึ้น ทั้งแข่งราย Gameweek (GW), รายเดือน, คะแนนรวมทั้งซีซัน โดยทั้งหมดดูการแบ่งได้ที่เมนู Help >> Rules >> Leagues

นอกจากนั้นยังมีการแบ่งตามระดับต่างๆ เช่น การวัดกับคนทั้งโลก, การวัดเฉพาะกุนซือไทย, การวัดเฉพาะแฟนทีมที่เราเชียร์ หรือการวัดจากลีกย่อยที่เราเล่นกับเพื่อนๆ

< การคิดคะแนน >

ทราบคอนเซปท์ของ “คะแนนของทีม” ไปแล้ว ก็มาลงรายละเอียดว่าไอ้การคิดคะแนนนั้นมันมาจากไหน โดยผมสรุปเป็นตารางมาให้ตามนี้ (อยากดูละเอียดเข้าไปที่ Help >> Rules >> Scoring)


ที่ดอกจันไว้ตรง “Bonus Point System” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “BPS” เป็นคะแนนพิเศษ ที่จะให้กับนักเตะที่ทำแต้ม BPS ได้สูงสุด 3 อันดับแรก ในนัดนั้น (อาจมีเท่ากันมากกว่า 1 คน) โดยลดหลั่น 3-2-1 คะแนน เพิ่มเติมจากคะแนนผลงานที่ทำได้ (รายละเอียดปลีกย่อยของการคิด BPS ดูได้ที่ Help >> Rules >> Scoring)

นอกเหนือจากที่มาที่ไปคะแนนนักเตะของเรา ที่จะได้ในแต่ละเกม ยังมีข้อปลีกย่อยอธิบายไว้ในเมนู Help เพื่อครอบคลุมกับกรณีที่อาจคลุมเครือไว้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น

การโดนใบแดง : ผู้เล่นที่ถูกใบแดงไล่ออก จะต้องรับผิดชอบกับการหักคะแนนในกรณีเสียประตูของทีมไปจนจบเกม

แอสซิสต์ : อธิบายรายละเอียดในเคสที่นักเตะจะได้คะแนนแอสซิสต์​ เช่น นักเตะที่ทำประตูได้ เสียการครองบอล แต่กลับมาครองบอลอีกครั้งก่อนทำประตูได้ ผู้ผ่านบอลให้ก่อนหน้า จะถือว่าไม่ได้แอสซิสต์ หรือในเคสที่นักเตะที่โดนทำฟาล์ว แล้วลุกขึ้นมายิงฟรีคิก หรือจุดโทษด้วยตัวเองเข้าไป จะไม่มีใครได้แอสซิสต์ เป็นต้น

เควิน เด บรอยน์ แข้งทำแอสซิสต์สูงสุดของ FPL 2022/23 ทั้งหมด 18 หน

การตัดสินสิ้นสุด : FPL เค้าใช้ข้อมูลจาก Opta ในการตัดสิน และหากมีการไฟนอลเรียบร้อยแล้ว จะไม่มีการแก้ไขอีก ดังนั้นเราไม่สามารถไปดูแหล่งอื่น เช่น Live Score แล้วมาอ้างว่าทำไมนักเตะคนนั้นคนนี้ได้แอสซิสต์ หรือยิงประตู หากไม่ใช่ไฟนอลจาก FPL

(ขออนุญาตต่อส่วนที่เหลือในคอมเมนท์ครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่