เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้เอง
เริ่มเรื่องมาด้วยผมที่รู้จักผู้หญิงคนนึงและได้เป็นแฟนกันแบบปุบปับไม่ได้กะจะเป็นแฟนกัน เพราะชีวิตของผมไม่ค่อยจะมีเพื่อนและกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมพอกลับบ้านก็มักจะเจอปัญหาครอบครัว(ส่วนนี้ขอไม่เล่านะครับเดี๋ยวจะนอกเรื่อง) เธอคนนี้ก็อยู่โซนจังหวัดภาคเหนือเหมือนกันแต่ว่าอยู่คนละจังหวัด เอาตรงก็ไม่ไกลกันมากหรอกครับแต่ด้วยอายุและฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้พบเจอกัน แต่ก็ยังคบกันระยะไกลอยู่เรื่อยมาจนถึง1ปี
เลิกกันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากหรอกครับ มันออกจะขำๆด้วยซ้ำ(ถึงผมในตอนนั้นจะไม่ขำก็เถอะนะครับ)เลิกกันเพราะผมไปพูดในสิ่งที่เธอเกลียดใส่เธอ(ผมไม่ได้พูดจารุนแรง แต่แค่พูดหยอกล้อเท่านั้น)เธอก็วีนใส่ผมอย่างรุนแรง แล้วต่อมาผมก็ได้ขอโทษเธอ เธอก็บอกว่า"ไม่เป็นไรเราให้อภัย"ความรู้สึกตอนนั้นบอกได้เลยล่ะครับว่ามันทั้งเจ็บปวดรู้สึกแน่นที่อกและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดแต่สุดท้าย
ต่อมาอีก10เธอก็บอกเลิกผมครับ ใช่ครับมันเจ็บปวดจนลึกเข้าไปในกระดูก ผมเสียศูนย์จนแทบจะบ้า พยายามมูฟจนสุดใจแต่ก็ทำไม่ได้สักทีจนเหตุการณ์นั้นล่วงเลยมาถึงครึ่งปีต่อมา
...ทุกคนอ่านจนถึงตอนนี้อาจจะคิดว่า"ไอ้บ้านี่กำลังเล่าอะไรให้กูฟังวะ ไม่เห็นตรงกับกระทู้ที่ตั้งไว้เลย"5555+ ขออภัยครับที่เรื่องยาวไปหน่อย มีต่อครับๆ
.....ครึ่งปีต่อมาผมกับเธอก็ได้โคจรมาพบกันอีก แต่ก็คงสถานะคุยกันระยะไกลอยู่ ผมกับเธอก็ได้มาชอบกันอีกครั้งแต่คราวนี้เธอบอกว่าไม่อยากมีแฟน ด้วยความที่ผมเป็นคนใจอ่อนผมก็บอกว่า"ไม่มีปัญหา ไม่ต้องออกปากฝากรักกันก็ได้"
(....ขออภัยครับ.... ลืมบอกไปว่าคราวก่อนไม่ได้ขึ้นสถานะกันแต่แค่ออกปากฝากรักกันแค่นั้น)
หลังจากนั้นเธอก็เชิญผมเข้าไปในกลุ่มเพื่อนที่คุยกัน แต่ในกลุ่มนั้นมีผู้ชายอยู่หลายคนที่เธอมักจะพูดหยอกล้อกันเชิงบัดสีลามกทะลึ่งถึงเนื้อถุงตัว(เอาตรงๆก็ถึงเตียงเลยก็ว่าได้)
แล้วผมก็มาคุยกับเธอว่าผมไม่โอเคที่เธอคุยแบบนี่ผมถึงกับขอร้องให้เธอไม่คุยเล่นแบบนี้ได้มั้ย และใช่เธอวีนใส่ผมอย่างหนักเธอพูดประมาณว่า"นี่จะไม่ให้อิสระกันเลยรึไง คุยกับเพื่อนแค่นี้ไม่ได้หรอ" ผมก็งงและรู้สึกเจ็บปวดมาก ผมงงที่เธอไม่เข้าใจรึเปล่าว่าที่ผมบอกคือแค่ไม่คุยบทเข้าพระเข้านางกับผู้ชายคนอื่น
*ซึ่งก่อนเหตุการณ์นี้ผมกับเธอก็มีเรื่องทะเลาะกันมาสักพักแล้วล่ะครับ*
สุดท้ายผมก็กลายเป็นฝ่ายง้อเหมือนทุกครั้ง
และเหตุการณ์แบบนี้มันก็เกิดขึ้นซ้ำถึงสามครั้ง เธอไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อผมเลย
กลับกัน ตอนผมชมผู้หญิงคนอื่นในกลุ่มนั้นชมผู้หญิงคนนึงแค่ว่า"ถ่ายรูปขึ้นนี่นา น่ารักดี" เธอก็หึงผมเป็นเรื่องเป็นราวผมก็เป็นฝ่ายขอโทษตามเคย แต่ย้อนมาดูสิ่งที่เธอทำกับผมมั่นชั่งไม่แฟร์กันเสียเลย
และแล้วบทสรุปสุดท้ายเธอบอกเลิกผม แต่เธอบอกว่า"เราพอแล้ว ต่อไปนี้ก็เป็นเพื่อนกัน อีกหน่อยเรื่องของเราค่อยว่ากันใหม่" หรือให้ถอดความหมายก็คือ ให้ผมรอแล้วอีกหน่อยค่อยเป็นแฟนกัน ใช่ครับทุกคนอ่านไม่ผิดหรอกครับเธอบอกแบบนั้นจริงๆ แต่ต่อมาเธอก็ขึ้นสถานะกับใครก็ไม่รู้ เธอไม่บอกผมตอนผมเห็นผมทรุดลงกับพื้นตาค้างนั่งคุกเข่าหลายนาที "
! คบกันมาสองวันแล้ว"ผมคิดในใจ
ความคิดในหัวผมก็คิดว่า"ฉันคุยกับเธอและเธอก็บอกรักฉัน ฉันทุ่มเทสุดใจเกือบ2ปี แต่ใครก็ไม่รู้ อยู่ๆมาเป็นแฟน"
ใช่ครับมันไม่แฟร์เลย ผมเหนื่อยมาก ตลอดเวลาที่คุยด้วยกันผมมักจะให้กำลังใจเธอเสมอแต่ผมเหมือนรักเธอข้างเดียวเลย
เธอหึงได้ ผมหึงไม่ได้
เธองอนได้ แต่ผมงอนไม่ได้
ผมขอโทษได้ สุดท้ายเธอก็มักจะไม่มีคำขอโทษออกจากปากเลย
ไม่เห็นมีตรงไหนแฟร์เลย
สุดท้ายผมก็ขอบอกลาเธอ......
ส่วนตอนนี้ผมก็ยังมีคิดถึงเธอบ้างนะ แม้จะมีบางเวลาที่เศร้าบ้างในบางที แต่รู้อะไรมั้ย"ผมไม่เธอผมก็ไม่ตายนี่นา" ทุกวันผมรอคอยที่จะรอดูว่าเธอจะเลิกกับไอ้หมอนั่นเมื่อไหร่ ผมจะได้ทำให้เธอรักอีกครั้งและจะพูดเรื่องราวที่เล่าไปให้เธอฟังแล้วก็บอกประโยคลากับเธออีกครั้งว่า"ความรักก่อนหน้านี้มันไม่แฟร์เลย เธอทำอะไรไปเธอรู้ดีนะ ความไว้ใจเสียไปแล้วไม่มีวันได้คืน"
ใครอ่านถึงตรงนี้ก็ขออภัยที่เล่ายาวไปสักนิดนะครับ5555+
อ่านแล้วอาจจะคิดว่านี่คือนิยายก็ได้ แต่มันคือเรื่องจริงครับ ผมมักจะมีวาทะศิลป์ในการพูดที่แปลกๆไปสักหน่อย เพราะตอนเด็กชอบดูละครหลังข่างกับแม่มาก5555+
หากเพื่อนๆพี่ๆอ่านแล้วก็ช่วยแชร์ประสบการณ์บ้างนะครับ
พอดีเรื่องชาวบ้านมันอร่อย~ 55555+
เหนื่อยกับความรักที่ไม่แฟร์...
เริ่มเรื่องมาด้วยผมที่รู้จักผู้หญิงคนนึงและได้เป็นแฟนกันแบบปุบปับไม่ได้กะจะเป็นแฟนกัน เพราะชีวิตของผมไม่ค่อยจะมีเพื่อนและกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมพอกลับบ้านก็มักจะเจอปัญหาครอบครัว(ส่วนนี้ขอไม่เล่านะครับเดี๋ยวจะนอกเรื่อง) เธอคนนี้ก็อยู่โซนจังหวัดภาคเหนือเหมือนกันแต่ว่าอยู่คนละจังหวัด เอาตรงก็ไม่ไกลกันมากหรอกครับแต่ด้วยอายุและฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้พบเจอกัน แต่ก็ยังคบกันระยะไกลอยู่เรื่อยมาจนถึง1ปี
เลิกกันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากหรอกครับ มันออกจะขำๆด้วยซ้ำ(ถึงผมในตอนนั้นจะไม่ขำก็เถอะนะครับ)เลิกกันเพราะผมไปพูดในสิ่งที่เธอเกลียดใส่เธอ(ผมไม่ได้พูดจารุนแรง แต่แค่พูดหยอกล้อเท่านั้น)เธอก็วีนใส่ผมอย่างรุนแรง แล้วต่อมาผมก็ได้ขอโทษเธอ เธอก็บอกว่า"ไม่เป็นไรเราให้อภัย"ความรู้สึกตอนนั้นบอกได้เลยล่ะครับว่ามันทั้งเจ็บปวดรู้สึกแน่นที่อกและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดแต่สุดท้าย
ต่อมาอีก10เธอก็บอกเลิกผมครับ ใช่ครับมันเจ็บปวดจนลึกเข้าไปในกระดูก ผมเสียศูนย์จนแทบจะบ้า พยายามมูฟจนสุดใจแต่ก็ทำไม่ได้สักทีจนเหตุการณ์นั้นล่วงเลยมาถึงครึ่งปีต่อมา
...ทุกคนอ่านจนถึงตอนนี้อาจจะคิดว่า"ไอ้บ้านี่กำลังเล่าอะไรให้กูฟังวะ ไม่เห็นตรงกับกระทู้ที่ตั้งไว้เลย"5555+ ขออภัยครับที่เรื่องยาวไปหน่อย มีต่อครับๆ
.....ครึ่งปีต่อมาผมกับเธอก็ได้โคจรมาพบกันอีก แต่ก็คงสถานะคุยกันระยะไกลอยู่ ผมกับเธอก็ได้มาชอบกันอีกครั้งแต่คราวนี้เธอบอกว่าไม่อยากมีแฟน ด้วยความที่ผมเป็นคนใจอ่อนผมก็บอกว่า"ไม่มีปัญหา ไม่ต้องออกปากฝากรักกันก็ได้"
(....ขออภัยครับ.... ลืมบอกไปว่าคราวก่อนไม่ได้ขึ้นสถานะกันแต่แค่ออกปากฝากรักกันแค่นั้น)
หลังจากนั้นเธอก็เชิญผมเข้าไปในกลุ่มเพื่อนที่คุยกัน แต่ในกลุ่มนั้นมีผู้ชายอยู่หลายคนที่เธอมักจะพูดหยอกล้อกันเชิงบัดสีลามกทะลึ่งถึงเนื้อถุงตัว(เอาตรงๆก็ถึงเตียงเลยก็ว่าได้)
แล้วผมก็มาคุยกับเธอว่าผมไม่โอเคที่เธอคุยแบบนี่ผมถึงกับขอร้องให้เธอไม่คุยเล่นแบบนี้ได้มั้ย และใช่เธอวีนใส่ผมอย่างหนักเธอพูดประมาณว่า"นี่จะไม่ให้อิสระกันเลยรึไง คุยกับเพื่อนแค่นี้ไม่ได้หรอ" ผมก็งงและรู้สึกเจ็บปวดมาก ผมงงที่เธอไม่เข้าใจรึเปล่าว่าที่ผมบอกคือแค่ไม่คุยบทเข้าพระเข้านางกับผู้ชายคนอื่น
*ซึ่งก่อนเหตุการณ์นี้ผมกับเธอก็มีเรื่องทะเลาะกันมาสักพักแล้วล่ะครับ*
สุดท้ายผมก็กลายเป็นฝ่ายง้อเหมือนทุกครั้ง
และเหตุการณ์แบบนี้มันก็เกิดขึ้นซ้ำถึงสามครั้ง เธอไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อผมเลย
กลับกัน ตอนผมชมผู้หญิงคนอื่นในกลุ่มนั้นชมผู้หญิงคนนึงแค่ว่า"ถ่ายรูปขึ้นนี่นา น่ารักดี" เธอก็หึงผมเป็นเรื่องเป็นราวผมก็เป็นฝ่ายขอโทษตามเคย แต่ย้อนมาดูสิ่งที่เธอทำกับผมมั่นชั่งไม่แฟร์กันเสียเลย
และแล้วบทสรุปสุดท้ายเธอบอกเลิกผม แต่เธอบอกว่า"เราพอแล้ว ต่อไปนี้ก็เป็นเพื่อนกัน อีกหน่อยเรื่องของเราค่อยว่ากันใหม่" หรือให้ถอดความหมายก็คือ ให้ผมรอแล้วอีกหน่อยค่อยเป็นแฟนกัน ใช่ครับทุกคนอ่านไม่ผิดหรอกครับเธอบอกแบบนั้นจริงๆ แต่ต่อมาเธอก็ขึ้นสถานะกับใครก็ไม่รู้ เธอไม่บอกผมตอนผมเห็นผมทรุดลงกับพื้นตาค้างนั่งคุกเข่าหลายนาที "! คบกันมาสองวันแล้ว"ผมคิดในใจ
ความคิดในหัวผมก็คิดว่า"ฉันคุยกับเธอและเธอก็บอกรักฉัน ฉันทุ่มเทสุดใจเกือบ2ปี แต่ใครก็ไม่รู้ อยู่ๆมาเป็นแฟน"
ใช่ครับมันไม่แฟร์เลย ผมเหนื่อยมาก ตลอดเวลาที่คุยด้วยกันผมมักจะให้กำลังใจเธอเสมอแต่ผมเหมือนรักเธอข้างเดียวเลย
เธอหึงได้ ผมหึงไม่ได้
เธองอนได้ แต่ผมงอนไม่ได้
ผมขอโทษได้ สุดท้ายเธอก็มักจะไม่มีคำขอโทษออกจากปากเลย
ไม่เห็นมีตรงไหนแฟร์เลย
สุดท้ายผมก็ขอบอกลาเธอ......
ส่วนตอนนี้ผมก็ยังมีคิดถึงเธอบ้างนะ แม้จะมีบางเวลาที่เศร้าบ้างในบางที แต่รู้อะไรมั้ย"ผมไม่เธอผมก็ไม่ตายนี่นา" ทุกวันผมรอคอยที่จะรอดูว่าเธอจะเลิกกับไอ้หมอนั่นเมื่อไหร่ ผมจะได้ทำให้เธอรักอีกครั้งและจะพูดเรื่องราวที่เล่าไปให้เธอฟังแล้วก็บอกประโยคลากับเธออีกครั้งว่า"ความรักก่อนหน้านี้มันไม่แฟร์เลย เธอทำอะไรไปเธอรู้ดีนะ ความไว้ใจเสียไปแล้วไม่มีวันได้คืน"
ใครอ่านถึงตรงนี้ก็ขออภัยที่เล่ายาวไปสักนิดนะครับ5555+
อ่านแล้วอาจจะคิดว่านี่คือนิยายก็ได้ แต่มันคือเรื่องจริงครับ ผมมักจะมีวาทะศิลป์ในการพูดที่แปลกๆไปสักหน่อย เพราะตอนเด็กชอบดูละครหลังข่างกับแม่มาก5555+
หากเพื่อนๆพี่ๆอ่านแล้วก็ช่วยแชร์ประสบการณ์บ้างนะครับ
พอดีเรื่องชาวบ้านมันอร่อย~ 55555+