ตอนนี้อายุ 29 ปี หลังจากเรียนจบป ตรี ก็เรียนต่อ ป โท ตั้งใจไว้ว่าจะสอบราชการ ระหว่างนั้นมาช่วยที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว ไม่มีเงินเดือน เพราะที่บ้านดีมากๆ ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ออกรถให้ อยากได้อะไรก็ขอเอาที่บ้านพร้อมซัพพอร์ต 

ที่บ้านตอนนี้มีกิจการ แต่รายได้หลักๆมาจาก passive income แล้วก็มีที่ดินเก็บไว้ค่อนข้างเยอะ หลายแปลงเคยซื้อไว้ตั้งแต่เป็นที่นา ตอนนี้มีถนนตัดผ่าน มีหมูบ้านมาขอซื้อ แต่ไม่ได้ขาย ตั้งใจจะเก็บไว้เพราะไม่เดือนร้อน 

ช่วงหลังมาคุณพ่อป่วย เป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดสมอง คุณแม่ก็เลยให้มาดูแลคุณพ่อเป็นหลักช่วงพักฟื้น ทำให้เวลาว่างค่อนข้างเยอะ เลยเตรียมตัวสอบราชการไปด้วย คิดว่าอย่างน้อยได้เรียนรู้กฏหมาย ได้ความรู้ใหม่ๆ พออ่านไปแล้วรู้สึกชอบตำแหน่งนี้มาก ได้ช่วยเหลือคน ได้ลงพื้นที่ แต่งานจะค่อนข้างหนัก ไม่ค่อยมีเวลา ต้องไปอยู่ต่างจังหวัดส่วนเรื่องเงินเดือนไม่มีปัญหาเลย 

ตอนนี้คุณพ่อดีขึ้นมาก ทำอะไรได้เกือบปกติ แต่ขับรถไม่ได้คุณหมอบอกว่าเป็นผลมาจากสมองที่ขาดเลือดมา แล้วบัญชีของหน่วยงานราชการที่ขึ้นไว้กำลังจะเรียกถึงพอดี เลยคุยกับที่บ้านเรื่องจะไปรับราชการ ที่บ้านสนับสนุน แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าพูดจากใจ หรือพูดเพราะเห็นเราชอบ

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ถ้าเกิดคนที่บ้านเป็นอะไรไป หรือเรามีอันเป็นไปก่อน คงเสียดายที่เลือกทางนี้ แทนที่จะใช้เวลากับครอบครัว
เราเห็นแก่ตัวไปไหม หลายๆคนถ้ามีเงินเค้าก็คงจะเลือกไม่ทำงาน อยากมี passive income มากกว่า 

หรือถ้าเลือกไม่ไปก็ไม่เป็นไร ใช้ชีวิตแบบเดิมต่อไป จริงๆชีวิตคนเราอาจจะต้องการแค่นี้ ปัจจัยสี่ครบก็พอ เราอาจทะเยอทะยานมากไปเอง

ปกติเป็นคนคิดมาก ชอบโทษตัวเอง แต่เรื่องนี้ส่วนตัวเคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมาก ถ้าเราตัดสินใจผิดคงรู้สึกเสียใจไปตลอด