ฝ่ายขวาในการเมืองไทยนั้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนานและอยู่ทุกๆเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าฝ่ายขวาในไทยนั้นมีรูปแบบและสายอะไรบ้าง วันนี้ตัวผมจะนำเสนอให้ได้อ่านกันครับ
โดยจะแบ่งเป็น 4 ประเภท มีดังนี้
1.สายอนุรักษ์นิยม โดยสายนี้มักจะนำเสนอแนวคิดโดยเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีและจารีต (อาจจะโยงกับประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมและความเชื่อทางศาสนา) เพื่อแสดงให้เห็นความดีงามและสวยหรูของสังคมไทยหรือแนวคิดและจารีตแบบไทย สายนี้มักจะไม่ค่อยพบตามเวทีการเมืองมากนัก หากมีพวกนี้มักจะชูแนวคิดเรื่องความเป็นชาติ ถ้าไม่ก็กลายเป็นอีกสาย คือ สายนิยมเจ้า ตัวอย่างเช่น ส. ศิวรักษ์
2.สายชาตินิยม โดยสายนี้จะนำเสนอแนวคิดเกี่ยวความเป็นรัฐชาติและมักจะโยงกับประวัติศาสตร์แบบชาตินิยม แต่สายนี้ไม่จะเชิดชูหรือยกย่องราชสำนัก (เจ้า) ด้วยแนวคิดที่จะนำเสนอว่าชาติเป็นของประชาชนที่มีผู้นำที่เก่งกาจที่จะนำพาชาติไปสู่ความยิ่งใหญ่ โดยที่ผู้นำจะต้องไม่คนมาจากราชสำนัก ซึ่งทำให้สายนี้ไม่พบในเวทีการเมืองมากนัก จนสามารถเรียกได้ว่าสูญพันธ์ไปแล้ว ตัวอย่างเช่น จอมพลป.พิบูลสงคราม
3.สายนิยมเจ้า โดยสายนี้จะนำเสนอแนวคิดว่าแผ่นดินหรือชาติเป็นของกษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาสามารถและฉลาดปราชญ์เปรื่องและมักจะโยงกับประวัติศาสตร์แบบชาตินิยม โดยจะแตกต่างกับของสายชาตินิยม ตรงที่นิยมเจ้าจะบอกว่าที่มีชาติตอนนี้ได้หรือที่ชาติรอดมาได้เป็นเพราะกษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาสามารถและฉลาดปราชญ์เปรื่อง แต่ชาตินิยมจะเน้นเรื่องชนชาติมากเสียกว่า สายนี้สามารถพบได้มากในเวทีการเมืองและอยู่คู่กับสังคมไทยมานานที่สุด ตัวอย่างเช่น พระองค์เจ้าบวรเดช
4.สายชาตินิยมแบบไทย โดยจะเหมือนนำแนวคิดทั้งสายชาตินิยมและนิยมเจ้ามารวมกัน กล่าวคือนำเสนอแนวคิดว่าแผ่นดินหรือชาติเป็นของกษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาสามารถและฉลาดปราชญ์เปรื่อง แต่จะโยงกับประวัติศาสตร์ของสายชาตินิยม พวกนี้จะสนับสนุนรัฐบาลที่อ้างปกป้องสถาบัน (ส่วนใหญ่คณะรัฐประหาร)
สายนี้สายนี้สามารถพบได้มากที่สุดในเวทีการเมืองและอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ตัวอย่างเช่น สนธิ ลิ้มทองกุล
หวังว่าทุกท่านอาจจะเข้าใจฝ่ายขวาในการเมืองไทยได้มากขึ้น
รูปแบบและสายของฝ่ายขวาในการเมืองไทย
โดยจะแบ่งเป็น 4 ประเภท มีดังนี้
1.สายอนุรักษ์นิยม โดยสายนี้มักจะนำเสนอแนวคิดโดยเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีและจารีต (อาจจะโยงกับประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมและความเชื่อทางศาสนา) เพื่อแสดงให้เห็นความดีงามและสวยหรูของสังคมไทยหรือแนวคิดและจารีตแบบไทย สายนี้มักจะไม่ค่อยพบตามเวทีการเมืองมากนัก หากมีพวกนี้มักจะชูแนวคิดเรื่องความเป็นชาติ ถ้าไม่ก็กลายเป็นอีกสาย คือ สายนิยมเจ้า ตัวอย่างเช่น ส. ศิวรักษ์
2.สายชาตินิยม โดยสายนี้จะนำเสนอแนวคิดเกี่ยวความเป็นรัฐชาติและมักจะโยงกับประวัติศาสตร์แบบชาตินิยม แต่สายนี้ไม่จะเชิดชูหรือยกย่องราชสำนัก (เจ้า) ด้วยแนวคิดที่จะนำเสนอว่าชาติเป็นของประชาชนที่มีผู้นำที่เก่งกาจที่จะนำพาชาติไปสู่ความยิ่งใหญ่ โดยที่ผู้นำจะต้องไม่คนมาจากราชสำนัก ซึ่งทำให้สายนี้ไม่พบในเวทีการเมืองมากนัก จนสามารถเรียกได้ว่าสูญพันธ์ไปแล้ว ตัวอย่างเช่น จอมพลป.พิบูลสงคราม
3.สายนิยมเจ้า โดยสายนี้จะนำเสนอแนวคิดว่าแผ่นดินหรือชาติเป็นของกษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาสามารถและฉลาดปราชญ์เปรื่องและมักจะโยงกับประวัติศาสตร์แบบชาตินิยม โดยจะแตกต่างกับของสายชาตินิยม ตรงที่นิยมเจ้าจะบอกว่าที่มีชาติตอนนี้ได้หรือที่ชาติรอดมาได้เป็นเพราะกษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาสามารถและฉลาดปราชญ์เปรื่อง แต่ชาตินิยมจะเน้นเรื่องชนชาติมากเสียกว่า สายนี้สามารถพบได้มากในเวทีการเมืองและอยู่คู่กับสังคมไทยมานานที่สุด ตัวอย่างเช่น พระองค์เจ้าบวรเดช
4.สายชาตินิยมแบบไทย โดยจะเหมือนนำแนวคิดทั้งสายชาตินิยมและนิยมเจ้ามารวมกัน กล่าวคือนำเสนอแนวคิดว่าแผ่นดินหรือชาติเป็นของกษัตริย์ ผู้ทรงปรีชาสามารถและฉลาดปราชญ์เปรื่อง แต่จะโยงกับประวัติศาสตร์ของสายชาตินิยม พวกนี้จะสนับสนุนรัฐบาลที่อ้างปกป้องสถาบัน (ส่วนใหญ่คณะรัฐประหาร)
สายนี้สายนี้สามารถพบได้มากที่สุดในเวทีการเมืองและอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ตัวอย่างเช่น สนธิ ลิ้มทองกุล
หวังว่าทุกท่านอาจจะเข้าใจฝ่ายขวาในการเมืองไทยได้มากขึ้น