สวัสดีค่ะ
เรามีที่ดินทำเล ใกล้กับตลาดสดแห่งหนึ่ง และใน 1 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทห้างร้านได้ติดต่อเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น ที่ดินแปลงนั้นยังติดจำนองอยู่กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เราจึงได้สอบถามไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยา เรื่องการขออนุญาตในการปล่อยพื้นที่ให้เช่า และทางธนาคารดังกล่าวไม่อนุมัติ แต่มีการแนะนำให้ลองปรึกษากับผู้จัดการสาขาของธนาคารกสิกรไทย และได้รับคำแนะนำให้ รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็น ธนาคารกสิกรไทย โดยใช้หลักทรัพย์และรายละเอียดในสัญญาเช่านั้น ประกอบการพิจารณาการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้
ประมาณเดือนตุลาคม ปี 2565 ได้มีการรีไฟแนนซ์โดยทางธนาคารกสิกรไทย มีหนังสือยินยอมอนุญาตให้บริษัทห้างร้านทำการเช่า ในส่วนของเรา(เจ้าของหลักทรัพย์)ได้ติดต่อบริษัทห้างร้านที่จะทำการเช่า เพื่อดำเนินการทำสัญญาเช่าระยะยาว(15ปี) โดยแนบเอกสารเรื่อง แจ้งการโอนสิทธิรับเงิน และทางเราได้ส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทห้างร้านเช่าในวันที่ 31 มกราคม 2566
หลังจากนั้น ทางบริษัทห้างร้านดังกล่าว ได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่และเริ่มทำการก่อสร้าง และเมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ทางบริษัทห้างร้านได้ทำการ โอนเงินค่าเช่าพื้นที่ล่วงหน้า(1ปี) เข้าบัญชีรับโอนสิทธิของธนาคารกสิกรไทย เป็นเงินจำนวนประมาณ 1 ล้านบาท หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ทางบริษัทได้แจ้งให้ทราบว่า มีการโอนชำระค่าเช่าล่วงหน้าแล้ว ทางเราจึงมีการติดต่อไปยังธนาคารกสิกรไทย แต่ทางธนาคารกสิกรไทยไม่อนุมัติเงินค่าเช่าให้กับเรา โดยอ้างว่า ทางบริษัทห้างร้าน พิมพ์ข้อความในสัญญาไม่ครบถ้วน จึงปฏิเสธการโอนเงินค่าเช่า
ในช่วงเวลากว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามประสานงานไปยังธนาคารกสิกรไทย เพื่อหาทางออกร่วมกัน และฝ่ายกฎหมายของธนาคารมีการแนะนำ ให้เรากู้ยืมเพิ่มวงเงินอีก เพื่อที่จะใช้ค่าเช่าที่ผู้เช่าชำระผ่านบัญชีรับโอนสิทธิของธนาคารกสิกรไทยในทุกงวดในการชำระสินเชื่อ(ค่าเช่าปัจจุบันและในอนาคต) ซึ่งเงินค่าเช่าจะไม่เหลือถึงเราเลยสักบาท ทางเราจึงไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ และได้เสนอเงื่อนไขต่างๆ เช่น การหักเงินค่าเช่าเพื่อส่งชำระสินเชื่อก่อนที่จะทำการโอนเข้ามาที่เรา แต่ธนาคารก็ไม่ยอมรับเงื่อนไข
ปัจจุบันนี้ เราต้องการค่าเช่าส่วนนั้นเพื่อนำออกมาหมุนเวียนในธุรกิจ เพราะนั่นคือเงินที่เราพึงจะต้องได้รับ
เรามาแชร์เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ถึงทุกคนที่จะทำธุรกรรม การจำนองที่ดิน การกู้ยืมต่างๆ ผ่านทางธนาคารกสิกรไทย ให้คิดให้รอบคอบ ก่อนจะโดนแบบเรา
ถ้าทางธนาคารกสิกรไทยผ่านมาเห็นกระทู้นี้ รบกวนสละเวลาอันมีค่าของพวกคุณมาอ่าน และรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยค่ะ
*แก้ไขเพิ่มเติมนะคะ ได้มีการเอาสัญญาให้ธนาคารอ่านก่อนแล้ว ส่งเอกสารครบค่ะ แต่ธนาคารต้องการเปลี่ยนเงื่อนไขของสัญญาทีหลังค่ะ
**เงินที่ได้กักไว้ในบัญชีรับโอนสิทธิ ไม่ได้ถูกนำไปชำระหนี้ค่ะ เงินนอนอยู่เฉยๆ ไม่ถึงเราด้วย และไม่ได้ไปชำระหนี้ด้วย
โปรดอ่าน! ถ้าไม่อยากเจ๊งเพราะกสิกร
เรามีที่ดินทำเล ใกล้กับตลาดสดแห่งหนึ่ง และใน 1 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทห้างร้านได้ติดต่อเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น ที่ดินแปลงนั้นยังติดจำนองอยู่กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เราจึงได้สอบถามไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยา เรื่องการขออนุญาตในการปล่อยพื้นที่ให้เช่า และทางธนาคารดังกล่าวไม่อนุมัติ แต่มีการแนะนำให้ลองปรึกษากับผู้จัดการสาขาของธนาคารกสิกรไทย และได้รับคำแนะนำให้ รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็น ธนาคารกสิกรไทย โดยใช้หลักทรัพย์และรายละเอียดในสัญญาเช่านั้น ประกอบการพิจารณาการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้
ประมาณเดือนตุลาคม ปี 2565 ได้มีการรีไฟแนนซ์โดยทางธนาคารกสิกรไทย มีหนังสือยินยอมอนุญาตให้บริษัทห้างร้านทำการเช่า ในส่วนของเรา(เจ้าของหลักทรัพย์)ได้ติดต่อบริษัทห้างร้านที่จะทำการเช่า เพื่อดำเนินการทำสัญญาเช่าระยะยาว(15ปี) โดยแนบเอกสารเรื่อง แจ้งการโอนสิทธิรับเงิน และทางเราได้ส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทห้างร้านเช่าในวันที่ 31 มกราคม 2566
หลังจากนั้น ทางบริษัทห้างร้านดังกล่าว ได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่และเริ่มทำการก่อสร้าง และเมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ทางบริษัทห้างร้านได้ทำการ โอนเงินค่าเช่าพื้นที่ล่วงหน้า(1ปี) เข้าบัญชีรับโอนสิทธิของธนาคารกสิกรไทย เป็นเงินจำนวนประมาณ 1 ล้านบาท หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ทางบริษัทได้แจ้งให้ทราบว่า มีการโอนชำระค่าเช่าล่วงหน้าแล้ว ทางเราจึงมีการติดต่อไปยังธนาคารกสิกรไทย แต่ทางธนาคารกสิกรไทยไม่อนุมัติเงินค่าเช่าให้กับเรา โดยอ้างว่า ทางบริษัทห้างร้าน พิมพ์ข้อความในสัญญาไม่ครบถ้วน จึงปฏิเสธการโอนเงินค่าเช่า
ในช่วงเวลากว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามประสานงานไปยังธนาคารกสิกรไทย เพื่อหาทางออกร่วมกัน และฝ่ายกฎหมายของธนาคารมีการแนะนำ ให้เรากู้ยืมเพิ่มวงเงินอีก เพื่อที่จะใช้ค่าเช่าที่ผู้เช่าชำระผ่านบัญชีรับโอนสิทธิของธนาคารกสิกรไทยในทุกงวดในการชำระสินเชื่อ(ค่าเช่าปัจจุบันและในอนาคต) ซึ่งเงินค่าเช่าจะไม่เหลือถึงเราเลยสักบาท ทางเราจึงไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ และได้เสนอเงื่อนไขต่างๆ เช่น การหักเงินค่าเช่าเพื่อส่งชำระสินเชื่อก่อนที่จะทำการโอนเข้ามาที่เรา แต่ธนาคารก็ไม่ยอมรับเงื่อนไข
ปัจจุบันนี้ เราต้องการค่าเช่าส่วนนั้นเพื่อนำออกมาหมุนเวียนในธุรกิจ เพราะนั่นคือเงินที่เราพึงจะต้องได้รับ
เรามาแชร์เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ถึงทุกคนที่จะทำธุรกรรม การจำนองที่ดิน การกู้ยืมต่างๆ ผ่านทางธนาคารกสิกรไทย ให้คิดให้รอบคอบ ก่อนจะโดนแบบเรา
ถ้าทางธนาคารกสิกรไทยผ่านมาเห็นกระทู้นี้ รบกวนสละเวลาอันมีค่าของพวกคุณมาอ่าน และรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยค่ะ
*แก้ไขเพิ่มเติมนะคะ ได้มีการเอาสัญญาให้ธนาคารอ่านก่อนแล้ว ส่งเอกสารครบค่ะ แต่ธนาคารต้องการเปลี่ยนเงื่อนไขของสัญญาทีหลังค่ะ
**เงินที่ได้กักไว้ในบัญชีรับโอนสิทธิ ไม่ได้ถูกนำไปชำระหนี้ค่ะ เงินนอนอยู่เฉยๆ ไม่ถึงเราด้วย และไม่ได้ไปชำระหนี้ด้วย