ตอนนี้ผมอายุ 32 แล้ว ก็ได้หันกลับไปมองปีที่ผ่านๆ มาว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเราบ้าง ท้าวความก่อนนะครับอาจจะยาวไปบ้าง
เกิดวิกฤตในชีวิต
- ตอนผมอายุ 30 ผมเป็นหนี้จากการลงทุน 200,000.- บาท จากรายได้ที่มาก จนทำให้รายได้ไม่พอจ่ายหมุนเงินไม่ทัน แฟนที่คบกันมานานและแต่งงานกันได้ 1 ปี เห็นท่าไม่ดีก็เลิกกับผม และไปคบผู้ชายสูงวัยที่สามารถดูแลเธอได้ ผมทั้งผิดหวังและท้อแท้มากช่วงนั้น เลยไปอาศัยอยู่กับเพื่อน ช่วงระหว่างนี้งานการก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันได้แต่โทษตัวเองที่ล้มเหลว ง่ายๆ ก็ผู้ชาย Loser คนหนึ่ง ระหว่างนั้นก็พยายามดิ้นรนสุดชีวิตทำอะไรได้ก็ทำเลยไปรับจ้างรายวันขายไมโลงานเกษตรแฟร์ได้เงินวันละ 300 ทำงานประมาณวันละ 10 - 12 ชม. ครับ เราก็ตั้งใจทำงานแต่ก็โดนเอาเปรียบอยู่ตลอด ผมติดกับดักทางสังคมเต็มๆ อยากได้อยากมีแบบคนอื่น เพื่อนก็ชอบมาพูดบัฟ ว่ามันเงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ เพราะก่อนหน้านั้นเราใช้ชีวิตไร้สาระมาตลอด พอมีเงินก้อนเล็กก็เลยไปลงทุนขายเสื้อผ้าก็เจ๊ง ครอบครัวยังไม่อยากจะคุยกับผมเพราะผิดหวังในตัวผม ระหว่างนั้นผมก็ไปสมัครงานหลาย บ. ก็ไม่มีใครรับ บางที่ก็มีท่าทีดูถูก พูดประชดผมอีกด้วย ผมก็ยอมรับเราไม่มีประสบการณ์ภาคเอกชน ไม่ได้ จบ ม. ดัง สายการเรียนก็ไม่ได้เป็นที่ตลาดต้องการ ถึงจะเรียกเงินเดือนเดือนแค่หมื่นต้นๆ ก็เถอะครับ ระหว่างนั้นก็โดนหลอกไปทำ บ. ขายตรงด้วยแต่ก็ไหวตัวหนีออกมาก่อน
เริ่มกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
- ตอนนั้นผมก็เลยมานั่งทบทวนตัวเองว่าเราควรจะทำอะไร ผมมีใบ กพ.วุฒิ ปวส. อยู่นี่นา ผมคิดได้ดังนั้นผมก็ไปเปิดหาเว็บไซต์สอบงานราชการครับ เลยเลือกสอบหน่วยงานหนึ่งซึ่งมีสอบเดือนหน้า ผมก็ไม่รีรอไปหาซื้อหนังสือเกงข้อสอบมาอ่านทันทีครับ ช่วงระหว่างนั้นก็ยังเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเหล้าอยู่ อ่านตอนเช้า ทำงานกลางคืน ถึงเวลาสอบประกาศผลสอบ ผมก็สอบติดครับได้ลำดับต้นๆ ตอนนั้นเข้าสู่สายราชการในอัตราเงินเดือน 13,000.- รวมค่าครองชีพแล้ว ถึงจะไม่เพียงพอในการจ่ายมากนักแต่ก็รู้สึกดีใจสุดๆ ทางบ้านก็เริ่มกลับมาพูดคุยบ้างแล้ว
- ตอนนั้นน้องที่ทำงานก็มาแนะนำให้ผมสมัคร Rider ส่งผู้โดยสาร ตอนเช้าใช้เวลา 2 ชม. ก่อนเข้างานทำงานได้ประมาณวันละ 200 - 300 พอเริ่มมีเงินมากินใช้บ้างแล้วครับ
- ผมทำงานมาได้ประมาณ 3 เดือน เพื่อนผมที่อยู่สายราชการก็แนะนำให้ผมไปสอบหน่วยงานที่มีค่าตอบแทนเพิ่มจากเงินเดือน ผมก็ไปศึกษาหาข้อมูลมาเลยมีความคิดว่าถ้าผมสอบเข้าได้ผมจะได้งานหลักที่มั่นคงให้ผมได้จริงๆ แถมยังก้าวหน้าในสายงานได้ แบบผมอยู่ยาวเติบโตจนเกษียณได้เลย ซึ่งอีก 3 เดือนหน่วยงานจะเปิดสอบ เอาละครับคราวนี้ผมก็ไปหากลุ่มพวกที่เตรียมสอบหน่วยงานนี้ ไปถามหาข้อมูลหาหนังสือเลยลงทุนซื้อหนังสือ 2 เล่ม และผมตั้งใจว่าจะต้องสอบติดให้ได้จะได้อัพฐานเงินเดือน แล้วการสอบก็ผ่านไปประกาศผล ผมสอบติดในการเรียกบรรจุครั้งแรกของหน่วยงานผมดีใจมาก ผมลาออกจากที่เก่าโดยระยะเวลาที่ทำงานที่เก่า 6 เดือน
การพัฒนาตนเอง
- ตอนนี้หลังจากผมได้บรรจุที่ใหม่แล้วได้ไม่นานผมก็อายุ 31 แล้ว ผมก็มานั่งคิดว่าเราทำงานราชการ มันสามารถจัดสรรเวลาว่างได้หนิ เพราะมันมีวันหยุดที่แน่นอน เวลาเข้าออกทำงานที่ชัดเจน และประสบการณ์จากการลงทุนที่ผิดพลาดทำให้ผมไม่อยากจะลงทุนที่เสี่ยงแล้วแบบซื้อมาสต๊อกขายไปหรือลงเงินไปก่อนเพื่อให้ได้กำไร เราต้องลงทุนกับความรู้ถึงจะถูก ผมก็มาสำรวจตัวเองว่าเราถนัดอะไร ชอบอะไร พอคิดได้ดังนั้นผมก็ไปหาเรียนเกี่ยวกับพวกขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลบนพวกแฟลตฟอร์มต่างชาติ จนได้เริ่มสร้างผลงานขายแรกๆ ถูๆ ไถๆ จนเริ่มต้นขายได้ 1 ชิ้นดีใจมากครับ ระหว่างนั้นก็พยายามสำรวจตลาด วิเคราะห์ตลาดไปเรื่อยๆ จนเข้าเดือนที่ 5 จากเริ่มทำ รายรับผมตอนนี้ตกอยู่ราวๆ 30K + มาจากรายได้ประจำและงานเสริมผมกึ่ง Passive income ผมรู้สึกว่าผมมาถูกทางแล้ว และมีเรื่องน่ายินดีที่ล่าสุดผมสอบ กพ.ปตรี ปีนี้ผ่าน ปีหน้าผมก็จะได้สอบปรับแท่งในหน่วยงาน รายได้และค่าตอบแทนผมก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก และจะขอทุนเรียนต่อ ป.โท ต่อครับ
การเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเปลี่ยน mindset
- ผมคิดว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้ชาย Loser แล้ว หลังจากผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลมา จากอายุ 30 จนครบ 32 เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 67 ที่ผ่านมานี้ ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากถึงจะเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ถือว่าเราได้เติบโต และมีความก้าวหน้าในสายงาน ความมั่นคงในอาชีพ กลายเป็นคนที่จริงจัง ใช้เหตุผลในการตัดสินใจมากกว่าอารมณ์ มี Work Flow ในการทำงาน เปลี่ยนทัศนคติที่เป็นบวก ทำให้ผมรู้ว่าอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนอื่น ตัวเราก็คือตัวเรา คนอื่นจะมีอย่างไรไม่ต้องอยากได้อยากมีอย่างเขา เราก็ค่อยๆ สร้างไป อย่าทำอะไรเกินตัว โฟกัสให้ถูกจุด เลือกคบกันที่ส่งเสริมกันไปในทิศทางที่ดี รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร เลิกทำตัวไร้สาระแต่ก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเอง และหาความสุขให้ตัวเองบ้าง และจะรู้ว่าตัวเราเองนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหน ขอบคุณมากครับ
เริ่มต้นใหม่ในวัย 30+ กับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
เกิดวิกฤตในชีวิต
- ตอนผมอายุ 30 ผมเป็นหนี้จากการลงทุน 200,000.- บาท จากรายได้ที่มาก จนทำให้รายได้ไม่พอจ่ายหมุนเงินไม่ทัน แฟนที่คบกันมานานและแต่งงานกันได้ 1 ปี เห็นท่าไม่ดีก็เลิกกับผม และไปคบผู้ชายสูงวัยที่สามารถดูแลเธอได้ ผมทั้งผิดหวังและท้อแท้มากช่วงนั้น เลยไปอาศัยอยู่กับเพื่อน ช่วงระหว่างนี้งานการก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันได้แต่โทษตัวเองที่ล้มเหลว ง่ายๆ ก็ผู้ชาย Loser คนหนึ่ง ระหว่างนั้นก็พยายามดิ้นรนสุดชีวิตทำอะไรได้ก็ทำเลยไปรับจ้างรายวันขายไมโลงานเกษตรแฟร์ได้เงินวันละ 300 ทำงานประมาณวันละ 10 - 12 ชม. ครับ เราก็ตั้งใจทำงานแต่ก็โดนเอาเปรียบอยู่ตลอด ผมติดกับดักทางสังคมเต็มๆ อยากได้อยากมีแบบคนอื่น เพื่อนก็ชอบมาพูดบัฟ ว่ามันเงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ เพราะก่อนหน้านั้นเราใช้ชีวิตไร้สาระมาตลอด พอมีเงินก้อนเล็กก็เลยไปลงทุนขายเสื้อผ้าก็เจ๊ง ครอบครัวยังไม่อยากจะคุยกับผมเพราะผิดหวังในตัวผม ระหว่างนั้นผมก็ไปสมัครงานหลาย บ. ก็ไม่มีใครรับ บางที่ก็มีท่าทีดูถูก พูดประชดผมอีกด้วย ผมก็ยอมรับเราไม่มีประสบการณ์ภาคเอกชน ไม่ได้ จบ ม. ดัง สายการเรียนก็ไม่ได้เป็นที่ตลาดต้องการ ถึงจะเรียกเงินเดือนเดือนแค่หมื่นต้นๆ ก็เถอะครับ ระหว่างนั้นก็โดนหลอกไปทำ บ. ขายตรงด้วยแต่ก็ไหวตัวหนีออกมาก่อน
เริ่มกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
- ตอนนั้นผมก็เลยมานั่งทบทวนตัวเองว่าเราควรจะทำอะไร ผมมีใบ กพ.วุฒิ ปวส. อยู่นี่นา ผมคิดได้ดังนั้นผมก็ไปเปิดหาเว็บไซต์สอบงานราชการครับ เลยเลือกสอบหน่วยงานหนึ่งซึ่งมีสอบเดือนหน้า ผมก็ไม่รีรอไปหาซื้อหนังสือเกงข้อสอบมาอ่านทันทีครับ ช่วงระหว่างนั้นก็ยังเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเหล้าอยู่ อ่านตอนเช้า ทำงานกลางคืน ถึงเวลาสอบประกาศผลสอบ ผมก็สอบติดครับได้ลำดับต้นๆ ตอนนั้นเข้าสู่สายราชการในอัตราเงินเดือน 13,000.- รวมค่าครองชีพแล้ว ถึงจะไม่เพียงพอในการจ่ายมากนักแต่ก็รู้สึกดีใจสุดๆ ทางบ้านก็เริ่มกลับมาพูดคุยบ้างแล้ว
- ตอนนั้นน้องที่ทำงานก็มาแนะนำให้ผมสมัคร Rider ส่งผู้โดยสาร ตอนเช้าใช้เวลา 2 ชม. ก่อนเข้างานทำงานได้ประมาณวันละ 200 - 300 พอเริ่มมีเงินมากินใช้บ้างแล้วครับ
- ผมทำงานมาได้ประมาณ 3 เดือน เพื่อนผมที่อยู่สายราชการก็แนะนำให้ผมไปสอบหน่วยงานที่มีค่าตอบแทนเพิ่มจากเงินเดือน ผมก็ไปศึกษาหาข้อมูลมาเลยมีความคิดว่าถ้าผมสอบเข้าได้ผมจะได้งานหลักที่มั่นคงให้ผมได้จริงๆ แถมยังก้าวหน้าในสายงานได้ แบบผมอยู่ยาวเติบโตจนเกษียณได้เลย ซึ่งอีก 3 เดือนหน่วยงานจะเปิดสอบ เอาละครับคราวนี้ผมก็ไปหากลุ่มพวกที่เตรียมสอบหน่วยงานนี้ ไปถามหาข้อมูลหาหนังสือเลยลงทุนซื้อหนังสือ 2 เล่ม และผมตั้งใจว่าจะต้องสอบติดให้ได้จะได้อัพฐานเงินเดือน แล้วการสอบก็ผ่านไปประกาศผล ผมสอบติดในการเรียกบรรจุครั้งแรกของหน่วยงานผมดีใจมาก ผมลาออกจากที่เก่าโดยระยะเวลาที่ทำงานที่เก่า 6 เดือน
การพัฒนาตนเอง
- ตอนนี้หลังจากผมได้บรรจุที่ใหม่แล้วได้ไม่นานผมก็อายุ 31 แล้ว ผมก็มานั่งคิดว่าเราทำงานราชการ มันสามารถจัดสรรเวลาว่างได้หนิ เพราะมันมีวันหยุดที่แน่นอน เวลาเข้าออกทำงานที่ชัดเจน และประสบการณ์จากการลงทุนที่ผิดพลาดทำให้ผมไม่อยากจะลงทุนที่เสี่ยงแล้วแบบซื้อมาสต๊อกขายไปหรือลงเงินไปก่อนเพื่อให้ได้กำไร เราต้องลงทุนกับความรู้ถึงจะถูก ผมก็มาสำรวจตัวเองว่าเราถนัดอะไร ชอบอะไร พอคิดได้ดังนั้นผมก็ไปหาเรียนเกี่ยวกับพวกขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลบนพวกแฟลตฟอร์มต่างชาติ จนได้เริ่มสร้างผลงานขายแรกๆ ถูๆ ไถๆ จนเริ่มต้นขายได้ 1 ชิ้นดีใจมากครับ ระหว่างนั้นก็พยายามสำรวจตลาด วิเคราะห์ตลาดไปเรื่อยๆ จนเข้าเดือนที่ 5 จากเริ่มทำ รายรับผมตอนนี้ตกอยู่ราวๆ 30K + มาจากรายได้ประจำและงานเสริมผมกึ่ง Passive income ผมรู้สึกว่าผมมาถูกทางแล้ว และมีเรื่องน่ายินดีที่ล่าสุดผมสอบ กพ.ปตรี ปีนี้ผ่าน ปีหน้าผมก็จะได้สอบปรับแท่งในหน่วยงาน รายได้และค่าตอบแทนผมก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก และจะขอทุนเรียนต่อ ป.โท ต่อครับ
การเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเปลี่ยน mindset
- ผมคิดว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้ชาย Loser แล้ว หลังจากผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลมา จากอายุ 30 จนครบ 32 เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 67 ที่ผ่านมานี้ ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากถึงจะเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ถือว่าเราได้เติบโต และมีความก้าวหน้าในสายงาน ความมั่นคงในอาชีพ กลายเป็นคนที่จริงจัง ใช้เหตุผลในการตัดสินใจมากกว่าอารมณ์ มี Work Flow ในการทำงาน เปลี่ยนทัศนคติที่เป็นบวก ทำให้ผมรู้ว่าอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนอื่น ตัวเราก็คือตัวเรา คนอื่นจะมีอย่างไรไม่ต้องอยากได้อยากมีอย่างเขา เราก็ค่อยๆ สร้างไป อย่าทำอะไรเกินตัว โฟกัสให้ถูกจุด เลือกคบกันที่ส่งเสริมกันไปในทิศทางที่ดี รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร เลิกทำตัวไร้สาระแต่ก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเอง และหาความสุขให้ตัวเองบ้าง และจะรู้ว่าตัวเราเองนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหน ขอบคุณมากครับ